ต้าเถี่ยโถวเค้นเสียงและพูดว่า “พวกเจ้ายังไม่ให้พวกข้าเข้าไปอีกรึ!”
“พี่ใหญ่ต้าเถี่ยโถว ท่านรออยู่ตรงนี้ก่อน” เรือเล็กแล่นเข้ามาหา และในไม่ช้าได้เกิดแสงประหลาดขึ้นราวกับว่ามิติถูกบิดเบือน
“พี่ใหญ่ต้าเถี่ยโถวเชิญขึ้นมาได้เลย” พวกมันทั้งสี่คนพูด
พวกหลิงฮันทั้งสามคนขึ้นไปบนเรือและพวกมันทั้งสี่คนพายเรือเข้าฝั่ง
“ทำไมหญิงสาวคนนี้ถือยังถือก้อนอิฐอยู่อีก?” เมื่อพวกมันทั้งสี่คนเห็นก้อนอิฐที่อยู่ในมือของเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยน ช่วยไม่ได้ที่พวกมันจะรู้สึกสงสัย
หลิงฮันหัวเราะและพูดว่า “นางแค่รู้สึกไม่ปลอดภัยเลยใช้มันเพื่อปกป้องตัวเองเท่านั้น”
พวกมันทั้งสี่คนแสยะยิ้มและพูดว่า “หึ่ม การได้ติดตามหัวหน้าของพวกเรารับรองนางจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน”
หลิงฮันไม่ได้สนใจพวกมันเลยแม้แต่น้อย ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงเกาะไม้ทมิฬ เกาะไม้ทมิฬไม่ได้มีแค่ต้นไม้สีดำอยู่ทุกหนแห่งเท่านั้น แต่พื้นดินเองก็เป็นสีดำด้วย
“แล้วหัวหน้าอยู่ที่ไหน?” ต้าเถี่ยโถวถาม
“หัวหน้ายังคงอยู่ในถ้ำ” พวกมันคนหนึ่งกล่าว
“แล้วถ้ำอยู่ไหนกันล่ะ?” หลิงฮันถาม
พวกมันทั้งสี่คนจ้องมองไปที่หลิงฮันและพูดว่า “พี่ใหญ่ต้าเถี่ย ดูเหมือนว่าน้องชายของท่านจะไม่รู้เรื่องอะไรเลย นั่นคือเรื่องที่ควรถามออกมาหรือไม่?”
สีหน้าของต้าเถี่ยโถวกลายเป็นเกรี้ยวกราดและพูดว่า “สิ่งที่พวกเจ้าพูดมันฟังดูไร้สาระยิ่งกว่า!”
พวกมันทั้งสี่คนรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที ทำไมสีหน้าของเขาถึงเปลี่ยนเร็วขนาดนี้? พวกมันมองหน้ากันไปมาและพูดว่า “พี่ใหญ่ต้าเถี่ย หัวหน้าบอกพวกข้าไว้ว่าเมื่อเขาเข้าไปในถ้ำห้ามใครเข้ามารบกวน ในเมื่อท่านส่งสาวงานให้พวกเราแล้ว โปรดกลับไปได้แล้ว!”
“น้องชาย เจ้าคิดว่าไง?” ต้าเถี่ยโถวถามหลิงฮัน
“ดี” หลิงฮันยิ้ม “จัดการพวกมันให้หมด”
“ได้เลยน้องชาย!” ต้าเถี่ยโถวกระแทกฝ่ามือใส่พวกมันทั้งสี่คน ทำให้พวกมันตายทันที
หลังจากนั้น หลิงฮันเรียกฮูหนิวออกมา เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่านางจะตกอยู่ในอันตราย ส่วนจูเสวี่ยนเอ๋อนั้นฝึกฝนอยู่ในหอคอยทมิฬ แม้นางจะเป็นอัจริยะแต่ยังห่างไกลจากฮูหนิว
“นำทางข้าไปที่ถ้ำ” หลิงฮันเตะต้าเถี่ยโถว ฝ่ายตรงข้ามยังคงตกตะลึงกับการปรากฎตัวของฮูหนิว อาวุธวิญญาณที่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตได้นั้นมันไม่เคยได้ยินมาก่อนจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มันจะรู้สึกตกตะลึง
ต้าเถี่ยโถวนำทางโดยที่มีกลุ่มของหลิงฮันสามคนอยู่ด้านหลัง และเฮ่อเหลียนสวินเสวี่ยนมองโลกรอบข้างด้วยความแปลกตาขณะที่จับมุมเสื้อของหลิงฮันด้วยมือข้างซ้าย
บนเกาะมีลูกสมุนอยู่จำนวนมาก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับต้าเถี่ยโถว เพราะมันเองก็เป็นจอมยุทธระดับบุปผาผลิบาน เมื่อมันพบคน มันก็จะลงมือสังหารทันทีอย่างไร้ความเมตตา
แต่หลังจากนั้นไม่นานทั้งเกาะได้เกิดเสียงเตือนขึ้น
ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!
เสียงเพิ่งจะดังขึ้น สัตว์อสูรขนาดใหญ่สามตัวก็ปรากฏตัวออกมาแล้ว
มันเป็นสัตว์อสูรที่มีรูปร่างขนาดมนุษย์แต่สูงถึงสามฟุต และร่างของพวกมันมันวาวไปด้วยโลหะสีดำ
“หุ่นเชิด?” หลิงฮันรู้สึกแปลกใจ ก่อนหน้านี้มีหลายคนคิดว่าอสูรศิลานั้นเป็นหุ่นเชิด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหุ่นเชิดสามตัวที่อยู่เบื้องหน้า เขาแสยะยิ้มอยู่ในใจและเรียกอสูรศิลาออกมา “จัดการพวกมัน!”
ทันใดนั้น อสูรศิลากระโจนออกไปทันทีและต่อสู้อย่างดุเดือดกับหุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัว
แม้พวกมันจะไม่ใช่มนุษย์ทั้งสองฝั่ง แต่ดูเหมือนจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก นั่นคือ หุ่นเชิดเป็นคล้ายกับซากศพที่ไร้ชีวิต แต่อสูรศิลานั้นแตกต่างจากพวกมันอย่างสิ้นเชิง มันเกิดขึ้นมาจากพลังของสวรรค์และโลก ทำให้มันสามารถเติบโตได้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้ อสูรศิลาบรรลุระดับบุปผาผลิบานช่วงปลายแล้วและมีโอกาสที่จะทะลวงผ่านระดับตัวอ่อนวิญญาณ อย่างไรก็ตาม การทะลวงผ่านระดับของมันนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของตัวมันเอง แต่ขึ้นอยู่กับพลังของหินที่มันดูดซับ
“พาข้าไปที่ถ้ำต่ออย่าหยุด” หลิงฮันพูดกับต้าเถี่ยโถว
“ตกลง!” เมื่อต้าเถี่ยโถวเห็นพลังของอสูรศิลาที่เหนือกว่าหุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัวอย่างเห็นได้ชัด ในความคิดเห็นของมัน หุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัวเป็นตัวตนไร้พ่ายในระดับบุปผาผลิบาน
แต่ทว่าตอนนี้พวกมันกลับถูกอสูรศิลาของหลิงฮันทุบตีอยู่ข้างเดียว
“น้องชาย โปรดมากับข้า” ต้าเถี่ยโถวสุภาพกับหลิงฮันมากยิ่งขึ้น สมดุลภายในหัวใจของมันนั้นเริ่มเอนเอียงไปอยู่ฝั่งหลิงฮันแล้ว
พวกเขาเดินมาถึงกลางภูเขาและเห็นหลุดขนาดใหญ่บนภูเขา ข้างในมืดสลัวและเงียบงันและมีประกายแสงของคบเพลิง
ตู้ม ตู้ม ตู้ม เสียงเดินของอสูรศิลาเข้ามาใกล้เห็นได้ชัดว่ามันจัดการหุ่นเชิดเหล็กทั้งสามตัวเรียบร้อยแล้ว
หลิงฮันเดินเข้าไปในถ้ำและเริ่มใช้เนตรแห่งสัจธรรม แม้ว่าถ้ำจะมืด แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเขา พื้นที่ภายในถ้ำนั้นน่าทึ่งมัน ราวกับว่ามันเป็นเมืองขนาดเล็กและทุกอย่างดูแปลกตา
“เรือมังกรเงินที่เฝิงเหว่ยฉีมอบให้เจ้ามาจากที่นี่งั้นหรือ?”
“เจ้าเดาได้ถูกต้อง!” ต้าเถี่ยโถวรู้สึกประหลาดใจ ครั้งนี้มันไม่ได้พูดจาประจบประแจง แต่รู้สึกตกใจ
หลิงฮันไม่ได้คาดเดา รูปร่างของถ้ำแห่งนี้มันแปลกประหลาดมาก ถ้าหากเรือมาจากที่นี่ มันคงจะเติมเต็มช่องว่างภายในถ้ำได้ จึงสรุปว่าเฝิงเหว่ยฉีนั้นได้ค้บพบโบราณสถานและได้รับสมบัติจากที่แห่งนี้
และอีกฝ่ายยังคงอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน แสดงให้เห็นว่ามันยังมีของล้ำค่าหลงเหลืออยู่อีก
หลิงฮันรู้สึกสนใจมาก เรือมังกรเงินนั้นทรงพลังมาก ปืนพลังหยวนเองก็สามารถคุกคามจอมยุทธระดับบุปผาผลิบานได้ และม่านพลังที่เหนือกว่าจอมยุทธระดับตัวอ่อนวิญญาณ
เรือมังกรทองจะต้องทรงพลังกว่านี้อย่างแน่นอน และเฝิงเหว่ยฉียังคงอยู่ในนี้ตลอดเวลา มันจะมีอะไรที่น่าสนใจกว่านี้อยู่อีกหรือไม่?
หลิงฮันเดินเร็วขึ้นและเข้าไปในถ้ำลึกขึ้น มีร่องรอยการขุดอยู่ทุกหนแห่ง มันควรมีสิ่งของมากมายที่ถูกค้นพบ และหุ่นเชิดสามตัวนั่นน่าจะถูกขุดมาจากที่นี่ด้วย
หลังจากนั้นไม่กี่ก้าว หลิงฮันรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันและชักดาบออกมาทันที ปฏิกิริยาตอบสนองของฮูหนิวเองก็ไม่ได้เชื่องช้า และคำรามออกมาพร้อมกับจิตสังหาร
ตู้ม!
หุ่นเชิดสีเงินสองตัวปรากฏตัวออกมา ครั้งนี้มันไม่ใช่หุ่นเชิดเหล็ก แต่เป็นหุ่นเชิดเงินซึ่งแตกต่างจากหุ่นเชิดเหล็ก พวกมันดูคล้ายมนุษย์มากกว่าและมีร่างกายที่มีความยืดหยุ่นอย่างไม่น่าเชื่อ
หลิงฮันกวัดแกว่งดาบและฮูหนิวกระโจนพุ่งเข้าหามัน แต่ร่างกายผิวเงินของมันนั้นโยกหลบ ราวกับคลื่นน้ำ และการโจมตีของพวกเขาทั้งสองคนก็หายไป
มันยังเป็นระดับบุปผาผลิบาน แต่ในแง่ของพลังป้องกันนั้นเหนือกว่าหุ่นเชิดเหล็กก่อนหน้านี้มากและยังหลบหลีกการโจมตีได้อย่างพริ้วไหวราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นมาจากน้ำ