ไฉนวันนี้ฝ่าบาทถึงมีเวลาว่างเสด็จมาที่นี่
เฉินยางโต้กลับเสียงเรียบ “หงอวี้กูกูสามารถย่อสองชั่วยามแล้วยังเดินได้ปกติด้วยหรือ ไม่เช่นนั้นท่านทำให้ข้าดูก่อน หากท่านสามารถย่อสองชั่วยามแล้วขาไม่ชาทั้งยังเดินต่อได้อีกละก็ ข้าก็จะยอมรับ ท่านอยากจะจัดการข้าอย่างไรก็เชิญ”
ทั้งวังอย่าว่าแต่หงอวี้เลย แม้แต่หมัวมัวที่ดูแลกฎระเบียบในวังโดยเฉพาะก็ไม่มีใครสามารถย่อตัวสองชั่วยามแล้วไม่ขมวดคิ้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงย่อเสร็จแล้วลุกขึ้นมาเดินต่อได้อีก คำสั่งนี้เป็นการหาเรื่องอยู่จริง แต่ที่หงอวี้มาก็เพราะต้องการจะหาเรื่อง ดังนั้น คำพูดของเฉินยางจึงแลกมาด้วยการถูกตีเท่านั้น
“เชื่อฟังคำสั่งแต่โดยดีดีกว่า อย่าได้ริอ่านคิดเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการนัก ให้เจ้าทำอย่างไรก็ทำตามนั้น นี่เป็นระเบียบในวัง เจ้าไม่เชื่อฟังก็มีแต่ต้องถูกโบยตีเท่านั้น ในวังมีคนเป็นพันเป็นหมื่น คนชอบเถียงไหนเลยไม่มี แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยอม เพราะอะไรหรือ ก็เพราะหากเถียงก็มีแต่ต้องตาย คนที่เถียงเก่งกว่าเจ้ายังมีอีกมาก สุดท้ายก็ต้องจำยอมเช่นกัน ข้าขอเตือนเจ้าอย่าได้สร้างความวุ่นวายนัก ไม่เช่นนั้น…เจ้าจะลำบากเสียเอง”
หงอวี้พูดก็มีเหตุผล เฝิงเยี่ยไป๋เองก็ไม่อยู่ ตอนนี้นางอยู่ในกำมือไทเฮา ขอเพียงตอนถูกลงโทษไม่ถูกส่วนที่โผล่ออกมานอกเสื้อผ้า ระวังใบหน้าและแขนขาไว้ป้องกันเฝิงเยี่ยไป๋กลับมาเอาเรื่องก็พอ ตอนที่หงอวี้ฟาดนางอยู่นั้นก็ไม่กล้าใช้แส้ ด้วยกลัวจะทิ้งรอยเอาไว้ นางจึงใช้ไม้ลงโทษตีบนตัวนาง ก็เหมือนเอามีดทื่อมาขูดเนื้อ เจ็บอยู่ข้างใน พอเปิดเสื้อผ้าดู นอกจากแดงแล้ว ก็ไม่มีรอยอะไรอีก
จิตใจของแม่สามีผู้นี้ก็ช่างเ**้ยมโหดยิ่งนัก เฉินยางข่มความโกรธไว้ แล้วออกแรงหยัดยืนขึ้น นางถูกตี สะบักสะบอมแล้วยังก็หนีไม่พ้นที่จะต้องถูกทรมานอีก อย่างไรเสียนางก็เป็นคนเลือกเอง เช่นนั้นแล้วก็ต้องเดินอย่างสง่า จะให้ไทเฮาหัวเราะไม่ได้ ในเมื่อไทเฮาไม่อยากให้นางได้ดีนัก เช่นนั้นนางก็จะต้องได้ดี ใครมาหาเรื่องนาง นางก็ไม่อาจปล่อยให้คนผู้นั้นสบายใจได้เช่นกัน
ทางฝั่งฮ่องเต้ ครั้นได้ยินว่าเฉินยางถูกกูกูที่ดูแลระเบียบอยู่ข้างไทเฮาทรมานจนสะบักสะบอม ก็อยากจะไปเยาะเย้ย หากมีที่ให้ลงโทษระบายโทสะได้ ก็ทำให้เขาสะใจพอดี ตนยังแตะต้องเฝิงเยี่ยไป๋ไม่ได้ตอนนี้ก็จริง แต่ยังแตะต้องผู้หญิงของเขาได้อยู่ ตอนแรกพระองค์วางแผนไว้ว่าจะให้นางเข้ามาอยู่ในวัง ตอนนี้ก็ได้เรื่องพอดี นางเข้ามาหาเอง ช่างเสียแรงที่ตนอุตส่าห์วางแผนในตอนนั้นนัก หากรู้ว่าไทเฮาจะทำเช่นนี้ พระองค์ก็คงใช้ไม้นี้ไปนานแล้ว ไยต้องรอจนป่านนี้ค่อยงัดแผนสำรองออกมาใช้
หลี่เต๋อจิ่งเฝ้าปรนนิบัติฮ่องเต้ตามเสด็จไปที่ตำหนักของไทเฮา ตั้งแต่พระนางมอบราชโองการไปแล้วพระองค์ก็เป็นแขกที่มาไม่บ่อยนัก วันนี้เมื่อพระองค์เสด็จมา ไทเฮาก็ยังคงระมัดระวังอยู่ ท่าทางที่ปฏิบัติต่อฮ่องเต้ก็เรียบเฉย นางทักทายเชิญฮ่องเต้ให้นั่งลงแล้วให้หงอวี้รินชา นางจิบไปคำหนึ่งก่อน เมื่อไม่เห็นว่าบนพระพักตร์ฮ่องเต้มีความไม่สบอารมณ์นัก จึงถามว่า “ไฉนวันนี้ฝ่าบาทถึงมีเวลาว่างเสด็จมาหาข้าได้”
ฮ่องเต้เม้มพระโอษฐ์ยิ้ม “หากไม่มีธุระอันใด ข้าจะมาเยี่ยมไทเฮาบ้างก็มิได้หรือ” ควันจากน้ำชาในแก้วลอยกรุ่น ฮ่องเต้ดื่มไปคำหนึ่งแล้วตรัสเหมือนมิได้ตั้งใจว่า “ข้าได้ยินว่าเฝิงเยี่ยไป๋ส่งภรรยาเข้าวังมาเรียนระเบียบหรือ แล้วคนเล่า เรียกออกมาให้ข้าได้ชมเสียหน่อย ตกลงเป็นคนงามเช่นไรถึงได้ครองใจเขา”
ไทเฮาฟังจบก็นึกคลางแคลงใจ ฮ่องเต้หมายความว่าอย่างไร หรือจะก้าวตามรอยพระบิดาของพระองค์เช่นนั้น สะใภ้คนนี้แม้นางจะไม่ชอบ แต่อย่างไรตอนนี้ก็ยังเป็นผู้หญิงของเฝิงเยี่ยไป๋อยู่ จะให้ขายหน้าถึงรุ่นลูกไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ไทเฮาจึงส่ายหน้า ไม่ตอบรับ
——
← ตอนก่อน