บทที่ 88 โจวซงสิ้นชีพ

ระบบเติมเงินข้ามภพ

บทที่ 88

โจวซงสิ้นชีพ

ในที่สุดความหวาดระแวงที่สะสมมานานหลายปีของ โจวซงก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าของเขา หลิวเทียนเซียงและพรรคพวกได้ฝ่าแนวป้องกันที่หละหลวมจากการสนับสนุนของ โจวหลานบุกเข้ามายังห้องโถงของปราการหลิงหยวนอย่างไม่ยากเย็น

ในขณะนี้ทุกสายตาของหลิงเฉิงกลับจับจ้องไปที่การเจรจาระหว่างเย่เย่และโจวหลาน เหล่าพันธมิตรต่างๆของปราการหลิงหยวนต่างไม่ทราบข่าวการโจมตีของหลิวเทียนเซียง หรือต่อให้ทราบกว่ากำลังเสริมของพวกเขาจะมาถึงก็สายเกินไปเสียแล้ว ทำให้ปราการหลิงหยวนที่เหลือจำนวนคนเพียงหยิบมือต้องต่อสู้เพียงลำพัง

“ละ..หลิวเทียนเซียง! เจ้ากล้าดียังไงบุกมาในปราการของข้า!?”

‘ทำไมป่านนี้ โจวหลานยังไม่กลับมาอีกนะ?’ โจวซงคิดในใจ

โจวซงแม้ไม่ได้แสดงออกถึงความกลัวออกมาทางสีหน้า แต่ลึกๆในใจของเขากลับสั่นไหว เขาพยายามพูดถ่วงเวลา และได้เพียงหวังว่าโจวหลานจะกลับมาโดยเร็ว

โจวซงนั้นแม้ไม่เคยเจอเย่เย่ตัวเป็นๆแต่เขากลับอ่านนิสัยของเย่เย่ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เขามั่นใจว่าเย่เย่จะไม่รับข้อเสนอของโจวไท่อย่างแน่นอน และโจวหลานคงฆ่าเขาไปแล้ว

‘หากแผนของโจวหลานสำเร็จได้ด้วยดีละก็ ปราการของข้าจะกลับมาทรงอำนาจอีกครั้งนึง และถึงตอนนั้นหลิวเทียนเซียงก็ไม่ต่างอะไรกับหนูติดจั่นแล้ว!’ โจวซงยังคงเชื่อมั่นในแผนการของโจวหลานแม้ตัวเขาจะเคยคัดค้านแผนนั้นก็ตาม เพราะนี่อาจเป็นเพียงทางออกสุดท้ายของเขาแล้ว

อย่างไรก็ตามหลิวเทียนเซียงนั้นไม่ใช่คนโง่ เขารู้ทันทีว่าโจวซงพยายามจะถ่วงเวลาให้พรรคพวกของเขากลับมา เทพอสูรหลิวจึงพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน

“ป่านนี้ศิษย์นิกายวิถีสวรรค์อะไรนั่นคงโดนเย่เย่ฆ่าทิ้งไปแล้วมั้ง? หรือต่อให้นางยังมีชีวิตอยู่ ยังไงซะเจ้าก็ไม่รอดเงื้อมมือพวกข้าอยู่ดี!”

หลังจากหลิวเทียนเซียงพูดจบ เขาทำมือเป็นสัญญาณเรียกแผนการโจมตีให้พรรคพวกของเขา ทันใดนั้นเหล่าเทพยุทธ์ของเขาก็ยกเครื่องดื่มบางอย่างขึ้นมากระดกด้วยความรวดเร็ว

อึก อึก อึก อึก

เพล้ง เพล้ง เพล้ง

ทันทีที่พวกเขาดื่มหมดขวด พวกเขาก็ปาภาชนะลงพื้นในทันที พริบตานั้นเองจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาก็พลุ่งพล่านขึ้นมาทันที เทพยุทธ์ฝั่งหลิวเทียนเซียงรุดหน้าเข้าโจมตีศิษย์แห่งปราการหลิงหยวนอย่างรวดเร็ว

หลิวเทียนเซียงก็พุ่งเข้าหาโจวซงด้วยความแค้น เป็นครั้งแรกที่สองเทพอสูรเผชิญหน้ากันโดยตรงโดยที่ไม่มีขั้วอำนาจอื่นมาขัดขวาง ด้วยแรงปะทะของทั้งสองทำให้ข้าวของภายในปราการพังเสียหาย และปลิวกระจัดกระจายไปทั่ว

เปรี้ยงงง!

เทพอสูรโจวพยายามอย่างสุดกำลังในการตอบโต้เทพอสูรหลิวคืน เขาตะโกนปลุกใจเหล่าบรรดาศิษย์แห่งปราการด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น และก้องกังวาน

“ที่นี่คือบ้านของพวกเรา! จะให้ใครมาย่ำยีไม่ได้เด็ดขาด!!”

“โอ้ออออออ !!!” ศิษย์แห่งปราการตอบโต้ผู้เป็นนายของเขาด้วยเสียงที่ดังไม่แพ้กัน ด้วยการปลุกใจของโจวซงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของพวกเขาก็กลับมาลุกโชนอีกครั้งหนึ่ง พวกเขาที่เอาแต่ป้องกันการโจมตีของคนนอกก็กลับมาเป็นฝ่ายรุกอีกครั้งหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างไม่มีใครยอมใคร

เคร้ง เคร้ง เคร้ง

สมรภูมิอันดุเดือดนี้ไม่มีท่าทีว่าจะสิ้นสุดได้โดยง่าย จนกระทั่ง…

“ท่านโจว เกิดอะไรขึ้นกับท่านและปราการของท่าน?”

ชายวัยกลางคนในเสื้อคลุมสีดำ และผมยาวสีดำสนิท การแต่งตัวของเขานั้นราวกับมาร่วมงานศพก็มิปาน

เมื่อโจวซงเห็นชายในชุดดำปรากฏตัวขึ้นเขาก็ไม่รอช้ารีบเข้าขอความช่วยเหลือจากชายคนนั้นทันที “โอ้ ท่านนี่เอง! มาได้ทันเวลาพอดี ช่วยข้าจัดการคนพวกนี้ด้วยเถอะ ข้าสัญญาว่าไม่ว่าอะไรข้าให้ท่านได้ทุกอย่าง?”

ชายวัยกลางคนผู้นี้คือ ชิวหวิ๋น ประมุขแห่งสำนักเมฆาทมิฬที่ลึกลับ หนึ่งในห้าขั้วอำนาจของหลิงเฉิง แม้ว่าโจวซงไม่รู้ว่าชิวหวิ๋นมาที่ปราการทำไม แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธที่จะขอความช่วยเหลือในสถานการณ์คับขันเช่นนี้

“ทุกอย่างงั้นเหรอ? งั้นข้าขอชีวิตท่านล่ะนะ”

ชิวหวิ๋นพุ่งตรงไปที่โจวซงก่อนที่จะสวนกำปั้นของเขาเข้าไปที่ท้องของจ้าวปราการ

“อ็อก”

ร่างของโจวซงกระเด็นลอยไปไกล เขากระอักเลือดออกมาทั้งๆที่อยู่บนอากาศ

เหล่าศิษย์แห่งสำนักเมฆาทมิฬที่ซุ่มอยู่ข้างนอกก็เห็นสัญญาณตามแผนที่ชิวหวิ๋นวางเอาไว้ พวกเขาบุกทะลวงเข้ามาและฆ่าฟันเหล่าศิษย์ของปราการในทันที

“นี่เจ้า!? ชิวหวิ๋น เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?” โจวซงที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นเงยหน้ามอง

ชิวหวิ๋นด้วยสายตาที่เริ่มพร่ามัว

ชิวหวิ๋นไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เขาชายตามองโจวซงผู้สูงส่งที่นอนเป็นผักด้วยสายตาเหยียดหยาม

“ก็ได้ๆ ข้ายอมแพ้แล้ว! อย่าฆ่าข้า! อ่อก!” เมื่อพูดจบ โจวซงก็สำลักเลือดออกมาอีกกอง

ภายในไม่กี่อึดใจบรรดาศิษย์น้อยใหญ่แห่งปราการ หลิงหยวนที่ขวัญหนีดีฝ่อก็ถูกคนของสำนักเมฆาทมิฬและพรรคพวกของหลิวเทียนเซียงสังหารไปจนสิ้น

“ชิวหวิ๋นไอ้คนสถุล! หลิวเทียนเซียงมันให้อะไรเจ้า! เจ้าถึงกับฉีกข้อตกลงของห้าขั้วอำนาจ!?”

โจวซงที่นอนแน่นิ่งเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดตรงหน้าของเขา จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง นัยน์ตาที่มองชิวหวิ๋นของเขาแดงก่ำไปด้วยความเคียดแค้น

จ้าวแห่งปราการนั้นไม่รู้เลยว่าสำนักเมฆาทมิฬและ หลิวเทียนเซียงแอบคบค้าสมาคมกันตั้งแต่ตอนไหน ทำให้โจวซงที่ไม่เคยคาดการณ์ถึงกรณีนี้มาก่อนพลาดท่าได้อย่างง่ายดาย

“ข้าไม่ได้ให้อะไรชิวหวิ๋นเลยสักนิดเดียว อีกอย่างข้อตกลงของห้าขั้วอำนาจ สำหรับสำนักเมฆาทมิฬแล้วมันก็ไม่ต่างอะไรกับเศษกระดาษ ข้าให้การสนับสนุนสำนักนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มอย่างลับๆ ไม่แปลกใจเลยที่เจ้าจะไม่รู้”

หลิวเทียนเซียงเอ่ยปากตอบคำถามโจวซงผู้ชะตาขาดแทนชิวหวิ๋นที่ยืนอย่างเงียบๆข้างหลังเขา สีหน้าของเทพอสูรหลิวนั้นมีความสุขเกินกว่าจะพรรณนา ในที่สุดวันที่เขารอคอยทั้งชีวิตก็มาถึง วันที่ปราการหลิงหยวนจะถึงกาลอวสานด้วยน้ำมือของเขา

โจวซงได้ยินดังนั้นเขาก็หลับตาลงด้วยความโศกเศร้า บ่วงความแค้นของพวกเขาถูกผูกมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาล หลิวเทียนเซียงและพรรคพวกไม่ได้มีความแค้นส่วนตัวกับโจวซงเลยแม้แต่น้อยแต่พวกเขาเกลียดชังปราการหลิงหยวนที่ปกครองโดยตระกูลโจว เป้าหมายของพวกเขามีเพียงโค่นปราการมหาอำนาจนี้ลง และปิดบัญชีความแค้นที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลานานนี้เสียที

ทันใดนั้นเองโจวซงที่เสื่อมเสียทั้งชื่อเสียงและเกียรติยศทั้งหมด เขาก็เลือกที่จะปลิดชีพตัวเองลงอย่างไม่ลังเล ความเกลียดชัง ความแค้น ความหวาดระแวงทั้งหมดของเขาก็ดับสูญไปพร้อมๆกับดวงวิญญาณของเขา

“สั่งการลงไป! บอกให้ศิษย์ของพวกเจ้ารีบเก็บของ สำนักเมฆาทมิฬจะอพยพออกจากหลิงเฉิงทันที!”

หลิวเทียนเซียงสั่งการชิวหวิ๋นให้เตรียมพร้อมที่จะหนีออกจากเมืองหลิงเฉิง หลังจากออกคำสั่งเรียบร้อยแล้วเขาก็เริ่มค้นศพโจวซงเพื่อหาจี้หยกเจิ้งฮุนที่เขาตามหา ในที่สุดมือเขาก็สัมผัสกับวัตถุที่เขาตามหา เขานำมันออกมาจากชายเสื้อของโจวซง จี้หยกสะท้อนแสงสีชาดออกมาต้องกับดวงตาของเขา

“นี่เรอะ จี้หยกเจิ้งฮุนของเจียงหวูจิ้น!?” หลิวเทียนเซียงตรวจสอบจี้หยกสีแดงอย่างช้าๆ เขามองลอดเข้าไปที่ข้างใน จี้หยก ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัยเพราะหยกชิ้นนี้ดูไม่ต่างอะไรกับหยกธรรมดาๆทั่วไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อเทียบกับความอุตสาหพยายามของเขามาทั้งชีวิตนับว่าไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย อย่างไรก็ตามจี้หยกนี้อาจมีความลับอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ก็เป็นได้ เขาคิดดังนั้นจึงรีบเก็บจี้หยกเอาไว้กับตัว

“ท่านหลิว พวกข้าพร้อมอพยพแล้วขอรับ!”

เสียงของชิวหวิ๋นก็แทรกเข้ามาในภวังค์ความคิดของเขาทำให้เขาได้สติขึ้นมา แม้ว่าปราการหลิงหยวนจะจบสิ้นแล้ว แต่เขาก็ไม่ลืมว่าโจวซงนั้นมีบุตรบุญธรรมนามว่าโจวไท่อยู่ด้วย พวกเขาจึงต้องอพยพออกจากหลิงเฉิง และเก็บซ่อนตัวตนของพวกเขาไปสักระยะหนึ่ง

หลิวเทียนเซียงและพรรคพวกไม่คาดคิดเลยว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในการคำนวณของโจวไท่ทั้งสิ้น ทุกๆที่ที่เขาไปจะมีสายสืบของโจวไท่คอยจับตามองพวกเขาอยู่เสมอทำให้โจวไท่นั้นเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดยรวมแทบตลอดเวลา รวมไปถึงเรื่องที่สาวใช้ของเขาถูกเย่เย่ฆ่าตายด้วยเช่นกัน

เพล้ง!

ณ ลานฝึกของโจวไท่ที่นิกายวิถีสวรรค์ ภาชนะข้าวของปลิวว่อน กระทบกับผนังทำให้เกิดเสียงดังไปถึงด้านนอกจากการบันดาลโทสะของโจวไท่ เหล่าบรรดาศิษย์คนอื่นๆที่จะเข้าพบโจวไท่ต่างพากันอกสั่นขวัญแขวน และเลี่ยงเข้าพบเขาไปก่อน

“ตายซะ! ตาย ตาย ตาย! ตายให้หมด จะหลิวเทียนเซียงหรือเย่เย่ข้าจะสังหารมันด้วยฝ่ามือนี้เอง!”

โจวไท่แผ่จิตสังหารออกมาพร้อมกระทืบ ทำลายข้าวของของเขาราวกับว่าสิ่งนั้นเป็นศัตรู ยิ่งเขานึกถึงเย่เย่หรือ หลิวเทียนเซียงเท่าไหร่เขายิ่งทวีความโกรธของเขาขึ้นเรื่อยๆ

แม้ว่าโจวหลานจะเป็นเพียงคนรับใช้ของเขา แต่นางก็ติดตามเขามาตั้งแต่เข้านิกายวิถีสวรรค์ นางเป็นพันธมิตรคนเดียวที่ซื่อสัตย์และจริงใจต่อเขา ทำให้ความผูกพันระหว่างเขาและโจวหลานนั้นลึกซึ้งเกินกว่าสาวใช้กับเจ้านาย

หลังจากที่โจวไท่ระบายความโกรธของเขาแล้ว เขาก็รีบบึ่งไปยังหลิงเฉิงด้วยตนเองในทันที ก่อนที่จะไปฆ่าเย่เย่ เขาวางแผนที่จะไปชิงหยกมาจากหลิวเทียนเซียงเสียก่อน

หลิงเฉิงที่ตกอยู่ในความโกลาหลจากการล่มสลายอย่างไม่มีใครคาดคิดของมหาอำนาจ ขั้วอำนาจน้อยใหญ่ทั้งหลายที่ให้การสนับสนุนปราการต่างตกอยู่ในความตื่นตระหนก พวกเขาไม่เพียงหวาดกลัวขั้วอำนาจลึกลับของหลิวเทียนเซียง แต่พวกเขายังกลัวขุมกำลังอื่นๆที่จะเข้ามาแทนที่พวกเขาอีกด้วย…