ตอนที่ 745 พลังแห่งร่างเซียนอสูร

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 745 พลังแห่งร่างเซียนอสูร
เย่ว์โยวพิโรธ นางถึงขั้นขนาดแทบพ่นอัคคีเพลิงจากดวงตา น้ำเสียง
เย็นเยียบของนางกล่าวคำ “ฉินหยุน ข้าสามารถขยี้เจ้าจนตายตกได้
ทุกเมื่อ! ด้วยกำลังเจ้า มันไม่ต่างอะไรกับมดปลวกเมื่ออยู่ต่อหน้า
ข้า!”
ฉินหยุนหัวเราะกล่าว “เจ้าอยู่มานานนับหมื่นปี เป็นปกติที่จะมีกำลัง
เช่นนั้น! แต่แล้วมันใช้ทำอะไรได้? ไม่ใช่ว่าเจ้าไร้ความสามารถจน
ไม่อาจได้รับจันทราทมิฬหรือไร?”
เย่ว์โยวคิดอยากตบหน้าอีกฝ่าย กระนั้นนางได้แต่ต้องกล้ำกลืน
“ฉินหยุน จงรับการทดสอบ หากเจ้าเป็นขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ระดับสูงจริง ข้าจะยอมพูดคุยกับเจ้าด้วยดี!” เย่ว์โยวกล่าวคำ “เจ้าคือ
ผู้ที่ต้องการแต่ผลประโยชน์หรือไม่ใช่? ไม่อยากได้รับของดีหรือ?
ข้าย่อมมีของดีมากมายที่นี่!”
ฉินหยุนเองย่อมได้ทราบจากก่อนหน้า ว่าทั้งซานเย่ว์และซื่อเย่ว์ ต่าง
ได้รับเม็ดยาลึกล้ำจันทราทมิฬไปไม่ใช่น้อย แม้เขาไม่ทราบว่ามัน
สามารถทำอันใด แต่อย่างน้อยมันก็ต้องมีประโยชน์อย่างมากล้ำ
เย่ว์โยวเวลานี้เพียงต้องการโอกาส เพื่อให้ศิษย์ที่นางฟูมฟักมาได้ชัย
ชนะ
และหลังจากฉินหยุนได้ฝึกฝนร่างเซียนอสูร คิดต่อสู้กับขอบเขต
วรยุทธ์ลึกล้ำ สำหรับเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่แต่อย่างใด
ครุ่นคิดถี่ถ้วนแล้ว ฉินหยุนจึงยอมวางมือที่ไข่มุก
ไข่มุกเริ่มส่องสว่างฉายลำแสงออกมา จากนั้นจึงเริ่มกระพริบ
ผ่านไปครู่ เย่ว์โยวเอ่ยคำอย่างไม่อาจนึกเชื่อ “ตัวบัดซบนี้อยู่ขอบเขต
วรยุทธ์วิญญาณระดับสูงจริง! ทั้งยังไม่ได้ฝึกฝนผลึกแก้วเต๋าวิญญาณ
ลึกล้ำ!”
ฉินหยุนเบะปากกล่าวคำ “คราวนี้เจ้าคงได้ทราบแล้ว ว่าพวกมันที่เจ้า
เลี้ยงดูมาเป็นสวะเช่นไร!”
“เจ้า…” เอ้อเย่ว์กราดเกรี้ยว เขาคิดอยากต่อสู้กับฉินหยุนเสียเดี๋ยวนี้
กระนั้น เขาคือขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำ ต่อให้เอาชนะฉินหยุนได้ นั่น
จะไม่มีเกียรติใด ดังนั้นเขาจึงได้ต้องสูดลมหายใจเข้าลึก
เย่ว์โยวมองทางฉินหยุนพร้อมแค่นเสียง “เจ้าต้องการอันใดจงพูด
กล่าวออกมา! เมื่อใดเจ้าเอาชนะเอ้อเย่ว์ เจ้าจะได้มันไป!”
“ข้าต้องการสิ่งที่จะช่วยให้ข้าฝึกฝนผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำอย่าง
รวดเร็ว เจ้ามีมันหรือไม่?” ฉินหยุนไม่คิดเผยมารยาทใดในที่แห่งนี้
“ย่อมมี! ข้าจะให้หยกผลึกแก้วเต๋าและผลึกแก้วหัวใจลึกล้ำแก่เจ้า
อย่างละหนึ่งร้อยจิน! นั่นจะเพียงพอให้เจ้าได้ฝึกฝนผลึกแก้วเต๋า
วิญญาณลึกล้ำ!” คำกล่าวของเย่ว์โยว ทำเอาหลายคนที่นี้ต้องอุทาน
อย่างนับถือ
หยกผลึกแก้วเต๋า และผลึกแก้วหัวใจลึกล้ำ กระทั่งว่าน้ำหนักเพียง
หนึ่งจิน ก็กล่าวได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าแล้ว!
“ข้าต้องการอย่างละหนึ่งพันจิน!” ฉินหยุนเผยยิ้มกล่าว
ด้วยร่างกายของเขา หนึ่งร้อยจินไม่มีทางเพียงพอ
“อย่าได้ให้มันมากเกินไปนัก!” เอ้อเย่ว์ตะโกน
“เหตุใดเจ้ากังวลกันเล่า? หรือจะเป็นเจ้าคิดว่าตนเองต้องพ่ายแพ้
แน่นอนแล้ว?” ฉินหยุนกล่าวไปพลางหัวเราะดัง
“ฉินหยุน! หยกผลึกแก้วเต๋าและผลึกแก้วหัวใจลึกล้ำเพียงสามสิบจิน
มันก็เพียงพอให้ใช้ฝึกฝนผลึกแก้วเต๋าวิญญาณลึกล้ำแล้ว! จำนวนที่
ข้ามอบให้แก่เจ้า นับว่ามากกว่าผู้คนทั่วไปถึงสามหรือสี่เท่า!” เย่ว์โยว
กล่าวเสียงเย็น
สามถึงสี่เท่าของคนธรรมดา นั่นไม่อาจเพียงพอให้ฉินหยุนได้ใช้งาน
ฉินหยุนยิ้มกล่าว “อย่างไรเจ้าก็มั่นใจในตัวเอ้อเย่ว์เพียงนั้น แม้สัญญา
ต่อข้าสักหนึ่งพันจิน หากข้าไม่อาจนำมันมาได้ เจ้าก็หาได้ต้องเสีย
มันสักครึ่งเหลี่ยงด้วยซ้ำ!”
“ได้ ตามที่เจ้าว่า!” เย่ว์โยวหรี่ดวงตาลงเล็กพร้อมแค่นเสียง “หากเจ้า
บาดเจ็บสาหัสเพราะศึกนี้ ก็อย่าได้กล่าวโทษพวกเรา!”
“ข้าเพียงกลัวว่าเจ้าจะไม่รักษาคำพูด!” ฉินหยุนกล่าว
เย่ว์โยวนำเอาถุงออกมาสองใบ ส่งมอบมันให้แก่หยางฉีเย่ว์และ
กล่าว “ข้าจะให้นางถือเอาไว้ หากเจ้าชนะ นางก็มอบมันให้แก่เจ้า
คราวนี้เจ้าวางใจได้แล้วหรือยัง?”
หยางฉีเย่ว์พยักหน้าให้ฉินหยุน
ฉินหยุนลอบตระหนก เขาไม่นึกว่าเย่ว์โยวร่ำรวยมหาศาลเพียงนี้
ครานี้เขากำลังคิด ว่าตนจะตกปลาใหญ่ให้คายเอาทรัพยากรมหาศาล
ที่มีออกมาอย่างไรต่อ
ฉินหยุนก้าวเดินขึ้นบนลานประลองยุทธ์ เขายังคงครุ่นคิดว่าขั้นต่อไป
ควรลงมืออย่างไร เขาต้องการให้เย่ว์โยวคายของดีในมือออกมายิ่ง
กว่านี้
“เสี่ยวหยุน เขตแดนอ้างว้างจันทราทมิฬเป็นแหล่งสมบัติ ของดี
มากมายได้ถูกซุกซ่อนเอาไว้ในที่แห่งนี้!” หลิงหยุนเอ๋อกล่าว “แต่
หลังผ่านมาหลายปี พวกมันล้วนถูกเย่ว์โยวไม่ก็เฉียหยิ่งคว้าเอาไป
กักตุนจนแทบหมดสิ้น!”
ฉินหยุนคิดเห็นเช่นเดียวกัน เพราะเหตุนั้นเขาจึงต้องหากลวิธี เพื่อ
ให้เย่ว์โยวได้นำของดีในมือออกมาให้มากกว่านี้
“เริ่มได้!” เย่ว์โยวพลันตะโกนดัง ฉินหยุนค่อยดึงสติกลับคืนมา
ฉินหยุนไม่คิดว่าการต่อสู้จะเริ่มต้นรวดเร็วเพียงนี้ อันที่จริง ความคิด
ของเขาเตลิดไปจนหลุดความสนใจทางด้านนี้
เมื่อการศึกเริ่มขึ้น ฉินหยุนใจไม่อยู่กับตัว เอ้อเย่ว์พบเห็นโอกาสเหมาะ
ฉินหยุนดึงสติกลับคืนในพริบตา เขาสัมผัสได้ ว่าเอ้อเย่ว์เร่งรีบทะยาน
ร่างมาประหนึ่งสายฟ้า พร้อมต่อยหมัดเข้าใส่หน้าท้องและศีรษะของ
เขาอย่างโหดเหี้ยม
ตู้ม!
เสียงพลังระเบิดออกสนั่นหวั่นไหว มันสั่นสะเทือนทั่วทั้งปราสาท
โบราณ
ฉินหยุนร่างกระเด็นเพราะหมัดทั้งสอง จนร่างต้องปะทะเข้ากับม่าน
พลัง
เอ้อเย่ว์หัวเราะดังก่อนจะต่อยหมัดจากระยะไกล พลังหมัดคลุ้มคลั่ง
ได้แปรเปลี่ยนร่างเป็นหัวมังกรสีทองดำมุ่งเป้ามายังฉินหยุน
ฉินหยุนถูกโจมตีเข้าปะทะ ร่างกายแนบชิดกับม่านพลังพร้อมถูกแรง
ปะทะจนไม่อาจขยับออกพ้น
“ชายผู้นี้ครอบครองวิญญาณยุทธ์มังกรดำ! เหมือนว่าจะเป็นมังกร
อสนีบาต!” หลิงหยุนเอ๋อพลันกล่าว กระนั้นนางหาได้กังวลห่วงหา
ฉินหยุนไม่
ร่างเซียนอสูรของฉินหยุนแข็งแกร่งเลิศล้ำ อำนาจการป้องกันสูงส่ง
ต่อให้โดนการโจมตีรุนแรงยิ่งกว่านี้ เขาก็ยังต้านรับไว้ได้ไหว
ต้องทราบว่าครั้งฉินหยุนฝึกฝนร่างเซียนอสูร ร่างกายของเขาถูก
ทำลายและฟื้นคืนขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่เพียงแต่หล่อเลี้ยงความแข็งแกร่ง
แก่ร่างกายที่ผ่านการขัดเกลา ทว่าความสามารถในการฟื้นฟูของเขา
ยังมากล้นชวนตื่นตะลึง
ฉินหยุนที่ขาดความสนใจโลกภายนอกแต่แรก จึงทำให้โดนโจมตี
จนมีสภาพเช่นตอนนี้
“เอ้อเย่ว์ ทำได้ดี เร่งรีบใช้ความสามารถเทวะของเจ้าจัดการมัน!” เย่ว์
โยวเผยเสียงร้องยินดีเป็นล้นพ้นออกมา
ความสามารถเทวะของเอ้อเย่ว์ปลดปล่อยรวดเร็ว ที่หน้าอกนั้น มัน
ปรากฏเป็นกลุ่มแก๊สสีดำก่อนจะแปรเปลี่ยนร่างเป็นมังกร มันรวดเร็ว
ประหนึ่งสายฟ้า พลังมังกรพุ่งเข้าปะทะใส่ฉินหยุน
มังกรพุ่งทะยานมาด้วยความเร็วสูงล้ำ และฉินหยุนก็คล้ายไม่มีพลัง
ให้ต้านรับมันไว้!
เซี่ยวเสวียนฉินและหยางฉีเย่ว์ต่างเกิดความกังวลขึ้น
แม้เปาเฉิงโฉ่ว เจี้ยนสือเทียน และผู้อื่นทราบว่าฉินหยุนแข็งแกร่ง
กระนั้นนั่นก็เป็นยามที่ต่อสู้กับขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณเช่นเดียวกัน
ครานี้ ความแตกต่างระหว่างฉินหยุน คืออีกฝ่ายอยู่ขอบเขตวรยุทธ์
ลึกล้ำ ครอบครองวิญญาณยุทธ์สีดำ ทั้งยังมีร่างเซียนและโลหิตเซียน
มันแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ร่างกายฉินหยุนกระตุกยามเมื่อได้เห็นมังกรพุ่งทะยานเข้ามา กระดูก
ในร่างของเขาส่งเสียงแตกหักออกดังต่อเนื่อง
เขารวบรวมพลังทั้งหมดในร่าง ปลดปล่อยห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์
ออกไป!
ชั่วพริบตา ห้าฝ่ามือเผยออก พลังฝ่ามือผสานรวมกันเป็นหนึ่ง ส่งผล
ให้เกิดเป็นเสียงร้องของพลังประหนึ่งมังกรพิโรธ
ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของฉินหยุนยังมาพร้อมพลังสั่นไหวและ
อสนีบาตอัคคี ทั้งยังเป็นสีดำ!
อสนีบาตอัคคีและสั่นไหว พลังทั้งสองได้ผสานรวมเข้าด้วยกันอย่าง
สมบูรณ์!
อสนีบาตอัคคีระเบิดออกสนั่นหวั่นไหว พลังสั่นไหวจึงเข้าเสริม
อำนาจเท่าทวีแก่อสนีบาตอัคคี!
ความสามารถเทวะของเอ้อเย่ว์ที่ปล่อยออกมา คือการควบแน่นมังกร
ที่ประหนึ่งเป็นตัวตนไร้เทียมทาน!
และฝ่ามือโจมตีอันดุดันของฉินหยุน มันก็คล้ายนำพามาซึ่งกำลังอัน
ไร้ก้นบึ้ง!
ตู้ม!
ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของฉินหยุน ปะทะเข้ากับมังกรที่ควบแน่น
ขึ้นมาโดยความสามารถเทวะ และมังกรจำแลงนั้น พริบตาได้กลับ
กลายเป็นหมอกสีดำ!
ฝ่ามือโจมตีของฉินหยุน เป็นผลให้จักรพรรดิยุทธ์และครึ่งเซียนที่นี้
ต้องสะท้าน!
ร่างของเย่ว์โยวยังต้องสั่นยามได้เห็นเรื่องราว!
พลังอำนาจฝ่ามือของฉินหยุน นั่นไม่ใช่สิ่งที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ระดับสูงสามารถกระทำได้!
กระทั่งว่าเป็นผู้อยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับต้น ก็ยังไม่มีทางปลด
ปล่อยพลังชวนสะพรึงถึงระดับนั้นได้
เอ้อเย่ว์อยู่ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับต้น เขาครอบครองร่างเซียน
และฝึกฝนโลหิตเซียน
นอกจากนี้แล้ว เขายังมีสองวิญญาณยุทธ์สีดำ พลังความสามารถเทวะ
ที่เขาเผยออกจึงแข็งแกร่งยิ่ง มันเพียงพอให้สามารถสังหารยอดยุทธ์
ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำระดับกลางได้ด้วยซ้ำ
แต่แล้ว หนึ่งฝ่ามือของฉินหยุน กลับสลายพลังความสามารถเทวะ
ของเอ้อเย่ว์!
ที่เหลือเชื่อยิ่งกว่า คือฉินหยุนถูกสะกดลงตั้งแต่แรกเริ่ม กระนั้นเวลา
นี้ มันคล้ายกับเขาไม่ได้รับผลกระทบใดแม้แต่น้อย
ใบหน้าของเอ้อเย่ว์ที่เดิมเผยความอหังการอวดดี เวลานี้จึงค่อยเผย
ความหวาดกลัวสุดขั้วออกมา!
มีแต่เขาที่รับรู้ได้ว่าฉินหยุนน่าสะพรึงกลัวเพียงใด เพราะเขารู้จัก
ความสามารถเทวะของตนเองเป็นอย่างดี กระทั่งขอบเขตวรยุทธ์ลึก
ล้ำระดับกลาง อย่างดีก็ทำได้แค่หลบเลี่ยง พวกเขาเหล่านั้นจะไม่มี
ทางต้านรับโดยตรงเช่นนี้เป็นอันขาด!
ทว่าไม่เพียงแต่ฉินหยุนต้านรับ เขากระทั่งทำลายพลังความสามารถ
เทวะทั้งสองที่เขาผสานควบแน่นขึ้นมาได้!
ด้านบนลานประลอง หมอกสีดำลอยฟุ้ง พลังความสามารถเทวะ
กระจัดกระจายจนปั่นป่วน
และฉินหยุน ก็ได้เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ในพริบตา ร่างเขากลับปรากฏที่ด้านหลังเอ้อเย่ว์
เย่ว์โยวให้ค่าเอ้อเย่ว์ไว้สูงล้ำ นั่นหมายความถึงเขามีความสามารถ
ของจริง เขาย่อมตอบสนองอย่างรวดเร็ว!
ด้วยฝ่ามือดุดัน เขาผลักฝ่ามือออกโจมตีใส่ฉินหยุน!
ฉินหยุนรับมือด้วยความเร็วมากล้ำ สกัดฝ่ามือโจมตีของเอ้อเย่ว์
เอาไว้ได้!
หลิงหยุนเอ๋อผู้ซึ่งตระเตรียมรออยู่ก่อนแล้ว ฉับพลันจึงปลดปล่อย
แรงโน้มถ่วงอันมหาศาลออกมา!
แรงโน้มถ่วงที่ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหัน มันสะกดลงที่ร่างเอ้อเย่ว์
กระทั่งขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ำเช่นเอ้อเย่ว์ ด้วยเพราะไม่ทันตั้งตัว ถูก
แรงโน้มถ่วงมหาศาลเพียงนี้กดทับ ร่างนั้นต้องล้มลงกับพื้น
พลังนี้เปรียบดังภูเขาที่สะกดลงอย่างกะทันหันสู่ร่างกาย มันไร้สุ้ม
เสียงใด ร่างกายเพียงแต่รับรู้ถึงความหนักอึ้งจนถูกสะกดลง
เอ้อเย่ว์กระอักเลือดคำโตขณะร่างกายถูกกดทับ เขากรีดร้องออก
ขณะนอนนิ่งกับพื้น
“ข้ายอมแพ้!”
เอ้อเย่ว์ได้เห็นฝ่ามือของฉินหยุนที่ปกคลุมด้วยพลังสั่นไหวและ
อสนีบาตอัคคี เขาเร่งร้อนตะโกนดัง
ห้าฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของฉินหยุนไม่ทันได้ปลดปล่อยออก เขา
กลับได้รับชัยชนะมาครองแล้ว!
ผู้ซึ่งตื่นตะลึงที่สุดในที่นี้ไม่ใช่ใครอื่น เป็นครึ่งเซียนดังเช่นเปาเฉิง
โฉ่ว เจี้ยนสือเทียนและคณะ! เดิมพวกเขายังคิด ว่าฉินหยุนก้าวถึง
ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณระดับสูงเร็วจนเกินไป
แต่แล้วเวลานี้ เขากลับมีกำลังถึงขนาดบดขยี้คู่ต่อสู้ที่เก่งกาจเช่นเอ้อ
เย่ว์!
ความคืบหน้าระดับนี้เร็วเกินไปจนยากจะเชื่อได้
เปาเฉิงโฉ่วครุ่นคิด เขาทราบว่าฉินหยุนและเซียนเช่นปิงชิงมีช่วงเวลา
อยู่ด้วยกัน เขาค่อยได้ทราบ ว่าสาเหตุที่ฉินหยุนก้าวหน้ารวดเร็วเพียง
นี้ นั่นต้องเป็นเพราะปิงชิงสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง
เย่ว์โยวถอนม่านพลังออก นางไม่โกรธแค้นดังเช่นก่อนหน้า เพราะ
กำลังของฉินหยุนยังสร้างความตื่นตะลึงให้แก่นางไม่หาย!
หยางฉีเย่ว์ก้าวเดินไป ส่งกระเป๋ามิติเก็บของให้แก่ฉินหยุนพร้อมส่ง
เสียงสื่อสารถาม “เสี่ยวหยุน จารึกวิญญาณจ้าวดวงดาวอยู่ในถุงนั่น
ด้วยแล้ว เก็บมันให้ดี!”
“ขอบคุณพี่หยาง!” ฉินหยุนยิ้มกล่าว
“เจ้ากระตุ้นโทสะเย่ว์โยวมากมายนัก ทว่านี่ก็ถือว่าดี!” หยางฉีเย่ว์
เพียงส่งเสียงสื่อสารบอกต่อฉินหยุน นางไม่คิดให้เย่ว์โยวได้ทราบ
ความคิด
ฉินหยุนมองทางเย่ว์โยวพร้อมยิ้มกล่าว “คล้ายว่ายังเหลือเจิ้งเย่ว์ ให้
เขาสู้กับข้าเป็นไร?”
เย่ว์โยวลดเสียงเบา “เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจ้า!”
ฉินหยุนส่ายศีรษะถอนหายใจ “อย่างนั้นยอมรับแล้วหรือว่าพวกเขา
เหล่านี้ล้วนเป็นสวะ?”
“ไม่ใช่! เพราะพวกเขาเพียงพ่ายแพ้ต่อเจ้า! นอกเหนือจากเจ้า มีคน
เพียงน้อยนิดที่ระดับพลังเดียวกันจึงสามารถเอาชนะพวกเขาได้!”
เย่ว์โยวย่อมไม่กล้ายอมรับตามตรง
ฉินหยุนเพียงยิ้ม “อย่างนั้นแล้ว ข้าก็ขอขอบคุณต่อของรางวัลนี้จาก
องค์ราชินี!”
เขาที่ไร้ซึ่งทางเลือกใดที่จะรีดเค้นสิ่งของในมือเย่ว์โยว จึงได้แต่เดิน
ลงลานประลองอย่างนึกเสียดาย
“อย่าเพิ่งลงไป ให้ข้าได้สู้กับเจ้า!” เย่ว์โยวเผยเสียงเย็นกล่าวคำ
“เจ้า? เจ้าเป็นเซียนที่ทรงพลังอำนาจ!” ฉินหยุนส่ายศีรษะพร้อมเบะ
ปากกล่าวคำ
“ข้าจะผนึกระดับการฝึกฝนตนเองไว้ ให้อยู่ที่ขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ
ระดับสูง!” เย่ว์โยวตะโกนดัง “และข้าจะต้องชนะเจ้าให้ได้!”
“หากพ่ายแพ้ต่อข้า เป็นนางสนมน้อยแก่ข้าตกลงหรือไม่?” ฉินหยุน
กล่าวไปพลางแสยะยิ้มซุกซน คำกล่าวของเขา ถือได้ว่ากระตุ้นโทสะ
ของบรรดาผู้ใต้บัญชาเย่ว์โยวได้เป็นอย่างดีเยี่ยม