ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 478

ผู้อาวุโสซิมเมอร์ขมวดคิ้วเข้าหากัน “นั่นเป็นความคิดที่ดี แมนดี้เคยทำงานกับ ยอร์ก เอ็มเทอร์ไพรส์ ที่นิอัมมี่ เธอเหมาะแล้วที่จะเป็นตัวแทนของเรา!”

“ใช่ครับคุณปู่! เธออยู่กินกับตระกูลเรามาหลายปี ถึงเวลาแล้วที่เธอควรจะทำอะไรเพื่อตอบแทนเราบ้าง!”

“ใช่! ตอนนี้เธอไม่มีตำแหน่งอะไรในบริษัทของตระกูลของเรา เราเสนองานให้เธอ เธอควรจะรู้สึกขอบคุณและทำงานนี้ให้สำเร็จ!”

“ใช่ เธอต้องไปเป็นตัวแทนของเรา เราไม่ได้ขอให้เธอทำให้ดีที่สุด? แต่นี่มันเป็นงานของเธออยู่แล้ว”

ซิมเมอร์ทุกคนเห็นด้วยในความคิดนี้

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผู้อาวุโสซิมเมอร์ก็พูดว่า “เอาล่ะ ฌอน แกไปบอกให้ไซม่อนและครอบครัวของเขากลับมา บอกพวกเขาว่าพวกเขาจะได้งานคืนหากพวกเขาสามารถร่วมงานกักบ สกาย คอร์ปอเรชั่น สำเร็จ ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะไม่มีวันกลับได้กลับคืนสู่ตระกูลซิมเมอร์อีกต่อไป!”

ฮาร์วีย์ แมนดี้ ไซม่อน และลิเลียนกำลังรับประทานอาหารเช้ากันอยู่

ซีนเธียร์ดำเนินการย้ายโรงเรียนเรียบร้อยแล้ว และเธอจะไปโรงเรียนใหม่ในเช้าวันนี้

ในห้องอาหารไม่มีใครพูดอะไรสักคำ พวกซิมเมอร์ทำให้พวกเขาดูอนาถน่าสังเวช

เช้านี้พวกเขาได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านว่าค่าเช่าถูกระงับแล้ว และพวกเขาจะต้องย้ายออกไปหากพวกเขาไม่สามารถจ่ายค่าเช่าในเดือนหน้าได้

การย้ายมาที่บัควู้ด ซิมเมอร์ทุกคนสูญเสียแหล่งรายได้ทั้งหมด แมนดี้และครอบครัวของเธอมีเงินเหลือไม่มาก ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ พวกเขาสามารถจ่ายค่าเช่าราคาสูงแบบนี้ได้เพียงหนึ่งปีเท่านั้น อยู่ต่อไปจะทำให้เกิดปัญหา

ตอนนี้ แมนดี้กำลังหางานใหม่

ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่มีเงินเหลือแม้แต่สตางค์เดียว

ในตอนนั้นเอง เสียงออดประตูก็ดังขึ้น

คนที่เดินเข้ามานั้นไม่ใช่ใครอื่นไกล ฌอน ซิมเมอร์ นั่นเอง

เขาไม่มีมารยาทเลย ทั้งยังมองดูรอบบ้านแล้วหัวเราะเยาะ “ที่ว่ายังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ถือได้ว่าเป็นจุดสูงสุดในชีวิตของนายแล้ว จริงไหม? หากไม่ใช่เพราะความใจดีของตาเฒ่าซิมเมอร์ พวกนายได้ไปนอนตามท้องถนนแล้ว”

ไซม่อนเงยหน้าขึ้นและตอบอย่างเย็นชาว่า “พี่ใหญ่ มาที่นี่เพื่อเยาะเย้ยเรางั้นเหรอ?”

ฌอนยิ้มเยาะ “เยาะเย้ย? ทำไมฉันถึงต้องทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นด้วย?”

“เหตุผลที่ฉันมาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อให้นายและครอบครัวของนายได้มีโอกาสเป็นครั้งสุดท้าย!”

“แม้ว่านายจะทำผิดพลาดอย่างร้ายแรงลงไป แต่ผู้เฒ่าซิมเมอร์ก็ยังจะให้โอกาสนายได้แก้ไข”

“สกาย คอร์ปอเรชั่น จะเปิดตัวและทำพิธีเปิดเร็ว ๆ นี้ แมนดี้ เธอจะต้องไปเป็นตัวแทนของซิมเมอร์และสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับ สกาย คอร์ปอเรชั่น ให้สำเร็จ”

“ที่สำคัญ เธอจะได้โครงการกลับมา เธอคงจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเธอทำไม่สำเร็จ!”

ฌอนทำท่าทียะโสและเบ่งอำนาจ ทำราวกับว่าเขาเป็นองค์จักรพรรดิอะไรอย่างนั้น เขาพูดราวกับว่าทุกคำที่ออกจากปากของเขาเป็นของขวัญที่แมนดี้และครอบครัวของเธอสมควรยินดีปลาบปลื้มที่จะได้รับ

แมนดี้พูดอย่างเย็นชาว่า “คุณลุงคะ ครอบครัวเราจะไม่ได้ทำงานให้ตระกูลซิมเมอร์อีกต่อไปแล้ว หนูมีส่วนเกี่ยวข้องที่จะไปเป็นตัวแทนของบริษัทได้ยังไงคะ?”

“ถ้าคุณลุงอยากได้โครงการของ สกาย คอร์ปอเรชั่น ก็ไปเอามันมาเอง หนูไม่เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้อีกต่อไป!”

ฌอนเยาะเย้ย “ดีมากที่เธอปฏิเสธแบบนี้ ฉันจะรายงานทุกสิ่งที่เธอพูดกับคุณปู่!”

ฌอนกดหมายเลขโทรศัพท์และเปิดโหมดลำโพง

เสียงเย็นชาของผู้อาวุโสซิมเมอร์สามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนจากปลายสาย “แมนดี้ เป็นอะไรไป? ทำไมเธอถึงปฏิเสธโอกาสที่จะแก้ไขความผิดพลาดของเธอ?”

“เธอและครอบครัวอยากจะถูกเตะออกจากตระกูลซิมเมอร์ไปอย่างถาวรงั้นเหรอ?”

แมนดี้ตอบด้วยน้ำเสียงที่เหมือนทำอะไรไม่ถูก “คุณปู่ แต่นี่มันไม่ยุติธรรม! หนูเสียสละเพื่อตระกูลของเรามามาก แต่คุณปู่ยังไล่เราออกจากตระกูลด้วยเรื่องเล็ก ๆ แค่นั้นเหรอคะ?

“คุณปู่จะนึกถึงหนูก็ต่อเมื่อเจอปัญหาเท่านั้น! คุณปู่ทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง?”

“ยังจะมาแก้ตัวอีกงั้นเหรอ?” เสียงของผู้อาวุโสซิมเมอร์เยือกเย็นลงอีก “เธอรู้ว่าฉันเป็นปู่ของเธอ แต่เธอก็ยังทำให้ฉันขายหน้าฉันที่ลานซิลเวอร์นิมบัส!”

“เธอไม่รู้หรือไงว่านี่เป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับตระกูลซิมเมอร์เพื่อเริ่มต้นใหม่ในบัควู้ด?”

“เธอและครอบครัวไปที่ลานซิลเวอร์นิมบัสแทนฉัน ผู้นำตระกูลซิมเมอร์! ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป คนในบัควู้ดจะมองเรายังไง?”

“เธอไม่ให้เกียรติผู้อาวุโสและยังไม่รู้จักที่ของตัวเองอีก! เธอยังจะแก้ตัวงั้นเหรอ? แล้วทำไมเรายังต้องการเธอ!”