ตอนที่ 589

Alchemy Emperor of the Divine Dao

หุ่นเชิด

ต้าเถี่ยโถวเค้นเสียงและพูดว่า “พวกเจ้ายังไม่ให้พวกข้าเข้าไปอีกรึ!”

“พี่ใหญ่ต้าเถี่ยโถว ท่านรออยู่ตรงนี้ก่อน” เรือเล็กแล่นเข้ามาหา และในไม่ช้าได้เกิดแสงประหลาดขึ้นราวกับว่ามิติถูกบิดเบือน

“พี่ใหญ่ต้าเถี่ยโถวเชิญขึ้นมาได้เลย” พวกมันทั้งสี่คนพูด

พวกหลิงฮันทั้งสามคนขึ้นไปบนเรือและพวกมันทั้งสี่คนพายเรือเข้าฝั่ง

“ทำไมหญิงสาวคนนี้ถือยังถือก้อนอิฐอยู่อีก?” เมื่อพวกมันทั้งสี่คนเห็นก้อนอิฐที่อยู่ในมือของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน ช่วยไม่ได้ที่พวกมันจะรู้สึกสงสัย

หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “นางแค่รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยใช้มันเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น”

พวกมันทั้งสี่คนแสยะยิ้มและพูดว่า “หึ่ม การได้ติดตามหัวหน้าของพวกเรารับรองนางจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”

หลิงฮันไม่ได้สนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย  ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงเกาะไม้ทมิฬ เกาะไม้ทมิฬไม่ได้มีแค่ต้นไม้สีดำอยู่ทุกหนแห่งเท่านั้น แต่พื้นดินเองก็เป็นสีดำด้วย

“แล้วหัวหน้าอยู่ที่ไหน?” ต้าเถี่ยโถวถาม

“หัวหน้ายังคงอยู่ในถ้ำ” พวกมันคนหนึ่งกล่าว

“แล้วถ้ำอยู่ไหนกันล่ะ?” หลิงฮันถาม

พวกมันทั้งสี่คนจ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “พี่ใหญ่ต้าเถี่ย ดูเหมือนว่าน้องชายของท่านจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย นั่นคือเรื่องที่ควรถามออกมาหรือไม่?”

สีหน้าของต้าเถี่ยโถวกลายเป็นเกรี้ยวกราดและพูดว่า “สิ่งที่พวกเจ้าพูดมันฟังดูไร้สาระยิ่งกว่า!”

พวกมันทั้งสี่คนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ทำไมสีหน้าของเขาถึงเปลี่ยนเร็วขนาดนี้? พวกมันมองหน้ากันไปมาและพูดว่า “พี่ใหญ่ต้าเถี่ย หัวหน้าบอกพวกข้าไว้ว่าเมื่อเขาเข้าไปในถ้ำห้ามใครเข้ามารบกวน ในเมื่อท่านส่งสาวงานให้พวกเราแล้ว โปรดกลับไปได้แล้ว!”

“น้องชาย เจ้าคิดว่าไง?” ต้าเถี่ยโถวถามหลิงฮัน

“ดี” หลิงฮันยิ้ม “จัดการพวกมันให้หมด”

“ได้เลยน้องชาย!” ต้าเถี่ยโถวกระแทกฝ่ามือใส่พวกมันทั้งสี่คน ทำให้พวกมันตายทันที

หลังจากนั้น หลิงฮันเรียกฮูหนิวออกมา เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่านางจะตกอยู่ในอันตราย ส่วนจูเสวี่ยนเอ๋อนั้นฝึกฝนอยู่ในหอคอยทมิฬ แม้นางจะเป็นอัจริยะแต่ยังห่างไกลจากฮูหนิว

“นำทางข้าไปที่ถ้ำ” หลิงฮันเตะต้าเถี่ยโถว ฝ่ายตรงข้ามยังคงตกตะลึงกับการปรากฎตัวของฮูหนิว อาวุธวิญญาณที่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้นั้นมันไม่เคยได้ยินมาก่อนจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะรู้สึกตกตะลึง

ต้าเถี่ยโถวนำทางโดยที่มีกลุ่มของหลิงฮันสามคนอยู่ด้านหลัง และเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมองโลกรอบข้างด้วยความแปลกตาขณะที่จับมุมเสื้อของหลิงฮันด้วยมือข้างซ้าย

บนเกาะมีลูกสมุนอยู่จำนวนมาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับต้าเถี่ยโถว เพราะมันเองก็เป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน เมื่อมันพบคน มันก็จะลงมือสังหารทันทีอย่างไร้ความเมตตา

แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งเกาะได้เกิดเสียงเตือนขึ้น

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!

เสียงเพิ่งจะดังขึ้น สัตว์อสูรขนาดใหญ่สามตัวก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว

มันเป็นสัตว์อสูรที่มีรูปร่างขนาดมนุษย์แต่สูงถึงสามฟุต และร่างของพวกมันมันวาวไปด้วยโลหะสีดำ

“หุ่นเชิด?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ ก่อนหน้านี้มีหลายคนคิดว่าอสูรศิลานั้นเป็นหุ่นเชิด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหุ่นเชิดสามตัวที่อยู่เบื้องหน้า เขาแสยะยิ้มอยู่ในใจและเรียกอสูรศิลาออกมา “จัดการพวกมัน!”

ทันใดนั้น อสูรศิลากระโจนออกไปทันทีและต่อสู้อย่างดุเดือดกับหุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัว

แม้พวกมันจะไม่ใช่มนุษย์ทั้งสองฝั่ง แต่ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก นั่นคือ หุ่นเชิดเป็นคล้ายกับซากศพที่ไร้ชีวิต แต่อสูรศิลานั้นแตกต่างจากพวกมันอย่างสิ้นเชิง มันเกิดขึ้นมาจากพลังของสวรรค์และโลก ทำให้มันสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง

ตอนนี้ อสูรศิลาบรรลุระดับบุปผาผลิบานช่วงปลายแล้วและมีโอกาสที่จะทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณ อย่างไรก็ตาม การทะลวงผ่านระดับของมันนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของตัวมันเอง แต่ขึ้นอยู่กับพลังของหินที่มันดูดซับ

“พาข้าไปที่ถ้ำต่ออย่าหยุด” หลิงฮันพูดกับต้าเถี่ยโถว

“ตกลง!” เมื่อต้าเถี่ยโถวเห็นพลังของอสูรศิลาที่เหนือกว่าหุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัวอย่างเห็นได้ชัด ในความคิดเห็นของมัน หุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัวเป็นตัวตนไร้พ่ายในระดับบุปผาผลิบาน

แต่ทว่าตอนนี้พวกมันกลับถูกอสูรศิลาของหลิงฮันทุบตีอยู่ข้างเดียว

“น้องชาย โปรดมากับข้า” ต้าเถี่ยโถวสุภาพกับหลิงฮันมากยิ่งขึ้น สมดุลภายในหัวใจของมันนั้นเริ่มเอนเอียงไปอยู่ฝั่งหลิงฮันแล้ว

พวกเขาเดินมาถึงกลางภูเขาและเห็นหลุดขนาดใหญ่บนภูเขา ข้างในมืดสลัวและเงียบงันและมีประกายแสงของคบเพลิง

ตู้ม ตู้ม ตู้ม เสียงเดินของอสูรศิลาเข้ามาใกล้เห็นได้ชัดว่ามันจัดการหุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัวเรียบร้อยแล้ว

หลิงฮันเดินเข้าไปในถ้ำและเริ่มใช้เนตรแห่งสัจธรรม แม้ว่าถ้ำจะมืด แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา พื้นที่ภายในถ้ำนั้นน่าทึ่งมัน ราวกับว่ามันเป็นเมืองขนาดเล็กและทุกอย่างดูแปลกตา

“เรือมังกรเงินที่เฝิงเหว่ยฉีมอบให้เจ้ามาจากที่นี่งั้นหรือ?”

“เจ้าเดาได้ถูกต้อง!” ต้าเถี่ยโถวรู้สึกประหลาดใจ ครั้งนี้มันไม่ได้พูดจาประจบประแจง แต่รู้สึกตกใจ

หลิงฮันไม่ได้คาดเดา รูปร่างของถ้ำแห่งนี้มันแปลกประหลาดมาก ถ้าหากเรือมาจากที่นี่ มันคงจะเติมเต็มช่องว่างภายในถ้ำได้ จึงสรุปว่าเฝิงเหว่ยฉีนั้นได้ค้บพบโบราณสถานและได้รับสมบัติจากที่แห่งนี้

และอีกฝ่ายยังคงอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน แสดงให้เห็นว่ามันยังมีของล้ำค่าหลงเหลืออยู่อีก

หลิงฮันรู้สึกสนใจมาก เรือมังกรเงินนั้นทรงพลังมาก ปืนพลังหยวนเองก็สามารถคุกคามจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานได้ และม่านพลังที่เหนือกว่าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ

เรือมังกรทองจะต้องทรงพลังกว่านี้อย่างแน่นอน และเฝิงเหว่ยฉียังคงอยู่ในนี้ตลอดเวลา มันจะมีอะไรที่น่าสนใจกว่านี้อยู่อีกหรือไม่?

หลิงฮันเดินเร็วขึ้นและเข้าไปในถ้ำลึกขึ้น มีร่องรอยการขุดอยู่ทุกหนแห่ง มันควรมีสิ่งของมากมายที่ถูกค้นพบ และหุ่นเชิดสามตัวนั่นน่าจะถูกขุดมาจากที่นี่ด้วย

หลังจากนั้นไม่กี่ก้าว หลิงฮันรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและชักดาบออกมาทันที ปฏิกิริยาตอบสนองของฮูหนิวเองก็ไม่ได้เชื่องช้า และคำรามออกมาพร้อมกับจิตสังหาร

ตู้ม!

หุ่นเชิดสีเงินสองตัวปรากฏตัวออกมา ครั้งนี้มันไม่ใช่หุ่นเชิดเหล็ก แต่เป็นหุ่นเชิดเงินซึ่งแตกต่างจากหุ่นเชิดเหล็ก พวกมันดูคล้ายมนุษย์มากกว่าและมีร่างกายที่มีความยืดหยุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ

หลิงฮันกวัดแกว่งดาบและฮูหนิวกระโจนพุ่งเข้าหามัน แต่ร่างกายผิวเงินของมันนั้นโยกหลบ ราวกับคลื่นน้ำ และการโจมตีของพวกเขาทั้งสองคนก็หายไป

มันยังเป็นระดับบุปผาผลิบาน แต่ในแง่ของพลังป้องกันนั้นเหนือกว่าหุ่นเชิดเหล็กก่อนหน้านี้มากและยังหลบหลีกการโจมตีได้อย่างพริ้วไหวราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำ