แดนนิรมิตเทพ บทที่ 597
สถานการณ์เปลี่ยนไป คนผู้นั้นสีหน้าจริงจัง “แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ที่เขาก่อมันร้ายแรงจริงๆ หากว่าไม่มีวิธีการมาอธิบายกับพวกหลี่ตงหยาง พวกเขาไม่มีทางหยุดง่ายๆแน่”

เจียงเหอซานเองก็จริงจังขึ้นมา ถามว่า “ความหมายของท่านคือ?”

คนผู้นั้นมองเจียงเหอซาน แววตาลึกซึ้ง “อัจฉริยะเช่นนี้ หากไม่ได้ใช้งานเพื่อประเทศ มันก็น่าเสียดายไม่ใช่หรอ? หากว่าทำได้ดี เขาก็คือหยางติ่งเทียนคนต่อไป!”

เจียงเหอซานพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้วครับ!”

คนผู้นั้นพูดอีกว่า “อย่างนั้นก็รบกวนนายด้วย แต่ต้องให้คำตอบกับฉันภายในสามวัน!”

เจียงเหอซานนิ่งอึ้ง สีหน้าเคร่งเครียด “รับประกันว่าจะสำเร็จภารกิจครับ!”

เมืองอู่โจว คฤหาสน์ทะเลสาบกลับคืนรัง

หมอกที่ปกคลุมเขาวิหคจอดหนาแน่นมากขึ้น และแอบแฝงด้วยกลิ่นอายของเจตนาฆ่าไว้ด้วย

เฉินโม่ยืนอยู่บนดาดฟ้าคฤหาสน์ มองดูแสงสีแดงของวิญญาณงูตัวเมียที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในเมฆหมอก แล้วรู้สึกโล่งใจ “ในที่สุดค่ายกลห้าธาตุกลับหัวก็สร้างเสร็จ ค่ายกลนี้ไม่เพียงแต่มีประสิทธิภาพการปกป้องแข็งแกร่ง แต่ยังสามารถกักขังศัตรูได้อีกด้วย เพียงแค่ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ก็มากเพียงพอที่จะสามารถป้องกันอาวุธสมัยใหม่ต่างๆได้หมด!”

ที่เฉินโม่รีบร้อนสร้างค่ายกลปกป้องเพราะเหตุผลสำคัญอย่างหนึ่ง ก็เพื่อป้องกันการแก้แค้นจากทางรัฐบาล หลังจากที่เขาทำการฆ่าสามชั่วโคตรของตระกูลว่านทิ้ง

ตามความสามารถของเขาในตอนนี้ เพียงแค่ไม่ไปปะทะกับอาวุธร้ายอย่างขีปนาวุธเช่นนั้น อย่างอื่นทางรัฐบาลก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก

แต่พวกหลี่ซู่เฟินและญาติพี่น้องคนอื่นๆ เฉินโม่ไม่สามารถปกป้องได้หมด แต่หากมีค่ายกลตัวนี้ เพียงแค่พวกหลี่ซู่เฟินมาหลบในค่ายกลแห่งนี้ก็จะปลอดภัย นอกเสียจากว่าทางรัฐบาลจะใช้อาวุธนิวเคลียร์โดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่น มิฉะนั้นที่แห่งนี้ก็จะไม่สามารถทำลายได้

เฉินโม่สอนวิธีเปิดใช้งานค่ายกลห้าธาตุกลับหัวให้กับเอียนชิงเฉิง จากนั้นก็กลับไปเมืองฮ่านหยาง

หลังจากจบเรื่องตระกูลว่านแล้ว ทางรัฐบาลนอกจากจะออกสื่อมาแก้ข่าว บอกว่าคนพวกนั้นที่ลุกเป็นไฟเพียงแค่ถูกฟ้าผ่าใส่ ไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์ใดๆแล้ว ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไรอีก เงียบสงบอย่างผิดปกติ

ผิดปกติอย่างมาก เฉินโม่กังวลว่าทางรัฐบาลกำลังวางแผนการใหญ่

อีกอย่างเขารู้ดีว่า คุณปู่ที่อยู่ยานจิงคนนั้นของเขา ไม่มีทางปล่อยโอกาสจัดการกับเขาที่ดีเช่นนี้แน่นอน

วันเดียวกันเวลาห้าโมงเย็น เฉินโม่เดินทางถึงฮ่านหยาง

เฉินโม่ไม่ได้บอกให้พวกหลี่ซู่เฟินหลบหนีไปยังคฤหาสน์ทะเลสาบคืนรังในทันที มีเขาอยู่ ถึงแม้ทางรัฐบาลจะลงมือจัดการจริงๆ เขาก็มีความมั่นใจว่าสามารถพาพวกหลี่ซู่เฟินจากไปได้อย่างปลอดภัย

จึงไม่จำเป็นต้องให้พวกหลี่ซู่เฟินหนีเข้าไปในค่ายกลห้าธาตุกลับหัวก่อนเวลา อย่างนั้นจะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดว่าเฉินโม่หวาดกลัว

เฉินโม่เพิ่งกลับถึงโรงแรมในเครือเหม่ยหวากรุ๊ปได้เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แขกไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งก็มาหาในทันที

มองดูชายชราที่มาปรากฏตัวอยู่ในห้องนอนของตัวเองแล้วสีหน้าก็เย็นชาลง

“นายคือเฉินโม่สินะ” เจียงเหอซานมองเฉินโม่ น้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตร

เฉินโม่วางแก้วชาในมือ มองดูเขา สีหน้านิ่งเฉย “ฉันเพิ่งกลับมาถึงที่นี่ได้เพียงครึ่งชั่วโมง นายก็มาแล้ว ทำไมต้องถามทั้งที่รู้?”

แววตาของเจียงเหอซานมีความแปลกใจ แต่สีหน้าไม่เปลี่ยน ยังคงทำสีหน้าหยิ่งยโสอยู่เหมือนเดิม “อายุไม่เยอะ แต่กลับนิ่งสงบอย่างมาก นายไม่สงสัยงั้นหรอว่าฉันเป็นใคร?”

เฉิโม่ยิ้มเล็กน้อย “สามารถหนีรอดจากการรักษาความปลอดภัย และปรากฏตัวอยู่ในห้องของฉันตัวคนเดียว นอกจากบุคคลทางรัฐบาลแล้ว ยังจะมีใครกล้าทำเช่นนี้อีก?”

แววตาของเจียงเหอซานมีความประหลาดใจเพิ่มขึ้น แต่สีหน้าก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง “ถือว่าฉลาด แต่น่าเสียดายที่ไม่ใช้ให้ถูกทาง!”

นิ่งสักพัก เจียงเหอซานก็พูดต่อว่า “ในเมื่อนายรู้ว่าฉันเป็นใคร แล้วรู้ไหมว่าฉันมาเพื่ออะไร?”