ตอนที่ 1542

Monster Paradise

ภายใต้การนำของหลานหลิง หลินฮวงและคนอื่นรีบตามมา มันใช้เวลาครึ่งวันเพื่อออกพื้นที่รวมตัวของอสูรพิโรธ และพวกเขาก็ฆ่าพวกมันไป 27 ตัวระหว่างทาง

 

“เราออกจากพื้นที่รวมตัวของพวกพิโรธล้ว ด้านหน้า มีพวกริษยาอยู่ภายในรัศมีสามร้อยกิโลเมตร”หลานหลิงหยุด แจ้งคนอื่นถึงผลการตรวจสอบ

 

“สถานที่นี้คือดินแดนหุบเหววิบัติจริงๆ”จิ่วเจี้ยนพูดกับเวอชุโอโซ

 

เวอชุโอโซพยักหน้า”เราสามารถยืนยันได้แล้ว’

 

พวกหลินฮวงใช้เวลาเดินทางกว่าครึ่งวันก่อนจะออกจากอาณาเขตพวกพิโรธได้ ความกว้างที่พวกพิโรธกระจายตัวบ่งบอกชัดว่านี่ไม่ใช่จุดรวมตัวธรรมดาสำหรับอารมณ์ด้านลบ ตอนนี้พวกเขาพบวิบัติอีกประเภท มันพิสูจน์ว่ามีอารมณ์ด้านหลบมากมายที่นี่ โดยพื้นฐานพวกเขาสามารถกำจัดความเป็นไปได้ว่าพวกเขาจะอยู่ที่อื่น

 

มีแค่ดินแดนหุบเหววิบัติถึงสามารถมีอารมณ์ด้านลบหลายประเภทได้มากขนาดนี้

 

“เราต้องทำไงเพื่อโต้ตอบพวกริษยา?”หลินฮวงอดถามไม่ได้

 

เขารู้แน่นอนว่าพวกริษยาคือสิ่งมีชีวิตหุบเหวที่เกิดจากอารมณ์ริษยารุนแรง แต่ทว่า ในข้อมูลที่เขารวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ มีคำอธิบายถึงมอนสเตอร์ชนิดนี้ไม่มากนัก

 

“พวกริษยาเป็นสิ่งมีชีวิตพิเศษ ขอให้ข้าอธิบาย”เวอชุโอโซพูดอย่างใจเย็น

 

“พวกริษยาคือมอนสเตอร์ที่มีความริษยารุนแรงและมักดำรงในรูปแบบวิญญาณเท่านั้น พวกมันมีภูมิคุ้มกันต่อการโจมตีทางกายภาพส่วนใหญ่ รวมถึงพวกที่ใช้พลังกฏเทพและพลังลำดับเทพ มีเพียงการโจมตีประเภทวิญญาณถึงสามารถทำร้ายพวกมันได้โดยตรง’

 

“แต่ทว่า ถ้าพวกริษยาเกิดอารมณ์ริษยาต่อบุคคลนั้น การโจมตีทั้งหมดจากเป้าหมายของริษยาจะได้ผล กล่าวนัยหนึ่ง ถ้าหนึ่งในพวกเราตกเป็นเป้าโดยพวกมันและไม่มีใครรอบเป้าหมายมีเทคนิคการโจมตีประเภทวิญญาณ เราก็ช่วยเหลือไม่ได้ เป้าหมายทำได้แค่พึ่งพาตัวเอง”

 

“สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างคือถ้าบุคคลภายในระยะสัมผัสของพวกริษยา แต่ไม่มีอะไรให้พวกริษยาหึงหวงได้ พวกริษยาจะเมินคนคนนั้น ต่อให้บุคคลนั้นจะเดินผ่านตอนพวกริษยามอง บุคคลนั้นก็จะไม่โจมตี”

 

“แต่ทว่า พวกริษยาก็มีจุดอิจฉาแปลกๆ ไม่เพียงแค่นั้น ทุกตัวยังต่างกัน พวกมันอาจอิจฉาสิ่งที่เราไม่สนใจเลย เช่น ผมเจ้ายาวกว่าข้า ข้าจึงอยากฆ่าเจ้า ทำไมสีลิปสติกของเจ้าสวยจัง?ข้าอยากฆ่าเจ้า”

 

หลานหลิงยกมือขึ้นเพื่อลดลิปสติกบนปากนางหลังได้ยิน

 

“เป้าหมายต้องฆ่าพวกริษยาทันทีที่พวกเขาตกเป็นเป้า นี่เพราะยิ่งยื้อนาน ความอิจฉาจะยิ่งมาก มันอาจคลุ้มคลั่ง ซึ่งทำให้ความสามารถมันพุ่งสูง”

 

“มีอีกเรื่องที่ต้องจำ ก่อนพวกอิจฉาจะจับเป้าหมาย พวกมันจะมีการต้านทานการโจมตีประเภทวิญญาณระดับหนึ่ง แถม ถ้าพวกมันโดนโจมตีภายใต้สภาพเช่นนั้น พวกมันจะคลุ้มคลั่งทันที”

 

แม้กระทั่งถูทงกับหลานหลิงก็ไม่สามารถหยุดพยักหน้าได้หลังได้ยินคำอธิบายของเวอชุโอโซ ไม่ใช่แค่หลินฮวง เห็นได้ชัดว่ามันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเรื่องแบบนี้เช่นกัน

 

“อย่าตื่นตระหนกถ้าเจ้ากลายเป็นเป้า เต๋ากระบี่ของข้ามีสถานะการโจมตีประเภทวิญญาณอยู่”จิ่วเจี้ยนปลอบหลานหลิง จากนั้นก็เหลือบมองหลินฮวง

 

กฏสวรรค์เต๋าดาบกับกระบี่เป็นสายโจมตีกายภาพขั้นสุดที่เกินขีดจำกัดของกายภาพไปจนถึงจิตวิญญาณ การโจมตีเหล่านี้จึงมีผลทำร้ายวิญญาณโดยตรง

 

ความคิดเห็นของจิ่วเจี้ยนไม่ได้อ้างว้ากฏสวรรค์เต๋ากระบี่สามารถทำได้ แต่อ้างว่าเทคนิคเต๋ากระบี่ประเภทวิญญาณคือสิ่งที่จิ่วเจี้ยนเชี่ยวชาญ

 

หลินฮวงเข้าใจความหมายของจิ่วเจี้ยนและสังเกตเห็นการท้าทายเล็กน้อยในสายตาจิ่วเจี้ยน แต่ทว่า เขาไม่สนใจ

 

สำหรับกฏสวรรค์เต๋าดาบ หลินฮวงเพิ่งเลื่อนเป็นระดับสอง ใจสวรรค์ บางทีจิ่วเจี้ยนคงอยู่ระดับสองมานานแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตาม ทาสดาบทั้งหมดภายใต้หลินฮวงได้ฟื้นคืนพลังของเทพสวรรค์ขั้นเจ็ดแล้ว เขาจึงหยิบยืมกฏสวรรค์เต๋าดาบกว่าสามร้อยประเภทได้ ในหมู่พวกเขา มีบางคนที่ไปถึงระดับสามแล้วด้วย

 

เขามั่นใจว่าเขาจะไม่แพ้จิ่วเจี้ยนถ้าพวกเขาประลองกันด้วยดาบหรือกระบี่ ต่อให้ร่างต้นของจิ่วเจี้ยนจะทรงพลังอย่างมาก รวมถึงเป็นสมาชิกสโมสรก็ตาม

 

แต่ทว่า จิ่วเจี้ยนเองก็เป็นแค่ร่างแยก ไม่เพียงแค่นั้น ระดับพลังของเขายังเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นเก้า

 

หลินฮวงจึงไม่มีความตั้งใจที่จะท้าทายจิ่วเจี้ยนนัก

 

ในความเป็นจริง เขาสนใจร่างต้นของจิ่วเจี้ยนมากกว่า

 

ก่อนหน้านี้ หลินฮวงอยากรู้ว่าร่างต้นของจิ่วเจี้ยนทรงพลังแค่ไหนถ้าเทียบกับร่างแยกของเขาด้วยระดับพลังแบบเดียวกัน

 

ขณะที่พวกเขาเดินทางต่อ ไม่ช้า พวกเขาก็พบพวกริษยากลุ่มแรก

 

มันคือครั้งแรกที่หลินฮวงเห็นพวกริษยา

 

ริษยาตัวนี้ดูคล้ายกับผีสาวในชุดแดง นางลอยในอากาศ นางมีผมสีดำยาวถึงเอว

 

ตอนแรก นางหันหลังให้พวกเขา

 

แต่ทว่า หลังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของพวกหลินฮวง นางก็หันหัว 180 องศา เผยให้เห็นใบหน้าซีดเซียว

 

สิ่งที่พิเศษสุดคือแม้ใบหน้าจะไร้เลือด แต่ริมฝีปากนางกลับมีสีแดงสด

 

แม้หลินฮวงจะเป็นผู้บ่มเพาะระดับเทพแท้จริง เขาก็อดรู้สึกหวาดกลัวไม่ได้ตอนเห็นริษยาต่อหน้า เขาพลันนึกถึงภาพยนตร์สยองขวัญที่เคยดูบนโลก

 

หลังริษยาหันหัวมา นางก็เริ่มสังเกตหลินฮวงและคนอื่น

 

หลังตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน ในที่สุดนางก็จับจ้องหลานหลิง

 

หัวใจของหลานหลิงเต้นกระหน่ำทันทีตอนเห็นริษยาเมินคนอื่นและจ้องนางตาไม่กะพริบ นางรู้ว่านางกลายเป็นเป้าหมายแล้ว

 

หลังกำหนดเป้าหลานหลิง ตัวของริษยาก็หันมาทางนาง

 

วินาทีต่อมา นางก็ปรากฏต่อหน้าหลานหลิงโดยตรงราวกับหายตัว

 

ถูทงอยากโจมตี แต่เวอชุโอโซจับไหล่เขาไว้

 

พวกเขาส่าหยัวและพูดกับถูทงผ่านคลื่นเสียง”นางยังจับเป้าไม่เสร็จ”

ริษยาผมยาวลอยอยู่ตรงหน้าหลานหลิงและเริ่มกลั่นกรองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า

 

ครู่ต่อมา นางก็จ้องหน้าอกของหลานหลิง ถามราวกับว่ากำลังพูดกับตัวเอง

 

“ทำไมหน้าอกเจ้าใหญ่จัง?!”

 

ต่อมา เสียงของนางก็เริ่มดังซ้ำเหมือนอุปกรณ์อัดเสียง นางจ้องหน้าอกของหลานหลิงและเริ่มพูดซ้ำไปซ้ำมา

 

นางเริ่มพูดเร็วขึ้น และระดับเสียงของนางก็สูงขึ้นจนทุกคนเจ็บหู

 

เมื่อสังเกตเห็นว่าเวอชุโอโซยังไม่ส่งสัญญาณให้นางโจมตี หลานหลิงจึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง

 

ริษยาพูดซ้ำ”ทำไมหน้าอกเจ้าใหญ่จัง?”และรูม่านตาของนางก็เริ่มแดงก่ำ วินาทีต่อมา ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงสนิท มองไม่เห็นรูม่านตาของนางอีก ผมสีดำของนางเริ่มเป็นลอนเหมือนงู

 

วินาทีต่อมา เส้นผมนับไม่ถ้วนก็พุ่งไปข้างหน้าเหมือนคลื่น พุ่งใส่หลานหลิงอย่างบ้าคลั่งราวกับอยากกลืนกินนาง

 

เพียงเมื่อหลานหลิงกำลังจะถอย นางก็เห็นคลื่นแสงสีทองสว่างตรงหน้านาง ฉีกผ่านคลื่นสีดำทั้งหมด

 

“หนวกหู!”จิ่วเจี้ยนเก็บกระบี่ทันทีที่พูดจบ

 

คลื่นดำสลายตัวทันที ผีสาวเหลือบมองทางจิ่วเจี้ยนด้วยแววตาตกตะลึง จากนั้น คลื่นแสงสีทองก็สว่างระหว่างคิ้วนาง และตัวนางก็เริ่มจางหายไป