ตอนที่ 268 หลักฐาน / ตอนที่ 269 ทำผิดต่อเธอ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 268 หลักฐาน 

 

 

           มือที่กำลังเคลื่อนไหวของฉู่อีอีแข็งทื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หยุดชะงักเช่นกัน เขาหมายความว่าอะไร โกหกเขาเรื่องอะไร หรือว่าเขาจะรู้แล้ว เธอคาดเดาอยู่ในใจ 

 

 

           “ฉันโกหกอะไรคุณเหรอ” แม้ในใจจะสงสัยแต่ก็ยังเอ่ยถาม แววตาเผยความไม่เข้าใจ สีหน้ายิ่งตื่นตระหนก 

 

 

           เห็นท่าทางของฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยรู้สึกผิดหวังอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ เดิมทีเพียงแค่เธอยอมรับเขาก็จะไม่กล่าวโทษเธอ คิดไม่ถึงว่าเธอไม่แม้แต่จะยอมรับ 

 

 

           “เรื่องสร้อยคอ ตกลงว่าคุณหลอกผมหรือเปล่า” ริมฝีปากที่บอบบางและเยือกเย็นอ้าเอ่ย คำพูดหลุดออกมาจากปากของเผยหนานเจวี๋ย น้ำเสียงเฉียบคม 

 

 

           ขอเพียงเธอยอมรับ เขาก็จะไม่เอาเรื่องและจะไม่สนใจอีก 

 

 

           เรื่องสร้อยคอ เขารู้ว่าเป็นฝีมือของเธอแล้วเหรอ แต่ว่าจะเป็นไปได้ยังไง เมื่อเห็นสีหน้าที่ดูไม่ได้ของเผยหนานเจวี๋ย ฉู่อีอีคิดวนเวียนอยู่ในใจ คาดเดาในใจว่าเขาจะมีหลักฐานอะไรมายืนยันว่าเธอเป็นคนทำกันแน่ ฉู่เจียเสวียนที่เพิ่งมาเมื่อกี้คุยอะไรกับเขา 

 

 

           ระหว่างที่คิดเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ฉู่อีอีก็ยังไม่คิดที่จะยอมรับ ไม่อยากทำลายภาพลักษณ์ของเธอที่อยู่ในใจของเผยหนานเจวี๋ย “ฉันไม่ได้โกหกคุณ” 

 

 

           ฉู่อีอีลังเลใจ แต่กลับอยากพนันอีกสักตั้ง พนันว่าฉู่เจียเสวียนได้เจอหลักฐานหรือเปล่า แต่ว่าหลังจากที่พูดออกไปเธอก็รู้สึกเสียใจซะแล้ว เพราะว่าเมื่อเจอกับฉู่เจียเสวียนเมื่อครู่ เห็นแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจของเธอ ครั้งนี้หัวใจของเธอว้าวุ่นโดยสมบูรณ์ 

 

 

           แต่ตอนนี้ก็พูดออกไปแล้ว เธอควรจะเอาตัวรอดจากเรื่องนี้ไปได้อย่างไร 

 

 

           ในใจคิดหาวิธีรับมืออย่างร้อนรน 

 

 

           คำพูดของฉู่อีอีทำให้เผยหนานเจวี๋ยผิดหวังในตัวเธอจริงๆ ทำไมกัน เขาให้โอกาสเธอถึงสองครั้งแล้ว ทำไมเธอยังไม่ยอมพูดความจริงกับเขา 

 

 

 

 

 

           เห็นสีหน้าที่ยิ่งผิดปกติของเผยหนานเจวี๋ย หัวใจของฉู่อีอียิ่งไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 

 

 

           เป็นไปตามคาด มือของเผยหนานเจวี๋ยขยับเขยื้อน เปิดผ้าห่มออก หยิบเครื่องเล่นวีดีโอที่อยู่ใต้ผ้าปูเตียงออกมา “คุณดูเอาเองเถอะ” 

 

 

           เสียงที่ล้ำลึกและเยือกเย็นดุจน้ำแข็งดังออกมาจากปากของเผยหนานเจวี๋ย วางเครื่องเล่นวีดีโอไว้ที่ข้างเตียง มองฉู่อีอีพร้อมกับพูด 

 

 

           “นี่คืออะไร” เห็นเขาที่จู่ๆ หยิบเครื่องเล่นวีดีโอออกมา เสียงของฉู่อีอีสั่นเครือเล็กน้อย ส่วนลึกของวิญญาณก็สั่นคลอนตามไปด้วย 

 

 

           “ดูเองสิ” 

 

 

           เพียงสามคำทำให้สีหน้าของฉู่อีอีเปลี่ยนเป็นความน่าเกลียด เอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา เมื่อเห็นวีดีโอที่อยู่ข้างในแล้ว สีเลือดบนใบหน้าของเธอจางหายไปโดยสิ้นเชิง 

 

 

           โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าเธอคุกเข่าต่อหน้าฉู่เจียเสวียนและเมื่อเธอยื่นมือไปที่กระเป๋าของฉู่เจียเสวียน หัวใจของเธอระส่ำระส่ายเป็นอย่างมาก มันสับสนอยู่ไม่กี่วินาที ไม่นานฉู่อีอีก็สงบลง 

 

 

           “หนานเจวี๋ย พี่สาวเป็นคนให้คลิปนี้กับคุณใช่ไหม” ฉู่อีอีเอ่ยอย่างตื่นตระหนก ไม่นานก็สงบสติอารมณ์บนใบหน้าได้แล้ว ท่าทางของใบหน้าที่ตื่นตกใจทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยอดไม่ได้ที่จะเต้นแรง 

 

 

           “อือ” ตอบรับแผ่วเบา เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีอย่างเย็นชา เห็นสีหน้าประหลาดใจของเธอ คิ้วขมวดเข้าหากัน 

 

 

           “ดูแล้วฉันคงใส่ร้ายพี่สาวเข้าซะแล้ว” ฉู่อีอีทำเป็นบ่นพึมพำ สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่ในใจกลับด่าทอฉู่เจียเสวียน 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนบัดซบ คิดไม่ถึงว่าจะปล่อยให้เธอหาหลักฐานได้จริงๆ ในใจโมโหจนอยากฆ่าคน แต่ว่าสีหน้ากลับไม่แสดงอาการใดๆ 

 

 

           “คุณตั้งใจเอาสร้อยคอใส่ลงไปในกระเป๋าของฉู่เจียเสวียนใช่ไหม” ได้ยินฉู่อีอีบ่นพึมพำเหมือนไม่รู้ตัว น้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยคมกริบ ดวงตาส่วนลึกเผยให้เห็นร่องรอยของความเหนื่อยล้า 

 

 

           ในใจรู้สึกไร้เรี่ยวแรงและยิ่งหนักอึ้ง มองดูผู้หญิงที่ตัวเองรักตรงหน้า เขารู้สึกผิดแปลกไปเป็นครั้งแรก 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณอย่าโมโหเลย วันนั้นที่ฉันเจอหน้าพี่สาว เป็นไปได้ว่าไม่ระวังเลยทำสร้อยคอหล่นลงไปในกระเป๋าของเธอแล้ว” 

 

 

 

 

 

      ตอนที่ 269 ทำผิดต่อเธอ 

 

 

           สีหน้าของฉู่อีอีเปลี่ยนไป เผยให้เห็นความกังวลและความรู้สึกขอโทษ สายตามองดูสีหน้าของเผยหนานเจวี๋ย ในใจมีความคิดร้อยพันวนเวียน  

 

 

           “ไม่ระวัง? วันนั้นทำไมคุณต้องไปหาเขา แล้วยังคุกเข่าให้เขาอีก?” ถามข้อสงสัยในใจ น้ำเสียงของเผยหนานเจวี๋ยเฉยเมย แม้แต่แววตาที่มองฉู่อีอีก็เฉนเมยตามไปด้วย 

 

 

           เขาไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเธอต้องคุกเข่าให้ฉู่เจียเสวียน เธอทำผิดอะไรจนต้องการให้ฉู่เจียเสวียนให้อภัยงั้นเหรอ 

 

 

           มือที่อยู่ข้างลำตัวกำแน่นโดยไม่รู้ตัว ราวกับมีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถข่มความโกรธที่กำลังจะระเบิดเอาไว้ 

 

 

           วันนั้นที่คุกเข่าให้ฉู่เจียเสวียน ก็เพียงเพื่อให้เธอลงมือกับเธอง่ายขึ้นก็เท่านั้น คิดไม่ถึงว่าร้านอาหารแห่งนั้นจะมีกล้องวงจรปิด เพราะเธอประมาทเกินไปแล้ว คราวนี้ถูกตบหน้าอย่างจัง ความเกลียดชังของเธอที่มีต่อฉู่เจียเสวียนยิ่งเพิ่มขึ้นมาอีกขั้น 

 

 

           ฉู่เจียเสวียน เธอทำให้ฉันอับอายขายหน้าต่อหน้าเผยหนานเจวี๋ยครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ฉันขายหน้าต่อหน้าทุกคน ฉันไม่มีทางปล่อยเธอไปแน่นอน 

 

 

           “ฉันแค่รู้สึกผิดต่อพี่สาว ก็เลยอยากขอให้เธอให้อภัย ตั้งแต่ที่พี่สาวกลับประเทศมาก็เมินเฉยกับฉันตลอดเวลา กับแม่ก็เมินเฉยเหมือนกัน ฉันก็เลยคิดว่าอาจเป็นเพราะพี่สาวยังลืมคุณไม่ได้ กล่าวโทษฉัน ฉันก็เลยขอให้เขาให้อภัยฉัน ตอนนั้นเป็นไปได้ว่าไม่ระวังสร้อยคอเลยตกลงไปในกระเป๋าของพี่สาว” 

 

 

           “อีกอย่างเมื่อวาน ฉันเจอแค่พี่สาวจริงๆ หนานเจวี๋ย ฉันไม่ได้พูดว่าพี่สาวเป็นคนขโมยสร้อยคอไปนะ” 

 

 

           คำอธิบายของฉู่อีอี ทำให้ในใจของเผยหนานเจวี๋ยเชื่อคำพูดของเธอไปแล้ว 

 

 

           “จริงเหรอ?” ดวงตาทั้งคู่ที่แหลมคมของเผยหนานเจวี๋ยจับจ้องฉู่อีอี ราวกับว่าต้องการค้นหาอะไรจากใบหน้าของเธอ 

 

 

           “จริงสิ หนานเจวี๋ย ทำไมฉันต้องใส่ร้ายพี่สาวด้วย ฉันไม่ได้มีความแค้นกับพี่สาวสักหน่อย อีกอย่างสร้อยคอเส้นนี้เป็นของที่แม่ของคุณมอบให้สะใภ้บ้านเผย ฉันก็ต้องกังวลใจแน่นอน” 

 

 

           พูดจบก็เดินไปด้านหน้าเผยหนานเจวี๋ย ยื่นมือเขย่ามือของเผยหนานเจวี๋ย สีหน้ามีความน้อยใจ 

 

 

           คำพูดของฉู่อีอี ทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยเชื่อเธออย่างสมบูรณ์ 

 

 

           ก็จริง ตอนนี้ฉู่อีอีไม่มีความแค้นกับฉู่เจียเสวียน จะใส่ร้ายฉู่เจียเสวียนได้อย่างไร 

 

 

           นึกถึงฉากที่กงจวิ้นฉือปกป้องฉู่เจียเสวียนเมื่อวาน นึกถึงคำพูดของกงจวิ้นฉือ เขาก็รู้สึกเหมือนว่าถูกคนตบหน้าจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน เจ็บปวดแสบปวดร้อน 

 

 

           ความรู้สึกอ่อนเพลียก่อตัวขึ้นในใจ สูดหายใจลึกจากนั้นก็ผ่อนออก หลับตา ปิดกั้นสีหน้าคับข้องใจของฉู่อีอีที่มองมายังเขา 

 

 

           ผ่านไปห้าวินาที เผยหนานเจวี๋ยลืมตาของเขาที่เปล่งประกายดุจดวงดาวขึ้น ริมฝีปากที่บอบบางและเยือกเย็นอ้าเอ่ย “ในเมื่อเรื่องนี้เป็นการเข้าใจผิด งั้นก็อย่าพูดถึงมันอีกเลย เพียงแต่อีอี ผมหวังว่าคุณจะไม่มีวันหลอกผม คุณก็รู้ดีว่าผมเกลียดอะไรที่สุด” 

 

 

           สายตาเย็นชามองอีอี จ้องเธอตาไม่กระพริบ แววตานั้นราวกับว่าต้องการมองทะลุไปถึงหัวใจของฉู่อีอี 

 

 

           สบสายตาของเผยหนานเจวี๋ย หัวใจของฉู่อีอีเต้นรัว ความไม่สงบก่อตัวขึ้นภายในใจ แน่นอนเธอรู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยเกลียดการหลอกลวงที่สุด 

 

 

           “ฉันรู้อยู่แล้ว หนานเจวี๋ย ฉันไม่มีทางโกหกคุณหรอก” ฝืนยิ้ม มองดูเผยหนานเจวี๋ยและเอ่ยปากราวกับว่าเป็นการรับประกัน 

 

 

           ได้ยินคำพูดของฉู่อีอี มองสำรวจเธอหนึ่งวินาที ในที่สุดก็ละสายตา 

 

 

           เรื่องสร้อยคอครั้งนี้ทำให้หัวใจของเผยหนานเจวี๋ยอ่อนล้า เขารู้สึกว่าได้ทำผิดต่อฉู่เจียเสวียน ในใจต้องการทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการชดเชยให้กับฉู่เจียเสวียน 

 

 

           แต่ว่าเธอในตอนนี้ไม่น่าจะขาดอะไรแล้วละมั้ง เมื่อคิดว่าตอนนี้เธอกำลังอยู่กับกงจวิ้นฉืออย่างมีความสุขถึงเพียงนั้น ความผิดหวังในใจของเขาก็ยิ่งหนักหน่วง