แน่นอนทีเดียว ท่านประธานเซียวจะไม่เชิญเลขานุการทั้งแผนกมาที่ห้องทำงานเขาเพื่อดื่มกาแฟ โดยไม่มีเหตุผล! หากเขาต้องการซื้อกาแฟเลี้ยงพวกเธอ เขาก็สามารถส่งกาแฟไปให้พวกเธอที่แผนกเลขานุการได้ แต่นี่ดูเหมือนเป็น ‘งานเลี้ยงที่หงเหมิน’ ! [1] เขาต้องมีแผนการอะไรบางอย่างที่ร้ายกาจแน่!
หึ หึ! มีเพียงพวกเธอเหล่านี้ ผู้ไม่เคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของท่านประธานเซียวเท่านั้น ที่ถูกหลอกได้ง่ายดายด้วยภาพชายหนุ่มผู้ใจดี พวกเธอถึงจุดจบแล้วอย่างแน่นอน…
ความคิดแรกที่เข้ามาในใจเย่ว์เย่ว์คือรีบหนี แต่ก่อนที่เธอจะได้ไปถึงประตูเซียวจิ่งก็เรียกเธอไว้ เย่ว์เย่ว์หันกลับมามองเซียวจิ่งอย่างระแวดระวัง และให้กำลังใจตัวเองในใจ เธอรู้ดีว่าเธอทำงานหนักมากทุกวันนี้ และไม่เคยอู้งานเลย เธอไม่เคยร่วมซุบซิบนินทากับคนอื่น เธออุทิศตนเพื่องานจริงๆ ไม่มีเลขานุการคนไหนอุทิศตัวให้กับการทำงานมากไปกว่าเธออีกแล้ว จริงไหม!
เธอมองเซียวจิ่งอย่างขลาดกลัว “ท่านประธานเซียว มีอะไรให้ฉันทำอีกหรือคะ”
เซียวจิ่งหันกลับมาและชี้ไปที่เอกสารบางส่วนบนโต๊ะทำงาน พร้อมกับกล่าวด้วยหน้าตาบูดบึ้ง “เอกสารพวกนั้นผมตรวจสอบแล้ว นำกลับไปให้ผู้จัดการแผนกที่เกี่ยวข้อง”
เย่ว์เย่ว์รีบไปหยิบเอกสาร เลขานุการคนอื่นๆ ก็ลุกขึ้นยืน เตรียมพร้อมจะฉวยโอกาสที่เย่ว์เย่ว์ออกจากห้องเพื่อออกไปด้วย “ท่านประธานเซียวคะ พวกเราต้องไปแล้วล่ะค่ะ”
“ผมบอกให้ไปได้แล้วหรือ” เซียวจิ่งหันกลับมา ดวงตาเขาเปล่งประกายเยือกเย็น แมร์รี่ขมวดคิ้วพร้อมกับลุกขึ้นยืนถามว่า “ท่านประธานเซียว มีอะไรให้พวกเราทำอีกหรือคะ”
“มีอะไรให้ทำอีก อย่างนั้นหรือ” เซียวจิ่งคำราม แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มีสิ แน่นอน มีมากมายเต็มไปหมด!”
เขาลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะทำงาน มองไปที่กองเอกสารบนเก้าอี้ข้างโต๊ะ แล้วชี้ไปที่ลินดา “คุณมายกเอกสารกองนี้ไป”
ประกายความประหลาดใจไหวระริกอยู่ในดวงตาลินดา เธอยืนนิ่งเป็นใบ้อยู่กับที่ ไม่รู้ว่าต้องทำอะไร เซียวจิ่งเลิกคิ้วถามว่า “คุณเป็นคนยกเอกสารพวกนี้มาให้ผม…ใช่ไหม เป็นอะไรไปล่ะ ตอนนี้คุณยกไม่ไหวแล้วหรือ”
ลินดารีบวางถ้วยกาแฟ แล้วเดินไปยกกองเอกสารขนาดใหญ่ เซียวจิ่งกล่าวว่า “ยกไปวางไว้ที่พื้นข้างโซฟา”
แมร์รี่มองเซียวจิ่งและขมวดคิ้วถาม “ท่านประธานเซียว เกิดอะไรขึ้นคะ เอกสารพวกนี้มีอะไรไม่ถูกต้องหรือคะ”
“พวกนี้เป็นแค่เศษขยะ ทำไมถึงจะวางบนพื้นไม่ได้ แมร์รี่ คุณช่วยบอกผมได้ไหมว่าเราจะทิ้งขยะที่ไหน” เซียวจิ่งเดินล้วงกระเป๋า ชำเลืองมองไปที่กองแฟ้มบนพื้น และไปนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง
ทันใดนั้นหัวใจแมร์รี่ก็หล่นวูบ ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เซียวจิ่งก็กล่าวขึ้นอย่างเย้ยหยัน “ขยะควรถูกโยนลงถังขยะ และส่งไปลานทิ้งขยะเพื่อเผาทิ้ง! คุณคิดว่าห้องทำงานผมเป็นลานทิ้งขยะหรือไง เอากองขยะพวกนี้เข้ามาในห้องทำงานผมได้ยังไง คุณคิดจริงๆ หรือว่าผมตาบอดเกินกว่าจะเห็นข้อผิดพลาดในเอกสารพวกนี้”
เมื่อถึงตอนนี้เขาก็หยิบเอกสารสองฉบับขึ้นมา โยนลงตรงหน้าเซลินา “เซลินา หัวหน้าแผนกวิศวกรรมให้คุณเท่าไหร่ หรือว่าคุณสองคนเป็นสามีและภรรยากัน” เขาถามด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “คุณส่งข้อเสนอแบบนี้มาให้ผมได้ยังไง คุณคิดว่าผมตาบอดหรือ หรือว่าคุณตาบอดเกินกว่าจะเห็นข้อบกพร่องในเอกสารนี้”
เซลินาหน้าซีด ก้มศีรษะลงอย่างอับอาย ไม่กล้าพูดอะไรเลย เซียวจิ่งมองหน้าเซลินาแล้วเหน็บแนม “ฝ่ายการเงินซื้อขนมให้คุณกินหรือ คุณถึงได้มองข้ามปัญหาพวกนี้ คุณมองไม่เห็นช่องโหว่ขนาดใหญ่แบบนี้ได้ยังไง หรือที่คุณส่งรายงานนี้มาให้ผมเพราะคุณสบประมาทผม แล้วคุณยังจะมีเวลาดื่มกาแฟและซุบซิบนินทาอีกอย่างนั้นหรือ คุณทำงานของตัวเองเสร็จหรือยัง ถ้าคุณอ่านตัวเลขพวกนี้ไม่ออก ผมจะได้จ่ายค่าเล่าเรียนให้คุณกลับไปเรียนโรงเรียนประถม ให้คุณได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน!”
ใบหน้าเซลินาซีดเผือดอย่างน่ากลัว ขณะฟังคำพูดของเซียวจิ่งที่สื่อความหมายมากมายแมร์รี่ก็ขมวดคิ้ว “ท่านประธานเซียวคะ คุณอย่าใจร้ายกับพวกเราอย่างนี้เลยค่ะ เราไม่ได้…”
“หุบปาก!” เซียวจิ่งส่งสายตาดุดันไปที่เธอ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “ผมรู้ว่าคนเราทำผิดกันได้ แต่พวกคุณไม่ได้ตรวจสอบเอกสารเหล่านี้เลยก่อนจะส่งขึ้นมา คุณจัดการกับคนของคุณยังไง ถ้าคุณไม่มีความสามารถจริงๆ ผมนี่แหละมีความสามารถอนุมัติจดหมายลาออกของคุณได้ทุกเวลา!”
หัวใจแมร์รี่หายวาบ เธอมองเซียวจิ่งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง เธอเป็นพนักงานเก่าแก่ของบริษัทนี้ เธอทำงานในเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปมาตั้งแต่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และตอนนี้ผ่านมาสิบปีแล้ว เซียวจิ่งพูดแบบนี้กับเธอได้อย่างไร เซียวจิ่งมองหน้าแมร์รี่ แล้วเย้ยหยันอย่างเยือกเย็น “คุณคิดว่าคุณทำผิดไหม คุณควรเป็นตัวอย่างที่ดี! แล้วดูสิ ลูกน้องคุณทำอะไรกันบ้างวันๆ หนึ่ง! พูดคุย! ซุบซิบนินทา! ช่างนินทากันทุกคน! แม้แต่ระดับหัวหน้าในบริษัทก็ยังร่วมกลุ่มนินทา! ในเมื่อพวกคุณชอบนินทากันนักก็ไปเป็นปาปารัสซี่ดีกว่า อย่ามาแฝงอยู่ในบริษัทนี้เหมือนปลวกแฝงอยู่ในตู้เสื้อผ้าเลย!”
เซียวจิ่งร่ายยาวโดยไม่หยุดพัก จากนั้นก็หยิบเอกสารขึ้นมาโยนให้ลินดา “ดื่มกาแฟงั้นหรือ คุณยังมีหน้าและมีสมองที่คิดจะดื่มกาแฟอีกหรือ คุณแน่ใจหรือว่ารายงานการสำรวจตลาดนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดเป็นคนเขียน แม้แต่นักเรียนประถมยังเขียนรายงานได้ดีกว่านี้เลย! หรือคุณเองก็ยังไม่จบชั้นประถม”
ลินดาคอหด เซียวจิ่งพ่นเสียงคำรามออกทางจมูกอย่างเยือกเย็น และโยนเอกสารทั้งหมดไปที่เลขานุการคนอื่นๆ “เสี่ยวซิง แคเธอริน เหวินเหมย คุณเป็นสายลับที่บริษัทอื่นส่งมาหรือเปล่า พวกเขาจ่ายค่าจ้างพวกคุณเท่าไรที่ให้มาทำงานแบบนี้ พวกเขาต้องกล้ามากขนาดไหนถึงจ้างพวกคุณมาทำแบบนี้ได้ พวกคุณคิดจริงๆ หรือว่าเลขานุการมีหน้าที่เสิร์ฟกับรินน้ำชาเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นทำไมผมต้องจ้างเลขานุการ ผมจ้างพนักงานเสิร์ฟมืออาชีพมาไม่ดีกว่าหรือ!”
บรรดาเลขานุการมองเซียวจิ่งราวกับสัตว์บาดเจ็บ เมื่อเห็นท่าทางรู้สึกผิดของพวกเธอเซียวจิ่งก็คำรามออกมา “รู้สึกผิดหรือ หรือว่าโกรธ อยากลาออกเดี๋ยวนี้เลยไหม ดี… ถ้าพวกคุณกล้ายื่นจดหมายลาออกบนโต๊ะผม ผมก็กล้าอนุมัติ…” ด้วยสายตาเย็นยะเยือกมองไปที่ถ้วยกาแฟที่พวกเธอถือไว้ในมือ “ผมอ่านเอกสารที่พวกคุณส่งมาทั้งสามวัน เสร็จในเวลาแค่ยี่สิบนาที และผมพบปัญหาทั้งหมดในนั้น บอกผมสิ ผมยังต้องจ้างพวกคุณมาเพื่ออะไร”
เลขานุการส่วนใหญ่มักขึ้นแท่นโดยได้รับการยกย่องจากพนักงานแผนกอื่นๆ ในบริษัท กลายเป็นความภาคภูมิใจและทะนงตน หลังจากถูกเซียวจิ่งดุด่าพวกเธอก็รู้สึกถึงความผิดและโกรธเขามาก บางทีเขาอาจไม่ได้อ่านเอกสารมากมายหรอก…
แต่พวกเธอไม่กล้าพูดอะไร!
เมื่อเห็นว่าพวกเธอยังคงนิ่งเงียบ เซียวจิ่งก็ถามแมร์รี่ด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “คุณตรวจสอบเอกสารก่อนส่งมาให้ผมหรือเปล่า”
“ไม่ได้ตรวจสอบค่ะ” แมร์รี่กล่าว “งานของดิฉันวันนี้ค่อนข้างเยอะ ดิฉันจึงไม่ได้ตรวจสอบเอกสาร”
“ตอบแค่ว่าคุณไม่ได้ตรวจสอบก็พอ ไม่ต้องหาข้อแก้ตัวมากมาย งานคุณหนักกว่างานผมด้วยหรือ”
แมร์รี่พูดไม่ออก เซียวจิ่งชี้ไปที่กองแฟ้มเอกสารบนพื้นและมองไปที่เลขานุการคนอื่นๆ “ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่า พวกคุณได้ตรวจสอบเอกสารพวกนี้ด้วยตัวเอง”
ไม่มีเลขานุการคนไหนกล้าพูด เซียวจิ่งเย้ยหยัน “เอาเอกสารพวกนี้ไปทิ้งลงถังขยะให้หมด และหากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกผมจะไม่ดุด่าพวกคุณ แต่พวกคุณทุกคนจะถูกไล่ออก! แม้ว่าพวกคุณจะไม่สน แต่ก็ควรคิดให้ดี ถ้าคุณถูกไล่ออกเพราะประสิทธิภาพการทำงานต่ำ คุณคิดว่าบริษัทต่อไปของคุณเขาจะปฏิบัติต่อคุณเป็นอย่างดีงั้นหรือ”
——
[1] งานเลี้ยงที่หงเหมิน เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ 206 ปีก่อนคริสตกาล ในสงครามภายหลังสิ้นสุดราชวงศ์ฉิน เป็นการวางแผนจัดงานเลี้ยงฉลองเพื่อลวงฝ่ายตรงกันข้ามมาลอบสังหาร