ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 346 ทำไมเธอชอบตีกันจังนะ
เธอกำหมัดแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะอธิบาย“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ ฉันแค่รู้สึกว่าต่อไปพวกเขาแต่งงานกัน จะต้องมีลูกเป็นของตัวเอง ลูกๆฉันอยู่กับพวกเขา พวกเขาก็ไม่มีเวลาดูแล”
“นั่นมันเรื่องของพวกเขา คุณเส้นหมี่ ถ้าคุณให้ลูกสาวฉันทำแบบนั้น คุณรู้ไหมว่าแสนรักจะคิดว่าลูกสาวผมไม่ชอบเด็กสองคนนี้?ลูกสาวฉันก็กลายเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายไม่ใช่เหรอ?”
“……”
มีสี่ถึงห้าวินาที เส้นหมี่ไม่ได้เอ่ยอะไรสักคำ
ส่วนภายในใจคือการข่มอารมณ์โกรธมาเนิ่นนาน ตอนนี้เริ่มผุดขึ้นมาอย่างรัวแรงอีกครั้ง จนเธอเกือบควบคุมไม่อยู่
ลูกสาวเขาไม่ใช่แม่เลี้ยงใจร้ายหรือไง?
ยังไม่ทันแต่งเข้าบ้านตระกูลหิรัญชาก็ตีลูกชายเธอซะแล้ว ตอนนี้เขายังมีหน้าบอกว่าเธอยุแยงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งคู่อีกเหรอ?
“คุณอรรตพล เรียกลูกสาวคุณมาถามก่อนดีไหมคะ?เธออาจจะรับปากก็ได้” เส้นหมี่ระงับความเกรี้ยวกราด พูดอีกหนึ่งประโยค
แต่เสียดาย เธอพูดดีด้วย แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมรักษาน้ำใจ
เพียงแต่อรรตพลแค่โบกมือก็มีคนรับใช้เข้ามาสองคน“ส่งเธอออกไป ตัวอะไรนี่?มิน่าล่ะดิลกเลยต้องเข้าคุก ที่แท้ตระกูลวชิรนันท์ก็มีสันดานถ่อยแบบนี้นี่เอง!”
เส้นหมี่“……”
คล้ายกับมีสิ่งของหล่นลงมาเหนือศีรษะ เกิดเสียงดัง“ปัง”เลือดในร่างกายเธอระเบิดออก กระทั่งดวงตาทั้งสองก็เผยเส้นเลือดออกมา
“คุณว่าอะไรนะ?พ่อฉันทำไม?เสียดสีตระกูลวชิรนันท์เหรอ!!”
เธอพุ่งเข้าไป ถามผู้ชายวัยกลางคนด้วยเสียงดุดัน
ทว่าอรรตพลยังไม่ทันตอบ แครอทที่อยู่ด้านในได้ยินเสียงก็ออกมา
“เส้นหมี่ เธอทำอะไร? กล้าตะคอกใส่พ่อฉันเหรอ?”
“แครอท?”
เส้นหมี่เห็นคนที่ตนมาหา เธอรีบหันขวับไปทันที“ฉันทำอะไรอยู่นั่นเหรอ?เธอไม่รู้เหรอ?ฉันก็มาทวงความยุติธรรมให้ลูกชายฉันไง!!”
“ความยุติธรรมบ้าบออะไร? บ้าหรือเปล่า? วิ่งมากัดในบ้านฉันโดยไร้สาเหตุทำไม?”
“ฉันบ้า?ใช่ ฉันมันคนช้า แต่ก็เป็นฝีมือเธอนั่นแหละ แครอทเธอก็เป็นหมอเหมือนกัน ทำไมใจดำขนาดนี้?คิวคิวพึ่งจะห้าขวบ แต่เธอก็ตีเขาแบบนี้ ไม่กลัวลดอายุขัยของตัวเองหรือไง?”
เส้นหมี่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ตวาดเสียงพูดในสิ่งที่ก่อนหน้าคิดว่าจะไม่พูดแล้วออกมา
ไม่ผิดหรอก เธอมาที่นี่ ความจริงแล้วอยากแก้แค้นให้ลูกชายมากกว่า
ทว่าสิ่งที่ทำให้เธอเดือดดาลมากขึ้นก็คือ ผู้หญิงคนนี้ไม่ยอมรับความผิด!
“เธอพูดจาเหลวไหลอะไร? ฉันไปตีคิวคิวตอนไหน เธอมันบ้าไปแล้ว”
“ไม่ยอมรับไงหรือ? แต่ฉันรู้หมดแล้ว แครอท เธออย่าคิดว่าจะปกปิดพฤติกรรมตัวเองได้นะ ฉันจะบอกให้ ฉันรู้ตั้งนานแล้ว วันนี้ถ้าเธอรับปากก็แล้วไป แต่ถ้าไม่รับปาก ฉันก็จะทำให้เธอไม่ได้แต่งงานกับเขา”
เส้นหมี่โกรธจนเป็นบ้า จึงพูดคำข่มขู่ออกมา
ทว่าความจริงแล้วเธอไม่ได้คิดแบบนั้น
ทว่าแครอทได้ยินก็หน้าถอดสีทันที
“เธอพูดอะไรนะ พูดอีกรอบดูสิ”
เธอใจเย็นลง ไม่ได้โมโหมากอีกต่อไป เพียงแต่ใช้สองตาจ้องเส้นหมี่เขม็ง ซึ่งแววตามืดมนสุดแสน
คล้ายกับผีที่โผล่ออกมาจากตรงไหนก็ไม่รู้
เส้นหมี่“……”
ชั่วพริบตานั้น แผ่นหลังของเธอก็เย็นวูบ ถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยสัญชาตญาณ
ทว่าก็สายเกินไปเสียแล้ว ผู้หญิงตรงหน้าพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วไว จากนั้นก็ง้างมือตบใส่เธออย่างจัง
“ผั๊วะ”
ทันใดนั้น ทุกคนที่อยู่ในลานบ้านล้วนตกตะลึง
มาร์ตินที่อยู่ด้านหลังเส้นหมี่เห็นภาพนี้แล้วก็กระโดดขึ้นมา“ทำอะไรของเธอ ทำไมไปตบคนอื่นแบบนี้?”
“ฉันตบแล้วจะทำไม? มันกล้าบอกว่าจะทำให้ฉันไม่ได้แต่งงาน วันนั้นไม่ได้ทำพิธีหมั้นให้แล้วเสร็จก็เป็นเพราะมันนี่แหล่ะ ฉันตบมันสักฉาดจะเป็นไรไป?”
แครอทที่ลงมือตบตีเผยใบหน้าดุร้ายขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนไหน ผู้หญิงที่มีหน้าตาสดใสร่าเริง ทั้งยังสง่างาม เมื่อก่อนเป็นผู้หญิงมีอุดมการณ์ นอกจากงานแพทย์ที่เธอรักแล้วก็ไม่สนใจเรื่องอื่นอีก
ทว่าตอนนี้เส้นหมี่ทีกำลังกุมหน้าตัวเองเห็นสีหน้าอีกฝ่าย
ก็นึกถึงแป้งร่ำในวันวานกะทันหัน เธอคนนั้นก็หน้าตาบิดเบี้ยวและดุร้ายแบบนี้เหมือนกัน
และยิ่งไปกว่านั้น คนนี้แรงกว่าคนนั้นอีกด้วย
ทำไมเธอคนนี้จึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้?
มาร์ตินคลุ้งคลั่งด้วยความโกรธ
“ส้นตีนเอ้ย!กูว่ามึงก็น่าตบเหมือนกันว่ะ” เขาตะคอกใส่หนึ่งประโยค จากนั้นก็ยกเท้าถีบใส่ผู้หญิงคนนี้แบบไม่ลังเลเลยสักนิด
“อ๊าก…”
ทันใดนั้น ลานบ้านนี้ก็เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บของผู้หญิง
ทุกคนตกตะลึงอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้โดนมาร์ตินถีบลงลอยกระเด็นไปกระแทกพื้นดัง“โครม”
โอ้โห!
เส้นหมี่ลืมความเจ็บปวดบนใบหน้าทันที
รวมทั้งแสนรักที่พึ่งเดินเข้ามาด้วย เขาเห็นภาพนี้ เส้นเอ็นบนหน้าผากก็กระตุกแรงๆสองครั้ง