CLS ตอนที่ 335: ชุดเกราะมังกรมารที่อหังการ!
ค่าความชั่ว 100,000 แต้ม ในที่สุดเขาก็สะสมจนครบจนได้ กว่าจะเก็บมาได้ขนาดนี้ถือว่ายากมาก หากว่าเหยียบมดแมลงแล้วได้ค่าความชั่วมาล่ะก็ ป่านนี้เขาคงมีค่าความชั่วพอไปนานแล้ว อย่าว่าแต่ 100,000 แต้มเลย ต่อให้เป็น 1 ล้านแต้มก็ไม่ใช่ปัญหา
อี้เทียนหยุนรีบเปิดร้านค้าแห่งบาปอย่างรวดเร็ว บนนั้นแน่นอนว่าย่อมเป็นอุปกรณ์สวมใส่สองชุดเหมือนก่อนหน้า ไม่มีมาเพิ่มแต่อย่างใด และก็ไม่รู้ด้วยว่าจะสามารถทำให้ชุดใหม่เพิ่มเข้ามาได้ยังไง
ชุดมังกรมาร : จำเป็นต้องมีเลเวล 30, หลังจากสวมใส่ จะทำให้กลายร่างเป็นมังกรมารขนาด 100 เมตรได้ระยะเวลาหนึ่ง, ช่วยเพิ่มพลังให้ 10 เท่า, พลังป้องกัน 20 เท่า, ทั้งยังมีส่วนช่วยต่อทักษะที่เกี่ยวกับการบินและกลืนกิน, ราคา 100,000 ค่าความชั่ว!
ชุดปรมาจารย์กระบี่ : ต้องการเลเวล 30, หลังจากสวมใส่ จะทำให้สามารถควบคุมค่ายกลกระบี่ได้ระยะเวลาหนึ่ง, ในระยะสิบลี้ จะมีกระบี่ปรากฏขึ้นรอบๆ ซึ่งกระบี่เหล่านี้ล้วนแต่เป็นศาสตราจิตวิญญาณขั้นสูงด้วยกันทั้งหมด, สามารถควบคุมกระบี่เหล่านี้โจมตีเข้าใส่ศัตรูด้วยตัวเองได้, จำนวนกระบี่ทั้งหมดมากกว่าหนึ่งหมื่นเล่ม, สามารถใช้ทักษะควบคุมกระบี่สำหรับบินได้, ราคา 100,000 ค่าความชั่ว!
ชุดเซ็ตระดับสุดยอดทั้งสองชุดนี้ไม่รู้ว่าควรจะเลือกอันไหนดี ถ้าในด้านควบคุมศัตรู ย่อมต้องเลือกชุดปรมาจารย์กระบี่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่หากเป็นการปะทะกับศัตรูแล้วล่ะก็ ย่อมต้องเป็นชุดมังกรมารอย่างไม่ต้องสงสัยเช่นกัน!
“แลกเปลี่ยนชุดมังกรมาร!”
“ติ๊ง ทำการตัดค่าความชั่ว 100,000 แต้ม, ท่านแลกเปลี่ยนชุดมังกรมารสำเร็จ!”
จากนั้น ชุดมังกรมารก็มาอยู่ในช่องเก็บไอเทมของเขา มองดูแล้วมันคล้ายกับชุดสีดำชิ้นหนึ่ง ดูแล้วเหมือนมีกลิ่นอายชั่วร้ายโชยออกมา ทั้งยังมากไปด้วยความอหังการ
“นี่ก็คือชุดมังกรมาร ดีมาก!” อี้เทียนหยุนตาเป็นประกาย แม้ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับเลเวล 30 แต่เอฟเฟ็กของมันน่ากลัวว่าจะเทียบได้กับอุปกรณ์ระดับสวรรค์เลยทีเดียว แน่นอนว่านี่เป็นแค่ส่วนของชุดเท่านั้น ไม่ได้รวมอาวุธเข้าไปด้วย!
หมายความว่าเขายังสามารถสวมใส่อาวุธเพิ่มเข้าไปได้ เมื่อเป็นอย่างนั้น พลังของเขาก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีก
“เจ้าโง่ หยุนดิ้นรนได้แล้ว ยอมให้ข้าฆ่าทิ้งซะดีๆ!”
เมื่อขุนพลมังกรเห็นอี้เทียนหยุนไม่ส่งเสียง เขาก็พลันหัวเราะออกมา พร้อมกับยกหอกในมือแทงออกไปอย่างดุร้าย แสงสีแดงพลันถูกยิงออกไป หวังจะทะลุร่างของเขา
และเมื่อมังกรแดงที่อยู่ใกล้ๆ เห็นภาพนี้ มันก็พยายามลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว หวังจะบินไปช่วยอี้เทียนหยุนรับหอกนี้ กระทั่งเย่ชิงเสวียนที่ซ่อนตัวอยู่ก็ยังอดไม่ไหวต้องร้องตะโกนออกมา เธอคิดว่าอี้เทียนหยุนต้องทำอะไรสักอย่างแน่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาแต่ยืนนิ่งโดยที่ไม่ทำอะไร!
“สวมใส่ชุดมังกรมาร!”
และวินาทีถัดมา ชุดมังกรมารก็พลันสวมลงบนร่างของเขา พร้อมกับมีแสงสีดำสว่างวาบขึ้นมายามเมื่อมันสวมลงบนร่างเขา และบนนั้นก็ปรากฏเกล็ดมังกรดำขึ้นชั้นหนึ่ง และนี่ไม่ใช่เกล็ดมังกรปลอมแต่อย่างใด แต่เป็นเกล็ดมังกรมารตัวจริงเสียงจริง ตั้งแต่หัวจรดเท้า ล้วนแต่ถูกปกคลุมไปด้วยชุดเกราะหนา 1 ชั้น กระชับเข้ากับร่าง แสดงเค้าโครงความแข็งแกร่งด้านกายภาพของเขาได้เป็นอย่างดี
พร้อมกันนั้น ก็ได้มีบรรยากาศสีดำทะมึนลอยออกมา กระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ทำการกัดกร่อนสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบๆ เหตุผลที่เรียกมันว่ามังกรมารก็เพราะว่ามันชั่วร้าย เพียงแค่กลิ่นอายที่ปล่อยออกมาก็ทำให้สภาพแวดล้อมรอบๆ ผุพังได้แล้ว
ถ้าพวกที่มีระดับต่ำถูกกลิ่นอายชั่วร้ายนี้ปกคลุมเข้าล่ะก็ จะต้องได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน
และในตอนนี้เอง หอกมังกรแดงก็ได้บุกทะลวงเข้ามาถึงตรงหน้าของเขา เขาทำการยกมือขึ้นคว้าปลายหอกเอาไว้ “หมับ” เสียงปะทะดังออกมา อี้เทียนหยุนถูกกระแทกให้ถอยไป แต่ว่าหอกกลับไม่สามารถแทงเข้าไปในร่างเขาได้แม้แต่น้อย ถูกรับเอาไว้ได้ก่อนที่จะถึงร่างด้วยซ้ำ
แต่ว่าแรงปะทะก็ยังคงแรงมากอยู่ดี ทำให้เขาต้านทานไม่ไหวจนกระเด็นออกมา จนสุดท้ายก็ชนเข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่ง “ปัง” เขาชนเข้ากับต้นไม้ แต่ว่าตัวเขากลับไม่เป็นอะไร ยังคงจับปลายหอกไว้แน่น พร้อมกับทำการหยุดแรงปะทะที่มีลง
“เป็นไปได้ยังไงกัน…..” ขุนพลมังกรที่เห็นสภาพของอี้เทียนหยุนก็ได้แต่ตกตะลึง อยู่ๆ ก็มีชุดเกราะมาสวมลงบนร่างของเขา ยิ่งกว่านั้นยังสามารถรับการโจมตีของเขาเอาไว้ได้!
“เอามานี้!” อี้เทียนหยุนทำการกระชากหอกมา พร้อมกับปักมันลงกับพื้นอย่างแรง
“ตูม!”
ด้วยพลังที่ป่าเถื่อน เขาทำการปักหอกลงกับพื้นของเขา ทำให้เกิดเป็นหลุมยักษ์ พร้อมกับใยแมงมุมที่แตกกระจายไปตามพื้น ในจังหวะที่เขาปักหอกลงกับพื้นนี้ ขุนพลมังกรก็ได้แค่นเสียง พร้อมกับกระอักเลือดออกมา พลังที่เขาใช้กระชากหอกมานี้แข็งแกร่งมาก มันเป็นพลังที่เพิ่มขึ้นมา 20 เท่า แล้วอย่างนี้จะไม่ให้ร้ายกาจได้ยังไง!
ในเวลานี้ เขาที่อยู่ภายใต้โหมดคลั่งหมวดพลังโจมตี ทำให้พลังรบในปัจจุบันของเขาพุ่งขึ้นไปถึง 43 ล้าน และนี่ยังไม่นับรวมการระเบิดพลังอื่นๆ ด้วยซ้ำ เป็นเพียงแค่พลังกายของเขาล้วนๆ ไม่ได้มีวิชายุทธ์หรือพลังอย่างอื่นเข้าร่วมแต่อย่างใด
เพิ่มพลัง 20 เท่านี้เป็นอะไรที่ท้าทายสวรรค์อย่างมาก ทั้งยังรวมกับโหมดคลั่งที่เพิ่มพลังให้อีก 8 เท่า จึงทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นขั้นใหญ่ กลายเป็น 43 ล้านอย่างที่เห็น เมื่อเทียบกับพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของขุนพลมังกรนี้แล้ว ย่อมต้องแข็งแกร่งกว่า
การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของขุนพลมังกรก็คือการโจมตีที่ใช้ร่วมกับจิตวิญญาณเที่ยงแท้ เป็นการโจมตีที่ใช้ออกด้วยร่างมังกรสองตัว ทำให้พลังรบของเขาอยู่ที่ประมาณ 41 ล้าน ในขณะที่อี้เทียนหยุนใช้มือเปล่าก็ยังแข็งแกร่งกว่าขุนพลมังกรที่ใช้ออกมาด้วยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งนี้ล้วนแต่เป็นเพราะความสำคัญของอุปกรณ์สวมใส่
ความแตกต่างระหว่างอุปกรณ์สวมใส่สามารถสร้างความต่างที่มหาศาลอย่างที่เห็น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชุดเกราะมังกรมารนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าอุปกรณ์ระดับสวรรค์แม้แต่น้อย แต่ถ้าพูดถึงเรื่องเอฟเฟ็กแล้วล่ะก็ แน่นอนว่าย่อมด้อยกว่าอี้เทียนหยุน
“ตายซะ!”
ขุนพลมังกรระเบิดความโกรธออกมา หวังจะแย่งหอกมังกรแดงกลับมา แล้วโจมตีเข้าใส่อี้เทียนหยุน แต่ไม่ว่าเขาจะดึงยังไงก็ไร้ผล
“อะไรกัน ลืมกินข้าวมาหรือไง?” อี้เทียนหยุนแสยะยิ้ม พร้อมกับพูดดูถูกออกไป
หลังจากที่พลังของเขาเพิ่มขึ้น มันก็ได้เหนือกว่าขุนพลมังกรไปแล้ว ดังนั้น การที่คิดจะเล่นสงครามชักเย่อกับเขา นั่นเท่ากับเป็นการหาที่ตาย
“ทำไมกัน ทำไมพลังเจ้าถึงได้มากขนาดนี้…. แล้วนี่มันชุดเกราะอะไร?” ขุนพลมังกรรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ เมื่อกี้นี้เขารู้สึกว่าไม่ถูกต้อง แต่จะผิดตรงไหนนั้นเขาก็บอกไม่ได้เหมือนกัน
แม้ว่าจะบอกไม่ได้ แต่ก็พอจะดูออก พลังที่ท้าทายสวรรค์ขนาดนี้ เมื่อเทียบกันแล้วแข็งแกร่งกว่าตัวเขาอีก!
“เรื่องนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้”
อี้เทียนหยุนรวบหมัดต่อยออกไป เมื่อหมัดที่อหังการนี้ถูกต่อยออกไป รอบๆ หมัดก็ปรากฏลมหมุนขึ้น กระทั่งบรรยากาศรอบๆ ยังสั่นสะเทือน แสดงให้เห็นถึงความร้ายกาจของหมัดนี้ ที่แข็งแกร่งกระทั่งเขย่าคลอนอากาศรอบๆ ได้
ขุนพลมังกรรีบปล่อยมือที่จับหอกในทันที พร้อมกับฟาดฝ่ามือเพื่อยืมแรงหนี เขาจะไปกล้ารับหมัดนี้ตรงๆ ได้ยังไงกัน
“เปรี้ยง!”
เมื่อหมัดนี้กระทบถูก ร่างของขุนพลมังกรก็ถูกซัดกระเด็น จนไปชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่ หลังจากกระแทกต้นไม้หักไปหลายต้นติดกัน ในที่สุดเขาก็หยุดได้สักที ยังไงก็ตาม ขุนพลมังกรที่ถูกซัดปลิวก็ได้รีบลุกขึ้น พร้อมกับร่างที่สั่นเบาๆ โดยเฉพาะตรงแขนที่ใช้รับหมัดนั้น มันมีเลือดไหลอาบ ทั้งยังไม่สามารถยกขึ้นได้
เมื่อต้องปะทะกับหมัดที่อหังการ แขนของเขาก็บาดเจ็บหนัก กลัวว่ากล้ามเนื้อจะฉีกขาดด้วยซ้ำ
“นี่ นี่มันพลังอะไรกัน…..” ขุนพลมังกรที่แขนยังสั่นไม่หยุด พูดด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
ตามจริงตัวเขาถือว่าเป็นคนอหังการคนหนึ่ง มาตอนนี้กลับต้องกลายมาเป็นฝ่ายที่ถูกบดขยี้เข้าเสียเอง
“ทำไม ลืมกินข้าวมาเหรอ แค่รับหมัดข้าเข้าไปถึงกับตัวอ่อน แข็งแกร่งนักไม่ใช่เหรอ?” อี้เทียนหยุนเดินเข้าไปทีละก้าว แต่ละก้าวที่เดินต่างก็ทิ้งรอยเท้าสีดำทะมึนไว้ที่พื้น!