บทที่ 350 เขาบอกว่า เขาจะไม่มีลูกอีก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 350 เขาบอกว่า เขาจะไม่มีลูกอีก
“จะดื่มอะไร?”

“แล้วแต่ คุณธนาตย์พูดเป้าหมายที่เรียกผมมาได้เลย คงไม่ใช่จะขอค่ารักษาพยาบาลหลานสาวของคุณหรอกนะ”

ผู้ชายนั่งไขว่ห้าง ใบหน้าหล่อมีแสงอาทิตย์สีทองขับเน้นให้ยิ่งดูสะกดตามากขึ้น เขากวาดสายตามองเส้นหมี่ปราดหนึ่ง

ทันใดนั้นเขาก็ถามหนึ่งประโยค

เส้นหมี่กำลังดื่มน้ำมะนาว ได้ยินดังนั้นก็แข็งทื่อ

ค่ารักษาพยาบาล?

ใครกล้าเรียกร้อง?

“ไม่ใช่แน่นอน ที่นัดคุณมา เพราะอยากคุยเรื่องเด็กๆทั้งสองคนหน่อย ท่านประธานแสนรักก็รู้ว่า ตอนนี้ไม่มีตระกูลวชิรนันท์ แต่หลานสาวของผมก็ไม่ใช่คนไร้ที่พึ่ง ผมเป็นลุงเธอ ดังนั้นวันนี้เลยอยากถามท่านประธานแสนรักว่า จะจัดการเรื่องเด็กๆทั้งสองคนยังไง”

ธนาตย์พูดเนิบๆ ส่งกาแฟที่บริกรยกมาให้แสนรัก

เส้นหมี่ชะงักงัน!

นี่…นี่คือคุณลุงที่เธอรู้จักเหรอ?

ท่าน…ท่านจองหองเพียงนี้เชียวหรือ?ทั้งยังทำเพื่อปกป้องเธอด้วย?

เส้นหมี่รู้สึกมีบางสิ่งถาโถมเข้าสู่กลางใจ ดวงตาเธอเริ่มแดงเล็กน้อย

“ลูก?”

แลดูแสนรักเฉยเมยมาก“จัดการยังไง?ลูกของผม ทำไมต้องจัดการด้วย?”

ธนาตย์คลี่ยิ้ม“แต่ท่านประธานอย่าลืมนะว่า เด็กๆก็เป็นลูกของหลานสาวผมด้วย ถึงต้องขึ้นศาลและตระกูลหิรัญชาจะร่ำรวยเพียงใด แต่ก็ไม่ค่อยได้เปรียบ แล้วทำไมคุณต้องทำแบบนี้ด้วย?”

ผู้ใหญ่ จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะกว่า

สีหน้าแสนรักมืดครึ้มทันที

ส่วนเส้นหมี่เห็นแล้วก็เผยความรื่นรมย์ใจขึ้นมา ดวงตาสว่างไสวขึ้นหลายระดับ

เธอนึกไม่ถึงเลยว่าคุณลุงจะเก่งขนาดนี้

“คุณคิดว่า เพื่อสิ่งเหล่านี้ ผมจะทอดทิ้งสายเลือดของตัวเองหรอกหรือ?”

สุดท้ายผู้ชายก็เผยความโกรธออกมา จ้องคนแก่ด้วยแววตามืดครึ้ม เอ่ยประโยคเย็นเยียบออกมา

พึ่งสิ้นเสียงึ เส้นหมี่ก็อดใจแย่งพูดไม่ได้“คุณโกหก คุณไม่อยากได้พวกเขาแล้วเห็นๆ ทำไมยังยกตัวเองขึ้นสูงขนาดนี้อีก?คุณก็แค่ไม่อยากมอบลูกให้ฉันเท่านั้นเอง?”

“คุณบ้าหรือเปล่า? ผมเคยพูดตอนไหนว่าไม่อยากได้พวกเขา”

“ถ้าคุณยังเอาพวกเขาอยู่ คุณจะปล่อยให้แครอททารุณคิวคิวเหรอ? ยังมีอีก ต่อไปคุณแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแล้วคิดจะย้ายไปอยู่ที่เรือนหอใหม่ ทิ้งลูกๆทั้งสองคนไว้ที่เรืองรองอย่างไม่ใส่ใจ คุณยังมีหน้าบอกว่าเอาพวกเขาอยู่เหรอ?”

เส้นหมี่รู้สึกโกรธจัด อ้าปากพูดสิ่งที่เธอพบเห็นช่วงนี้ออกมา

บรรยากาศกลายเป็นเงียบกริบทันควัน

มันเป็นข้อมูลที่เธอเสาะหาได้ในช่วงนี้จริง

ทว่าสิ่งที่ทำให้ประหลาดใจก็คือ เธอพูดจบ ผู้ชายที่กำลังถกเถียงกับเธอจ้องเธอราวกับคนวิปลาส

ดังนั้น อันนี้คือสาเหตุที่เธอโวยวายช่วงนี้?

“ใครบอกคุณว่าคิวคิวถูกทารุณ?”

“หรือว่าไม่ใช่? เขาถูกตีจนจมูกบวมเขียวอย่างนั้น ฟันก็หักด้วย คุณยังคิดปฏิเสธอีกเหรอ?” เส้นหมี่รู้สึกปวดร้าวเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ดวงตาแดงก่ำ

ธนาตย์ได้ยินคำนี้ก็เริ่มคล้อยตามอีกแรง“ใช่ เด็กๆมาหาฉันด้วยตัวเอง มันจะไม่ใช่เรื่องจริงได้ไง?”

อะไรนะ?

เด็กๆไปหาถึงที่เชียวหรือ?

แสนรักรู้สึกโกรธ กำมือจนเกิดเสียงกร๊อบแกร๊บ ไอ้ลูกพวกนี้นี่ กลับไปเขาจะสั่งสอนให้หลาบจำเลย!

“ไม่ใช่ความจริงแน่นอน เขาหกล้มเอง พวกคุณไม่เชื่อก็ไปถามพี่ภาที่เรืองรองได้”

“……”

“พี่ภา” เมื่อได้ยินชื่อนี้ เส้นหมี่กับผู้เป็นลุงก็จุกจนไปต่อไม่เป็น

เพราะทุกคนในเรืองรองหลอกพวกเขาได้ แต่มีเพียงพี่ภาที่ไม่เคยหลอกเธอมาก่อน

“แล้วใครบอกพวกคุณว่า ผมกับแครอทแต่งงานกันแล้วจะไปอยู่ที่เรือนหอใหม่?ผมกับเธอแค่หมั้นกัน ไม่ได้แต่งงานกัน อีกอย่าง กุหลาบสีรุ้งที่คุณได้ยินเป็นเพียงทรัพย์สินของตระกูลลัดดาวัลย์ เกี่ยวอะไรกับผม”

แสนรักกวาดสายตามองเส้นหมี่กะทันหัน

เส้นหมี่“……”

ไม่ทันระวัง เธอก็เหมือนโจรที่ถูกจับได้ ใบหน้าเธอแดงระเรื่อในหนึ่งวินาที เธอรีบละสายตาไปที่อื่นทันทีทันใด

เขายังไม่วายบอกว่าเธอได้ยินชื่อ“กุหลาบสีรุ้ง”?!!

เช่นนั้น วันนั้นเขาแอบเข้าไปในเรืองรอง เขารู้ดีทุกอย่างสินะ

เส้นหมี่รู้สึกเสียหน้าอย่างยิ่งยวด

ธนาตย์คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายแล้วจะกลายเป็นเช่นนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าท่านจะตัดสินใจมาช่วยหลานสาวผู้ซึ่งไม่เอาไหน

สุดท้ายคือ การมาของเขากลายเป็นเรื่องตลกในสามโลก

“ดี ในเมื่อรู้แล้วว่าไม่ใช่แบบนั้น งั้นพวกเราก็สบายใจ ท่านประธานแสนรัก ฉันหวังว่าคุณจะไม่เข้าใจผิด ที่พวกเราทำแบบนี้ก็เป็นเพราะเป็นห่วงเด็กๆเท่านั้น”

เพื่อหน้าตา ธนาตย์ก็ข่มอารมณ์โมโหของตน เอ่ยประโยคพิธีรีตองขึ้นมา

แสนรักจะถือสาท่านได้อย่างไร?

เขายิ้มเจือจาง เอียงหน้าไปด้านซ้าย มองผู้หญิงที่ไม่กล้าเงยหน้า ริมฝีปากบางเอ่ยขึ้นมาว่า“แน่นอน คุณวางใจได้ ลูกของผม ไม่มีใครดูแลได้ดีเท่าผมอยู่แล้ว”