“ไม่ได้”

ผู้อาวุโสสูงสุดปฏิเสธอย่างไม่ต้อง “ในตอนนั้นเพื่อที่จะช่วยผนึกคำสาปโลหิตให้เจ้า ต้องสละชีวิตของผู้อาวุโสสูงสุดไปทั้งหมดห้าคน การผนึกคำสาปโลหิตของเจ้าได้มาอย่างยากลำบาก จึงไม่ง่ายที่จะปลดผนึก”

“เผ่าหยกกำลังเผชิญกับหายนะครั้งใหญ่ ในฐานะหัวหน้าเผ่า ข้ามีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องคนในเผ่า”

คำพูดของกู้ชูหน่วนเฉียบคม และมีความโศกเศร้าอยู่ระหว่างคิ้วของนาง

“ยิ่งไปกว่านั้น…..ท่านบอกว่าข้าคือไข่มุกมังกรเม็ดที่แปด ต้องใช้เลือดทั้งหมดจากหัวใจของข้า จึงจะสามารถหลอมรวมไข่มุกมังกร และล้างคำสาปโลหิตได้ไม่ใช่หรือ?ในเมื่อจุดจบได้ถูกกำหนดไว้แล้ว เช่นนั้นก็รีบปลดผนึกโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า เพื่อเผ่าหยกและผู้คนในเผ่า”

ดูเหมือนผู้อาวุโสสูงสุดจะเดาทางเลือกของนางได้ตั้งนานแล้ว เขาถอนหายใจอย่างจนปัญญาและส่ายหัวเบา ๆ “ไม่ได้ ไม่อาจปลดผนึกได้ เผ่าหยกยังไม่ถึงทางเลือกสุดท้าย อย่าเพิ่งถอดใจ”

เขาบำเพ็ญเพียรมาหลายปี และค้นหาวิธีที่จะช่วยชีวิตของนาง หลังจากที่นางยอมมอบหัวในออกมาแล้ว

แม้ว่าจะยังหาวิธีไม่ได้ แต่เขาได้มีวิธีที่จะรักษาดวงวิญญาณของนางไว้ชั่วคราว

บางทีหลังจากที่อาหน่วนยอมมอบหัวในออกมาแล้ว เพียงแค่รักษาดวงวิญญาณของนางไว้ บางที่อาจจะยังมีโอกาสที่จะฟื้นคืนมา แล้วเขาจะยอมปลดล็อกผนึกให้นางได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนขมวดคิ้ว “แล้วท่านจะทำอย่างไร ต่อให้ท่านจะล่าช้าต่อไป ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้”

“ข้าอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ข้าจะปกป้องเผ่าหยกและปกป้องเจ้าด้วยวิธีของตัวเอง” ผู้อาวุโสสูงสุดจ้องมองไปที่กู้ชูหน่วน และรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่มีรอยย่นของเขา

มันคุ้มค่าที่เขาจะยอมสละชีวิตของตัวเอง เพื่อรักษาดวงวิญญาณนาง

เพียงแต่……

เขาต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้ดวงวิญญาณของนางฟื้นคืนมาโดยเร็วที่สุด

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสสูงสุดไม่ได้ปรึกษาหารือกันเรื่องทางหนีทีไล่ กู้ชูหน่วนก็จากไป และไม่อยากจะเสียเวลากับเขาอีกต่อไป

“ตาเฒ่า ตาแก่ตายยากที่รั้งท้ายของเผ่าเพลิงฟ้า ยกให้เป็นหน้าที่ของท่าน ท่านอย่าบอกข้านะว่าท่านไม่สามารถรับมือกับผู้เฒ่าคนหนึ่งของเผ่าเพลิงฟ้าได้”

ผู้อาวุโสสูงสุดเผลอหัวเราะออกมา

เจ้าเด็กคนนี้คิดมากเกินไปแล้ว เขาก็มีฝีมือพอ ๆ กับพวกเขา หากต้องการจะฆ่าเขาจริง ๆ ตัวเองก็ต้องถลอกไปด้วย

“ไม่ต้องห่วง ข้ารับรองว่าจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง”

เผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าหยกเริ่มต้นสงครามอย่างเป็นทางการ

หลังจากที่กู้ชูหน่วนก็เอามือไพล่หลัง แล้วยืนอยู่ข้างโต๊ะทราย และฟังการรายงานสถานการณ์การต่อสู้

“เรียนหัวหน้าเผ่า ผู้อาวุโสหกได้รวบรวมชาวบ้านล่วงหน้าไปรออยู่ที่ทางเข้าเส้นทางลับตามคำสั่งของท่านแล้ว ในขณะนี้คนของเผ่าเพลิงฟ้ายังไม่พบคนในเผ่าของพวกเรา”

“รายงาน……ผู้อาวุโสสูงสุดได้บีบบังคับให้ผู้เฒ่าที่รั้งท้ายของเผ่าเพลิงฟ้าเข้าไปในค่ายกลมรณะแล้ว และกำลังรอให้คนผู้นั้นตาย”

ฮ้า……

เหล่าผู้อาวุโสทั้งในห้องปรึกษากิจต่างตกตะลึง

ต้องใช้เวลานานแค่ไหน ผู้อาวุโสสูงสุดถึงจะสังหารยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกของเผ่าเพลิงฟ้าได้?

เช่นนี้จะเร็วเกินไป?

ผู้อาวุโสไป๋เฉ่าล่าวว่า “ค่ายกลมรณะเป็นหนึ่งในค่ายกลสังหารโบราณขอเผ่าหยก แม้ว่ายอดฝีมือระดับเจ็ดจะเข้าไป แต่หากไม่ระวังก็อาจจะนองเลือด ผู้อาวุโสสูงสุดคงรอเวลาและชัยภูมิที่เหมาะสม เพื่อให้เราสามารถชนะได้ในเวลาอันสั้น”

กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ผู้อาวุโสสูงสุดเป็นอย่างไรบ้าง?”

“เรียนหัวหน้าเผ่า ผู้อาวุโสสูงสุดไม่เป็นอะไร เขาทำตามคำสั่งของท่าน เขาจงใจที่จะแยกสามผู้เฒ่าของเผ่าเพลิงฟ้าออกจากกัน แล้วสังหารพวกเขาทีละคน”

“รายงาน…… ผู้อาวุโสรองที่ลอบโจมตีคนของเผ่าเพลิงฟ้าระหว่างทาง พ่ายแพ้และได้รับบาดเจ็บ บรรดาพี่น้องได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างน่าเวทนา โชคดีที่ผู้อาวุโสสูงและคนอื่น ๆ ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ได้ทันเวลา แต่ผู้อาวุโสสูงและคนอื่น ๆ ถูกคนของเผ่าเพลิงฟ้าเข้าไปก่อกวน สถานการณ์จึงไม่ค่อยดีนัก”

“รายงาน……ผู้อาวุโสสูงและคนอื่น ๆ ที่เผชิญหน้ากับกองทัพหลักของเผ่าเพลิงฟ้าถูกปิดล้อมไว้รอบด้าน และต้องการกำลังสนับสนุน”

ไป๋เฉ่าและคนอื่น ๆ ตกตะลึง

ผู้อาวุโสสูงถูกปิดล้อม?

ไม่ใช่ว่าพวกเขาไปปิดล้อมผู้อื่นหรือ?

ทำไมกลับถูกปิดล้อมเสียเอง?

“หัวหน้าเผ่า ผู้น้อยขอไปปออกรบ และไปสนับสนุนผู้อาวุโสสูง”

“ผู้น้อยก็ขอไปปออกรบ เพื่อสนับสนุนผู้อาวุโสสูงด้วยเช่นกัน”

“……”

ผู้คนในห้องปรึกษากิจต่างพากันขอคำสั่ง และมีข้ารับใช้มารายงานถึงสองครั้ง ผู้อาวุโสสูงตกอยู่ในอันตราย และขอให้ส่งกำลังไปสนับสนุนในทันที กู้ชูหน่วนเอามือไพล่หลังและจ้องมองไปที่โต๊ะทราย ไม่รู้ว่านางได้ยินหรือไม่

“หัวหน้าเผ่า……”

ผู้คนต่างส่งเสียงขึ้น และดูเหมือนว่ากู้ชูหน่วนจะมีท่าทีตอบโต้ แต่นางเพียงแค่นั่งลงบนที่นั่งหลัก และหยิบถ้วยน้ำชาที่อยู่ข้าง ๆ ขึ้นมาจิบด้วยความสนใจอย่างมาก

ทุกคนเป็นกังวลเหมือนมดบนกระทะร้อน แต่นางก็ยังนิ่งเฉย

ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสบางคนจะโกรธ

ในตอนที่มีข้ารับใช้มารายงาน ผู้อาวุโสทุกคนต่างอกสั่นขวัญแขวน และกลัวว่าจะได้ยินข่าวร้ายของผู้อาวุโสสูง

“รายงาน……ผู้อาวุโสสูงและคนอื่น ๆ ได้ล่อกองกำลังหลักของเผ่าเพลิงฟ้าไปยังหุบเขาผีเสื้อสังหารแล้ว กองกำลังหลักของเผ่าเพลิงฟ้าถูกขังอยู่ในหุบเขาผีเสื้อสังหารและไม่สามารถออกมาได้ และประสบกับความสูญเสียอย่างหนัก”

ฉ่า……

เหล่าผู้อาวุโสตระหนักได้ในทันที

ผู้อาวุโสสูงแสร้งทำเป็นพ่ายแพ้ เพื่อล่อศัตรูไปยังหุบเขาผีเสื้อสังหาร?

ในหุบเขาผีเสื้อสังหาร พวกเขาเผ่าหยกล้วนแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไป หากกองกำลังหลักของเผ่าหยกเข้าไป แม้ว่ากองกำลังทั้งหมดจะไม่ถูกกำจัด แต่พวกเขาก็ต้องได้รับความเสียหายอย่างมาก

สิ่งที่จัดการได้ยากที่สุดในขณะนี้ คือสามยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกของเผ่าเพลิงฟ้า

เพียงแค่สามารถจัดการพวกเขาได้ สถานการณ์ที่ยากลำบากของเผ่าหยกก็จะถูกหมดไป

“รายงาน……ผู้อาวุโสสูงจับจารชนคนหนึ่งได้ และส่งไปที่ศาลแล้ว”

“จารชน?เผ่าหยกเป็นหนึ่งเดียวกัน จะมีจารชนได้อย่างไร?” เหล่าผู้อาวุโสอยู่ในความโกลาหล

“เรียนเหล่าผู้อาวุโสทั้งหลาย จากการสอบสวนพบว่าตอนที่มีการแย่งชิงไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด เผ่าหยกของเราส่งคนออกไปสนับสนุน และถูกลอบโจมตีระหว่างทาง สาวกของพวกเผ่าหยกที่สละชีวิตถูกคนของเผ่าเพลิงฟ้าสวมรอยและปะปนเข้ามา พวกเขาตั้งใจจะมาฆ่าผู้อาวุโสสูงและคนอื่น ๆ แต่โชคดีที่ผู้อาวุโสสูงได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเผ่า แผนซ้อนแผน”

สวมรอยและปะปนเข้ามา?

แม้ว่าจะมีวิชาแปลงโฉม แต่เผ่าหยกก็ไม่สามารถปะปนเข้ามาได้ง่าย ๆ

คงเป็นเพราะครั้งนี้ทุกคนจดจ่ออยู่กับไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด ประกอบกับเผ่าหยกได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ทำให้คนของเผ่าฟ้ามีช่องโหว่ให้ฉวยโอกาส

ผู้อาวุโสไป๋เฉ่ารู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “พวกเราสามารถจับจารชนได้คนหนึ่ง และจะมีจารชนที่สอง คนที่สามหรือไม่?”

“ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปได้” กู้ชูหน่วนกล่าว

ไป๋เฉ่ารีบกล่าวว่า “พวกเจ้ารีบไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ จะต้องหาตัวจารชนทั้งหมดที่แฝงอยุู่ในเผ่าหยกออกมาให้ได้”

“ขอรับ”

“รายงาน……ผู้อาวุโสสูงแยกขังผู้เฒ่าทั้งสามคนของเผ่าเพลิงฟ้าแล้ว และในตอนนี้กำลังต่อสู้กับผู้อาวุโสสูงอย่างดุเดือด”

ผู้อาวุโสสูงสุดเสวี่ยเย่และผู้อาวุโสสูงสุดอั้นเฮยของเผ่าเพลิงฟ้าล่ะ?”

“คนหนึ่งถูกขังอยู่ในค่ายกล และอีกคนหนึ่งถูกขังอยู่ที่หุบเขารกร้าง”

กู้ชูหน้วนเอามือตบโต๊ะ และแววตาที่เป็นประกายดูเป็นกังวลเล็กน้อย

“แม้ว่าผู้อาวุโสสูงสุดจะสามารถจัดการกับผู้อาวุโสสูงสุดอีกคนของเผ่าเพลิงฟ้าได้ แต่เขาก็คงจะต่อสู้อีกไม่ไหว ส่วนเสวี่ยเย่และอั้นเฮย พวกเราคงต้องรับมือกันเองแล้ว

เหล่าผู้อาวุโสต่างนิ่งเงียบ

ผู้อาวุโสสูงสุดของพวกเขามีเพียงวรยุทธขั้นสูงสุดระดับหก และพอที่จะจัดการกับผู้ที่มีวรยุทธระดับเดียวกันได้

หากให้จัดการอีกคน คงไม่ง่ายเหมือนอย่างที่คิด แม้ว่าจะชนะ แต่ก็คงต่อสู้ไปไม่ไหว

การต่อสู้ระดับสูงเช่นนั้น ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถแทรกแซงได้

โดยเฉพาะสองยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกที่เหลืออยู่ พวกเขาจะรับมือได้อย่างไร?

ตอนที่มีการแย่งชิงไข่มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด พวกเขาล้วนแต่ได้รับบาดเจ็บไม่มากก็น้อย