บทที่ 400 เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีผี

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่400 เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีผี
ความทรงจำที่หายไปนานก็ไหลทะลักเข้ามาในสมองของเย่จิ่งหานเหมือนสายน้ำลำธาร

ทุกภาพทุกฉากล้วนแต่เป็นอาการเจ็บปวดของท่านแม่จากการกำเริบของคำสาปเลือด

หัวใจของเย่จิ่งหานเจ็บปวดเหมือนโดนมีดกรีด

ถ้าเป็นไปได้ ทั้งชีวิตนี้เขาไม่อยากนึกถึงภาพที่โหดร้ายแบบนั้นอีกตลอดไป

โหดร้ายมากจริงๆ

บนโลกนี้ไม่มีคำไหนที่สามารถบรรยายความโหดร้ายแบบนั้นได้

ร่างกายเน่าเฟะจากในสู่นอก กระดูกในร่างกายแตกหักออกเป็นชิ้นๆ เสียงดังกร๊อบแกร๊บราวกับว่ากำลังดีดผีผา

คนที่โดนคำสาปเลือด ประมาณยี่สิบวันกระดูกถึงจะเชื่อมต่อกันดี

ยี่สิบวันนี้แทบจะขยับไม่ได้เลย การเชื่อมต่อของกระดูกรู้สึกไม่ต่างจากการแตกร้าวเลย

กว่ากระดูกจะเชื่อมต่อกันดี แล้วก็ถึงวันที่สิบห้าอีกแล้ว ทุกครั้งที่ถึงวันที่สิบห้า ก็เริ่มวนเวียนกลับมาเหมือนเดิม

ผู้หญิงที่โดนคำสาปเลือด ฆ่านางให้ตายยังดีกว่าต้องมาลิ้มลองรสชาติตายทั้งเป็นแบบนี้

เย่จิ่งหานไม่อยากจะเชื่อเลย ถ้ากู้ชูหน่วนโดนคำสาปเลือด ต่อไปนางจะทำยังไง?

เด็กในท้องจะทำยังไง?

คำสาปเลือดสืบทอดทางกรรมพันธุ์ด้วยสิ……

และสืบทอดแน่นอน ไม่เคยมีข้อยกเว้นเลย

ลูกของเขา……ไม่ว่าจะเป็นชายหญิง ก็จะโดนคำสาปเลือดกันหมด

เย่จิ่งหานมองดูกู้ชูหน่วนอย่างตกตะลึง สีหน้าแย่ลงเรื่อยๆ

กู้ชูหน่วนรู้สึกว่ามีสายตาหนึ่งกำลังจ้องมองตัวเองอยู่รางๆ แต่ไม่มีสายตาอาฆาตอะไร

นางลืมตาขึ้น พอลืมตาขึ้นเท่านั้นล่ะ นางก็ลุกขึ้นนั่งอย่างตกใจ รีบดึงผ้าห่มขึ้นมา แล้วพูดอย่างตกตะลึงว่า “เย่จิ่งหาน ดึกดื่นป่านนี้ เจ้าอยากให้ข้าตกใจตายหรือไง?”

เย่จิ่งหานไม่ได้ต่อปากต่อคำกับนาง และไม่ได้โกรธด้วย แค่มองนางด้วยสายตาที่สับสนและเจ็บปวดใจอย่างมาก

กู้ชูหน่วนจับใบหน้าตัวเอง แล้วพูดอย่างสงสัยว่า “สายตาของเจ้าดูน่ากลัวจังนะ เย่จิ่งหาน ข้าไม่ได้ทำเรื่องผิดต่อเจ้าเลยนะ”

“ฟ้ายังไม่สว่าง เจ้านอนต่ออีกหน่อยเถอะ” เย่จิ่งหานพูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

“แล้วเจ้าล่ะ?”

“ข้านอนไม่หลับ จะไปอ่านหนังสือที่ห้องอ่านหนังสือ”

มองดูแผ่นหลังที่เศร้าสลดของเขา กู้ชูหน่วนก็รู้สึกสงสารแปลกๆ

เรื่องอะไรกันนะ ถึงทำให้ร่างกายของเขาแผ่ซ่านไปด้วยกลิ่นอายของความโศกเศร้า

กู้ชูหน่วนเดินไปตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว “เจ้าเป็นอะไรไป? เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”

เย่จิ่งหานยิ้มแล้วแกล้งพูดด้วยท่าทีที่สบายใจ “ไม่มีอะไรหรอก ฟ้าใกล้สว่างแล้ว ข้ามีงานที่จำเป็นต้องจัดการ เดี๋ยวข้ากินข้าวเช้ากับเจ้า ตอนกลางคืนค่อยมานอนพร้อมเจ้า เจ้าเพิ่งนอนได้ไม่นาน นอนอีกหน่อยเถอะนะ ไม่ต้องคิดมาก ข้าจะช่วยเจ้าหาไข่มุกมังกรเอง”

กู้ชูหน่วนขนลุกซู่ไปทั้งตัว

ทำไมเย่จิ่งหานถึงอ่อนโยนกะทันหันแบบนี้

เมื่อมีสิ่งผิดปกติย่อมมีผี เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?

ดูออกว่านางแกล้งท้องเหรอ?

ดังนั้นเลยคิดจะข่มขู่นางว่า ถึงจะหาไข่มุกมังกรเจอก็ไม่มีวันยกให้นาง หรืออาจจะขัดขวางไม่ให้นางหาไข่มุกมังกร?

เขาไม่น่าใช่คนใจแคบแบบนี้นะ

ถึงแม้ปกติเย่จิ่งหานจะใจแคบ เรื่องที่ถูกนางรุกครั้งหนึ่ง ตอนนี้ยังไม่ลืมแถมยังเอามาพูดตลอดอีก

แต่เรื่องไข่มุกมังกรเป็นเรื่องใหญ่ เขารู้เรื่องคำสาปเลือด คงจะไม่แก้แค้นเป็นการส่วนตัวหรอกนะ

ไม่ว่ายังไง กู้ชูหน่วนก็ยิ้มแล้วเชิญเขาออกไป “งานสำคัญกว่า ท่านอ๋องรีบไปทำเถอะ ข้าจะกลับไปนอนดีๆ จะไม่ก่อเรื่องให้ท่านอ๋องแน่นอน”

“อืม……”

กู้ชูหน่วนยิ่งเชื่อฟังมากเท่าไหร่ เย่จิ่งหานก็ยิ่งเจ็บปวดใจมากเท่านั้น

เขาก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว และรีบเรียกรวมตัวหลีโล่ เริ่มการทำงานสำนักรู้ฟ้า

กู้ชูหน่วนพ่นลมหายใจออกไปยาวๆ

ไปแล้วก็ดี นางจะได้ค้นดูในห้องว่ามีม้วนหนังแกะโบราณอยู่หรือเปล่า

ว่าแล้ว กู้ชูหน่วนก็เริ่มค้นบนหัวเตียงรวมไปถึงตรงฉากกั้น

แต่นางค้นทั่วห้องแล้ว ก็ยังหาม้วนหนังแกะโบราณไม่เจออีก

“ให้ตายสิ เย่จิ่งหานเจ้าหมอนี่เอาม้วนหนังแกะโบราณไปซ่อนไว้ที่ไหนกันนะ?”

บทที่399 พบคำสาปเลือด