ตอนที่ 183

Legend of the mythological genes

ไม่มีใครคัดค้าน!

คำพูดของนายพลอาจฟังดูสงบ แต่มันกลับเต็มไปด้วยความเด็ดขาดและไม่มีช่องว่างให้โต้เถียง

ใครจะโง่เขลาคิดหาปัญหาใส่ตัว?

ตัดสินจากท่าทางเผด็จการของนายพล เมื่อมีคนคัดค้าน คนๆนั้นย่อมถูกไล่ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาอาจเสียโควต้าล้ำค่าเพื่อนำไปใช้กับมหาวิทยาลัยเอกภพ

นายพลเหลือบมองรอบๆและพยักหน้า”งั้นการทดสอบก็จะเริ่ม ณ บัดนี้!เด็กๆ เข้าไปทีละคน ลูกน้องฉันรอไม่ไหวแล้ว!”

ด้วยเสียงร้องเรียก ผู้สมัครจากโรงเรียนต่างๆพากันเข้าไป

เฟิงหลินพยักหน้าให้อาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนมัธยมโลกและตามฝูงชนเข้าไปยังสมาคมบ่มเพาะโลก

ภายใต้การนำของปัญญาประดิษฐ์ เขาเข้าไปห้องกว้างแต่แคบ กำแพงรอบๆทำจากเหล็กและไม่มีช่องว่างเลย

มีร่างแข็งแรงสูงสองเมตรยืนรออยู่

 

“เฟิงหลินสินะ?ฉันรอมานานแล้ว!”ผู้บ่มเพาะดวงดาวหันมาและจ้องเฟิงหลิน โบกมือเชื่องช้า สีหน้าเขาดูเหมือนกำลังท้าทาย บอกให้เฟิงหลินแสดงความสามารถเต็มที่

ท่าทางเขาเฉื่อยชา ไร้การป้องกันเลย มันราวกับเขาดูถูกเฟิงหลิน

ดวงตาเฟิงหลินหรี่แคบ เขาไม่ได้หงุดหงิดไม่ได้ถูกหลอกจากการแสดง

เขาตระหนักว่าแม้เขาจะดูประมาท ร่างเขาก็ผ่อนคลายและมีพลังรวมกันอย่างลับๆ ชายคนนั้นมั่นคงมากและพร้อมจะระเบิดพลัง

ช่วงเวลาที่เฟิงหลินตกหลุมพรางและเคลื่อนไหวอย่างประมาท สิ่งที่รอเขาอยู่คือการโจมตีอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าฟาด

คำพูดเหล่านี้ ซึ่งทำให้ดูเหมือนชายคนนี้กำลังดูถูกเฟิงหลินแค่การพยายามทำให้เฟิงหลินโมโหและประมาท

หลังเข้าใจจุดสำคัญ มุมปากเฟิงหลินก็ยกยิ้มขึ้น เขาไม่ไดตกใจแต่กลับดีใจแทน นี่ชักน่าสนใจ..

ทุกอย่างล้วนยุติธรรมในการต่อสู้!

ตามคาดของผู้บ่มเพาะดวงดาว พวกเขามีความรอบรู้ในการต่อสู้และไม่มีกฏอะไร!

ในการต่อสู้จริง ไม่มีความยุติธรรม สามารถใช้วิธีการใดก็ได้ รวมถึงอาวุธลับ พิษและปืน…

ไม่ว่าจะเป็นวิธีเปิดกว้างหรือต่ำทราม ตราบเท่าที่ได้ชัยชนะ งั้นก็เป็นทางเลือกที่ดี!

ในการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพัน ใครจะสนใจเรื่องกฏ?

คนที่รอดชีวิตถึงจะเป็นผู้ชนะ

ประวัติก็ถูกเขียนโดยผู้ชนะ

เมื่อเห็นว่าสายตาของผู้บ่มเพาะดวงดาวผู้นี้เต็มไปด้วยความเยาะเย้ย แต่ก็ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายและประมาท เฟิงหลินก็ยิ้มเย็น พูดตรงๆ”หยุดเสแสร้งได้แล้ว!มันเปล่าประโยชน์!นักรบมากประสบการณ์ในสงครามชอบดูแคลนศัตรูงั้นหรอ?!มันไม่ใช่แค่ความอับอายต่อพลังของตัวคุณเอง แต่ยังเป็นการดูถูกสติปัญญาของคนอื่นอีกด้วย!”

 

เมื่อได้ยินเฟิงหลินพูดแบบนั้น เขาก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง ไม่มีท่าทางสบายๆแบบก่อนหน้าอีก!

สายตาเขาจับจ้องเฟิงหลิน มองเขาอยู่นาน จากนั้นก็เปล่งเสียง”เธอแตกต่าง แตกต่างจากนักเรียนอื่นมาก เธอไม่ใช่พวกมือใหม่ในการต่อสู้!ดูเหมือนเธอเคยผ่านประสบการณ์ระหว่างชีวิตและความตายมาก่อน เมื่อนักเรียนเหล่านั้นเห็นทัศนคติฉัน พวกเขาจะคิดว่ามีโอกาส สุดท้าย ทั้งหมดก็จบ!มีแค่เธอคนเดียวที่เป็นข้อยกเว้น!”

เฟิงหลินยิ้มและไม่ตอบ

เขาผ่านการต่อสู้มาในดาวอังคาร เขายังสู้กับผู้บ่มเพาะระดับสูง คนที่ใช้ชีวิตทั่วๆไปจะมาเทียบกับเขาได้ยังไง?

เขาไม่คิดอธิบายและตั้งท่า สร้างหยินและหยางด้วยฝ่ามือ เหมือนกระจกสองด้าน พวกมันเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงมากมายและทำให้ยากจะเข้าใจ

เมื่อผู้บ่มเพาะดวงดาวเห็นเฟิงหลินตั้งท่าเช่นนี้ เขาก็รู้ว่านักเรียนคนนี้จัดการไม่ได้ง่ายๆ ฝ่ามือเขาขยุ้มคล้ายกรงเล็บและวางไว้ตรงหน้า เหมือนเสือดุ

เขายิ้มและเนื้อบนหน้าเขาก็สั่นราวกับเขาคือเสือคลั่ง”พวกเธอบนโลกไม่รู้ว่าจักรวาลกว้างใหญ่เพียงใด!วิชาโบราณของฉันคือวิชายุทธ์ยีนระดับต่ำขั้นสูงหมัดสังหารพยัคฆ์ดารา!มันเลียนแบบอสูรร้ายในจักรวาล เสือเกล็ดดาวดำ!”

“พูดมาก หากอยากสู้ งั้นก็สู้!’เมื่อเห็นเขากำลังพล่าม เฟิงหลินก็ไม่คิดฟัง ในการต่อสู้จริง ใครจะมาเผยรายละเอียด?เมื่อนักรบทำเรื่องแบบนี้ มันยิ่งทำให้เฟิงหลินโกรธ

เฟิงหลินไม่คิดพูดให้มากความและกระทืบพื้นแรง เปลี่ยนเป็นภาพติดตาและพุ่งทะยานออกไป

ดวงตาของผู้บ่มเพาะดวงดาวเปิดกว้าง รู้สึกโกรธ

เขาให้คำชี้แนะกับเฟิงหลินด้วยเจตนาดี แต่กลับถูกเมิน

แต่ทว่า เขากลับยิ่งระวังเฟิงหลินมากขึ้น

คนที่ผ่านการต่อสู้มามากเช่นเขาเข้าใจว่าคนอย่างเฟิงหลินคือคนที่เคยผ่านสงครามมาและยากจะรับมือ เขาต้องไม่คิดว่าเฟิงหลินเป็นนักเรียนทั่วไป ไม่งั้นจะต้องลำบาก

หากเขาถูกเอาชนะโดยนักเรียนคนแรกที่เจอ เขาจะไม่ถูกเพื่อนร่วมงานล้อเลียนไปตลอด?มันจะกลายเป็นมลทินไปชั่วชีวิต!

กรงเล็บเสือดาวดำ!

เขาคำรามและขยับ ใช้นิ้วทั้งสิบเป็นกรงเล็บ ฉีกอากาศและทำให้เกิดพายุรุนแรงควบแน่นอย่างรวดเร็ว สีของพายุเปลี่ยนจากไร้สีเป็นสีเหลืองและสุดท้ายก็ดำ

ลมดำก่อตัวขึ้นจากกรงเล็บ ลมแรงนั้นทั้งแหลม และรุนแรง สามารถฉีกทุกสิ่งอย่างได้

เฟิงหลินหยุดนิ่งเล็กน้อยในอากาศก่อนขาเขาจะกวาดออกไปเหมือนกงล้อลมและไฟ เฟิงหลินทำลายการก่อตัวของลมดำ แสงสีเงินส่องประกายบนหน้าผากเขาและพลังวิญญาณก็ระเบิดออกมา มันหมุนวนในอากาศ สร้างเป็นคลื่นที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทันใดนั้น คลื่นก็ระเบิด

ผู้บ่มเพาะดวงดาวรู้สึกราวกับวิญญาณเขาถูกชกด้วยหมัดที่มองไม่เห็น ร่างเขาสั่นเล็กน้อยและดวงตาเขาก็พร่ามัว

ในเวลานี้ เฟิงหลินก็เข้าประชิดเขา มือทั้งสองเขาเหมือนหยินและหยาง เหมือนผีเสื้อที่ร่ายรำระหว่างดอกไม้ สร้างเป็นการเปลี่ยนแปลงมากมาย

หยินหยางอัศจรรย์!

การขยับมือของเฟิงหลินรวดเร็วจนอีกฝ่ายตาลายและเขาก็ตบใส่ขมับของอีกฝ่ายอย่างรุนแรง การเคลื่อนไหวเขาเร็วดุจสายฟ้า โจมตีอย่างดุดัน เขาอยากโค่นล้มศัตรูด้วยการโจมตีเดียว

ลมที่เกิดจากฝ่ามือเขารุนแรงมาก

ฮ่าห์!

ผู้บ่มเพาะดวงดาวมีประสบการณ์มากมายบนสนามรบ และภายใต้เลือดของสงคราม พลังต่อสู้เขาจึงเหลือล้ำ เมื่อเขาสัมผัสถึงสิ่งผิดปกติ เขาก็คำรามเสียงดัง ดวงตาเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือดและกลิ่นอายน่าขนลุกก็เล็ดรอดออกมา เขาทำลายผ่านภาพลวงตา

บูม!

วิชากรงเล็บเขาแหลมคมและดุดันขึ้น สีหน้าเขาโหดเหี้ยมจนเป็นเหมือนอสุราที่คลานออกจากขุมนรก อยากฉีกกระชากเฟิงหลิน

หมัดและกรงเล็บปะทะกัน!

เฟิงหลินรู้สึกถึงพลังน่าเกรงขามที่ไหลมาและเขาก็รีบถอย

ผู้บ่มเพาะดวงดาวเพิ่งตอบโต้ ดังนั้นเขาจะยอมให้เฟิงหลินถอยไปง่ายๆได้ยังไง?เขากระโจนไปเหมือนเสือร้าย ไม่เต็มใจยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย!

กล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างเขาบวม กลิ่นอายเย็นดุจน้ำแข็งบิดเบือนอากาศ สร้างเป็นภาพที่ไม่ชัดเจนของเสือร้าย

แม้จิตใจเฟิงหลินจะมั่นคง เขาก็ยังตกตะลึงไปชั่วขณะ พลังวิญญาณเขากระจัดกระจายและเกิดอารมณ์ขลาดกลัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่กล้าต่อต้าน

นี่คือพลังอะไร?

มันสามารถแทรกแซงพลังงานจิต แม้กระทั่งการสะกดจิตเขาก็ยังไร้ประโยชน์!

เฟิงหลินแปลกใจและทันใดนั้นก็คิดถึงความรู้บ่มเพาะที่มีแค่ไม่กี่คนถึงรู้

นี่คือ…

จิตอาฆาต!