ฝากติดตามเพจด้วยนะครับ แฟนเพจ แจ้งเตือนก่อนใคร กดเลย

https://www.facebook.com/AncientStrengtheningTechnique

บทที่ 1517 – ฉินชิง

 

ชายชราตระกูลฮั่วตกอยู่ในความเศร้าหมอง เขานั้นดูไม่มีความสุข เขาไม่กล้าที่จะมีปัญหากับชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยเข้าใจคนเหล่านี้ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาอยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ คนเหล่านี้เอาแต่ว่างท่าและใช้วิธีการต่างๆข่มขู่ผู้ที่อ่อนแอกว่า

 

สำหรับตระกูลฮั่ว ชิงสุ่ยไม่จำเป็นต้องสุภาพ ตระกูลฮั่วยังไม่รู้ตัวว่าพวกเขาถูกทอดทิ้ง ชิงสุ่ยรู้ว่าพวกเขาเกลียดเขา

 

เวลาผ่านไปแล้ว 2 วัน ชิงสุ่ยไม่ได้ออกไปข้างนอก ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ถ้าหากต้องการรักษา เพียงแค่เดินทางมาที่หอคอยจักรพรรดิ ชิงสุ่ยจะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือเองหากพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาหรือเขารู้สึกชอบ

 

โดยปกติแล้ว ฉินชิงจะฝึกฝนอยู่ที่ลานด้านหลัง เมื่อเร็วๆนี้เธอเพิ่งจะได้รับมรดกแห่งเทพสงครามและต้องใช้เวลาในการปรับตัว แม้ว่าผู้สืบทอดจะคุ้นเคยกับเคล็ดวิชา พวกเขาก็ยังต้องการเวลาเพื่อฝึกฝนให้ชำนาญ

 

ระหว่างทางกลับมา ฉินชิงได้ใช้เวลาทำความคุ้นเคยไปไม่น้อย ฉินชิงจะฝึกฝนตอนกลางคืนและพักผ่อนช่วงกลางวันขณะอยู่บนหลังของวิหคเพลิงนรกานต์

 

ชิงสุ่ยไม่เคยเห็นมังกรมรกตของเธอ แต่ชิงสุ่ยรู้แน่ชัดว่าเธอมีมัน ถ้าเธอเรียกมังกรมรกตออกมา พลังอันรุนแรงก็คงจะส่งผลไปถึงผู้อื่นมากพอตัว

 

มังกรมรกต มังกรทองคำ และมังกรหยกเป็นหนึ่งในบรรดาสายพันธุ์มังกรที่มีน้อยและหายากที่สุด ความแข็งแกร่งของพวกมันอยู่ในอันดับต้นๆเมื่อเทียบกับมังกรตัวอื่นๆ

 

เมื่อเดินไปที่ลานด้านหลัง ชิงสุ่ยพบว่าฉินชิงกำลังเหยียดแขนร่ายรำท่วงท่า เรือนร่างที่สง่างามของเธอไม่เกินไปหากใช้คำว่างดงาม ส่วนโค้งเว้าของเธออยู่ในระดับที่เหมาะสม

 

ฉินชิงหันหน้ามาทางชิงสุ่ยขณะที่ร่างกายของเธอกำลังโน้มตัวไปข้างหน้า จากมุมนั้นสามารถมองเห็นเรือนร่างอันประณีตของเธอได้

 

ขาของเธอเหยียดตรงและเรียวยาว ชิงสุ่ยกำลังใช้เวลาไปกับการชื่นชมร่างกายของเธอจนกระทั่งเขาเริ่มรู้สึกตัวว่าเธอมองมาทางเขา

 

ชิงสุ่ยถูจมูกด้วยความเขินอาย การกระทำของเขาถูกจับได้ เขาทำได้เพียงยิ้มและทำตัวเฉยๆ

 

“เจ้ากำลังทำอะไร?” ชิงสุ่ยกล่าวขณะที่เขายิ้ม

 

อันที่จริงแล้วชิงสุ่ยรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่าง เนื่องจากฉินชิงเป็นหญิงที่งดงาม ซีฉีชาไม่ได้ด้อยกว่าเธอ แต่ชิงสุ่ยไม่ได้คิดอะไร เขานั้นมีความรู้สึกบางอย่างกับฉินชิง

 

จนถึงตอนนี้ ชิงสุ่ยมีผู้หญิงมากมาย เขารักพวกเธอทั้งหมดด้วยหัวใจของเขา ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจ้าชู้และชิงสุ่ยไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับเรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากก็คือ แม้ว่าเขาจะเจ้าชู้เหมือนคนอื่น เขาก็ยังดูแลพวกเธอทั้งหมดเป็นอย่างดี

 

จากภาพโฉมงามทั้ง 12  ภาพ ชิงสุ่ยได้มาแล้ว 11 ภาพและพบคำถามเกี่ยวกับความงามเหล่านี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ชิงสุ่ยรู้สึกราวกับว่ามันได้ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า ชิงสุ่ยรู้สึกว่าเขามักจะได้รับโอกาส

 

“ข้ากำลังฝึกฝนเคล็ดวิชาบางอย่าง” ฉินชิงหัวเราะ

 

ชิงสุ่ยนึกถึงรูปแบบนกหงษ์เพลิง ฉินชิงเป็นผู้สืบทอดหงษ์เพลิงเทพสงคราม เขากล่าวหลังจากที่คิดครู่หนึ่ง “ข้าอาจมีเคล็ดวิชาบางอย่างที่เหมาะกับเจ้า เจ้าอยากเรียนรู้หรือไม่?”

 

“แน่นอน!” ฉินชิงเห็นด้วยอย่างตรงไปตรงมา เธอรู้ว่าชิงสุ่ยต้องการพูดอ้อมๆ

 

ชิงสุ่ยแสดงกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตและหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจมให้ชม สิ่งที่ทำให้ชิงสุ่ยประหลาดใจคือฉินชิงชอบหงส์เพลิงร่ำร้องจู่โจมเป็นอย่างมาก

 

ชิงสุ่ยทำให้ดูเพียงครั้งเดียวและกล่าวถึงแก่นแท้ของมัน ชิงสุ่ยเคยสอนกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตให้คนอื่นมาก่อน แต่มันก็ไม่ค่อยเป็นผลดี เคล็ดวิชาดังกล่าวเหมาะสมสำหรับกลุ่มคนพิเศษ

 

ชิงสุ่ยรู้สึกมั่นใจว่าฉินชิงจะสามารถใช้กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตได้ แต่หลังจากสอนเธอ เขาพบว่าผลลัพธ์ยังไม่ดีเท่าที่ควร สาเหตุหลักคือการไหลเวียนพลังภายในเส้นลมปราณอย่างไม่ถูกต้องนัก เส้นลมปราณภายในร่างกายของมนุษย์มีมากมายและมันค่อนข้างซับซ้อนที่จะบอกให้ถูก

 

“ขอข้าตรวจสอบเส้นลมปราณเจ้าได้หรือไม่?” ชิงสุ่ยกล่าวหลังจากคิด

 

ฉินชิงครุ่นคิดและพยักหน้าตอบตกลง เธอชื่นชอบเคล็ดวิชาทั้งสอง “เจ้าจะตรวจดูเส้นลมปราณของข้าได้อย่างไร?”

 

“”ยื่นแขนทั้งสองข้างของเจ้าออกมา” ชิงสุ่ยกล่าว

 

ฉินชิงลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเธอเห็นดวงตาที่ชัดเจนของชิงสุ่ย หัวใจของเธอก็สั่นไหว เธอยื่นแขนออกไปอย่างไม่รู้ตัว

 

แขนที่ขาวราวกับหิมะปรากฏเบื้องหน้าชิงสุ่ย ชิงสุ่ยจับมันเอาไว้ มือของเธอเพรียวบางและเย็นเล็กน้อยเมื่อสัมผัส ณ ตอนนี้ ชิงสุ่ยรู้ว่าหัวใจเต้นระรัว แต่เขาก็พบว่าฉินชิงรู้สึกอึดอัดเช่นกัน

 

“เจ้ากังวลงั้นหรือ” ชิงสุ่ยยิ้มและถาม

 

ฉินชิงจ้องมองชิงสุ่ย “ไม่!”

 

แต่ชิงสุ่ยสามารถมองเห็นรอยแก้มที่แดงเล็กน้อยบนใบหน้าของเธอ เขารู้สึกตื่นตระหนกนิดหน่อย เขาไม่ได้คาดคิดว่าหญิงสาวที่งดงามราวเทพธิดาจะมีเสน่ห์มากเช่นนี้

 

“เจ้าเกิดมาด้วยร่างกายที่มีเสน่ห์ หากเจ้าควบคุมมันให้ดี มันจะแสดงเสน่ห์ที่แท้จริงออกมา…?” ชิงสุ่ยเสียใจทันทีที่กล่าวมันออกมา

 

ฉินชิงหุบแขนกลับมาและเขกลงไปบนหัวของชิงสุ่ย “หากเจ้ายังพูดจาไร้สาระอีก ข้าจะทุบตีเจ้า”

 

“เจ้าไม่ได้ทุบตีข้าแล้วงั้นหรือ?!”

 

“อืมม หยุดพูดลอยซะ! เจ้ายังต้องการตรวจดูเส้นลมปราณของข้าหรือไม่?” ฉินชิงรู้สึกอายและโกรธในเวลาเดียวกัน แต่เธอไม่รู้สึกขยะแขยงใดๆต่อชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยส่งการรับรู้ทางจิตวิญญาณและพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในเส้นลมปราณของเธอ เขากล่าวอย่างช้าๆ “ข้ารู้สึกถึงการไหลเวียนของพลังงาน”

 

พลังศักดิ์สิทธิ์ของชิงสุ่ยไหลเวียนเข้าสู่เส้นลมปราณของเธอลึกลงไป เส้นลมปราณหลายแห่งที่ไม่ได้ถูกเปิดใช้ทั้งหมดได้รับการเปิดเส้นลมปราณแล้ว

 

ฉินชิงรู้สึกประหลาดใจ เพราะเธอสัมผัสได้ว่าเส้นลมปราณเหล่านั้นได้รับการชำระล้าง การไหลเวียนพลังของเธอเป็นไปอย่างราบรื่นกว่าแต่ก่อน ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งจะไม่ได้เพิ่มขึ้น

 

โชคดีที่เส้นลมปราณหลักของฉินชิงได้เชื่อมต่อกันอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดเส้นลมปราณอื่นๆก็ได้เปิดการไหลเวียนพลัง

 

“พี่หยิน ท่านดูพวกเขาสองคนจับมือกันสิ นี่มันก็ผ่านมาครึ่งวันแล้ว” เหลียนหลิงเฟิงยิ้ม เขาจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยและฉินชิง

 

“เจ้านี่มันช่างเพ้อฝัน แต่น้องชายชิงสุ่ยนั้นนับว่าโชคดีนัก โอ๊ย!”

 

ใบหน้าของหยินต่งกระตุก เขาเห็นหลินเฟ่ยยืนอยู่ข้างๆเขาขณะที่มือข้างหนึ่งของเธอจับอยู่บนต้นขาของเขา หยินต่งยิ้มอย่างกระอักกระอ่วน เขาหันศีรษะและพบว่าเหลียนหลิงเฟิงได้หายไปแล้วอย่างไร้ร่องรอย

 

หลินเฟ่ยจ้องมองไปที่ชิงสุ่ยและฉินชิงเช่นกัน หลังจากนั้นไม่นานเธอก็กลับมาให้ความสนใจกับหยินต่ง “เจ้าอิจฉาพวกเขาหรือ?”

 

“เจ้าก็รู้จักข้าไม่ใช่หรือ? ในหัวใจของข้าไม่มีใครจะงดงามไปกว่าเจ้า” ขณะกล่าว มือข้างหนึ่งของเขาก็ห่อหุ้มไปที่รอบเอวของเธอและดึงเข้ามาใกล้ๆ

 

ดวงตาของหลินเฟ่ยเป็นประกาย มือทั้งสองของเธอโอบรัดไปที่รอบเอวของหยินต่ง เธอยิ้มและกล่าว “กลับไปที่ห้องของพวกเรากันเถอะ!”

 

“เจ้ามันเป็นปีศาจตัวน้อย!” หยินต่งอุ้มเธอด้วยมือทั้งสองและหายวับไปทันที

 

……

 

ชิงสุ่ยกระพริบตา แต่เขายังไม่ยอมปล่อยมือเธอ “เจ้ารู้สึกอย่างไร?”

 

“ข้ารู้สึกดี เจ้าปล่อยมือข้าได้แล้ว” ฉินชิงตอบ

 

“แต่ข้ารู้สึกดีจริงๆที่ได้จับมือเจ้าเช่นนี้” ชิงสุ่ยกล่าวไปตามอารมณ์และผ่อนคลาย

 

ดวงตาของฉินชิงกระพริบไปมาขณะที่หัวใจของเธอเต้นรัว คำพูดของชิงสุ่ยทำให้เธอรู้สึกแปลกๆ มือของเธอถูกเขาจับไว้และเธอหมดหนทางที่จะทำอะไร

 

อย่างไรก็ตามในโลกนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเปิดเผย

 

โลกใบนี้แตกต่างจากช่วงชีวิตก่อนหน้า ตัวอย่างเช่นการที่ผู้ชายมีภรรยาหลายคน

 

หัวใจของฉินชิงสั่นไหวเพราะชิงสุ่ยกล่าวว่าเขารู้สึกดีที่ได้จับมือของเธอ

 

หลังจากนั้นครู่หนึ่งชิงสุ่ยก็ปล่อยมือ

 

“ข้าจดจำเคล็ดวิชาที่เจ้าสอนได้ ข้าจะลองทดสอบดู?” ฉินชิงยิ้มให้ชิงสุ่ย เธอรู้สึกมีความสุขอยู่บ้าง แต่เธอไม่เข้าใจว่าทำไม

 

ชิงสุ่ยยิ้มขณะที่เขาพยักหน้า

 

การเคลื่อนไหวของฉินชิงเป็นไปอย่างเชื่องช้า แต่ทุกการกระทำล้วนเน้นอย่างตั้งใจ ถึงแม้เธอจะหวั่นไหว แต่เธอก็เป็นผู้หญิงที่จริงจัง เธอค่อยๆเริ่มคุ้นเคยกับการไหลเวียนพลังภายในร่างกาย

 

หลังจากนั้น เพียงชั่ววูบหนึ่งภาพเงาของชิงสุ่ยก็ปรากฏต่อหน้าเธอ เขาเหยียดนิ้วออกไปและต้องการแตะที่หน้าผากของฉินชิง

 

ฉินชิงรู้ว่าชิงสุ่ยกำลังฝึกฝนเธอ นี่เป็นวิธีที่ดีกว่าการฝึกคนเดียว ทั้งสองคนไม่ได้ใช้พลังมากนัก พวกเขาเพียงใช้เคล็ดวิชาและตอบโต้กันด้วยความเร็ว

 

การใช้ทักษะย่างก้าว 9 เทวานอกเหนือจากกรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตทำให้เขาได้เปรียบฉินชิง เธอเพิ่งจะได้เรียนรู้เคล็ดวิชาและถึงแม้จะได้รับมรดกแห่งเทพสงคราม แต่ความชำนาญในการใช้กรงเล็บหงษ์เพลิงพิฆาตของเธอก็ยังด้อยกว่าชิงสุ่ย

 

ชิงสุ่ยจิ้มนิ้วเข้าใส่อีกครั้ง แต่คราวนี้มันผิดจังหวะและเขาเร่งรีบเกินไป มันพุ่งไปผิดตำแหน่ง นิ้วของเขาเล็งตรงไปที่อกของฉินชิง…

 

สิ่งที่ร้ายกาจที่สุดคือนิ้วของเขามุ่งเข้าสู่หัวนมของเธอโดยตรง แม้ว่าชิงสุ่ยจะไม่ได้ใช้แรงมากนัก แต่มันก็ยังสัมผัสถึงความรู้สึกนั้นได้ ความรู้สึกอ่อนนุ่มแผ่ซ่านจากปลายนิ้วเข้าสู่สมองของเขา

 

“คนชั่วช้า…!”

 

ร่างกายของฉินชิงแน่นตึงเล็กน้อยหลังจากถูกเขากดนิ้วใส่ สิ่งที่ทำให้เธอสับสนมากยิ่งขึ้นคือมันสั่นสะเทือนไปถึงหัวใจ คนชั่วช้าทำมันโดยตั้งใจ

 

 

เธอจ้องมองที่ชิงสุ่ยและเหลือบตามองก่อนออกไป ชิงสุ่ยยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิมของเขาอย่างตะลึงงัน เขาสาบานว่ามันไม่ได้ทำลงไปอย่างตั้งใจ

 

แต่สำหรับบางอย่าง ด้วยสิ่งที่เกิดขึ้น มันไม่สำคัญว่าจะเจตนาหรือไม่ เขาต้องมีความกล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับข้อผิดพลาดและไม่พยายามหาข้อแก้ตัวใดๆ โดยเฉพาะกับสิ่งต่างๆเช่นนี้

 

ชิงสุ่ยส่ายหัวและตามเธอไป ไม่ช้าเขาก็มาถึงห้องของฉินชิง หลังจากลังเลอยู่นาน เขายกมือขึ้นและเคาะประตูของเธอ

 

“ใคร?” ผ่านไปสักพัก เสียงของฉินชิงก็ดังออกมา

 

“ข้าเอง เปิดประตูเถอะ!” ชิงสุ่ยรีบกล่าว

 

ฉินชิงเดินมาที่ประตู “ถ้ามันไม่มีอะไรสำคัญก็เอาไว้ค่อยคุยกันพรุ่งนี้ ข้าเหนื่อยมากแล้ว”

 

ชิงสุ่ยรู้ว่านี่เป็นข้ออ้าง “อืมม ข้ามาที่นี่เพื่อดูว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บหรือไม่ เพราะข้ามีฝีมือในด้านการแพทย์”

 

“ไปลงนรกซะ…”

 

“ข้าจะรับผิดชอบได้อย่างไร? อย่าโกรธข้าเลย” ชิงสุ่ยยิ้มด้วยความหมดหนทาง

 

“ฝันไปเถอะ  รีบๆกลับไปซะหรือจะให้ข้าทุบตีเจ้า” ฉินชิงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เธอรู้ว่าชิงสุ่ยไม่ได้เจตนา แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เธอแค่รู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย