ตอนที่ 526

The Divine Nine Dragon Cauldron

จางตี๋เก้อนั้นป้องกันตัวอย่างมากต่อซือหยูแต่ก็ไม่คิดว่าจะมีกระบี่เล่มที่สาม! ซือหยูมีสมบัติกึ่งวิญญาณอยู่กับตัวถึงสามชิ้น!

 

จางตี๋เก้อหัวใจหยุดเต้น! แต่นางก็เป็นคนระดับภูติ ความคล่องตัวของนางนั้นน่าตกใจ!

 

นางคว้าหน้าภูติด้วยมือทั้งสองขณะที่อยู่กลางอากาศ หน้าภูติที่ควรจะป้องกันจากกระบี่สองเล่มกลับไปปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของนาง

 

ซือหยูรู้ว่าสถานการณ์กำลังแย่! กระบี่นั้นควรจะได้ฆ่านางด้วยความเร็วสูง นั่นจะสร้างความเสียหายกับนางได้มาก

 

แต่ในท้ายสุดมันก็ถูกหน้าภูติสะท้อนกลับไปเมื่อปะทะ ซือหยูใจหาย แต่เขาก็รีบคุมกระบี่อีกสองเล่มที่เหลือ

 

เมื่อไร้สิ่งกีดขวาง กระบี่ทั้งสองพุ่งเข้าใส่จางตี๋เก้อ แต่…มันก็ไกลเกินไป

 

จางตี๋เก้อปล่อยพลังวิญญาณทางดวงตา นางคว้าความว่างเปล่าตรงหน้าและขยับตัวหลบ กระบี่ทองหนึ่งเล่มตกไปอยู่ในมือของนาง ส่วนอีกเล่มที่เล็งไปยังหัวใจนั้นแฉลบผ่านนางไป นางเบี่ยงตัวหลบทันเวลาพอดี ทิ้งไว้เพียงรอยแดงบางๆ

 

ด้วยการคำนวนหลายชั้นของซือหยู กึ่งภูติที่มีแก้วพลังชีวิตสามดวงคงจะพ่ายแพ้ไปแล้ว แต่จางตี๋เก้อนั้นผ่านการต่อสู้มามากมาย นางหลบกระบี่ของเขาได้ทุกครั้ง

 

คว้าง–

 

กระบี่ทองในมือจางตี๋เก้อปล่อยพลังมิติหลุดจากมือนางไป สีหน้านางเยือกเย็น แม้ว่านางจะหลบการโจมตีได้หลายครั้ง นี่ก็เป็นสิ่งที่นางเสียเปรียบ

 

จางตี๋เก้อแทบจำไม่ได้ว่าเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ และสถานการณ์นี้เกิดจากการต่อสู้กับคนที่มีฐานพลังสูงกว่านาง

 

แต่ไม่ใช่ในครั้งนี้…ที่คนที่เป็นแค่ราชามนุษย์กลับเหนือกว่านาง!

 

แม้ว่าฐานพลังจะถูกจำกัด เด็กหนุ่มตรงหน้าก็มีพลังการต่อสู้ที่น่าตกใจ สมบัติกึ่งวิญญาณสามชิ้นสร้างปัญหาให้นางอย่างมาก

 

“เจ้าจบรึยัง? ถ้าอย่างนั้นก็เป็นทีข้าบ้าง!”

 

จางตี๋เก้อถอนหายใจแรง พลังไร้ลักษณ์โอบล้อมสิ่งรอบข้าง

 

พลังนั้นปะทะกับทุกสิ่งราวกับคลื่นยักษ์ ฝุ่นควันฟุ้งทั่วนภา ทั้งผืนป่าสั่นสะเทือน เหล่าแมกไม้หักโค่น เซี่ยจิงหยูถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อต้องเจอกับพลังเช่นนี้

 

เทียบกับเมื่อครั้งในก้นบึ้งมังกรเก้านรก พลังของจางตี๋เก้อนั้นถูกกดเอาไว้อย่างเห็นได้ชัด แต่พลังนี้ใกล้เคียงกับขอบเขตภูติอย่างไม่น่าเชื่อ นี่ไม่ใช่สิ่งที่กึ่งภูติจะสร้างได้

 

เส้นผมจางตี๋เก้อร่ายรำไปตามสายลม ดวงตาเปล่งแสงทมิฬ พลังภูติปกคลุมกาย ร่างภูติผีลางๆปรากฏให้เห็นบ้าง

 

ในตอนนั้น ลำแสงทมิฬพุ่งออกจากตาซ้ายของจางตี๋เก้อ! ซือหยูรู้สึกถึงความกลัวอย่างลึกล้ำอยู่ภายใน เขาเบี่ยงตัวหลบไปสิบศอกที่ด้านข้าง ลำแสงทมิฬทะลวงผ่านพลาดซือหยูไปเพียงนิดเดียว

 

ครืน—

 

โลกาสั่นสะเทือน เขาก้มลงมองและเห็นพื้นที่ป่ากว้างใหญ่ที่ยุบลงไปจากลำแสงทมิฬ! หลุมไร้ก้นแผ่ขยายไปห้าลี้ การโจมตีนี้เจาะทะลวงลงผืนดินไป!

 

ซือหยูขนลุกซู่ ถ้าเขาถูกกระบวนท่านั้นเข้า เขาก็คงจะตายไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลย!

 

พลังนี้ไม่ได้อ่อนด้อยไปกว่าลู่จือยี่ที่ใช้ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์! แต่เมื่อซือหยูได้ทันหายใจ เขาก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาเรียกเกราะราชาศิลานิรันดร์ออกมาโดยไม่ลังเล

 

ต่อมาก็มีลำแสงทมิฬพุ่งขึ้นมาจากหลุมไร้ก้นในทันทีที่ซือหยูเรียกเกราะ นั่นคือลำแสงที่จางตี๋เก้อยิงออกมาตั้งแต่แรก!

 

ซือหยูใจสั่น การโจมตีนี้พลาดเขาไปเพียงเล็กน้อยอีกครั้ง! ดูเหมือนว่าเขาจะรอดวิกฤติมาได้ แต่ในครั้งนี้ ลำแสงที่เห็นได้ชัดว่าพลาดซือหยูกลับหันทิศกลับมา! มันเล็งไปที่ซือหยูโดยตรง!

 

ซือหยูไม่ทันระวัง เขาเฉี่ยวเข้ากับลำแสงทมิฬ แรงกดดันมหาศาลปะทะเข้ากับร่าง!

 

ตู้ม–

 

ซือหยูถอยไปหลายก้าว เกราะที่สวมเกิดประกายไฟ รอยบิ่นเล็กๆถูกฝากเอาไว้กับชุดเกราะ!

 

เกราะราชาศิลานิรันดร์เป็นเกราะที่มีพลังป้องกันมหาศาล มันไม่เคยเกิดรอยบิ่นมาก่อนเลย! เป็นเพราะเกราะนี้ซือหยูถึงยังปลอดภัย

 

“ฮื่ม เกราะเจ้าจะทนไปได้ซักกี่น้ำ!”

 

จางตี๋เก้อปล่อยลำแสงทมิฬเข้าใส่ซือหยูอีกครั้ง

 

ซือหยูหลบได้อีกครั้ง เวลาครึ่งถ้วยชาผ่านไป พลังภูติในลำแสงค่อยๆอ่อนลง มันค่อยๆจางลงหลังจากที่พลาดเป้ามากครั้งขึ้น

 

“เจ้าไม่ได้มีสมบัติที่ใช้ป้องกันเหลืออยู่อีกรึ ลำดับห้าธาตุนั่น! ทำไมไม่เอาออกมาเล่า?”

 

จางตี๋เก้อสงสัย

 

ที่นางจำได้ ซือหยูมีลูกแก้วสีคราม และพลังป้องกันของมันก็ไม่ด้อยไปกว่าเกราะราชาศิลานิรันดร์

 

แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ไม่ได้ใช้มัน นางคิดว่ามีบางสิ่งที่แปลกไป

 

“เจ้าอยากรู้สินะ?”

 

ซือหยูยิ้มเบาๆ

 

จางตี๋เก้อรู้สึกไม่สบายใจ

 

ในตอนนั้น เซี่ยจิงหยูที่ซ่อนตัวอยู่มองการต่อสู้จากระยะไกล นางตะโกนขึ้นมา

 

“เอาล่ะพี่หยู ข้าออกมาห่างสิบลี้แล้ว!”

 

เซี่ยจิงหยูนั้นแอบถอยไปสิบลี้ นางเป็นแค่จุดเล็กๆบนขอบนภา

 

ซือหยูพยักหน้า

 

“หึ ได้เริ่มเสียที!”

 

จางตี๋เก้อพุ่งไปหาเซี่ยจิงหยู นางต้องการเพียงแค่อึดใจเดียวในการไปถึงระยะสิบลี้

 

ในพริบตา นางไปถึงหน้าเซี่ยจิงหยู

 

“ข้าจะจับเจ้าก่อน!”

 

ไม่ว่าจะอย่างไร เซี่ยจิงหยูก็ถอยไปแล้ว นั่นหมายความว่าซือหยูคิดถึงความปลอดภัยของนางเหนือทุกสิ่ง

 

แต่ในตอนนั้นก็มีเสียงระเบิดดังก้องขึ้น ร่างของจางตี๋เก้อได้สัมผัสเข้ากับคลื่นอันอ่อนโยนของวารี นางที่พุ่งเข้าไปถูกสะท้อนกลับมา! พลังสะท้อนนั้นทำให้โลหิตของนางขึ้นมาจุกที่ลำคอ

 

“แย่แล้ว! ข้าถูกลอบโจมตี!!”

 

จางตี๋เก้อรู้ตัวทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น นางเงยหน้าและพบลำแสงสีครามที่แบ่งแยกตัวนางกับเซี่ยจิงหยู นางไปกระแทกกับลำแสงนั้น

 

“ลำดับห้าธาตุรึ?”

 

จางตี๋เก้อตกใจ

 

นางชักสีหน้าและบินไปยังอีกทิศทาง แต่ในตอนนั้นลำแสงสีครามก็ขยายออกไปกลายเป็นม่านแสงแผ่ถึงสวรรค์

 

ระฆังเตือนในใจจางตี๋เก้อดังไม่หยุด นางพยายามจะหาทางหนีจากลำดับ แต่ม่านแสงนั้นก็มีหลายสีปรากฏในระยะสิบลี้ ม่านลำแสงทั้งห้ารวมตัวเป็นหนึ่งปกคลุมทุกที่ในระยะสิบลี้!

 

“ลำดับห้าธาตุเมฆาแห้งเหือดแบบครบชุดเรอะ!”

 

จางตี๋เก้อสีหน้าเคร่งเครียด แค่ลูกแก้วลำดับลูกเดียวนั้นทำอะไรนางไม่ได้ แม้จะมีห้าลูกก็ทำอะไรนางไม่ได้

 

แต่ถ้าหากลำดับทั้งห้ารวมกันเป็นลำดับเดียว พลังของมันจะเทียบไม่ได้กับม่านแสงห้าสีที่ทับซ้อนกัน พลังของมันจะทวีขึ้นไปหลายเท่า!

 

นางพยายามบินขึ้นสูงแต่ม่านลำแสงก็กักขังนางไว้ภายในส่วนบน

 

จากนั้นนางก็ซัดฝ่ามือไปยังพื้นดิน แต่นางก็ต้องหมดท่าเมื่อพบว่าที่พื้นก็มีม่านแสงปกคลุมอยู่เช่นกัน นางอยู่ในลำดับที่ปิดสนิท….