ตอนที่ 289 : เป็นเจ้าพ่อปล่อยเช่ามันไม่ง่าย เลย!
เจียงเฉินมีใบหน้าที่แลกไปทันทีหลังจากที่ชายหนุ่มไม่ให้เขาพูดต่อ
เมื่อกี้ไม่ได้บอกให้ฉันโอ้อวดให้นายงั้นหรอ?
นายไม่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อหน้าสาวสวยรึไง?
ฉันพยายามช่วยอย่างเต็มที่อยู่ไม่ใช่รึไง?
จู่ๆทําไมไม่ให้ฉันพูด
ทําไมกันนะ?
“ผะ..ผมไปเข้าห้องน้ําก่อนนะ”
ชายหนุ่มรีบวิ่งหนีไปเข้าห้องน้ําล้างหน้า เพื่อสงบสติอารมณ์ทันที
แม่งเอ้ย!
ทําไมถึงไม่รู้มาก่อนเลยว่าคนรับจ้างทําธุระไม่น่าเชื่อถือได้ขนาดนี้!
รู้อย่างนี้ฉันน่าจะมาคนเดียวดีกว่า!
ใบหน้าฉันน่ะหรอ?
ไม่เหลืออีกแล้ว!
เพื่อให้ได้สาวงามมาฉันต้องพยายามเองแล้ว!
“หึหึหึ!”
ได้เวลาใช้ไม้ตายแล้ว!
วิญญาณเจียงเฉินประทับร่าง!
“ได้เวลาของจริงแล้ว!”
ทันทีที่ชายหนุ่มกลับมาก็ตรงเข้าไปหาสาวสวยทันที
สาวสวย “???”
“จริงๆแล้ว…”
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดออกมาว่า “ผมไม่น่าโกหกคุณตั้งแต่แรกเลย ผมคือ— เจียงเฉิน!”
พรุด
“อะไรนะ?”
สาวสวยและเจียงเฉินพูดออกมาพร้อมๆกัน
ใบหน้าของทั้งสองเต็มไปด้วยความสับสน
“อะไรนะ พี่ชายของนายก็ไม่รู้หรอว่านายชื่อ เจียงเฉิน?”
สาวสวยชี้ไปที่เจียงเฉินที่กําลังทําหน้าแปลกๆ
ชายหนุ่มจ้องมองเจียงเฉิน และพูดด้วยเสียงเบาๆว่า “ระวังฉันจะกดรายงานนาย!”
เจียงเฉินหัวเราะก่อนจะพูดออกมาว่า “นายพูดความจริงได้ยังไงกัน! นายไม่ได้บอกเองหรอว่านายอยากจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ?”
ชายหนุ่มแอบยกนิ้วให้เจียงเฉิน
สุดยอด!
แก้สถานการณ์ได้ดีมาก!
ชายหนุ่มพูดออกมาด้วยสีหน้าเศร้า “ขอโทษทีนะ แต่พลังของผมมันไม่อนุญาติให้ผมเก็บตัวอีก แล้ว” เขาพูดกับสาวสวย “ตอนแรกผมวางแผนว่า จะปิดบังเรื่องนี้กับคุณ เพราะจริงๆแล้วผมกลัวการ นัดบอกมาก….”
“ทุกครั้งที่มีการนัดบอด คนส่วนใหญ่จะสนใจ แค่หน้าตาและเงินของผม ผมไม่ชอบอะไรแบบนั้นก็เลยพยายามเก็บตัวมาโดยตลอด” เขาพูดออก มาด้วยใบหน้าที่เย่อหยิ่ง
“หน้าตา?”
หญิงสาวมองชายหนุ่มด้วยสีหน้าแปลกๆก่อน จะหันกลับไปมองเจียงเฉิน “แต่ฉันคิดว่าหน้าตาของพี่ชายนายดีกว่านายอีกนะ ถ้าจะบอกว่านายคือเจียงเฉิน แต่ดูเหมือนว่าหน้าตาของพี่ชายนายดูเหมือนเจียงเฉินมากกว่านะ”
หนุ่มหล่อร้องไห้ โดนตบหน้าไปหนึ่งที่!
เจียงเฉิน : ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี… ( ? w?)
สาวสวยคนนี้เป็นแฟนคลับที่ดีมาก!
สายตาใช้ได้เลย!
ยกนิ้วให้!
ชายหนุ่มโกรธมาก “ล้อเล่นรึเปล่า? เห็นได้ชัดว่าฉันหล่อกว่าเจียงเฉินะ”
เจียงเฉิน “…”
สาวสวยกระพริบตา “??? นายไม่ได้บอกว่านายเป็นเจียงเฉินหรอ? ทําไมนายถึงพูดออกมาว่านายหล่อกว่าเขา?”
หนุ่มหล่อ “…”
บ้าเอ๊ย! ฉันลืมตัวไปได้ยังไงกัน?
“ไม่ ไม่ ฉันหมายถึงฉันคือเจียงเฉิน! หล่อพอๆกับเขาเลยใช่ไหมล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า…”
ใบหน้าของหญิงสาวหยุดนิ่ง “อย่ามาพยายามหลอกฉัน! ในฐานะที่ฉันเป็นแฟนคลับตัวยงของเจียงเฉินและเป็นรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยของเขา ฉันรู้ข้อมูลของเขาดี! ข้อมูลของเจียงเฉินในอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มีแต่ของปลอมทั้งนั้น! งั้นฉันจะลองถามนายดูสองสามข้อก็แล้วกัน ฉันอยากจะรู้จริงๆว่านายจะจอบถูกไหม!?”
สีหน้าของหนุ่มหล่อเปลี่ยนไปทันที!
พระเจ้า!
ฉันแค่ใช้ชื่อของเจียงเฉินเองนะทําไมถึงโชคร้ายขนาดนี้? นี่ฉันชนเข้ากับแฟนคลับตัวจริงของเจียงเฉินงั้นหรอ?
หรือว่าเธอจะเป็นพวกผู้หญิงสมองตายที่เชิดชูเจียงเฉินที่มหาวิทยาลัยของเธอ?
ถ้าอย่างนั้นมันก็แย่แล้ว!
เขากระสับกระส่ายและพยายามปฏิเสธ “ฮ่าฮ่าๆ ขอโทษทีนะ ฉันชอบเก็บตัวนะ ถ้าเธอชอบฉันจริงก็อย่าทําให้ฉันต้องอับอายสิ”
เจียงเฉิน “…”
พระเจ้า! ฉันไม่เคยเห็นคนหน้าด้านขนาดนี้มาก่อน!
“ฉันไม่ต้องการ!”
ใบหน้าของหญิงสาวทิ้งตึง “ฉันไม่เชื่อว่านายเป็นเขา! ฉันจะถามคําถามง่ายๆก็แล้วกัน เจียงเฉินบริจาคเงินให้กับมหาวิทยาลับเท่าไหร่?”
ชายหนุ่มแทบจะร้องไห้ออกมา “…”
เอ่อ!
แล้วฉันจะไปหาคําตอบได้จากไหน?
“นี่…ฉันจะไม่ได้หรอก ฉันบริจาคไปหลายที่น่ะ!”
หนุ่มหล่อแก้ตัว
“โอ้?”
หญิงสาวเยาะเย้ย “แม้แต่ตัวเลขมหาศาลก็ยังจําไม่ได้ เจียงเฉินคนนี้ขี้ลืมหรือเป็นแค่ตัวปลอมกันนะ?”
เหงื่อผุดขึ้นมาเต็มมือของชายหนุ่มเขาพูดอะไรไม่ออก…
พังหมดแล้ว!
ตัวตนถูกเปิดเผยแล้ว!
แต่ใครจะรู้…
ในเวลานี้เองเจียงเฉินที่กําลังเฝ้าดูอยู่ก็พูดออ กมาด้วยเสียงเย็นชาว่า
“หะ น้องชาย ทําไมนายถึงลืมแล้วล่ะ? นายบริจาคเงินให้มหาลัยไปตั้งสองครั้ง เป็นที่ดินสําหรับอาคารแล้วก็เงินอีก 20 ล้านหยวน! นอกจากนี้ก็ยังช่วยมหาลัยจัดงานวันเฉลิมฉลองและยังเป็นรองประธานบริหารของมหาวิทยาลัย ในวันที่ 6 เดือนหน้านายยังต้องไปประชุมที่นั่นอีก อธิการบดีโฮ้วจุนเองก็อยากจะคุยเกี่ยวกับการก่อตั้งอาคารใหม่ของหมาลัยด้วย”
การตอบของเจียงเฉินนั้นคล่องแคล่วมาก หลายๆอย่างที่เขาตอบมาแม้แต่คนทั่วไปเองก็ยังไม่รู้
สาวสวยตกตะลึง! ตาของเธอเบิกกว้าง!
ถึงเธอจะไม่ได้รู้ความลับมากมาย! แต่ก็ไม่ได้ถึงกลับไม่รู้เลย!
หนุ่มหล่อ “…”
พระเจ้าNN
ทําไมพี่ชายที่ไม่น่าเชื่อถือคนนี้อยู่ๆฟังดูน่าเชื่อ ถือกัน?
เขาลืมตาขึ้นมา ตบหน้าผากและหัวเราะเสียงดัง “ใช่แล้ว พี่ชาย! พี่เตือนผมได้พอดีเลย! ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ผมคงลืมไปแล้ว! น่าเสียดาย ทรัพย์สินของผมมันมีตั้งหลายแสนล้าน มันมากเกินไปจริงๆ…ใช่แล้ว วันที่ 6 เดือนหน้าผมต้อง ไปหาอธิการบดีของหมาลัยด้วย เพื่อที่จะได้คุยกับอธิการบดีจาง แค่ก…”
ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาก่อนจะหันหลับมาจ้องที่เจียงเฉินเป็นเวลานานก่อนจะยิ้มหวานออกมา “แล้วรุ่นพี่เจียงนั้นเป็นเจ้าของโรงแรมอะไรในเมืองซานย่า นามสกุลของประธานของโรงแรมนั้นคืออะไร? แล้วชื่อของเขาคืออะไร?”
หนุ่มหล่อที่อยากจะโอ้อวดก็มีความสุขทันทีที่เขาได้ยินคําถามนี้ง
“โรงแรมในเจ็ดดาวในเมืองซานย่า ฉันรู้จัก! มันคือโรงแรมแอตแลนติส”
“อะไรนะ?”
“เธอถามชื่อของประธานโรงแรมไม่ใช่หรอ?”
“พระเจ้า! ฉันจะใช้อินเทอร์เน็ตก็ไม่ได้!”
หนุ่มหล่อรู้สึกมืดมนอีกครั้ง!
ก้มหน้าเกาหัวไม่รู้จะทําอะไรต่อ…
หญิงสาวแอบส่ายหัวและมองไปที่เจียงเฉิน
“พี่ชายสุดหล่อคนนี้ น้องชายของคุณ ลืมชื่อประธานของโรงแรมตัวเองอีกแล้วนะ”
“ท่านประธานซอส!”
เจียงเฉินพูดออกมาอย่างสบายๆ
“ใช่แล้ว ดูความจําของฉันสิแย่ๆจริงๆ เขาชื่อว่า ประธานซอส ฮ่าๆๆๆ!”
จู่ๆหนุ่มหล่อก็ทําเป็นนักขึ้นได้…
“แกล้งทํา!” หญิงสาวเยาะเย้ยชายหนุ่ม “นายไม่ใช่เจียงเฉิน! นายแค่แกล้งทําเท่านั้น!”
หนุ่มหล่อที่ได้ยินแบบนั้นก็หน้าซีดลงทันทีเพราะรู้ตัวแล้วว่าตัวเองล้มเหลว!
น่าสงสาร…
“นายมันไร้ยางอาย! กล้าดียังไงมาปลอมตัว เป็นรุ่นพี่เจียงเฉินแล้วมาหลอกลวงฉัน! โชคดีจริงๆที่ฉันจับทันก่อน!”
สาวสวยเริ่มด่าชายหนุ่มออกมาทันที
“เอ่อ จู่ๆฉันก็จําได้ว่ามีเรื่องต้องไปทํา”
ชายหนุ่มลุกขึ้นและจากไปทันที
สาวสวยจ้องมองไปที่เจียงเฉินและพูดอย่างหลงใหลว่า “คุณคือรุ่นพี่เจียงใช่ไหมคะ? คุณจะต้องเป็นรุ่นพี่เจียงแน่ๆใช่ไหมคะ?”
เจียงเฉินประหลาดใจ นี่ฉันถูกมองออกแล้วหรอ?
ไอคิวของสาวสวยคนนี้ไม่ธรรมดาเลย!
“รุ่นพี่เจียง ฉันนับถือรุ่นพี่มากๆเลยนะคะ มีแต่รุ่นพี่เท่านั้นที่รู้ข้อมูลเบื้องหลัง รุ่นพี่….”
สาวสวยพุ่งเข้าหาเจียงเฉิน…
เจียงเฉินหนี..
โศกนาฏกรรม!
บ้าเอ๊ย ทําไมฉันถึงมีแฟนคลับสาวมากขนาดนี้!
ในเวลานี้เองชายหนุ่มขี้ขลาดก็หันมาเห็นพอดี!
พระเจ้า!
นี่มันเป็นแบบนี้ได้ยังไงกัน?
ฉันขอให้เจียงเฉินตัวจริงที่เป็นคนรับจ้างทําธุระมาช่วยฉันแกล้งเป็นเจียงเฉินเพื่อจีบผู้หญิง?
หายใจไม่ออก!
?
ค่ําคืนผ่านไป
ตําหนักอ่องฉี
“ที่รักรีบไปเถอะ เราสายแล้วนะ” ซูเสียวเสี่ยวตะโกน
“อื้ม ลุกแล้วๆ”
เจียงเฉินบิดขี้เกียจและลุกขึ้น
แต่งตัวหน้ากระจก
แกรีกNNN
กระจกแตก!
เจียงเฉินทําอะไรไม่ถูก เฮ้! นี่มันกระจกบานที่หกแล้วนะที่แตกไปเพราะความหล่อของฉัน!
ขณะที่เจียงเฉินกําลังจัดเสื้อผ้าของเขา เขาก็พูดออกมาว่า “ฉันไม่เข้าใจจริงๆเลย เพื่อของเธอ ทั้งสามคนโอ้อวดขนาดนั้น เธอก็ไม่จําเป็นต้องไปใกล้ชิดกับพวกเขาก็ได้นี่”
ซูเสี่ยวเสี่ยวหัวเราะและพูดออกมาว่า “ฉันมีเพื่อนไม่กี่คนและพวกเธอต่างก็เป็นเพื่อนที่ฉันคุ้นเคย และฉันเองก็รู้ว่าฉันไม่มีทางเปลี่ยนพวกเธอได้ แต่ตราบใดที่สามีของฉันใหญ่พอ ยังไงพวกเธอก็รังแกฉันไม่ได้อยู่ดีและฉันก็จะเป็นเหมือนนางพญาในกลุ่มพวกเธอคอยดูพวกเธอโอ้อวดแบบเงียบๆแบบไม่ต้องไปใส่ใจอะไรมาก….”
มุมปากของเจียงเฉินยกยิ้มขึ้น “เสี่ยวเสี่ยว เธอนี่เป็นมารน้อยที่ฉลากจริงๆนะ! เรียนรู้จากสามีตัวเองได้ดีจริงๆ!”
“ยังไงก็ตาม สถานที่จัดงานอยู่ที่ไหนล่ะ?” เจียงเฉินที่แต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ถามออกมา
“ร้านอาหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่ซานหลี่ถุน”
งานเลี้ยงอาหารค่ําก่อนงานแต่งงานที่ร้านอา หารเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่ซานหลี่ถุน
เหตุผลที่มีชื่อว่าร้านอาหารร้านอาหารเมอร์เซเดส-เบนซ์ นั่นก็เพราะมันเป็นร้านของเมอร์เซเดส-เบนซ์ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ให้บริการอาหาร สองสไตล์ทั้งแบบจีนและแบบตะวันตก
มันเป็นร้านที่มีระดับสูงมาก!
ยิ่งไปกว่านั้นยังให้สิทธิพิเศษกับเจ้าของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ที่มารับประทานอาหารของร้าน ด้วยการลดราคาถึง 50%!
ใช่แล้วลดครึ่งราคา!
ในเวลานี้เองฉินอี้ถึงเพื่อนสนิทของซูเสี่ยวเสี่ยวที่กําลังจะแต่งงานก็กําลังรับประทานอาหารเย็นกับเพื่อนเจ้าสาวและเพื่อนเจ้าบ่าว
จุดประสงค์ก็คือเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในงานแต่ง เพราะท้ายที่สุดแล้วมันก็คืองานเลี้ยงงานแต่งของคนรวย หากมีอะไรผิดพลาดพวกเขานั้นก็จะเสียหน้าเป็นอย่างมาก!
ตัวละคร : เจ้าสาวและเจ้าบ่าว เพื่อนเจ้าสาว 5 คนและเพื่อนเจ้าบ่าว 5 คน
เจ้าบ่าวนั้นก็คือหยางเฟิง
ถ้าเจียงเฉินได้อยู่ตรงนั้นเขานั้นก็จะเห็นว่า หยางเฟิงคนนี้ดูเหมือนกับหวางหยางอี้ที่เขาเคยพบที่สนามบินในทะเลจีนใต้มาก เพราะความจริงแล้วหยางเฟิงคนนี้ก็คือน้องชายของหยางอี้ เขานั้นเป็นน้อยชายคนที่สามและเป็นนายน้อยสามของตระกูลหยาง
เจ้าสาวก็คือเพื่อนสนิทของซูเสี่ยวเสี่ยว : ฉินอี้ถิง
สําหรับกลุ่มของเพื่อนเจ้าสาวนั้นก็จะมีเพื่อนสนิทของซูเสียวเสี่ยวหมายเลข 1 และ 2 พร้อมกับแฟนของพวกเธอ
แฟนของเพื่อนหมายเลข 1 นั้นเป็นเจ้าของบริษัทสตาร์ทอัพมูลค่าหลายสิบล้าน และหมายเลข 2 นั้นเป็นพนักงานของบริษัทข้ามชาติ เงินเดือนต่อปี 3 ล้านหยวน!
ส่วนสาเหตุที่ว่าทําไมแฟนของพวกเธอนั้นต้องมาด้วยก็เพราะพวกเขานั้นรู้ว่านี่คืองานแต่งของนายน้อยสามของตระกูลหยางซึ่งเป็นคนรวยรุ่นที่สองของเมืองหลวง
พวกเขานั้นต้องการใช้โอกาศนี้ในการติดต่อกับเหล่ากลุ่มเศรษฐีรุ่นที่สองในเมืองหลวงและได้รับความสนิทชิดเชื้อกับพวกเขา!
นอกจากนี้เพื่อนเจ้าบ่าวอีกสามคนนั้นก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกัน
แล้วเพื่อนเจ้าสาวที่ยังไม่มีแฟนล่ะ? พวกเธอนั้นก็ย่อมต้องการมาจับคู่กับคนรวยรุ่นที่สองใน งาน!
“ว่าแต่ เธอมีเพื่อนที่ชื่อซูเสียวเสี่ยวไม่ใช่หรอ? ทําไมถึงยังไม่มาอีก?”
“ใช่ เพื่อนของเธอคงจะไม่ได้ไม่มาหรอกนะ?
ฝูงชนถามด้วยความสงสัย
“ไม่ เธอกําลังมา!” ฉินอี้ถึงตอบ
“แฟนของเธอทํางานอะไรหรอ?”
“แฟนของเธอเป็นคนเก็บค่าเช่ารายใหญ่รวยมากๆเลยด้วย!”
เพื่อนสนิททั้งสามคนต่างก็จําเหตุการณ์ที่เจียงเฉินนั้นตบหน้าพวกเธอด้วยเงินสิบปีกได้เป็นอย่างดี!
คนเก็บค่าเช่าแบบนี้ห้ามยั่วยุเด็ดขาด!
“ที่จริงแล้วสามีของเธอก็เป็นคนรับจ้างทําธุระด้วย!”
“อะไรนะ รับจ้างทําธุระ?!”
“ใช่ รับจ้างทําธุระ!”
“เขาเก็บค่าเช่าได้ก็แสดงว่าเขาจะต้องรวยมากๆ แล้วเขาจะไปเก็บค่าเช่าทําไม?”
“มันไม่สมเหตุสมผลเอาเลย”
“ใช่ฉันก็คิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลแม้แต่น้อย”
“บางที่การเก็บค่าเช่าของเขาอาจจะเป็นของปลอม แต่งานทําธุระอาจจะเป็นของจริง เขาอาจจะแต่แกล้งทําเป็นคนเก็บค่าเช่าก็ได้”
ว่าแล้วเพื่อนสนิทหมายเลข 12 และ 3 ก็รู้สึกตื่นขึ้นมาทันที
“จะว่าไป ดูเหมือนว่ามันมีความเป็นไปได้สูงนะ!!”
“ใช่ คนเก็บค่าเช่ารายใหญ่จะไปวิ่งทําธุระทําไม? ฉันว่าเขาน่าจะโกหก!”
เหล่าเพื่อนเจ้าสาวและเจ้าบ่าวพากันคิดว่าพวกเขานั้นได้พบความจริงแล้ว!!
เรื่องการเป็นคนเก็บค่าเช่ามันคือเรื่องโกหก แค่เรื่องการวิ่งทําธุระคือของจริง!
ตามความคิดของพวกเขาที่เป็นคนรวยรุ่นที่สองที่มีทั้งเงินและอํานาจ แน่นอนว่าพวกเขานั้นจะทําแค่ออกไปใช้เงินทําธุรกิจหรือทํางานในบริษัท พวกเขานั้นจะไปรับจ้างทําธุระทําไม?
ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจ
และอดไม่ได้ที่จะสงสัยเจียงเฉิน
ในเวลานี้เองเจียงเฉินกับซูเสี่ยวเสี่ยวก็มาถึงร้านอาหาร
“เสี่ยวเสี่ยว นี่!”
ฉินอี้ถึงเข้าไปหาซูเสี่ยวเสี่ยวและโบกมือตะ โกนเรียก
ซูเสี่ยวเสี่ยวพาเจียงเฉินเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว และพูดขอโทษออกมา “สวัสดี ขอโทษจริงๆนะ พอดีบนถนนรถมันติดเลยมาช้าไปหน่อย”
ฉินอี้ถึง “ไม่เป็นไร พวกเราก็เพิ่งมาถึงงานเลี้ยงเอง”
เหล่าเพื่อนเจ้าบ่าวอีกสี่คนมองไปที่ซูเสียวเสี่ยวด้วยความตกตะลึง
ผู้หญิงอะไรสวยขนาดนี้!
พวกเขามองไปที่เจียงเฉินอย่างอิจฉา
เหล่าเพื่อนเจ้าบ่าวทั้ง 4 คนนั้นมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พวกเขานั้นจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในต่างประเทศและเป็นหัวหน้าแผนกของบริษัทใหญ่ในเมืองหลวงรายได้ต่อปีแตะ 4 ล้านทุกคน
สําหรับเพื่อนเจ้าสาวคนที่ 34 และ 35 พวกเธอนั้นได้เห็นเจียงเฉินเป็นครั้งแรกดวงตาของพวกเธอนั้นก็สว่างขึ้นมาทันที!
“หล่อมาก!”
“คนอะไรหล่อขนาดนี้!”
“โอ้พระเจ้า ฉันอยากจะถอดหน้ากากของเขาจริงๆ!”
พวกเธอนั้นลืมไปโดยสิ้นเชิงว่าเมื่อกี้พวกเธอนั้นยังดูถูกเจียงเฉินอยู่เลย และยังคิดว่าการเก็บค่าเช่าของเจียงเฉินนั้นเป็นแค่เรื่องโกหก! “ความสวยหล่อนั้นคือความยุติธรรมทั้งหมด!
การแสดงออกของเพื่อนเจ้าสาวทั้งสามคนนั้นก็อยู่ในสายตาของกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าว พวกเขานั้นยิ่งอิจฉามากขึ้นไปอีก เพราะท้ายที่สุดแล้วเพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนก็สวย 80 คะแนนขึ้นไปทั้งนั้น แต่พวกเธอกลับไม่สนใจชายหนุ่มผู้มีพรสวรรค์อย่างพวกเขา แต่กลับไปสนใจคนรับจ้างทําธุระ!
แม้ว่าพวกเราจะไม่ได้หน้าตาดีเท่ากับเขา แต่พวกเราก็ยังมีอนาคตที่สดใสกว่าคนรับจ้างทําธุระ นั่นมาก!
เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่สามปากกระตุกเขาพูดออกมา”หนุ่มหล่อคนนี้ ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นคนเก็บค่าเช่า เรื่องนี้จริงรึเปล่า?”เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่สี่พูดออกมา”คนเก็บค่าเช่าก็ต้องรวยมากๆมาใช่รึไง? แล้วทําไมเขาต้องไปรับจ้างทําธุระด้วย?“เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ห้าพูดออกมา”พวกนายจะคิดมากไปทําไม ก็ในเมื่อการรับจ้างทําธุระมันได้เงินน้อย เขาก็เลยอับอายจนแกล้งทําเป็นคนเก็บค่าเช่ารายใหญ่เพื่อหลอกลวงคนอื่น!“เจียงเฉินขมวดคิ้ว
เกิดอะไรขึ้นกับสามคนนี้?”เห้อ….พวกนายสามคนเป็นอะไรไป? “ฉินอี้ถึงที่เห็นว่าบรรยากาศนั้นเริ่มไม่เหมาสม เธอจึงรีบลงมือจัดการทันที” พวกนายไม่เคยได้ยินเรื่องของเศรษฐีที่ชอบเก็บตัวรึยังไง? มันเป็นเรื่องปกติของคนรวยไม่ใช่หรอที่จะออกมาสัมผัสประสบการณ์ชีวิต?“เมื่อเจ้าบ่าวหยางเฟยที่อยู่ข้างๆได้ยินคําพูดของฉินอี้ถิง เขานั้นก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างขึ้นมาทันที
เหล่าเพื่อนเจ้าบ่าวอีกสามคนก็หยุดพูดกันทันที
เจียงเฉินเองก็ขี้เกียจเกินกว่าที่จะมาใส่ใจกับคนพวกนี้
ในทางกลับกันซูเสี่ยวเสี่ยวกลับสนใจชีวิตของคนรับจ้างทําธุระของเจียงเฉินมาก เธอนั้นถามออกมาด้วยความสนใจว่า”นายบอกฉันหน่อยได้ไหมว่าตอนนายทํางานนายเจออะไรที่น่าสนใจบ้าง “ฉินอี้ถึง”ฉันเองก็อยากรู้ บอกฉันหน่อยได้ไหม…“เจียงเฉินหัวเราะออกมา การรับจ้างทําธุระมันก็น่าสนใจมากเลยทีเดียว ฉันเจอเรื่องตลกมาสองสามเรื่องได้แล้ว… “แล้วหลังจากนั้น เขาก็เล่าถึงเหตุการณ์ต่างๆ เช่นการถูกเอาตัวไปเป็นสื่อการสอนเชิงลบ แต่สุดท้ายเด็กมัธยมปลายคนนั้นกลับตัดสินใจไม่เรียนต่อแล้วต้องการมาเป็นคนรับจ้างทําธุระแทน รวมถึงเรื่อของน้องชายที่ขาดเงินทําธุรกิจ แล้วก็การปลอบใจพี่สาวของเขาว่าตัวเองนั้นเป็นสามีของเธอใน 10 ปีข้างหน้า
เมื่อได้ยินที่เจียงเฉินพูดว่ามีเศรษฐีสาวสวยนั้นกําลังตามจีบเจียงเฉินพร้อมกับยกห้องให้เขาสิบห้อง…
พรูด
กระอักชากันทั้งห้อง!
ให้ตายเถอะ มันมีเรื่องแบบนี้ด้วยหรอ?
เศรษฐีสาวสวยกําลังไล่จีบ?
แถมยังพร้อมมอบห้องให้อีกสิบห้อง?” หึหึ เส แสร้งต่อไปเถอะ! “จู่ๆ เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4 ก็เยาะเย้ยออกมา
ทั้งสถานที่เงียบลงทันที
หยางเฟยหันไปมองเพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4 ของเขาอย่างไม่พอใจและคิดว่าเพื่อนของเขานั้นเตะตอเข้าให้แล้ว!
ในฐานะที่เขานั้นเป็นคนรวยรุ่นที่สอง หยางเฟยนั้นก็นับว่าพอมีสายตาที่ดีอยู่บ้าง เพียงมองแว็บเดียวเขานั้นก็พบว่าเสื้อผ้าของเจียงเฉินนั้นไม่ปกติเลย! แม้ว่าเขานั้นจะไม่สามารถระบุแบรนด์ได้ แต่มันก็สมควรเป็นชุดที่ตัดด้วยมือและมีราคาสูง! และนาฬิกาที่เจียงเฉินใส่อยู่นั้นเพียงมองแว็บเดียวก็รู้ได้ทันทีว่ามันไม่ถูกแน่!
ใบหน้าที่เย็นชาของเจียงเฉินมองไปที่เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4″ฉันพูดว่าอะไรที่ทําให้นายขุ่นเคืองงั้นหรอ ทําไมถึงต้องพูดกันแบบนี้ด้วย?”เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4 พูดออกมาอย่างใจเย็น” ถึงแม้ว่านายจะไม่ได้พูดอะไรให้ฉันขุ่นเคือง แต่ฉันทนกับความหยิ่งยโสและเสแสร้งของนายไม่ได้! กล้าดียังไงถึงได้บอกว่ามีเศรษฐีสาวสวยกําลังไล่จีบ? แถมยังให้ห้อง 10 ห้องอีก! เชื่อก็บ้าแล้ว!“เจียงเฉินมองไปที่เขาและพูดออกมา”ก็แค่ความพอใจของนายงั้นสินะ”เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4 หัวเราะออกมาอย่างหยิ่งยโส”ฮ่าฮ่าม ใช่แล้ว!“โดยที่ไม่ได้คาดคิด…
ในเวลานี้เองเจียงเฉินก็หันไปพูดกับหยางเฟิงว่า”เพื่อนคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของนายใช่ไหม? ฉันว่านะนายควรจะอยู่ห่างกับเขาดีกว่า เพราะคน แบบนี้จะสร้างปัญหาให้นายได้ง่าย เมื่อเพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4 ได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกโกรธขึ้นมา
ทันที” หมายความว่ายังไงที่ฉันสร้างปัญหาได้ง่าย! นายต้องการสร้างความแตกแยกของความเป็นพี่น้องระหว่างฉันกับอาเฟิงงั้นหรอ?! เราเป็นพี่น้องกันนอนหอเดียวกันมาสี่ปีในช่วงที่เรียนมหาลัย! ความสัมพันธ์ของเราลึกซึ้งมาก! “หุบปาก! “หยางเฟิงมองไปที่เพื่อนสนิทคนที่ 4 ของเขาและขอโทษเจียงเฉิน” ผมต้องขอโทษแทนเพื่อนของผมจริงๆครับคุณเจียง ผมไม่คิดเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้”อาเฟิง นาย…“ตอนนี้เพื่อนเจ้าบ่าวคนที่ 4 รู้สึกตื่นตระหนก
เกิดอะไรขึ้น?
น้องชายหยางเฟิงขอโทษเจียงเฉินแทนฉัน? ทําไมดูเหมือนเขากําลังไม่พอใจมากๆ?
ฉันเป็นพี่ชายที่ดีของเขามาตลอดสี่ปีของการอยู่หอพักนะ!
หยางเฟิงมองไปที่เพื่อนสนิทคนที่ 4 ของเขา ก่อนจะถอนหายใจออกมา”อาเว่ย ฉันขอโทษนะ แต่เรื่องนี้นายคิดผิดไปจริงๆ ฉันรู้อยู่เสมอว่านายนั้นเป็นคนที่จิตใจคับแคบ ฉันเคยเห็นนายเป็นพี่ชาย ตอนที่พวกเรานอนห้องเดียวกัน ดังนั้นฉันก็เลยไม่ได้พูดอะไรมาก…..จนถึงตอนนี้ฉันก็ช่วยเหลือนายไปมากแล้วและฉันก็ไม่เคยทําไม่ดีกับ นายเลย แต่วันนี้ที่เป็นงานแต่งของฉัน นายกลับสร้างปัญหาแบบนี้ และไม่ไว้หน้าฉันเลย ดังนั้น ความเป็นพี่น้องของเราคงต้องจบลงวันนี้แล้ ว! “อาเฟิง! นาย.. “ในเวลานี้เองอาเว่ยก็มีสีหน้าที่ชุดเผือดไปเถอะ วันนี้งานแต่งของฉันและนายก็ไม่ใช่เพื่อนเจ้าบ่าวอีกแล้ว “หยางเฟยมีใบหน้าที่เด็ดเดี่ยว เพื่อนอย่างอาเว่ยนั้นดูถูกคนอื่นเพียง เพราะอีกฝ่ายนั้นเป็นคนรับจ้างทําธุระ เยาะเย้ยคนอื่นแบบไม่สนถูกผิด ใครจะไปรู้ว่าเมื่อไหร่อีกฝ่ายจะนําความเดือดร้อนมาให้เขา
ที่นี่คือเมืองหลวง!
ที่ๆเต็มไปด้วยเสือซ่อนมังกรหมอบ!”ฉัน…“เพื่อนสนิทคนที่ 4 อาเว่ยนั้นเริ่มตระหนักได้ถึงความร้ายแรงของปัญหาในเวลานี้แล้ว
ความเป็นพี่น้องสิ้นสุดแล้ว?
นี่ไม่ได้หมายความว่าฉันสูฐเสียผู้สนับสนุนรายใหญ่อย่างอาเฟยที่เป็นคนรวยรุ่นที่สองไปแล้ว? แล้วตําแหน่งของฉันในบริษัทของอาเฟย…
พังหมดแล้ว!!
เพื่อนสนิทคนที่ 4 เดินออกไปอย่างสิ้นหวังท่ามกลางสายตาของทุกคน
ทุกคนมองหน้ากัน
เจียงเฉินมองไปที่หยางเฟิงอย่างชื่นชม
เป็นคนรวยรุ่นที่สองมันไม่ง่ายเลยจริงๆ
แต่การจัดการของเขานั้นก็ทําได้ดีมาก เขากล้าใช้โอกาศนี้เพื่อตัดเพื่อนที่ไม่รู้จะนําปัญหามาให้เมื่อไหร่ทิ้งแถมยังสรรเสริญเจียงเฉินได้ในเวลาเดียวกัน มันเป็นการจบปัญหาที่ไม่ทําให้ใครต้องขุ่นเคืองเลยจริงๆ
หากจะบอกว่าเขานั้นเป็นคนที่ฉลาดมากมันก็คงไม่เกินจริงเลย เพราะอย่างน้อยเขานั้นก็ดีกว่าพี่ชายหยางอี้ของเขามาก
เจียงเฉินมองไปที่หยางเฟิงและพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มว่า”ถ้าฉันเดาไม่ผิดหยางอี้คงจะเป็นพี่ชายของนายใช่ไหม?“หยางเฟิงตกใจ”คุณรู้จักพี่รองของผมด้วยหรอ?”เจียงเฉินยิ้มออกมา”รู้จักหน้าแต่ไม่รู้จักกัน”เมื่อนึกถึงหยางอี้ตอนที่อยู่ในสนามบินเมืองซานย่า เจียงเฉินนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ในเวลานี้เอง หยางเฟิงนั้นก็ตกตะลึง! เจียงเฉินนั้นรู้จักพี่รองของเขาจริงๆ! และดูจากการแสดงออกของเจียงเฉินแล้วเขาคงจะผ่า นการต่อสู้กับพี่รองมาแล้วแน่ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะเป็นฝ่ายชนะด้วย!
นี่มันหมายความว่ายังไงกัน?
บางทีเขาอาจจะเป็นคนรวยรุ่นที่สองด้วยก็ได้เหมือนกัน! มันคงไม่ได้เรียบง่ายเหมือนกับคนเก็บค่าเช่าธรรมดาแล้ว เพราะคนเก็บค่าเช่ามีเงิน เพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นแต่ในแง่ของเครือข่ายความสัมพันธ์ของคนกลุ่มนี้นั้นจะแย่กว่าคนที่เปิดบริษัทเสียอีก
หยางเฟยลดท่าทางของเขาลง” ผมไม่ทราบว่าจริงแล้วคุณเป็นใครกันแน่…?“เจียงเฉินพูดอย่างไม่ใส่ใจ”ฉันก็แค่คนเก็บค่าเช่าธรรมดาๆ ส่วนเรื่องพี่รองของนายนั้น อย่าไปถามเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ดีกว่า เพราะเกรงว่าพี่รองของนายคงจะต้องอับอายแน่ๆ หยางเฟิงเข้าใจได้ในทันที
ผู้คนรอบๆพากันมองการสนทนาระหว่างเจียงเฉินกับนายน้อยสามหยางเฟิง
ปรากฏว่าเจียงเฉินนั้นเป็นคนใหญ่คนโตจริง!!
เพื่อนสนิทคนที่ 3 และ 5 ที่พึ่งจะเยาะเย้ยเจียงเฉินไปก่อนหน้านี้ก็ก้มหัวและไม่กล้าพูดอะไรออกมา
ในเวลานี้เอง
ที่หน้าประตูร้านอาหารเมอร์เซเดสเบนซ์ เศรษฐีสาวสวยผิวขาวและขายาวก็เดินมาพร้อมกับเพื่อนสนิทของเธอสองคน
เจียงฉันหันไปมอง!
เวรแล้ว!
นี่มันเศรษฐีคนนั้นที่ไล่ตามฉันอยู่ไม่ใช่หรอ?
ต้องรีบหนีแล้ว!
เจียงเฉินพูดกับซูเสี่ยวเสี่ยวอย่างรวดเร็ว ฉันจะต้องรีบไปทําธุระต่อแล้วเธอจะไปพร้อมกับฉันเลยมั้ย?“เมื่อซูเสียวเสี่ยวได้ยินแบบนั้นดวงตาของเธอนั้นก็สว่างขึ้นมาทันที”ไป ไปสิ!“จากนั้น เจียงเฉินก็วิ่งไปกับซูเสียวเสี่ยวอย่างรวดเร็ว
หยางเฟิงกับฉินอี้ถึง”…“เพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาว”…“อะไรกัน!
ออกไปทําธุระตอนนี้เนี่ยนะ!!
ในเวลานี้เองเศรษฐีสาวสวยก็มองไปทางนั้นพอดี และเห็นแผ่นหลังของเฉิน
เศรษฐีสาวสวย”???”
เทพบุตรของฉัน?