แดนนิรมิตเทพ บทที่ 592
“เจ้าหนุ่ม เรียกสิ ดูสิว่าที่แห่งนี้มันจะตอบกลับมั้ย!”

ท่านจิน เอียนชิงเฉิงและซังซังทั้งสามคนต่างมีโมโห แม้ว่าเฉินโม่จะมีพลังที่ยิ่งใหญ่เพียงใด แต่ก็ไม่สามารถทำให้ภูเขาเอ่ยปากพูดได้

“เฉินโม่ ไม่ต้องไปสนใจพวกคนสารเลวพวกนี้!” ซังซังพูดเสียงเย็นชา และถลึงตาใส่พวกที่กำลังเยาะเย้ยไม่หยุด

“สาวน้อยพูดถูก เฉินไต้ซือ เล่ห์เหลี่ยมเช่นนี้นายไม่จำเป็นต้องสนใจ!”

เฉินโม่หน้าตาเรียบเฉย กวาดมองฉินกวนไห่และพวกลูกศิษย์ แล้วก็ฉีกยิ้มร้าย

“ความสามารถของฉัน ไม่ใช่สิ่งที่พวกมดอย่างพวกแกจะคาดคิดได้หรอก? เบิกตาของพวกแกดูไว้ให้ดี!”

เฉินโม่กระทืบเท้าอย่างแรง พลังทิพย์ส่วนหนึ่งพุ่งไหลไปตามผืนดินเข้าใส่ภายในแกนหลักของค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาล

โครม!

แกนหลักสามสิบหกก้อนที่กระจายอยู่ทั่วเนินเขาวิหคจอดและทะเลสาบกลับคืนรัง แล้วระเบิดพลังชี่ทิพย์มากมายออกมา เหมือนดั่งมังกรคลั่งแหวกว่ายออกจากทะเล กระแสเสียงสั่นสะท้าน!

“อ๊ะ นั่นคืออะไร?”

พวกลูกศิษย์สำนักโยวหลานมองดูท้องฟ้าอย่างหวาดกลัวด้วยสีหน้าตกตะลึง

ฉินกวนไห่เองก็อึ้งเล็กน้อย ในแววตามีความตกตะลึงฉายออกมาให้เห็น

เฉินโม่พูดนิ่งๆว่า “ฉันเรียกมัน มันตอบรับฉันแล้ว ตอนนี้ นายยังมีอะไรจะพูดอีก?”

ฉินกวนไห่สีหน้าเคร่งขรึม พูดเยาะเย้ยว่า “ก็แค่วิชาลวงตาเท่านั้น หลอกคนอื่นได้ แต่หลอกฉันไม่ได้หรอก!”

“คิดอยากจะแย่งที่นี่ไป เอาความสามารถมาคุยกัน!”

ฉินกวนไห่เองก็เลียนแบบเฉินโม่ กระทืบเท้าอย่างแรง พลังอันทรงพลังอย่างหนึ่งระเบิดออกมา ทำเอาพวกลูกศิษย์รอบข้างถอยหลังหลบอย่างตกใจ

“เจ้าสำนักทรงพลัง เฉินไต้ซืออยู่ต่อหน้าท่าน ไม่มีค่าให้พูดถึงเลยครับ!” พวกลูกศิษย์เริ่มพูดจาประจบอีกครั้ง

เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย มีความดูถูก “นายมีโอกาสแค่กระบวนท่าเดียวเท่านั้น ใช้ท่าไม้ตายของนายออกมาซะ!”

เมื่อโดนเฉินโม่ดูถูก ฉินกวนไห่สีหน้าโมโห “เจ้าหนุ่ม แม้จะเป็นหยางติ่งเทียนเทพสงครามแห่งยานจิง ยังไม่กล้าเหยียดหยามฉันเช่นนี้ วันนี้ ฉันจะฆ่านายทิ้งซะ!”

“มหาหัตถ์ปราบภูมิ!”

ฉินกวนไห่เห็นตัวเองดีเด่นมาเสมอ บวกกับที่ช่วงนี้มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นอีก เฉินโม่ดูถูกเขาเช่นนี้ แล้วยังทำต่อหน้าพวกลูกศิษย์อีกด้วย จึงทำให้ฉินกวนไห่รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก

ดังนั้น เมื่อลงมือฉินกวนไห่จึงออกแรงเต็มที่ คิดอยากจะฆ่าเฉินโม่ในกระบวนท่าเดียว แล้วสร้างความน่าเกรงขามต่อหน้าพวกลูกศิษย์!

และเพื่อให้หยวนชิงซานเห็นด้วยว่าใครคือคนที่แกร่งที่สุดกันแน่!

เมื่อออกแรงเต็มที่ พลังของมหาหัตถ์ปราบภูมิจึงแข็งแกร่งมากกว่าตอนที่โจมตีเฉินซงจื่อและเอียนชิงเฉิงมาก ทั้งคฤหาสน์ทะเลสาบคืนรังถูกฝ่ามือขนาดใหญ่ปกคลุมไว้จนหมด

เหมือนดั่งภูเขาห้านิ้วขนาดใหญ่กำลังกดทับเฉินโม่

พวกลูกศิษย์ต่างก็ตกตะลึง แล้วต่างก็พูดประจบอีกครั้ง “อาจารย์เก่งกาจไร้ที่เปรียบ เฉินไต้ซือทำได้แค่หวาดกลัว!”

แม้แต่หยวนชิงซานที่ไม่เชื่อมั่นในฉินกวนไห่ ตอนนี้ก็อดไม่ได้ที่จะมีความลังเล “ความสามารถของศิษย์พี่เพิ่มมากขึ้นอีกแล้ว การโจมตีครั้งนี้คงจะไม่อ่อนด้อยไปกว่าที่เฉินไต้ซือโจมตีงูเกล็ดแดงทิพย์ในพระราชวังใต้ดิน!”

“ไม่ทราบว่าเฉินไต้ซือจะสามารถขวางไว้ได้มั้ย?”

ซังซังที่อยู่ด้านหลังเฉินโม่ พูดเตือนเสียงเบาว่า “ระวังนะ ตอนนั้นเขาก็ใช้กระบวนท่านี้เอาชนะคุณหนูค่ะ!”

ท่านจินสีหน้าตกตะลึง รู้สึกพ่ายแพ้ “คนผู้นี้แม้จะอวดดี แต่ก็มีความสามารถอยู่จริง แม้ฉันจะกลายเป็นปรมาจารย์ ก็คงเทียบเขาไม่ได้!”

แต่เฉินโม่กลับมีสีหน้านิ่งเฉยและมีความดูถูกอยู่ด้วย “ก็แค่เท่านี้!”

“จบสิ้นเสียเถอะ!”

เฉินโม่ไม่หนีแต่กลับพุ่งเข้าโจมตี เหวี่ยงฝ่ามือไปด้านหน้าเหมือนดั่งไม่ตั้งใจ และฝ่ามือนี้ก็ดูไม่มีความน่ากลัวใดๆ ราวกับการที่คนธรรมดาเหวี่ยงฝ่ามือออกมาเท่านั้น เมื่อเทียบกับฉินกวนไห่แล้ว ราวกับฟ้าและเหว

“ฮ่าๆ ที่แท้เฉินไต้ซือก็มีฝีมือแค่นี้เองหรอ! แม้แต่ฉันยังสามารถเอาชนะเขาได้ง่ายๆเลย!”

“เก่งแค่ในชื่อเสียงเท่านั้น เมื่อเผชิญหน้ากับยอดฝีมือที่แท้จริงอย่างท่านอาจารย์ ความเป็นจริงก็ถูกแสดงออกมาทันที!”

พวกลูกศิษย์สำนักโยวหลานเริ่มพูดจาประชดประชันเฉินโม่

ฉินกวนไห่ที่ลอยอยู่กลางอากาศเองก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา “เฉินไต้ซือ ก็แค่เท่านี้เองหรอ!”

“วันนี้ฉันจะฆ่านายด้วยหมัด!”