ตอนที่ 260 ผมเชื่อแฟนของผม / ตอนที่ 261 ความกระวนกระวายที่น่าประหลาด

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 260 ผมเชื่อแฟนของผม 

 

 

           “คุณเผย แฟนผมเป็นคนยังไง ผมรู้ดี เรื่องนี้ต้องเป็นการเข้าใจผิดแน่นอน” กงจวิ้นฉือเอ่ยปากปกป้องฉู่เจียเสวียนทันทีโดยไม่ต้องคิด 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเป็นคนอย่างไร ในใจของเขารู้ดีที่สุดแล้ว เธอจะทำเรื่องพรรค์นั้นได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องมีการเข้าใจผิดอย่างแน่นอน ไม่ก็มีใครบางคนจงใจ 

 

 

           คำพูดของกงจวิ้นฉือทำให้หัวใจของฉู่เจียเสวียนอบอุ่น เขาไม่ได้ถามอะไรเลยก็เต็มใจเชื่อเธอแล้ว 

 

 

           “เข้าใจผิด? คุณกง สร้อยคอหล่นออกมาจากกระเป๋าของแฟนคุณ คุณปกป้องแบบนี้ไม่เกินไปหน่อยเหรอ” 

 

 

           กงจวิ้นฉือเชื่อฉู่เจียเสวียนโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไร นี่ทำให้หัวใจของเขาโมโหถึงขีดสุด ขณะที่เอ่ยคำว่าแฟนนั้นน้ำเสียงก็เน้นหนักลงไปอีก 

 

 

           ฉู่อีอีมองทั้งสองคนถกเถียงกันอยู่ข้างๆ ในใจยิ้มเย็นชา แต่ใบหน้ากลับเผยความน้อยเนื้อต่ำใจ 

 

 

           “แฟนของผมผมต้องปกป้องอยู่แล้ว อีกอย่าง ผมเชื่อเขา” 

 

 

           ริมฝีปากบางอ้าเอ่ย บนใบหน้าเปื้อนยิ้มอ่อนๆ แววตาที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นทำให้เผยหนานเจวี๋ยแทบจะหยุดหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง 

 

 

           เขาชอบฉู่เจียเสวียนขนาดนี้เลยเหรอ ชอบจนเชื่ออย่างไม่มีเงื่อนไข? 

 

 

           “คุณกง แม้ว่าพี่สาวฉันจะเป็นแฟนของคุณ ก็ต้องแฟร์ในทุกเรื่อง คุณพูดแบบนี้หมายความว่าเผยหนานเจวี๋ยใส่ร้ายพี่สาวเหรอ พวกเราแค่ต้องการรู้ความจริงเท่านั้นเอง” ฉู่อีอีหยุดและกวาดสายตาไปที่ 

 

 

ฉู่เจียเสวียน สายตาทั้งดูแคลนและไม่พอใจอย่างมาก จากนั้นก็พูดต่อ 

 

 

           “ถึงยังไงสร้อยคอนี้ก็นับว่ามีมูลค่า อีกอย่างหนานเจวี๋ยสั่งทำจากบริษัทออกแบบเครื่องประดับของต่างประเทศ มีแค่เส้นเดียวเท่านั้น คนบางคนอยากได้มันก็ยังสั่งทำไม่ได้เลยนะ แต่ว่าคุณค่าของมันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่ากี่หยวนหรอก แต่เป็นความรักที่หนานเจวี๋ยมีต่อฉันต่างหาก นี่คือสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้” 

 

 

           ฉู่อีอีกล่าวคำพูดนี้ได้อย่างเอาอกเอาใจมาก แต่ว่ามันก็เจือปนด้วยการประชดประชันฉู่เจียเสวียน 

 

 

           กงจวิ้นฉือฟังแล้วไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่หยิบกล่องเล็กๆ ที่งดงามอย่างมากออกมาจากกระเป๋า การตกแต่งของแก้วแสดงให้เห็นถึงความหรูหราของสินค้าภายในกล่อง 

 

 

           กงจวิ้นฉือเปิดกล่องเสียงดัง ‘เพี๊ยะ’ หยิบสิ่งของที่ส่องสว่างและดึงดูดสายตาทุกคนออกมา 

 

 

           สร้อยคอเส้นหนึ่งมีแสงสีขาวระยิบระยับ ด้านบนถูกประดับประดาด้วยอัญมณีหลากสีหลายชนิด มูลค่าของมันเกินว่าจะกล้าจินตนาการ 

 

 

           “นี่คือสิ่งที่ผมตั้งใจจะมอบให้เจียเสวียน เพียงแต่ผมไม่รู้ว่าเธอจะรับมันไว้หรือเปล่า” 

 

 

           ฉู่อีอีมองตาม ดวงตาหยุดนิ่งทันที อดไม่ไหวพึมพำออกมา “นี่คือสมบัติที่ชนะประมูลในงานประมูล 

 

 

วิคเตอเรียเมื่อไม่กี่วันก่อนไม่ใช่เหรอ เหมือนว่าราชินีเอลิซาเบธแห่งอังกฤษก็เคยใส่ด้วย…เห็นว่าราคาซื้อขายอยู่ที่แปดสิบล้าน มันมาอยู่ในมือคุณได้ยังไง” 

 

 

           “คุณหนูฉู่ตาถึงจริงๆ ถูกต้องเลย เจียเสวียนว่ายังไง ชอบหรือเปล่า” 

 

 

           ขณะที่กงจวิ้นฉือกล่าวอย่างใจเย็น มือก็กุมมือที่เย็นเฉียบของฉู่เจียเสวียนเงียบๆ อุณหภูมิของฝ่ามือที่สูงขึ้นกะทันหันทำให้ฉู่เจียเสวียนรู้สึกอยากร้องไห้ 

 

 

           ฉู่อีอีเหลือบมองเผยหนานเจวี๋ยด้วยความเขินอายเล็กน้อย หวังว่าเขาไม่ได้พบอะไรผิดปกติ แต่ว่าเมื่อเธอมองไป สีหน้าของเผยหนานเจวี๋ยน่าเกลียดยิ่งยวด 

 

 

           ในเวลานี้เผยหนานเจวี๋ยก็มองมา ความโกรธในแววตาทำให้หัวใจของเธอตกตะลึง แต่ทำได้เพียงฝืนยิ้มแสร้งว่าน่าสงสาร 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนไม่เคยคิดมาก่อนว่ากงจวิ้นฉือเลือกที่จะเชื่อเธอโดยไม่ถามอะไรสักคำเช่นนี้ ถ้าจะบอกว่าไม่ซาบซึ้งก็โกหกแล้ว 

 

 

           ผู้ชายคนนั้นที่เธอเคยรักสุดชีวิต ไม่เคยเชื่อเธอเลย สามปีก่อนเป็นอย่างไร สามปีให้หลังอย่างวันนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ยิ้มเยาะในใจ ชำเลืองมองเผยหนานเจวี๋ยเล็กน้อยจากนั้นก็ละสายตา 

 

 

           “เจียเสวียน ดึกมากแล้ว พวกเรากลับกันก่อนเถอะ คุณเผย ตอนนี้ก็ดึกมาแล้ว พวกเรากลับก่อนนะครับ เรื่องนี้ผมจะหาคำอธิบายมาให้คุณเอง” พูดจบ กงจวิ้นฉือพยักหน้า จากนั้นก็จูงฉู่เจียเสวียนออกไปจากห้องผู้ป่วย 

 

 

           “เดี๋ยวก่อน” ฉู่เจียเสวียนกล่าว หยุดเดิน กงจวิ้นฉือมองฉู่เจียเสวียนอย่างสงสัย เห็นเธอหันหลัง สายตามองตรงไปที่เผยหนานเจวี๋ย “เรื่องนี้ฉันจะต้องหาคำอธิบายมาให้พวกคุณแน่นอน” 

 

 

           พูดจบ ไม่สนใจเผยหนานเจวี๋ยที่โกรธจนสีหน้าเขียวคล้ำอยู่ด้านหลัง ออกจากห้องผู้ป่วยไปแล้ว 

 

 

           ฉู่อีอียืนมองอยู่ตรงนั้นตลอดเวลา รู้สึกโมโหจนทนไม่ไหว ปลายเล็บได้ฝังลึกลงไปในฝ่ามือแล้ว คนเลวยังไงก็เป็นคนเลว ยั่วผู้ชายได้อย่างง่ายดายขนาดนั้น แต่ว่าสักวันหนึ่งฉันจะทำให้เธอกลับตัวไม่ได้ตลอดกาล 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยมองดูเงาของกงจวิ้นฉือที่พาฉู่เจียเสวียนจากไป ริมฝีปากบางเม้มแน่น มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่น ชีพจรเต้นตุบๆ สีหน้าโกรธจนขาวซีดมากกว่าเดิม มองอยู่นานไม่วางตาจนกระทั่งเสียงของฉู่อีอีดังขึ้น 

 

 

           “หนานเจวี๋ย อย่าคิดถึงเรื่องนี้แล้วเลย คุณพักผ่อนให้มากๆ เถอะ ดึกมากแล้ว คุณบาดเจ็บด้วยนอนดึกมากจะไม่ดี” 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 261 ความกระวนกระวายที่น่าประหลาด 

 

 

           ฉู่อีอีอารมณ์ดีมาก เพียงแต่บนใบหน้ากลับมีท่าทางเจ็บปวด คำพูดที่เอ่ยนั้นอ่อนโยน 

 

 

           หยุดความนึกคิด เผยหนานเจวี๋ยเอนตัวนอนลงบนเตียงจากการประคองของฉู่อีอี หลังจากนอนลงเรียบร้อย สายตาเย็นชาของเผยหนานเจวี๋ยจับจ้องฉู่อีอี แววตามีความล้ำลึก 

 

 

           มองดูใบหน้าที่สดใสของฉู่อีอี เขาถอนหายใจเบาๆ อยู่ในใจ หวังว่าเธอจะไม่หลอกเขา หวังว่าเรื่องในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ 

 

 

           จ้องมองสายตาของเผยหนานเจวี๋ย อารมณ์ดีของฉู่อีอีในตอนแรกถูกแทนที่ด้วยความกลัว แต่ว่าบนใบหน้ากลับแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง “หนานเจวี๋ย ทำไมคุณมองฉันแบบนั้น” 

 

 

           เขาคงไม่ได้สงสัยเธอหรอกนะ หนึ่งวินาทีที่แล้วยังมีความสุขอยู่เลยแต่วินาทีต่อมากลับถูกความคิดของตัวเองทำให้ตกใจกลัวซะเอง ไม่หรอก เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสงสัยเธอ เธอคิดมากเกินไปแล้ว 

 

 

           “ไม่มีอะไร” กล่าวเฉยเมย เผยหนานเจวี๋ยหลับตาลง 

 

 

           ริมฝีปากแดงของฉู่อีอีอ้าออก ครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยปาก “หนานเจวี๋ย คราวหน้าอย่าให้ฉันเป็นห่วงอีกได้หรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นใคร คุณต้องป้องกันตัวเองให้ดีก่อนโอเคไหม” 

 

 

           “เห็นคุณบาดเจ็บ ตรงนี้ของฉันก็เจ็บไปด้วย” พูดจบ นิ้วที่ซีดขาวชี้ไปยังตำแหน่งของหัวใจ มอง 

 

 

เผยหนานเจวี๋ยพูดด้วยความรักลึกซึ้ง 

 

 

           แม้จะพูดเช่นนี้ แต่ว่าหัวใจของฉู่อีอีกลับเกลียดฉู่เจียเสวียนเหลือแสน 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนบัดซบ ทำไมถึงโชคดีตลอดเลย ถ้าหากไม่มีเผยหนานเจวี๋ย คืนนี้เธอก็คงถูกแทงกลายเป็นผีไปแล้ว 

 

 

           ในใจยิ่งคิดยิ่งโมโห เธอได้ทุกอย่างมาด้วยความยากลำบาก หรือจะให้ฉู่เจียเสวียนแย่งไปทั้งแบบนี้เหรอไง 

 

 

           คืนนี้รู้สึกได้ถึงความผิดปกติที่เผยหนานเจวี๋ยมีต่อฉู่เจียเสวียนได้อย่างชัดเจน หัวใจของฉู่อีอีก็รู้สึกกระวนกระวาย 

 

 

           คำพูดของฉู่อีอีไม่ทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยมีความรู้สึกใดๆ ผู้หญิงคนนี้คือผู้หญิงที่ตัวเองรัก ตอนนี้เห็นเธอเป็นห่วงเขาถึงเพียงนี้ ทำไมหัวใจของเขากลับไม่มีความดีใจเลยสักนิด 

 

 

           ยังไม่ทันได้ตอบ คำพูดของฉู่อีอีก็ดังขึ้นอีกครั้ง “หนานเจวี๋ย ทำไมคุณถึงบังเอิญเจอพี่สาวล่ะ หรือว่าพวกคุณนัดกันหรือเปล่า” 

 

 

           เธอเกลียดที่สุด เห็นได้ชัดว่ามันคือแผนการไร้ที่ติ แต่เธอคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าเผยหนานเจวี๋ยจะปรากฏตัวมาช่วยฉู่เจียเสวียน ทำไมเขาถึงผ่านไปตรงนั้นกันแน่ นั่นไม่ใช่ทางผ่านของเขาอย่างแน่นอน 

 

 

           “บังเอิญผมนัดกับลูกค้า การไปช่วยเขาเป็นเรื่องบังเอิญ” เอ่ยปากอธิบายเรียบๆ ว่าเขาเจอฉู่เจียเสวียนได้อย่างไร หลับตาลงแสดงให้เห็นว่าเขาไม่ต้องการคุยเรื่องนี้กับฉู่อีอีอีก 

 

 

           เห็นอาการของเผยหนานเจวี๋ยที่ไม่ต้องการพูดอะไรมาก ฉู่อีอีก็รู้สึกไม่สบายใจ มองดูสองตาที่ปิดสนิทของเขา แววตาเผยความเกลียดชัง 

 

 

           คิดถึงสีหน้าเป็นห่วงของเผยหนานเจวี๋ยที่มองฉู่เจียเสวียนคืนนี้ เขาพูดแค่การช่วยเธอเป็นเรื่องบังเอิญ หึหึ การรับมีดแทนเธอก็เป็นเรื่องบังเอิญงั้นเหรอ 

 

 

           คำพูดเช่นนี้ เขาพูดกับเธอได้อย่างไร ทำไมก่อนที่เขาจะพูดถึงไม่คิดเลยสักนิด เขาไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของเธอเลยหรือไง 

 

 

           ตอนนี้เขามีฉู่เจียเสวียนอยู่ในใจแล้วใช่หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเขาจะรับมีดแทนเธอทำไม 

 

 

           “จริงเหรอ คุณแน่ใจเหรอว่าไม่ได้นัดกับพี่สาว” เอ่ยปากสงสัย น้ำเสียงเจือปนด้วยคำถาม สายตาของ 

 

 

ฉู่อีอีที่มองเผยหนานเจวี๋ยเผยให้เห็นความเจ็บปวด 

 

 

           “นี่คุณหมายความว่ายังไง ผมช่วยพี่สาวคุณ คุณควรจะดีใจไม่ใช่เหรอ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยถาม เขาไม่รู้สึกว่าการช่วยฉู่เจียเสวียนเป็นเรื่องผิดปกติอะไร ยิ่งไปกว่านั้น เขาแค่บังเอิญผ่านไปจริงๆ 

 

 

           เมื่อได้ยินคำถามของฉู่อีอี เขาขมวดคิ้วแน่น แววตาเผยความไม่พอใจ การช่วยคนมันผิดตรงไหน เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าฉู่อีอีที่อ่อนโยนน่ารักก่อนหน้านี้ทำไมจู่ๆ ถึงกลายเป็นตึงเครียดขึ้นมา