บทที่ 402 คลอดได้อย่างเดียว ตายดีกว่าไหม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 402 คลอดได้อย่างเดียว ตายดีกว่าไหม
“หากเจ้าสามารถหามุกมังกรสองลูกสุดท้ายมาได้ เผ่าหยกเห็นแก่มุกมังกร อาจจะให้เจ้ายืมมุกมังกรห้าลูก หรือช่วยกู้ชูหน่วนถอนคำสาปโลหิต ไม่อย่างนั้น….ฮึฮึฮึ….”

เย่จิ่งหานรู้

 

แม่ของเขาหักหลังเผ่าหยก กลายเป็นความอับอายของเผ่าหยก

คนของเผ่าหยกไม่มีทางไว้หน้าเขา และยิ่งไม่มีทางช่วยเขาอย่างไม่มีข้อแลกเปลี่ยน

ก่อนที่เสด็จแม่จะเสียชีวิต สิ่งที่คิดอยู่ตลอดก็คือตามหามุกมังกรทั้งเจ็ด

หลายปีมานี้ ไม่ว่าด้วยวิธีไหน ล้วนตามหาเบาะแสมุกมังกรมาตลอด และเขาก็แพร่งพรายเบาะแสมุกมังกรให้เผ่าหยกรู้อย่างลับๆ เพื่อเป็นการสนองความต้องการแทนเสด็จแม่

“ตอนนี้นอกจากเจ้าจะคิดเรื่องมุกมังกรแล้ว ควรที่จะคิดถึงลูกในท้องของนางด้วย เจ้าอย่าลืมว่า คำสาปโลหิตสามารถสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น ไม่ว่าจะเป็นลูกผู้ชายหรือลูกผู้หญิง ล้วนทุกข์ทรมานอย่างตายทั้งเป็น”

“ยังไงก็ต้องเก็บลูกไว้”

เย่จิ่งหานพูดประโยคนี้ทิ้งไว้ แล้วก็เดินออกไปอย่างโกรธจัด เหลือไว้เพียงเงาหลังที่มุ่งมั่น

ซูมู่ถอนหายใจอย่างจนใจ คิ้วดกดำดั่งภูเขาขมวดย่นเป็นก้อน อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวลแทนเย่จิ่งหาน

มุกมังกรจะสามารถหาเจอได้ง่ายๆขนาดนั้นหรือ

หากง่ายขนาดนั้น เผ่าหยกคงไม่ตามหามาเป็นพันปี ก็ยังหามุกมังกรไม่ครบเจ็ดลูก

ลูกของเย่จิ่งหาน คงไม่โชคดีเหมือนอย่างเขา

ที่เขาไม่ต้องคำสาปโลหิต เพราะบรรพบุรุษต้องยอมเสียสละมากมาย จึงแลกได้มา

และความเสียสละนี้ ต่อให้ตอนนี้เขามีความคิดที่จะใช้ชีวิตแลกด้วยชีวิต ก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้

มื้อเที่ยง

ไม่รอให้เย่จิ่งหานจัดการ กู้ชูหน่วนก็สั่งคนทำอาหารเที่ยงไว้อย่างมากมาย

เย่จิ่งหานถูกเชื้อเชิญไป กู้ชูหน่วนสีหน้ายิ้มแย้ม ตักข้าวให้เขาด้วยตนเอง ยังตักกับข้าวให้เขาเยอะแยะ ทำให้ความรู้สึกย่ำแย่ของเย่จิ่งหานค่อยดีขึ้นมาหน่อย

“ท่านอ๋อง ปกติเจ้ามีงานราชการมากมายขนาดนั้น ไม่ทานข้าวพักผ่อนดีๆ พิษในกายยังบั่นทอนเจ้ามานานหลายปีขนาดนั้น เจ้าต้องบำรุงเยอะ แกงลูกบัวถ้วยนี้ นอกจากช่วยดับร้อน ยังช่วยบำรุงร่างกาย มา ลองชิมดู”

เย่จิ่งหานชิมหนึ่งคำ มุมปากเผยรอยยิ้มพอใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “อืม อร่อย”

“ยังมีอันนี้ เป็นปลาที่เพิ่งจับมาสดๆ เจ้าลองชิมดู ข้าให้คนเอาก้างออกหมดแล้ว ไม่ต้องกลัวก้างติดคอ”

“อร่อย อร่อยกว่าปลาที่เคยทานมา”

“ยังมีอันนี้ เจ้าลองดู ขาหมู ทานไปแล้วช่วยบำรุงขา ขาทั้งคู่ของเจ้าเพิ่งหาย ต้องบำรุงเยอะๆ”

หากเป็นคนอื่นพูดแบบนี้ เย่จิ่งหานคงโกรธอย่างมาก

แต่คำพูดนี้กู้ชูหน่วนเป็นคนพูด เขารู้สึกเพียงอบอุ่นใจ

“กับข้าวพวกนี้เจ้าสั่งให้คนในครัวทำด้วยตนเองหรือ?”

“ไม่เพียงเท่านั้น ข้ายังคอยกำกับดูด้วยตนเอง หากไม่ใช่เพราะเมื่อวานข้าพักผ่อนได้ไม่เพียงพอ ข้าคงลงมือทำเองแล้ว”

“เจ้ากำลังตั้งครรภ์ งานหนักแบบนี้ ให้คนใช้ไปทำก็พอแล้ว ข้ารู้ถึงความตั้งใจของเจ้าก็เพียงพอแล้ว”

เย่จิ่งหานพูดพร้อมกับคีบเนื้อให้กู้ชูหน่วนหนึ่งชิ้น

กู้ชูหน่วนทานไปด้วย ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปด้วย นัยน์ตาดำขรึมกำลังกลิ้งไปมา

“ท่านอ๋อง ข้ามีของขวัญจะให้เจ้า แต่เจ้าต้องรับปากข้า หลังจากข้าส่งของขวัญให้เจ้าแล้ว เจ้าก็ต้องส่งของขวัญให้ข้าหนึ่งชิ้น”

เย่จิ่งหานหยุดชะงักในการทานข้าว

“เจ้าทำมากมายขนาดนี้ ก็เพื่ออยากได้ของขวัญจากข้า เมื่อวานเจ้าพูดว่า ผ่าเทียนเฟิ่นให้เจ้าเอาสิ่งของอย่างหนึ่งจากข้า คือสิ่งของอะไร?”

“ม้วนหนังแกะโบราณนั่นแหละ เจ้าบอกว่าม้วนหนังแกะโบราณสำคัญขนาดนั้น ข้าจะช่วยเผ่าเทียนเฟิ่นเอาไปจากเจ้าได้ยังไง”

ม้วนหนังแกะโบราณ?

เย่จิ่งหานคิดขึ้นมาได้แล้ว

คือม้วนโบราณที่ประมูลมาจากที่จัดประมูลเฟิงเซียงในราคาแพงวันนั้น