ตอนที่ 870 ติดค้างคำอธิบาย

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 870  ติดค้างคำอธิบาย

หยางโปถามติดต่อกันหลายคำถาม  ทันใดนั้นลัวย่าวหัวก็พูดไม่ออก  พูดได้เพียงว่า

” ยังไงซะอวี่เหวินก็ตอบตกลงไปแล้ว “

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ หยางโปก็นึกถึงสภาพของอวี่เหวิน อันที่จริงอาการของอวี่เหวินก็โคม่ามาก

เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส สภาพร่างกายภายในทรุดโทรม หากไม่สามารถเติมเต็มได้ทันเวลา

เกรงว่าจะยืนหยัดอยู่ได้ไม่นาน !

มีโสมเขียวเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ได้ถูกหยวนเฉิงเฟยได้มาก่อน และนำหน้าไปหนึ่งก้าวแล้ว  ต่อให้หยางโปอยากได้มันมา  ก็เกรงว่าจะไม่มีทางแล้ว นี่น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมอวี่เหวินถึงยอมตอบตกลงรับเขาเป็นศิษย์ !

หยางโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดว่า ” ฉันเข้าใจแล้ว  นายดูแลตัวเองให้ดี ฉันจะตรวจสอบเรื่องนี้เอง “

” อ้อใช่แล้ว หยวนเฉิงเฟยเข้าไปในห้องของนายก่อนหน้านี้ เหมือนว่าจะถืออะไรบางอย่างเอาไว้  ฉันไปหาดูแต่ไม่รู้ว่าเขาเอาอะไรไปกันแน่ ” ลัวย่าวหัวกล่าว
“ อืม ฉันรู้แล้ว ” หยางโปตอบ

หลังจากวางสายไป หยางโปก็ต่อสายโทรหาอู่อีทันที
” ฉันต้องการคำอธิบาย  โสมเขียวไม่ใช่ว่าถูกส่งมายังประเทศญี่ปุ่นแล้วหรอกเหรอ ? ทำไมตอนนี้มันถึงไปอยู่ในมือของคนอื่นได้ ? ” หยางโปถามอย่างเกรี้ยวกราด

อู่อีตกใจไปชั่วขณะ ” เกิดอะไรขึ้น ? “
รู้สึกว่าเหมือนว่าอู่อีไม่ได้โกหก  หยางโปอธิบายว่า ” หยวนเฉิงเฟยอยู่ที่อเมริกา และได้โสมเขียวไปแล้ว ! “

อู่อีตกใจมาก “ ฉันโกหกนายจริงๆฉันทิ้งโสมเขียวไว้ที่อเมริกา มีเพียงโยชิดะเท่านั้นที่สามารถนำมาได้ ถ้าถูกหยวนเฉิงเฟยนำไป ก็น่าจะเป็นปัญหาของโยชิดะ ! ”
หยางโปขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้ ” ช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้ฉันฟังด้วย ! “

อู่อีไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดปลอบใจไปว่า ” นายอย่ากังวลไป ฉันจะไปถามให้เข้าใจก่อน “

ไม่นาน   อู่อีก็ได้รับคำติชมกลับมา  เธอกล่าวด้วยความเสียใจว่า ” โยชิดะเอาโสมเขียวไปแลกเปลี่ยนกับกระจกเจ็ดสีของหยวนเฉิงเฟย  ตอนนี้เขากำลังคิดจะนำกระจกเจ็ดสีกลับมาประเทศญี่ปุ่นแล้ว “

หยางโปขมวดคิ้ว  ก่อนหน้านี้เขาก็พอเดาสาเหตุออก  แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาและอู่อีจากอเมริกามา แล้วมันจะเป็นการเปิดทางให้ทั้งสองคนนั้น !

เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าหยวนเฉิงเฟยแอบขโมยเอากระจกเจ็ดสีของเขาไปแลกเปลี่ยน หยางโปก็รู้สึกว่าคนผู้นี้มีปัญหา อุปนิสัยแย่มาก ! อวี่เหวินน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน แต่เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว !

” ทางด้านทานิกาวะเป็นยังไงบ้าง ? ” หยางโปถอนหายใจเบาๆ ในเมื่อไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้  เขาก็ไม่อยากที่จะสนในอะไรมาก แค่ทำเรื่องที่อยู่ตรงหน้าให้ดีก็พอ อย่างน้อยก็ต้องได้ของดีๆจากทานิกาวะกลับไปบ้างแล้ว !

“ ตอนนี้ฉันก็เป็นเหมือนกับนาย เป็นเพียงคนนอกเท่านั้น หลังจากที่นายเดินออกมา ฉันก็ถูกไล่ให้ออกมา ” อู่อีกล่าว

หยางโปขมวดคิ้ว ” ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันเถอะ  รอช่วงเย็นค่อยมาคุยกันอีกที ! “
หยางโปต่อสายโทรหา ลัวย่าวหัว บอกเหตุและผลให้เขาฟัง และขอให้เขาเตรียมมาตรการป้องกันจากหยวนเฉิงเฟยด้วย จากนั้นก็เริ่มนั่งสมาธิฝึกฝนตบะต่อ

ผลของการนั่งสมาธิฝึกฝนตบะได้ผลมากหลังจากพลังลมปราณหมดลง พลังลมปราณหลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความรู้สึกชุ่มชื่น หยางโปจึงค่อยๆจมดิ่งอยู่กับการฝึกฝน
……

เมื่อหยางโปเดินออกจากห้องไป เลือดบนศีรษะของทานิกาวะก็ยังคงไหลลงมาจนอาบแก้มของเขา  ซึ่งมันทำให้เขาดูน่ากลัวมาก  นามิอดไม่ได้ที่จะถือผ้าขนหนูเปียกและคิดจะเช็ดทำความสะอาดให้เขา แต่กลับถูกทานิกาวะห้ามเอาไว้

” ในเมื่อคุณหยางไม่ให้เช็ด  ถ้าอย่างนั้นก็รอก่อนก็แล้วกัน ” ทานิกาวะดูอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง

แต่น้ำเสียงของเขาก็ยังคงความน่าเกรงขามเอาไว้อยู่

นามิมองหน้าทานิกาวะ ” การฝังเข็มของเขาได้ผลดีมากเลยใช่ไหม ? ” ทานิกาวะพยักหน้าไม่ได้แต่พูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “ ก่อนหน้านี้ ฉันรู้สึกอยู่ทุกเวลาว่าเนื้องอกในสมองกดทับไปทุกส่วน

จนเคยชินกับอาการปวดหัวไปแล้ว แต่หลังจากเลือดไหลออกมาฉันกลับรู้สึกผ่อนคลายมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ! ”

ทานากะจ้องมองทานิกาวะ ” มันจะมีปัญหาอะไรไหม ? “
ทานิกาวะไม่ตอบเขาและดูเหมือนจะไม่ค่อยพอใจเขาสักเท่าไหร่

ทุกคนล้วนเป็นห่วงทานิกาวะและเข้ามารายล้อมพูดคุยด้วย ก่อนหน้านี้คนที่อยากให้ทานิกาวะตาย เวลานี้จึงไม่กล้าโผล่หน้ามา  เพราะยังไงซะทานิกาวะก็หายป่วยไปแล้วกว่าครึ่ง !

ทานิกาวะชื่นชมหยางโป แต่ไม่ได้แสดงออกมา เขานอนอยู่บนเตียงและหลับไปในไม่ช้า ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนทานิกาวะก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาและเขาก็ได้ยินบทสนทนากันดังมาแว่วๆ

“ กดเขาให้จมน้ำตายไปซะ แบบนี้พวกเราถึงจะได้อยู่ด้วยกัน “
” ไม่ได้  ยังต้องเก็บเขาไว้และปล่อยให้เขาทำงานให้เรา มีเพียงแค่อยู่กับเขาเท่านั้น เขาถึงจะสนับสนุนผมให้ขึ้นมาได้  ผมถึงจะสามารถยึดอำนาจมาได้ ! “
” คุณขี้ขลาดเกินไป ! “

“ ไม่ใช่ว่าฉันขี้ขลาด  แต่คุณกล้ามากเกินไป กล้าที่จะมายั่วฉันในสถานที่แบบนี้ ! ”
ทานิกาวะเพิ่งตื่นขึ้นมา เมื่อได้ยินเสียงแบบนี้ ในเวลานั้นเขาจึงรู้สึกค่อนข้างคุ้นหู แต่ในเวลานี้เขานึกไม่ออก เขายังคงสะลึมสะลือและงุนงง ราวกับว่าเขากำลังฝันอยู่

พอทานิกาวะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว เมื่อส่องกระจกเลือดจำนวนมากที่ไหลลงมาจากบนศีรษะของเขา  เลือดพวกนี้ที่ไหลมาร่วมตัวกันอยู่บนใบหน้า แห้งกรังไปหมดแล้ว

ทำให้ทั้งตัวดูน่ากลัวไม่น้อย

ในห้องเงียบสงบ ดูเหมือนไม่มีคนอยู่
” นามิ ! ” ทานิกาวะตะโกนร้องเรียก แต่ไม่มีใครขานรับ

ในเวลานี้มีเพียงคนรับใช้ชราคนหนึ่งที่วิ่งเข้ามา ” คุณผู้หญิงออกไปข้างนอกสักพัก จึงให้ผมมาดูแทน ” ทานิกาวะพยักหน้า ” ตอนนี้ฉันจะไปอาบน้ำ ไปเรียกคุณหยางและอู่อีเข้ามา “

คนรับใช้ตอบกลับไปว่า ” คุณผู้หญิงเตรียมน้ำไว้ให้แล้ว  ท่านไปอาบน้ำตอนนี้ได้เลย ฉันจะไปเรียนคุณหยางและคุณหนูอู่อีให้รอสักพักแล้วค่อยเข้ามาหา “

ทานิกาวะพยักหน้า จากนั้นเขาจึงเดินเข้าไปในห้องน้ำและแช่ตัวอยู่ในอ่างอาบน้ำ  เขารู้สึกตัวเบาลงหลายกิโลกรัม เหมือนกับว่าเขาได้ถอดเปลือกอันหนักอึ้งออกจากร่างกาย แต่ในระหว่างที่งัวเงียอยู่นั้น   ทานิกาวะก็รู้สึกแปลกใจอยู่เล็กน้อย และมักจะรู้สึกว่าค่อนข้างจะคุ้นชินกับเหตุการณ์นี้

หลังจากอาบน้ำล้างตัวอย่างหมดจด ทานิกาวะก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เขาจัดระเบียบทุกอย่างอย่างเหมาะสม จากนั้นก็รออยู่อีกสักพักก่อนที่เขาจะเห็นหยางโปและอู่อีเดินเข้ามากัน

ทานิกาวะชงชาและเชิญให้หยางโปและอู่อีนั่งลงทีละคน ถึงได้เอ่ยปากขึ้นมาว่า

” ขอบคุณคุณหยางที่ทำการฝังเข็มให้ ผมรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว “

หยางโปพยักหน้าและหันไปมองทานิกาวะ จากนั้น แสงก็สว่างวาบผ่านตาไป เขาสามารถมองเห็นเนื้องอกในสมองของทานิกาที่มีขนาดเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด  วิธีนี้จะมีแรงกดทับเส้นประสาทสมองน้อยมาก นี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทานิกาวะรู้สึกผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด

หยางโปพยักหน้า ” ไม่ต้องเกรงใจ “
” คุณหยาง ผมอยากจะสอบถามหน่อยว่าหลังจากการรักษาครั้งนี้ผ่านพ้นไป เนื้องอกจะสลายหายไปใช่ไหม ? ” ทานิกาวะถาม

หยางโปส่ายหน้า “ มันยังจะไม่หายไป  แค่มันจะเล็กลง ยังต้องรักษาอาการหลายอย่างอยู่ เพื่อให้หายขาด ”

ทานิกาวะพยักหน้า ” ต่อไปคงต้องลำบากคุณหยางแล้ว “
หยางโปเหลือบมองไปที่อู่อี และครุ่นคิดอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวออกมาว่า “ คุณทานิกาวะ เหตุผลที่ผมตอบตกลงมาทำการรักษาให้กับคุณ  เป็นเพราะคุณหนูอู่อี สัญญากับผมไว้แล้วว่าจะให้โสมเขียวกับผมต้นหนึ่ง  แต่ผมเพิ่งได้ข่าวมาว่าโสมเขียวถูกคุณโยชิดะ นำไปแลกเปลี่ยนกับของไปแล้ว ”

ทานิกาวะหันมามองหน้าหยางโป “ เรื่องโสมเขียว ผมรู้โยชิดะได้รายงานให้ผมทราบแล้วเหมือนกัน คุณหยางคุณดูสิว่า สามารถชดเชยสิ่งของชิ้นอื่นให้คุณได้ไหม ? ”