บทที่ 809 ซาบซึ้งใจเหลือเกิน / บทที่ 810 เลียนแบบไม่ได้หรอก

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 809 ซาบซึ้งใจเหลือเกิน

พริบตาที่ซือเยี่ยหานพูดจบ เยี่ยหวันหวั่นโยนบอดี้การ์ดลับในมือและถีบบอดี้การ์ดลับใต้เท้าออกไปทันที จากนั้นเธอก็กระโดดโลดเต้นไปหาซือเยี่ยหานอย่างดีใจ

บอดี้การ์ดลับที่อยู่ด้านหลังทุกคนยืนโง่อยู่กับที่ มองเจ้านายบ้านตัวเองพาปีศาจสาวจากไป แล้วจึงถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก

ระ…รอดแล้ว…

เพื่อช่วยพวกเขา เจ้านายถึงกับพลีชีพอย่างไม่หวงแหน…

ซาบซึ้งใจเหลือเกิน…

สุดท้ายซือเยี่ยหานก็พาเยี่ยหวันหวั่นกลับไปนอนถึงเตียงที่ห้องนอนใหม่อีกครั้ง

ยังดีที่รอบนี้เยี่ยหวันหวั่นสงบลงมากแล้ว อย่างไรเสียก็สร้างความวุ่นวายทุกคืน เพิ่งลงนอนไม่นานเธอก็หลับฝันหวานในอ้อมกอดเขาแล้ว

ขณะมองใบหน้าหลับสงบนิ่งของหญิงสาว ซือเยี่ยหานผ่อนลมหายในที่สุด แต่ไฟที่ลุกโชนในตัวเขาไม่ว่ายังไงก็ไม่ดับลง จึงได้แต่ทนนอนไม่หลับไปทั้งคืน…

เช้าวันถัดมา เยี่ยหวันหวั่นตื่นนอนตามปกติ

“โอ๊ย…เจ็บๆๆๆ…” เยี่ยหวันหวั่นพลันรู้สึกถึงอาการปวดเอวเจ็บหลังที่คุ้นเคยแล่นผ่านร่าง

“ทำไมทุกครั้งที่ดื่มเหล้า ตื่นวันถัดมาต้องรู้สึกเหมือนถูกคนอัดด้วย”

ขณะพึมพำ ก็ค้นพบว่าซือเยี่ยหานที่อยู่ด้านข้างกำลังหลับปุ๋ย

นานๆ ทีจะเห็นซือเยี่ยหานตื่นสายกว่าเธอ!

เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้ปลุกเขา แต่ย่องลงจากเตียง หลังจากล้างหน้าก็เดินลงชั้นล่างไปอย่างลำบาก

เพิ่งเข้าไปในสวนเธอก็เห็นสวี่อวี้

ฝ่ายสวี่อวี้เห็นเยี่ยหวันหวั่นก็เกือบหันหน้าวิ่งทันทีโดยสัญชาตญาณ แต่ยังดีที่เขาอดทนไว้ได้และเอ่ยทักทาย “อะแฮ่ม คุณหนูหวันหวั่นอรุณสวัสดิ์ครับ!”

“อรุณสวัสดิ์พ่อบ้านสวี่!”

สวี่อวี้มองที่ด้านหลังของเยี่ยหวันหวั่น “เอ่อ คุณหนูหวันหวั่นครับ คุณชายเก้าล่ะ”

“ยังไม่ตื่น หลับอยู่เลย!” เยี่ยหวันหวั่นตอบ

สวี่อวี้พูดไม่ออก “เอ่อ…”

พวกสืออี เฟิงเสวียนอวี้ และบอดี้การ์ดลับที่กำลังเงี่ยหูฟังอยู่ในสวนก็พูดไม่ออก

อา ป่านนี้แล้วถึงกับยังไม่ตื่น…

เมื่อคืนคุณหนูหวันหวั่นทำอะไรคุณชายเก้ากันแน่!?

เยี่ยหวันหวั่นเกาหัวอย่างงุนงง ทำไมรู้สึกว่าสายตาที่สวี่อวี้มองตนมันแปลกๆ ไป?

กวงเย่ามีเดีย ภายในห้องทำงาน

เมื่อวานดื่มไวน์อย่างปล่อยตัวปล่อยใจไป เยี่ยหวันหวั่นจึงเข้างานอย่างรู้สึกเปี่ยมกำลังวังชา และค้นหาข่าวที่เกี่ยวกับ ‘มังกรผงาด 2’

ตอนนี้ละครเรื่องนี้ออกอากาศไปกว่าครึ่ง ลั่วเฉินโด่งดังอย่างถึงที่สุดแล้ว ถึงแม้เขาเป็นแค่พระรองในละคร แต่ละครที่เขาปรากฏตัวมักจะได้เรตติ้งสูงมาก ฉากไคลแมกซ์ใหญ่ในนั้นถึงขั้นทำสติผู้ชมในช่วงไพร์มไทม์ของดาวเทียมทีวีปักกิ่ง ช่วงเวลาฉายยังติดในอันดับการค้นหายอดฮิตตลอดไม่เคยลง มีบทละครและแบรนด์แอมบาสเดอร์เข้ามาไม่หยุดหย่อน

เยี่ยหวันหวั่นช่วยเขาหางานแบรนด์แอมบาสเดอร์ที่มีชื่อเสียงดีสองสามเจ้าให้  ไม่รับบทหนังกับบทละครชั่วคราวเพื่อรอข่าวจากฝั่งซ่งจินหลิน

ถึงตอนนี้ลั่วเฉินมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว เป็นโอกาสทองในการหารายได้ อยู่ว่างๆ ชั่วคราวจะเป็นการสิ้นเปลืองเวลา แต่เยี่ยหวันหวั่นเชื่อว่าบทละครของซ่งจินหลินคุ้มค่าแก่การรอคอย

เยี่ยหวันหวั่นกำลังยุ่งทำงาน ก็พลันมีเสียงกริ่งดังขึ้นที่ประตู

“เข้ามา”

“พี่เยี่ย…” เสิ่นม่านจูเปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้ากังวล

ทันทีที่เห็นเสิ่นม่านจู เยี่ยหวันหวั่นนึกถึงเรื่องคืนก่อนที่อีกฝ่ายเปลื้องผ้าบังคับหลับนอนกับเธอที่คอนโด มุมปากก็กระตุกเบาๆ หนึ่งที “แค่ก มีธุระอะไรเหรอ”

เสิ่นม่านจู่ทำท่าใกล้จะร้องไห้อย่างน่าสงสาร ก้มตัวลงมาสุดแรง “พี่เยี่ย ขอโทษเรื่่องที่ฉันหยาบคายเมื่อคืนนั้นด้วยนะคะ! ฉะ…ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายอย่างนั้น…ฉะ…ฉันแค่…”

เยี่ยหวันหวั่นถอนหายใจ “พูดมาซิ ว่าใครสอนเธอทำอย่างนี้”

ถ้าไม่มีคนมาพูดอะไรกับเธอ ท่าทีของเธอไม่มีทางเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมืออย่างกะทันหันในวันเดียวแน่นอน

เมื่อเผชิญกับคำถามของเยี่ยหวันหวั่น เสิ่นม่านจูขายกงซวี่อย่างไม่ลังเล “เป็นกงซวี่ค่ะ…เขาบอกฉันว่า..พี่เยี่ยชอบ…”

เยี่ยหวันหวั่นถามอีก “ชอบอะไร”

เสิ่นม่านจูตอบ “บอกว่าพี่เยี่ยชอบแบบเร้าใจ ยัง…ยังบอกด้วยว่ายิ่งเร้าใจยิ่งดี ยิ่งปล่อยเนื้อปล่อยตัวยิ่งดี ยิ่งรุกยิ่งดี…”

เยี่ยหวันหวั่นไร้ซึ่งคำพูด

ไอ้เจ้าเด็กบ้านั่น!

——————————————————————

บทที่ 810 เลียนแบบไม่ได้หรอก

เธอก็ว่าอยู่ ทำไมเสิ่นม่านจูอยู่ดีๆ ก็ใจเด็ดขึ้นมา ที่แท้เพราะเจ้านั่นวางแผนอยู่เบื้องหลัง

บานประตูห้องทำงานถูกผลักเปิดออกเสียงดัง

กงซวี่พุ่งเข้ามาอย่างร้อนรนปานลมกรด “มินนะซัง! โอฮาโย! ในที่สุดพี่เยี่ยก็กลับมา เมื่อวานจับพี่ไม่ได้ วันนี้ยอมให้ผมจับซะดีๆ เอาของฝากมาให้ผมหรือเปล่า! เร็วๆๆ เอาออกมา!”

เยี่ยหวันหวั่นหรี่ตามอง “ของฝาก? กำปั้นสักหมัด นายจะเอาไหม”

กงซวี่กะพริบตาปริบๆ “หา ทำไมจะต่อยผมล่ะ ตอนที่พี่ไม่อยู่ผมก็เป็นเด็กดีออก! แค่ก่อเรื่องห้า เอ้อไม่สิ สามครั้งเท่านั้นเอง…”

งั้นก็เยี่ยมไปเลย…

เยี่ยหวันหวั่นมุมปากกระตุก ก่อนจะเผยรอยยิ้มบางๆ ทันที เอ่ยปากเบาๆ ว่า “ได้ยินว่าฉันชอบรุกนิด เร้าใจหน่อย ยิ่งเร้าใจยิ่งดีเหรอ?”

อาการอวดดีของกงซวี่แข็งทื่ออยู่บนหน้าในฉับพลัน เวลานี้เขาพบว่าเสิ่นม่านจูก็อยู่ด้วย และรับรู้ว่าตัวเองถูกขายแล้ว จึงพลันกระสับกระส่าย ตกใจจนร้องโหยหวนขึ้นมา “พี่เยี่ย…ผม…ผมผิดไปแล้ว แงๆๆ…”

ในที่สุดเสิ่นม่านจูก็รู้ว่าตัวเองถูกกงซวี่แกล้งแล้ว เธอเริ่มไล่ทุบกงซวี่ “จริงๆ นะกงซวี่ นายถึงกับแกล้งฉัน ฉันถูกนายฆ่าตายแล้วนะ!”

“อ้ากกก…อย่าทุบหน้า!” กงซวี่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุน

“พอๆ เลิกโวยวายได้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพูดอย่างจนใจ

ทั้งสองจึงหยุดลงอย่างเหนื่อยหอบ

เวลาอย่างนี้กงซวี่ยังไม่ลืมสอดรู้ เขยิบเข้าใกล้เสิ่นม่านจูแล้วซักถามเรื่องก่อนหน้านี้ “เฮ้ เสิ่นม่านจู เธอลองแล้วจริงๆ เหรอ เธอทำอะไรไป”

เสิ่นม่านจูแทบอยากจากบีบคอเขาให้ตาย ถลึงตาใส่เขาพลางกระซิบเสียงลอดไรฟัน “ฉันแก้ผ้าต่อหน้าพี่เยี่ยแต่พี่เยี่ยไม่มีปฏิกิริยาสักนิด ฉันขายหน้าจะตายอยู่แล้ว เป็นเพราะนายนั่นแหละ!”

“ว้า…สุดยอดขนาดนั้นเชียว” กงซวี่ทำหน้าทึ่ง

ขนาดแก้ผ้าเปลือยแล้วก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร…จบแล้วๆ…

เดิมทีเขาอยากจะดึงพี่เยี่ยกลับมา…แต่นึกไม่ถึงว่าพี่เยี่ยจะเบี่ยงเบนจนเบนกว่านี้อีกไม่ได้แล้ว…

เสิ่นม่านจูไม่เชื่อคำพูดของกงซวี่อีก เธอนั่งลงหน้าโต๊ะทำงานของเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าพ่ายแพ้ “งั้น ตกลงพี่เยี่ยชอบแบบไหนเหรอคะ”

กงซวี่เดินมาตบๆ ไหล่เธอ “อย่าถามเลยน้องสาว ต่อให้เธอรู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เธอเลียนแบบไม่ได้หรอก…”

เสิ่นม่านจูโมโห “ไปนู่นไป นายไม่พูดแล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองเลียนแบบไม่ได้”

กงซวี่กวาดสายตามองเธอ “เพราะร่างกายเธอขาดส่วนประกอบไป…”

คนเขาเป็นผู้ชาย เธอจะเลียนแบบยังไง?

เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่กงซวี่ สื่อเป็นนัยให้เขาหยุดก่อนที่เรื่องจะเลยเถิด จากนั้นถึงหันมองเสิ่นม่านจู “ขอโทษทีนะ ม่านจู เธอก็รู้ว่าฉันมีแฟนผู้หญิงแล้ว”

เสิ่นม่านจูเอ่ยปากทันที “ฉันไม่ถือสาค่ะ!”

เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าจริงจัง “แต่ฉันถือ”

เสิ่นม่านจูพลันอึ้งงัน หน้าแดงก่ำ ในวงการทุกคนคั่วกันเองเป็นเรื่องปกติเสียยิ่งกว่าปกติ ด้วยเงื่อนไขของเธอ ไม่รู้มีคนตั้งเท่าไรที่ไล่ตามก้นเธอแต่เธอก็ดูแคลนหมด ทว่าตอนนี้ นึกไม่ถึงว่าคนที่เธอเสนอตัวให้ถึงที่กลับไม่เอาเธอ…

ไม่นึกว่าเยี่ยไป๋อยู่ในวงการนี้ ตำแหน่งนี้ แต่ยังสามารถคงความขาวสะอาดไว้ได้

ชิ น่าโมโหชะมัด ทำไมผู้ชายดีเลิศเลอแบบนี้ถึงไม่ให้เธอได้เจอก่อน…

“พี่เยี่ย”

เสียงของลั่วเฉินดังขึ้นมาจากนอกประตู

ข้างกายลั่วเฉินมีผู้ช่วยที่ดูลนลาน บนตัวยังสวมชุดเป็นทางการอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเสร็จงานมา แม้แต่เสื้อผ้าจึงยังไม่ได้เปลี่ยน

เยี่ยหวันหวั่นพูด “ลั่วเฉิน เสร็จงานแล้วเหรอ ฉันกำลังจะเรียกหานายพอดี…”

………………………………