ตอนที่ 112 ถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ

 

 

 

           ภายนอกของเมิ่งชิงซีแสดงออกว่ายินดี แต่ภายในใจของเธอนั้นอยากจะหาคนมาผลักถังโจวโจวให้รู้แล้วรู้รอดไป เธอจะได้แท้งลูกที่อยู่ในท้องเสียที แม้จะวาดฝันเอาไว้อย่างดี แต่ตอนนี้ถังโจวโจวก็ยังนั่งสงบสุขอยู่ตรงหน้าเธอ

 

 

ถังโจวโจวเห็นว่าเมิ่งชิงซียิ้มแย้มอย่างมีความสุข เธอก็นึกกลัวอยู่ในใจว่ามันจะไม่น่าจะสวยงามอย่างที่เห็น แต่ถังโจวโจวก็ไม่อยากจะคาดเดาว่าเธอโหดร้ายมากแค่ไหน “ขอบคุณค่ะ คุณเมิ่ง ลูกฉันคลอดเมื่อไร ฉันจะแจ้งให้คุณทราบค่ะ วางใจได้”

 

 

ถังโจวโจวลูบหน้าท้องของเธอ เธอเองก็ตั้งตารอคอยวันที่จะให้กำเนิดลูก ลูกคือความหวังของเธอ ความรู้สึกของลั่วเซ่าเชินนั้นบางทีมันก็เข้มข้น บางทีมันก็เจือจาง ซึ่งนั่นทำให้จิตใจเธอไม่เป็นสุข แต่ลูกให้ทุกอย่างกับเธอ ทำให้เธอมีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

 

 

“ถ้าอย่างนั้นก็เยี่ยมมาก นมมาพอดีเลย โจวโจวรีบดื่มสิ” ท่าทางของเมิ่งชิงซีผิดปกติมาก ซึ่งนั่นทำให้ถังโจวโจวผิดสังเกต ดูเหมือนว่าในนมจะมีสิ่งที่เธอสนใจเป็นพิเศษ และมันก็คงจะไม่ดีต่อเธอ มิเช่นนั้นเมิ่งชิงซีจะคอยเร่งให้เธอดื่มทำไม…

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกว่าตัวเองคิดมากเกินไปอีกแล้ว ถ้าเมิ่งชิงซีคิดจะทำอะไร เธอจะทำให้รู้ตัวต่อหน้าแบบนี้เลยหรือ แต่ถังโจวโจวก็ยังคงปฏิเสธที่จะดื่มนมแก้วนี้อยู่ดี

 

 

เมิ่งชิงซียิ่งเกลียดเธอมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าถังโจวโจวระมัดระวังตัวอย่างนี้ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงสีหน้ารังเกียจอะไรออกมา เธอแค่รู้สึกว่ามันตลกดีที่ถังโจวโจวระแวงเธอ “วางใจเถอะ โจวโจว ในนมไม่มีอะไรหรอก เธอสบายใจได้”

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกได้ว่าเมิ่งชิงซีกำลังหัวเราะเยาะ เหมือนจงใจจะยั่วยุเธอ แต่ถังโจวโจวก็ไม่กล้าเสี่ยง “ฉันไม่อยากดื่มค่ะ คุณเมิ่ง ในเมื่อคุณไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”

 

 

 เมื่อเมิ่งชิงซีเห็นว่าถังโจวโจวจะกลับแล้ว เธอก็ลุกขึ้นยืนตาม “ในเมื่อเธอไม่อยากดื่ม ถ้าอย่างนั้นฉันก็จะกลับด้วย”

 

 

เมิ่งชิงซีทำทีราวกับว่าพวกเธอเป็นพี่น้องที่สนิทกัน เธอควงแขนถังโจวโจว ซึ่งนั่นทำให้ถังโจวโจวรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก “ปล่อยได้ไหมคะ คุณเมิ่ง ต่างคนต่างไปดีกว่าค่ะ”

 

 

ถังโจวโจวทำให้เมิ่งชิงซีรู้สึกอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายที่อยู่ในร้าน เมื่อเมิ่งชิงซีถูกบีบบังคับด้วยคำพูดนั้น เธอจึงต้องปล่อยแขนของถังโจวโจว แต่เธอจะจำความแค้นครั้งนี้เอาไว้ ‘ยายถังโจวโจวนี่ใช้ไม่ได้เลย ฉันอุตส่าห์ไว้หน้าเธอ แต่เธอกลับไม่ไว้หน้าฉัน!’

 

 

เมื่อเธอเห็นว่าผู้คนเริ่มมองมาทางนี้ เมิ่งชิงซีก็ยิ่งโกรธ แต่เธอก็ไม่สามารถบันดาลโทสะออกมาได้ เธอย่ำเท้าตามจังหวะก้าวของถังโจวโจวไปด้วยความโกรธ

 

 

เธอได้ยินลูกค้าที่อยู่ในร้านพูดคุยกันเบาๆ ว่า “สองคนนี้นี่ยังไง ดูเหมือนว่าพวกเธอจะเป็นศัตรูกัน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังแกล้งทำเป็นว่าพวกเธอมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ซ้ำยังควงแขนอีกคนด้วย”

 

 

ลูกค้าอีกคนก็พูดต่อ “นั่นสิ น่าจะทะเลาะกันล่ะมั้ง”

 

 

เมื่อออกมาจากร้านกาแฟ ถังโจวโจวก็เดินออกไปนอกตัวห้างเลย แต่เมิ่งชิงซีก็ยังไล่ตามเธอมาทัน “โจวโจว เธอจะกลับบ้านเหรอ เดี๋ยวฉันไปส่ง” เมิ่งชิงซีอยากจะพาถังโจวโจวไปที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน

 

 

ถังโจวโจวสะบัดมือ “อย่าดีกว่าค่ะ คุณเมิ่ง เดี๋ยวเซ่าเชินจะมารับฉัน” ความจริงแล้วถังโจวโจวพูดโกหก ลั่วเซ่าเชินยังไม่ได้ส่งข้อความมาบอกเธอเลยว่าเขาจะมารับเธอ แต่เพื่อให้หลุดพ้นจากเมิ่งชิงซี ถังโจวโจวจึงจำต้องโกหกออกไป

 

 

เมิ่งชิงซียังไม่ยอมแพ้ เธอดึงแขนเสื้อของถังโจวโจว “โจวโจว แต่เซ่าเชินก็ยังไม่มาเลยนี่ ให้ฉันไปส่งเธอเถอะนะ” เมื่อถังโจวโจวไม่ยอม พวกเธอก็ดึงกันไปดึงกันมา เมิ่งชิงซีเห็นว่าการกระทำของพวกเธอสองคนเริ่มดึงดูดสายตาจากคนรอบข้าง

 

 

เธอต้องการดึงตัวถังโจวโจวไปหลบให้พ้นสายตาผู้คน แต่ถังโจวโจวขืนตัว สะบัดแขนจนหลุดจากมือของเมิ่งชิงซี ถังโจวโจวก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็ล้มลงไป จิตใต้สำนึกของเมิ่งชิงซีสั่งให้เธอดึงถังโจวโจวไว้ แต่เมื่อยื่นมือเข้าไปใกล้ถังโจวโจว เธอก็ชะงักลง

 

 

เธอคิดขึ้นมาได้ว่า ถ้านี่จะทำให้ถังโจวโจวแท้งล่ะ มันจะไม่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเธอหรือ นี่เป็นสิ่งที่เธอหวังมานานไม่ใช่หรือ แม้ว่าความคิดนั้นจะวูบขึ้นมา แต่เมิ่งชิงซีก็เปลี่ยนความคิด

 

 

ถังโจวโจวทรงตัวไม่ได้และล้มลงไปด้านหลัง เธอปกป้องหน้าท้องของเธอโดยอัตโนมัติ เธอเห็นว่ามือของเมิ่งชิงซีเอื้อมมาใกล้เธอแล้ว แต่คว้าเธอเอาไว้ไม่ทัน เธอจึงล้มลง

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกว่าตัวเองกลิ้งไปหลายรอบมากกว่าจะหยุดลง ร่างกายของเธอเจ็บจนชาไปหมด แต่ที่เจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เห็นจะเป็นส่วนท้องของเธอ ถังโจวโจวหวาดกลัวขึ้นมา เธอยื่นแขนที่อ่อนแรงออกไปหาเมิ่งชิงซี “ชิงซี ช่วยลูกฉันด้วย ขอร้องล่ะ…”

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกเหมือนมีอะไรไหลออกมาจากท้องของเธอ เธอเอื้อมมือลงไปแตะ แล้วก็พบว่ามันเปียกและเหนียวเหนอะหนะ เมื่อเธอยกมือขึ้นมาดู มันคือเลือดทั้งหมด

 

 

เธอยิ่งกังวลใจมากขึ้น แต่ร่างกายของเธอเจ็บจนขยับตัวไม่ได้ ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ถังโจวโจวพยายามดูว่าใครเป็นคนโทรมา เธอคิดอยากจะให้ลั่วเซ่าเชินโทรมาบอกว่าเขาจะมารับเธอแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช่เขาไหม?

 

 

เมิ่งชิงซีตัวแข็งทื่อ เมื่อเห็นถังโจวโจวตกบันได แม้ว่าเมื่อครู่นี้เธอจะมีความคิดว่า ‘จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าถังโจวโจวตกบันได?’ แต่เธอก็นึกไม่ถึงเลยว่าถังโจวโจวจะตกลงไปจริงๆ เธอเริ่มหวาดกลัวขึ้นอีกครั้ง ถ้าเซ่าเชินรู้ล่ะ เธอจะทำอย่างไรดี?

 

 

ถังโจวโจวเห็นว่าเมิ่งชิงซีไม่ตอบสนองอะไรเลย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายกำลังช็อก หรือว่าตั้งใจ แต่ถังโจวโจวรอไม่ได้แล้ว เธอจึงต้องตะโกนร้องขอความช่วยเหลือจากผู้คนที่อยู่รอบข้าง “ช่วยด้วยค่ะ ช่วยลูกฉันด้วย!”

 

 

แต่ผู้คนที่อยู่รอบตัวเธอก็ไม่แยแส ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากเข้าไปช่วย แต่พวกเขากลัวว่าถ้าพวกเขายื่นมือเข้าไปแล้ว จะกลับกลายเป็นว่าถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทำ ซึ่งนั่นจะทำให้ประวัติของพวกเขาด่างพร้อย พวกเขาจึงค่อนข้างลังเล

 

 

ถังโจวโจวค่อนข้างสิ้นหวัง เสียงเรียกเข้าจากมือถือของเธอยังคงดังอยู่ แต่เธอก็เริ่มอ่อนแรงลงไปเรื่อยๆ พละกำลังที่มีก็ค่อยๆ หายไป เธอร้องเรียกเบาๆ ในปากว่า “เซ่าเชิน เซ่าเชิน…”

 

 

เมื่อเมิ่งชิงซีเห็นว่าเลือดของถังโจวโจวไหลออกมามากขึ้น ในที่สุดเธอก็รู้สึกตัวว่าตอนนี้เธอต้องพาถังโจวโจวไปที่โรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน ตึกๆๆ เธอวิ่งลงบันไดไปสองสามขั้น และคุกเข่าลงตรงหน้าถังโจวโจว เมื่อเห็นว่าดวงตาของถังโจวโจวใกล้จะปิด เธอก็ตบแก้มเรียกเบาๆ

 

 

“ถังโจวโจว ตื่นสิตื่น เธอจะหลับไม่ได้นะ ฉันจะพาเธอไปส่งโรงพยาบาล” เมิ่งชิงซีควักโทรศัพท์ออกมา เธอกดหน้าจออยู่สองสามทีเพื่อแจ้งศูนย์พยาบาล จากนั้นเธอถึงรู้ว่าริมฝีปากของตัวเองสั่นเทามาก

 

 

ถังโจวโจวรู้สึกเจ็บมาก เธอได้ยินเสียงร้องไห้ของลูกอยู่รางๆ เธอเองก็ร้องไห้เช่นกัน ขอโทษนะลูก แม่ขอโทษที่ปกป้องหนูไม่ได้ ขอโทษนะ…

 

 

ถังโจวโจวขยับปากเล็กน้อย เมิ่งชิงซีก้มหน้าลงไปฟังใกล้ๆ ว่าถังโจวโจวกำลังพูดอะไร “เซ่าเชิน ลูก…” เมิ่งชิงซีมองดูสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ ส่วนถังโจวโจวนั้นหมดสติไปแล้ว เธอได้ยินเสียงโทรศัพท์ของถังโจวโจวดังขึ้นมาอีกครั้ง เธอรีบหยิบมันออกมา

 

 

บนหน้าจอแสดงชื่อของหลินเหยา เมิ่งชิงซีไม่รู้ว่าควรจะรับหรือไม่ แต่โทรศัพท์แผดเสียงอยู่ตลอด ผู้คนรอบข้างก็ยังเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเมิ่งชิงซี เมิ่งชิงซีกัดฟันรับสายในที่สุด เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงรีบร้อนของหลินเหยาก็ดังขึ้นมาเสียก่อน

 

 

“โจวโจว ทำไมเพิ่งรับสาย เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า”

 

 

เมิ่งชิงซีพูดตะกุกตะกัก “คุณเป็นเพื่อนของถังโจวโจวใช่ไหม ตอนนี้เธอประสบอุบัติเหตุ คุณช่วยมาที่โรงพยาบาลกลางหน่อยนะคะ”

 

 

หลินเหยาร้อนรนใจในทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เธอรีบถามว่า “คุณคือใครคะ ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับโจวโจว” ความคิดที่ไม่ดีทุกอย่างพุ่งเข้ามาในหัวสมองของเธอทันที แต่คนอีกฝั่งไม่ตอบ ก่อนจะวางสายไป

 

 

หลินเหยาไม่มีทางเลือก เธอคิดว่าต้องเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นกับถังโจวโจวแน่ๆ เธอไม่โทรกลับไปอีก และเก็บของอย่างลวกๆ เธอออกไปเรียกรถแท็กซี่ เพื่อรีบไปที่โรงพยาบาล

 

 

หลินเหยารู้ว่าถังโจวโจวออกมาคนเดียว เธอไม่แน่ใจว่าลั่วเซ่าเชินรู้หรือเปล่าว่าถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ เธอรีบโทรหาลั่วเซ่าเชินทันที เมื่อลั่วเซ่าเชินเห็นว่าหลินเหยาโทรเข้ามา เขาก็ลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกดรับสาย

 

 

“ครับ คุณหลิน มีธุระอะไรหรือเปล่าครับ” ลั่วเซ่าเชินเพิ่งจะเสร็จธุระจากฝั่งของหันฮุ่ยซิน เขากำลังจะออกเดินทางไปรับถังโจวโจว

 

 

น้ำเสียงของลั่วเซ่าเชินฟังดูใจเย็นมาก ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่รู้ว่าถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ หลินเหยารีบพูดทันที “ผอ. ลั่วคะ โจวโจวประสบอุบัติเหตุ คุณรีบไปที่โรงพยาบาลกลางนะคะ ส่วนที่เหลือฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ฉันกำลังเดินทางไปอยู่ค่ะ”

 

 

ลั่วเซ่าเชินได้ยินแค่เสียงเอะอะของหลินเหยา แต่ลั่วเซ่าเชินก็พอจะจับใจความได้ ถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ ถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ…

 

 

“คุณไม่ได้หลอกผมใช่ไหม ล้อเล่นแบบนี้ไม่สนุกนะครับ?” ลั่วเซ่าเชินอยากจะคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องตลก แต่ในใจของเขารู้ดีว่าหลินเหยาไม่มีทางเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่น ถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุจริงๆ

 

 

“ลั่วเซ่าเชิน คุณคิดว่าฉันจะเอาเรื่องแบบนี้มาพูดเล่นหรือคะ” หลินเหยาคิดว่าถ้าลั่วเซ่าเชินอยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ เธอคงจะตบหน้าเขาสักที เรื่องแบบนี้เอามาพูดเล่นได้เหรอ

 

 

ในที่สุดลั่วเซ่าเชินก็ตื่นกลัว “โอเค ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ” ลั่วเซ่าเชินไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น เขาแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าถังโจวโจวประสบอุบัติเหตุ

 

 

หันฮุ่ยซินปลีกตัวออกมาจากคนอื่นเพื่อมาหาลั่วเซ่าเชิน เธอเห็นว่าสีหน้าของเขาดูเปลี่ยนไป เขาไม่สงบนิ่งเหมือนก่อนหน้านี้ ราวกับว่าวิญญาณได้หลุดลอยออกไปแล้ว เธอถามด้วยความห่วงใยว่า “เซ่าเชิน เป็นอะไรไปคะ ทำไมสีหน้าของคุณดูไม่ดีเลยล่ะ”

 

 

“โจวโจวประสบอุบัติเหตุน่ะ ฮุ่ยซิน งานตรงนี้ก็เสร็จหมดแล้ว ผมขอตัวก่อนนะ” ประจวบกับที่ฟังหยวนเดินผ่านมา เขาได้ยินสิ่งที่ลั่วเซ่าเชินพูดพอดี “อะไรนะ! โจวโจวประสบอุบัติเหตุ? แล้วทำไมนายยังยืนบื้ออยู่ตรงนี้ ยังไม่รีบไปอีก!”

 

 

เมื่อฟังหยวนเห็นว่าลั่วเซ่าเชินยังยืนบื้ออยู่อย่างนั้น เขาก็อยากจะเคาะกะโหลกของลั่วเซ่าเชินสักหลายๆ ที นี่เขาไม่สนใจโจวโจวเลยเหรอ? เขายังมีเวลามายืนคุยกับหันฮุ่ยซินอยู่อีก!

 

 

ลั่วเซ่าเชินไม่กลัวฟังหยวนจะเข้าใจผิด เขาเอ่ยขอโทษหันฮุ่ยซิน ก่อนจะเดินตรงไปที่รถ หันฮุ่ยซินเดินตามเขามา “เซ่าเชิน ให้ฉันไปด้วยนะคะ ฉันเองก็เป็นห่วงเธอ”

 

 

ลั่วเซ่าเชินไม่ปฏิเสธ หันฮุ่ยซินขึ้นไปบนรถของลั่วเซ่าเชิน ในขณะที่ฟังหยวนขับรถตามหลังลั่วเซ่าเชินไป สายตาของลั่วเซ่าเชินจับจ้องอยู่ที่ด้านหน้า แต่หัวของเขากลับคิดไปต่างๆ นานา ‘โจวโจวจะเป็นยังไงบ้าง ทำไมจู่ๆ ถึงเกิดอุบัติเหตุได้?’

 

 

ลั่วเซ่าเชินทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น เมื่อคิดว่าในท้องของถังโจวโจวยังมีเด็กอยู่ เขาคิดว่าถ้าเด็กไม่อยู่แล้ว ถังโจวโจวจะเจ็บปวดและทรมานมากแค่ไหน

 

 

หันฮุ่ยซินเห็นว่าลั่วเซ่าเชินค่อนข้างว้าวุ่นใจ เธอวางมือลงบนแขนของลั่วเซ่าเชินและพูดปลอบว่า “เซ่าเชิน ไม่ต้องกังวลนะ โจวโจวจะต้องไม่เป็นอะไร” หันฮุ่ยซินไม่กล้าพูดประโยคต่อไป เมื่อเธอคิดได้ว่าถังโจวโจวยังท้องอยู่ เธอก็คาดว่าอาการน่าจะไม่ค่อยดี

 

 

ดูเหมือนว่าลั่วเซ่าเชินจะไม่ได้ยินคำปลอบโยนของหันฮุ่ยซิน ตัวเขาตั้งใจขับรถ แต่ความจริงแล้วหัวใจของเขาได้บินไปหาถังโจวโจวถึงโรงพยาบาลแล้ว