ตอนที่ 332

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 332: กำราบ

 

“ไม่ใช่ว่ายันต์ที่ท่านราชครูมอบให้มีผลแล้วหรอกเหรอ? ยิ่งกว่านั้น พวกมันยังสามารถควบคุมฝนมาดับไฟในป่าได้ด้วย ในเผ่าภูตตอนนี้ ใครมันมีความสามารถทำอย่างนี้ได้?”

 

สีหน้าของขุนพลมังกรอึมครึม เขาคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่น สามารถเดินเข้าไปในเผ่าภูตอย่างวางใจ จากนั้นก็บดขยี้พวกมันซะ แต่ไม่คิดว่าเพิ่งจะล้อมเข้าไป ในใจเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธ ทั้งยังมากไปด้วยความสับสน

 

เขาไม่คิดว่านี่จะเป็นฝีมือควบคุมของบรรพชนเผ่าภูต ตัวเขานั้นถูกพิษร้ายอยู่ ถ้าเกิดยังมาควบคุมค่ายกลอย่างเต็มกำลังด้วยล่ะก็ นั่นก็เท่ากับยื่นเท้าเข้าไปในโลงก่อนเวลาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาไม่มีทางทนได้แน่ ฉะนั้น เขาไม่มีทางมาควบคุมค่ายกลนี้ด้วยตัวเองแน่ พิษที่ท่านราชครูวางไว้ในตัวเขา เขารู้ดีเป็นที่สุด

 

“หรือว่าเสิ้งหนี่จะเป็นคนควบคุม?” ขุนพลมังกรคิด ไม่อย่างนั้นเขาก็คิดไม่ออกแล้วว่าใครเป็นคนควบคุมค่ายกลนี้ นอกจากเสิ้งหนี่ เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครอีก

 

เพื่อที่จะควบคุมสถูปวิญญาณ จำเป็นต้องเป็นนักสลักอาคมที่มีระดับแข็งแกร่งอย่างมาก ทั้งยังต้องมีพลังที่แข็งแกร่งมากด้วย แม้ตอนนี้จะมีเผ่าภูตถูกช่วยออกมามาก แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีใครที่มีความสามารถพอที่จะควบคุมค่ายกลนี้ได้

 

“ข้าไม่เชื่อว่าป่าพังๆ นี่จะขังข้าได้!”

 

ในมือขุนพลมังกรปรากฏแผ่นยันต์หลายแผ่นขึ้นอีกครั้ง จากนั้นก็ทำการปาออกไป เมื่อยันต์แปะลงที่ตัวต้นไม้ใหญ่ ต้นไม้ก็พลันติดไฟในทันที นี่คือยันต์ที่ใช้เผาป่า ราชครูมอบให้เขาไว้เผาป่าภูตแห่งนี้ เพื่อที่จะสามารถทำลายค่ายกลสัมผัสพิศวงลง

 

แม้ว่าตอนนี้ไฟจะยังลุกไหม้อยู่ แต่ค่ายกลสัมผัสพิศวงก็ยังทำให้เขารู้สึกกังวลอยู่ดี

 

“!”

 

ขุนพลมังกงแทงหอกมังกรแดงในมือออกไป พร้อมกับปลดปล่อยพลังมังกรออกไปรอบๆ ตอนนี้ร่างของเขากลายเป็นเหมือนกับมังกรแดง กำลังทำการทะลวงขึ้นไปข้างหน้า เมื่อมังกรแดงทำการพุ่งออกไป ทันใดนั้น ก็ปรากฏต้นไม้ใหญ่ขึ้นขวางหน้าเขา แต่ว่าเขาก็ทะลวงมันไปจนก่อให้เกิดโพลงขนาดใหญ่ที่ลำต้น!

 

หลังจากทะลวงผ่านมาได้เขาก็หยุดลง เป็นการผ่านทางที่ดุดันจริงๆ พลังที่กดขี่ของเขาไม่ใช่ใครจะมาดูถูกได้ แม้จะผ่านมาได้ง่ายๆ แต่ว่าเขาก็ยังโกรธอยู่ดี เขาไม่เชื่อว่าถ้าเขายังคงทำการทะลวงแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ แล้วจะไม่สามารถทำลายค่ายกลสัมผัสพิศวงนี้ได้

 

เมื่อรวมกับอาวุธระดับสวรรค์ในมือ ทำให้พลังในการบุกทะลวงแข็งแกร่งขึ้นไปอีก จนต้นไม้พวกนี้ไม่สามารถขัดขวางการโจมตีที่ป่าเถื่อนของเขาได้

 

“ขุนพลมังกรนี้เหมือนจะถูกขังจนเป็นบ้าไปแล้ว ตอนนี้ก็เหลือแค่เขาคนเดียวเท่านั้น” อี้เทียนหยุนมองเห็นตัวขุนพลมังกรจากที่ไกลๆ พร้อมกับเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา อย่าว่าแต่เขาเลย ต่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญคนอื่น หากตกอยู่ในสถานการณ์อย่างนี้ อีกฝ่ายก็ย่อมต้องเป็นบ้าเช่นเดียวกัน

 

แม้จะเดินไปได้สักแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถหนีออกไปจากที่นี่ได้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้เป็นบ้าไปได้ยังไง?

 

ยังไงก็ตาม คนที่บุกเข้ามาคราวนี้ เหลือก็แต่ตัวขุนพลมังกรนี้เท่านั้น ส่วนทหารมังกรคนอื่นๆ ล้วนแต่ถูกเขาเก็บกวาดจนหมด ถ้าขุนพลมังกรรู้เข้า ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะกระอักเลือดออกมาไหม? ที่สำคัญเลยก็คือมังกรดินพวกนี้ ที่ตอนนี้ต่างก็ตกอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเขาโดยสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะถูกนำกลับเผ่าภูตโดยพวกเขา

 

มังกรดินทั้งหลายพวกนี้ตอนนี้กำลังอยู่ที่ด้านหลังเขา อี้เทียนหยุนไม่สามารถแสดงช่องเก็บสัตว์เลี้ยงต่อหน้าเธอได้ เพราะว่าความสามารถที่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตได้นั้นมีอยู่น้อยมาก ซึ่งมีเพียงสิ่งมีชีวิตสายมิติที่หายากเท่านั้นถึงจะมี

 

มีเพียงสิ่งมีชีวิตสายมิติหายากเท่านั้นถึงจะสามารถเก็บสัตว์อสูรหรือคนมีชีวิตไว้ได้โดยไม่มีปัญหา ซึ่งนั่นก็ถือว่าหายากมาก ถ้าเกิดเธอถาม อี้เทียนหยุนก็ไม่รู้ว่าจะตอบเธอยังไงดีเหมือนกัน

 

“ใช่ แต่การจะจัดการกับมันก็ถือว่ายากมาก พลังของอีกฝ่ายแข็งแกร่งจริงๆ ไม่มีทางที่จะจัดการได้ ทำได้เพียงถ่วงเวลามันไว้ที่นี่เท่านั้น” เย่ชิงเสวียนขมวดคิ้วพูด “แต่ว่าการที่มันอาละวาดอยู่ที่นี่นั้น ก็เพราะว่ามันไม่สามารถหาวิธีหนีออกไปจากที่นี่ได้ เมื่อเป็นอย่างนี้ มันย่อมส่งผลต่อค่ายกลสัมผัสพิศวงอยู่บ้างไม่มากก็น้อย”

 

ค่ายกลสัมผัสพิศวงนี้ตั้งอยู่ภายใต้สิ่งปลูกสร้างขนาดใหญ่ ถ้าป่าภูตถูกถางออกไป แม้อาจจะไม่ส่งผลอะไร เพราะต้นไม้ในป่าแห่งนี้มีมากมาย แต่ถ้าเกิดไปทำลายเอาต้นที่เป็นแกนหลักเข้า นั่นจะทำให้อีกฝ่ายสามารถบุกเข้าไปในเผ่าภูตได้จริงๆ

 

เมื่อค่ายกลมีจุดบกพร่อง ทั้งยังถูกพลังที่ป่าเถื่อนบุกทำลาย เมื่อนั้น ค่ายกลนี้อาจจะถูกทำลายทิ้งจริงๆ ก็ได้

 

“ก็จริง แต่ว่าเราสามารถจัดการกับสัตว์เลี้ยงของมันได้หนิ” อี้เทียนหยุนยิ้ม เขาสนใจในตัวมังกรแดงตัวนั้นมาก ถ้าเขาจับมังกรแดงตัวนี้ได้ ไม่รู้ว่าขุนพลมังกรจะคลั่งขนาดไหนกัน?

 

“เจ้าคิดจะจับมังกรแดงอย่างงั้นเหรอ?” เย่ชิงเสวียนรู้สึกตกใจ ระดับของมังกรแดงนั้นไม่ธรรมดา มันมีพลังถึงระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 7 ที่ 8 ทรงพลังอย่างมาก คิดจะปราบมัน กลัวว่าจะถูกมันตะปบตายใต้ฝ่ามือมากกว่า?

 

“แล้วจะให้ทำยังไง? มังกรแดงตัวนี้เข้ากันกับเขามาก เมื่อทั้งสองร่วมมือกัน จะทำให้พลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะงั้น เราจึงต้องกำราบมังกรแดงตัวนี้ให้ได้ซะก่อน” อี้เทียนหยุนพูดอย่างจริงจัง

 

“แต่ว่าระดับของมังกรแดงตัวนี้ไม่ธรรมดาเลยนะ…..” เย่ชิงเสวียนรู้ว่าระดับของอี้เทียนหยุนไม่แย่ แต่นี่มันสัตว์เทวะระดับผันแปรวิญญาณขั้นที่ 7 ที่ 8 กระทั่งยามที่เผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ มันก็ยังสามารถต้านทานได้ด้วยซ้ำ

 

“ไม่ต้องกังวลน่า คอยดูข้าให้ดี เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปกำราบมันด้วยตัวเอง!”

 

จากนั้น อี้เทียนหยุนก็ไม่รอให้เธอตอบรับ เขาก็ทำการบินเข้าไปหามังกรแดงตัวนั้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาเข้าไปใกล้ เขาก็ได้รีบซ่อนตัวอย่างไว ไม่กล้าบินต่อ เพราะระดับของมังกรแดงสูงมาก ดังนั้นสัมผัสของมันย่อมต้องแข็งแกร่งมากเหมือนกัน เป็นไปไม่ได้ที่จะเดินไปโผล่ตรงหน้าที่อีกฝ่ายสัมผัสไม่ได้

 

และในขณะที่เข้าไปใกล้ อี้เทียนหยุนก็ทำการเปิดใช้งานโหมดคลั่งหมวดพลังโจมตีในทันที พร้อมกับเปิดใช้งานสายเลือดเทพมังกร รวมทั้งเคล็ดวิชาเซวียนเทียนอีก ก่อนที่จะกระโดดเข้าใส่ร่างที่ราวกับภูเขาของมัน

 

มังกรแดงตัวนั้นไม่ทันตอบสนอง ก็พลันถูกหมัดของอี้เทียนหยุนต่อยเข้าให้ “เปรี้ยง” มังกรแดงร้องโหยหวนออกมา พร้อมทั้งถูกหมัดของอี้เทียนหยุนต่อยจนหน้าทิ่มพื้น

 

“ตูม!”

 

ร่างของมังกรแดงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่น จนทำให้พื้นแตกเป็นหลุมขนาดใหญ่ จนก่อให้เกิดคลื่นอัดอากาศกระจายออกมา ฉากนี้ทำให้เย่ชิงเสวียนตกใจอย่างมาก ถ้าให้คนอื่นต่อยล่ะก็ กลัวว่ากระดูกมือจะแตกเสียก่อนด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่ามังกรแดงถูกหมัดของอี้เทียนหยุนซัดซะหมอบกองกับพื้น

 

นี่มันร้ายกาจมาก เหมือนกับผู้เชี่ยวชาญระดับผันแปรวิญญาณขั้นสูงสุด เธอกระทั่งรู้สึกว่าเขามีพลังเทียบได้กับท่านบรรพชนเมื่อก่อนด้วยซ้ำ!

 

“จับ!”

 

อี้เทียนหยุนขึ้นไปยืนบนร่างมังกรแดง จากนั้นก็ใช้ความสามารถจับสัตว์ออกมา ทำให้ลำแสงปกคลุมร่างมังกรแดงไว้ ทำการกำราบอีกฝ่าย

 

“คำราม!”

 

มังกรแดงทำการดิ้นรนอย่างแรง ก่อนที่สลัดเขาทิ้งไป ทำให้การจับในคราวนี้ล้มเหลว

 

“บ้าเอ๊ย ล้มเหลวอย่างงั้นเหรอ…… ความชำนาญระดับกลางยังจับไม่ได้หรือนี่?”

 

อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว เขาทำการจับมังกรดินหลายสิบตัว แน่นอนว่าความชำนาญในการจับสัตว์ของเขาย่อมเพิ่มขึ้น ตอนนี้เขามีความชำนาญในการจับสัตว์ขั้นกลาง ถือได้ว่าเป็นการเลื่อนระดับที่เร็วมาก ทั้งยังช่วยเพิ่มอัตราสำเร็จให้สูง แต่ตอนนี้ก็ยังล้มเหลว

 

เห็นได้ชัดว่ามังกรแดงตัวนี้แข็งแกร่งมากแค่ไหน ทั้งยังมีความภักดีสูงมาก ไม่ง่ายที่จะกำราบ

 

“น่าสนใจนี่ ข้าไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถกำราบเจ้าได้!” สายตาของอี้เทียนหยุนเป็นประกาย เตรียมลงมืออีกครั้ง