ตอนที่ 1903

 

ผู้ที่เอ่ยออกมานี้ก็คือเซียงหยุนตงของวิหารแห่งความมืด เขาเป็นยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุด เป็นหนึ่งในผู้นําของกลุ่มลูกศิษย์วิหารแห่งความมืด เป็นบุคคลที่เหมือนดั่งสํานวน หนึ่งคนเรียกหา ร้อยคนขานรับ

 

ในความเป็นจริง กลุ่มลูกศิษย์ของวิหารแห่งความมืดเหล่านี้ได้มาถึงสถานที่แห่งนี้เป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทว่าพวกเขาก็ปกปิดตนเองและมองหาช่องโหว่ของเซี่ยปิงอยู่ ไม่ได้รีบโผล่หัวออกไปเหมือนกับคนอื่นๆ

 

ทว่าในตอนนี้สถานการณ์ก็บีบบังคับให้พวกเขาต้องปรากฏตัวออกมา

 

หากไม่ปรากฏตัวออกมาในตอนนี้ บางที่กลุ่มของยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าเหล่านี้อาจจะตายไปด้วยเสื้อมมือของเจ้าอู๋ตี่ได้ ถูกกวาดล้างภายในคราวเดียว

 

ต่อให้ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่มระดับความอันตรายของเซี่ยปิงขึ้นมาหลายขั้น ทว่าเมื่อได้เห็น A1 ว่าเจ้าเด็กนี่ที่มีความสามารถในการสังหารยอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าจํานวนนับไม่ถ้วนจริงๆ พวกเขาก็เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

 

เดิมที่กลุ่มลูกศิษย์ของวิหารแห่งความมืดเหล่านี้คิดว่านอกจากศูนย์กลางของจักรวาลแล้วนั้น คนอื่นๆเป็นเพียงคนบ้านนอกชนบทเท่านั้น พวกเขาคนเดียวสามารถที่จะรับมือกับคนเหล่านี้ได้เป็นสิบๆคน ดูถูกเหยียดหยามภูมิภาคอื่นๆของจักรวาลอย่างมาก

 

ทว่าเมื่อได้เห็นอู๋ตี่ในตอนนี้ พวกเขาก็ไม่มีความคิดของการดูถูกเหยียดหยามอีก หากไม่ใช่เพราะพวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ บางทีพวกเขาก็อาจจะหลงกลไปแล้วเช่นกัน ตกหลุมพรางของฝ่ายตรงข้าม ไม่สามารถที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้

 

“ตายไปซะ!”

 

ทันใดนั้น เซียงหยุนตงก็เคลื่อนไหวออกไป เขาได้นําดาบสมบัติที่มีความยาวหนึ่งเมตรออกมา ดาบเล่มนี้สร้างขึ้นมาจากกระดูกสีขาว ทันใดนั้นอํานาจบารมีที่น่าสะพรึงกลัวของมันก็ปะทุออกไป สะท้านฟ้าสะท้านสวรรค์ ทําให้ดวงดาวนับไม่ถ้วนสั่นสะเทือน

 

อํานาจบารมีนี้ฉีกผ่านห้วงอวกาศ เหมือนว่าจะสั่นสะเทือนจนค่ายกลรอบๆเกิดรอยแตกร้าวขึ้นมา ใกล้ที่จะพังทลายลง

 

สิ่งประดิษฐ์เซนต์!

 

ทุกๆคนก็ต่างก็ตกตะลึงเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังอํานาจของมันอย่างไม่ต้องสงสัยว่านี่คือสิ่งประดิษฐ์เซนต์ ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์ขั้นต่ํา ทว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลาง!

 

“อู๋ตี่ การที่เจ้าจะได้ตายไปด้วยสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลางดาบกระดูกบรรพกาลนี้ ถือว่าเป็นการตายที่มีเกียรติอย่างมาก” เซียงหยุนตงตะโกนเสียงดังออกไป จากนั้นก็ไหลเวียนพลังเวทมนตร์ทั่วทั้งร่างกายออกมา หลั่งไหลเข้าไปในสิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลางนี้ดาบฟาดฟันออกไป

 

ทันใดนั้นแสงดาบสีขาวก็พุ่งทะลวงออกไป มีความยาวกว่าหลายร้อยล้านกิโลเมตร เหมือนว่าจะผ่าฝืนอวกาศนี้ให้กลายเป็นสองซีก นี่ถือว่าเป็นการโจมตีในระดับเซนต์ก็ว่าได้ มีพลังอํานาจที่สะเทือนน้ําสะเทือนบก

 

ผู้คนต่างก็จ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง พวกเขารู้สึกได้ถึงพลังอํานาจที่แท้จริงของจักรวาลจากดาบเล่มนี้ ต่อหน้าพลังอํานาจเช่นนี้ พวกเขารู้สึกว่าตนเองไม่ได้แตกต่างไปจากมดปลวกเลย จะถูกบดขยี้และเปลี่ยนกลายเป็นผุยผงในระยะเวลาอันสั้น

 

“เจ้าเด็กนั่นไม่มีทางรอด ไม่คาดคิดว่าเพื่อที่จะสังหารเขา วิหารแห่งความมืดจะลงทุนถึงขั้นนําสิ่งประดิษฐ์เซนต์ออกมา ช่างร่ํารวยและเผด็จการเกินไป สมกับที่เป็นหนึ่งในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

 

“ข้าเคยได้ยินชื่อของดาบกระดูกบรรพกาลนี้มาก่อน เหมือนว่าจะหล่อหลอมขึ้นมาจากกระดูกของเดม่อนในระดับเซนต์ แอบแฝงไปด้วยพลังอํานาจชั่วร้ายที่น่าสะพรึงกลัว ดาบที่ฟาดฟันออกไป ดาบพลังฉีสีขาวดุจดั่งหิมะ พื้นที่ในระยะหลายร้อยล้านกิโลเมตรจะต้องเปลี่ยนกลายเป็นอาณาเขตแห่งความตาย เรียกได้ว่านี่เป็นสิ่งประดิษฐ์เซนต์ด้านมืดที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด ไม่คาดคิดว่าตกไปอยู่ในมือของเจ้าเซียงหยุนตงนี้”

 

“สรุปสั้นๆก็คือจุดจบของเจ้าอู๋ตี่มาถึงแล้ว ไม่ว่าเขาจะมีไพ่ตายที่ทรงอํานาจเพียงใดก็เป็นไปไม่ได้ที่จะต่อกรกับเจ้าเซียงหยุนตงที่มีสิ่งประดิษฐ์เซนต์อยู่ในมือ”

 

ผู้คนกําลังพูดคุยกันด้วยอารมณ์ที่ล้นหลาม โดยเฉพาะบรรดายอดฝีมือในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าที่ใกล้จะข้ามผ่านเส้นแบ่งแห่งความตายนั้น พวกเขาต่างก็ดีใจขึ้นมาอย่างเอ่อล้น ตราบใดที่สังหารเจ้าอู๋ตี่นี่ได้และทําลายค่ายกลเหล่านี้ หายนะภายในร่างกายของพวกเขาก็จะไม่ถูกกระตุ้นขึ้นมา

 

นี่ก็เทียบเท่าได้กับการช่วยชีวิตสุนัขของพวกเขาไว้

 

ดาบที่ฟาดฟันออกมา ค่ายกลไหลเวียนดวงดารา ค่ายกลดอกพีชลวงตา รวมถึงค่ายกลลงทัณฑ์สายฟ้าห้าธาตุที่ครอบคลุมอยู่รอบๆก็ถูกบดทําลายไปอย่างกะทันกัน รากฐานของค่ายกลก็เปลี่ยนกลายเป็นผุยผงอย่างสมบูรณ์

 

นี่ก็ทําให้บรรดาผู้ที่อยู่ในระยะรัศมีของค่ายกลเหล่านี้หลุดออกไปได้อย่างกะทันหัน

 

ทว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ มันอยู่ในการคาดการณ์ของเซี่ยปิงเช่นกัน ยังไม่สามารถทําให้แผนการของเขาล้มเหลวได้

 

“วิหารแห่งความมืด ในที่สุดพวกเจ้าก็ปรากฏตัวขึ้นมา การที่เอาแต่หลบๆซ่อนๆเป็นระยะเวลาหนึ่ง ข้าก็คิดว่าพวกเจ้าจะกล้าโผล่หัวออกมาแล้ว เจ้าคิดว่าเพียงแค่สิ่งประดิษฐ์เซนต์ขั้นกลางนี้จะสังหารข้าได้รึ?! ช่างประเมินความสามารถของตนเองสูงเกินไป สาเหตุที่ข้ายังไม่สังหารคนเหล่านี้ก็เป็นเพราะว่าข้ากําลังรอให้พวกเจ้าปรากฏตัวขึ้นมา ค่ายกลทํางาน ดาวเลื่อนดาราคล้อย!”

 

เซี่ยปิงก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ประสานมือเข้าทั้งสองข้างและกระตุ้นพลังอํานาจของค่ายกลสุดท้ายที่ซ่อนอยู่

 

“อะไรกัน? บัดซบเอ๊ย จนถึงตอนนี้ เจ้าชายคนนี้ก็ยังไฟที่ซ่อนอยู่อีกรึ?”

 

ผู้คนต่างก็จ้องมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง ที่นอกตกใจกันอย่างมาก

 

ค่ายกลที่ยิ่งใหญ่ปรากฏขึ้นมา ดวงดาวปกคลุมไปรอบๆ ก่อตัวกลายเป็นค่ายกลดวงดาว ค่ายกลนี้สามารถที่จะเคลื่อนย้ายพลังอํานาจของศัตรูได้ เป็นค่ายกลประเภทป้องกันตัว

 

แสงดาบที่ดาบกระดูกบรรพกาลได้ฟันออกมานั้น ทันใดนั้นก็ถูกพลังอํานาจของดาวเลื่อนดาราคล้อยห่อหุ้มอย่างกะทันหัน ถูกเคลื่อนย้ายออกไปในอีกจุดหนึ่งอย่างกะทันหัน ไม่คาดคิดว่าจะระเบิดเข้าใต้ดินแดนสีเหลืองแห่งนั้น

 

ปัง!

 

ทุกๆคนต่างก็ได้ยินเสียงคาช่า คาช่าที่ดังขึ้นมา เหมือนว่าผืนอวกาศจะแตกออกจากกัน ค่ายกลยับยั้งจํานวนมากที่ประทับตราอยู่ในความว่างเปล่าก็ถูกแสงดาบนี้ผ่าออกจากกันทันที

 

เดิมที่ดินแดนสีเหลืองที่ควบแน่นขึ้นมาจากผืนดินอําพันซึ่งกําลังหลบซ่อนอยู่นั้น ทันใดนั้นพลังอํานาจการอําพรางตัวของมันก็สลายหายไป ปรากฏตัวออกมาต่อหน้าผู้คนอย่างกะทันหัน

 

ในขณะเดียวกันค่ายกลยับยั้งที่ถูกติดตั้งอยู่รอบๆของดินแดนแห่งนี้ก็ล่มสลายลง เปลี่ยนกลายเป็นผุยผง ถูกทําลายล้างไปจนหมดจด ดาบพลังฉีที่ไร้ที่สิ้นสุดก็ปกคลุมไปทั่วอวกาศรอบๆ

 

ต้องพูดว่าดาบกระดูกบรรพกาลนี้ทรงอํานาจอย่างแท้จริง แสงดาบที่ตัดออกไป เป็นการโจมตีที่เหนือยิ่งกว่าขีดจํากัดของระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุด ทําให้ทุกๆคนต้องตกใจกลัว

 

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? เหตุใดจึงมีดินแดนปรากฏขึ้นมาในผืนอวกาศนี้ได้ เหตุใดก่อนหน้านี้พวกเราถึงไม่ค้นพบมัน?” ยอดฝีมือที่ยิ่งใหญ่จํานวนมากก็เห็นดินแดนที่ปรากฏขึ้นมาทันที รู้สึกตกใจอย่างมาก

 

“ข้ารู้แล้ว นี่จะต้องเป็นดินแดนลึกลับที่เซนต์เทวลิขิตได้แอบซ่อนเอาไว้ ข้างในจะต้องมีสมบัติที่ล้ําค่าอย่างยิ่ง บางทีอาจจะมีเม็ดยาแห่งโชคชะตาอยู่เช่นกัน” บางคนที่ตะโกนออกมา

 

ผู้คนก็มีสายตาเป็นประกายกันทันที รู้สึกดีใจขึ้นมา ดินแดนที่เซนต์เทวลิขิตได้แอบซ่อนเอาไว้ ในพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศีนั้น ไม่ต้องสงสัยว่ามันจะต้องมีสมบัติที่ล้ําค่าระดับสุดยอดซ่อนอยู่อย่างแน่นอน

 

เพราะถึงอย่างไรภายในพื้นที่ของแผนผังโชคชะตาราศีก็มีดินแดนอยู่เป็นจํานวนมาก ซึ่งดินแดนอื่นๆไม่ได้หลบซ่อนตัวอยู่ ทว่าดินแดนแห่งนี้กลับหลบซ่อนตนเองไว้ นั่นแสดงให้เห็นว่ามันจะต้องมีความลับที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่เป็นแน่

 

ต่อให้พวกเขาจะใช้หัวเข่าคิด ก็ยังรู้ได้ถึงจุดๆนี้

 

หากมีเม็ดยาแห่งโชคชะตาอยู่ในดินแดนผืนนี้ ต่อให้จะต้องตาย พวกเขาก็จะต้องปล้นชิงมันมาให้ได้

 

“เดี๋ยวก่อนบัดซบ ดินแดนแห่งนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติ ภายในแอบแฝงไปด้วยพลังชั่วร้ายที่เข้มข้นอย่างถึงที่สุด รวมถึงพลังฉีเดม่อนที่อุดมสมบูรณ์และน่าสะพรึงกลัวอย่างยิ่ง หรือว่าจะมีเดม่อนที่ทรงอํานาจจํานวนมหาศาลที่ถูกปิดผนึกอยู่ในดินแดนแห่งนี้?!”

 

ผู้อาวุโสของเผ่าพันธุ์เทวดาเอ่ยขึ้นมา ในฐานะเทวดา แน่นอนว่าเขาย่อมต้องมีประสาทสัมผัสที่ไวต่อออร่าของเดม่อน ดังนั้นจึงสัมผัสได้ถึงความอันตรายที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของดินแดนแห่งนี้ได้อย่างกะทันหัน

 

“ถูกต้องแล้ว ภายในดินแดนแห่งนี้มีเดม่อนในระดับลงทัณฑ์สายฟ้าขั้นสูงสุดจํานวนมากที่ถูกกักขังไว้ เวรเอ๊ย อันที่จริงเจ้าอู๋ตี่คิดจะทําอะไรกัน เหตุใดจึงต้องการปลดปล่อยเดม่อนเหล่านี้ออกมา จุดประสงค์ของเขาคืออะไรกันแน่?”

 

พระผู้อาวุโสคนหนึ่งก็กัดฟันอย่างแน่น

 

เขารู้ได้ทันทีว่านี้จะต้องเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเจ้าอู๋ตี่ ต้องการใช้ความช่วยเหลือของพวกเขาในการทําลายค่ายกลยับยั้งของดินแดนแห่งนี้และปลดปล่อยพวกเดม่อนออกมาจากผนึก

 

“ล่าถอย ล่าถอยโดยเร็ว กลุ่มเดม่อนในดินแดนแห่งนั้นกําลังจะออกมา รีบล่าถอยไปเร็ว เดม่อนเหล่านี้ทรงอํานาจเกินไป แตกต่างจากพวกเดม่อนขยะที่ผ่านๆมา นี่คือเดม่อนที่ยิ่งใหญ่ที่แท้จริง มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นเซนต์เดม่อน”

 

เซียงหยุนตงก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างมาก เอ่ยเตือนทุกๆคนอย่างกะทันหัน

 

“อู๋ตี่ เจ้าบัดซบ คุณความงามที่ไม่เคยทํา เอาแต่ก่อกรรมทําชั่วอย่างเดียว สุดท้ายแล้วเจ้าต้องการที่จะสังหารพวกเรามากเพียงใดกันถึงต้องลงทุนทําถึงขั้นนี้?!” กลุ่มของผู้คนก็หวาดกลัวจนเจียนตาย มีสีหน้าที่ซีดเซียว พวกเขาก็รู้สึกจงเกลียดจงชังเชี่ยปิงอย่างมาก

 

ก่อนหน้านี้พวกเขาก็แยกตัวออกมาจากถ้ําเสือได้แล้ว ทว่าตอนนี้กลับเข้ามาในรังหมาป่าอีก นี่มันช่างเป็นความเคราะห์ร้ายของแปดชาติจริงๆ!