ตอนที่ 1559

Monster Paradise

มีทางเข้าและทางออกไปยังโลกภายในของเมืองภูตผี หลินฮวงพบทางที่ใกล้สุดตามพิกัดในความทรงจำของมอนสเตอร์ตะกอน

พิกัดนี้ตั้งอยู่ในตรอกซอยทรุดโ?รม

 

เมื่อหลินฮวงมาถึงพิกัด เขาไม่เข้าไปในตรอกซอยทันที เขากลับสังเกตสภาพแวดล้อมก่อน

 

อาคารเก่าเหล่านี้ดูเหมือนจะอยู่มาอย่างน้อย 30-40 ปี เทียบกับตึกระฟ้าที่เขาเห็นก่อนหน้า พวกมันดูเหมือนของโบราณ

 

บางอาคารทรุดโทรมเหมือนพร้อมจะพังถล่ม ไม่มีสักชีวิตในนั้นอีก

 

แต่ทว่า ยังมีอาคารเก่าบางแห่งที่มีประชากรอาศัย

 

เมื่อหลินฮวงปรากฏตัวในชุดคลุมดำ เขาไม่ดึงดูดความสนใจของคน

 

มีเพียงไม่กี่คนที่เหลือบมองเขา จากนั้นก็หันไปทำธุระของตัวเอง

 

หลังตรวจสภาพแวดล้อม และตระหนักว่าไม่มีใครจ้องเขา ในชั่วพริบตา หลินฮวงก็เข้าตรอกซอยที่เขาเห็ฯจากความทรงจำของมอนสเตอร์ตะกอน

 

ตรอกซอยกว้างไม่ถึงเมตรและแคบมาก ถ้าเขาไม่เห็นภาพในความทรงจำมอนสเตอร์ตะกอน มันคงยากมากที่เขาจะจินตนาการว่าทางเข้าและออกของโลกภายในมาอยู่ในสถานที่แบบนี้

 

หลินฮวงหยุดชะงักหลังเดินได้ยี่สิบเมตรในตรอกซอย เขากระจายจิตเทวะเล็กน้อย สายตาหยุดกับจุดสีดำน่าสงสัยบนกำแพงทางขวา

 

จุดดูเหมือนจุดเล็กๆจางๆจากปากกาลูกลื่น มันยังเล็กกว่าเมล็ดพืชซะอีก

 

แต่ทว่า หลินฮวงรู้ว่ามันไม่ใช่หมึกของปากกา แต่เป็นทางเข้าและออกโลภายใน คนที่ไร้จิตเทวะจะไม่สามารถเห็นมันได้เลย

 

เขายื่นนิ้วออกไป จิ้มบนจุดดำ จากนั้นก็ส่งจิตเทวะเข้าไป

 

เมื่อจิตเทวะไหลผ่าน จุดดำที่แทบมองไม่เห็นไร้นัยสำคัญก็เริ่มขยายใหญ่ด้วยความเร็วสูง ภายในเวลาแค่หนึ่งลมหายใจ เส้นผ่านศูนย์กลางของจุดก็เกินกว่าสองเมตร เปลี่ยนเป็นวังวนสีดำ

 

เมื่อเขาเห็นวังวนที่ก่อตัวอย่างสมบูรณ หลินฮวงก็ถอนมือและก้าวเข้าไป

 

ทันทีที่ตัวของเขาผสานเข้าไปในวังวน วังวนดำก็หดลงทันที ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งลมหายใจเช่นกัน มันก็กลับเป็นจุดสีดำขนาดเท่าเดิม

 

วินาทีต่อมา สีมันก็จางหาย มันค่อยๆล่องหน ราวกับมันไม่มีอยู่มาก่อน

 

หลินฮวงแหงนหน้ามองหลังเขาเคลื่อนย้ายผ่านทางเข้า คิวของเขาเลิกขึ้น

 

เขายังอยู่ในตรอกแคบและสภาพแวดล้อมเดิม เขายังยืนอยู่ ณ จุดเดิมก่อนก้าวผ่านมาด้วยซ้ำ

 

แต่ทว่า ในไม่ช้าเขาก็เห็นถึงความแตกต่าง แม้จะไม่ใช้จิตเทวะ เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของยอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างมากใกล้ๆ ไม่ใช่แค่นั้น ยังมีหลายคนอีกด้วย

 

ยังมีกลิ่นอายบางคนภายในระยะใกล้เคียงง รวมกันที่ปลายตรอกซอย

 

หลินฮวงเงยหน้าขึ้นสบกับลูกตาขนาดยักษ์ที่มีรูม่านตาสามรูม่านตาลอยในอากาศ มันกำลังก้มมองจากที่สูงเหนือตรอก

 

เขาสังเกตเห็นลูกตานี้ แต่ไม่เห็นรูปลักษณ์มอนสเตอร์เต็มตัว แต่ทว่า เขาสามารถเห็นความดูถูกในดวงตามัน

 

วินาทีต่อมา หลินฮวงพลันปรากฏตรงทางเข้าตรอก

 

แทบจะในเวลาเดียวกัน ลำแสงสีแดงก็ยิงออกจากแขนเสื้อเขา เจาะผ่านลูกตาทันที

 

เสียงร้องน่าสังเวชดังขึ้น

 

จากนั้นหลินฮวงถึงเห็นว่ามีมอนสเตอร์สี่ตัวขวางทางเข้าออกตรอกไว้อยู่

 

พวกที่สอนแนมเขาโดยกราปล่อยลูกตาคือมอนสเตอร์คล้ายมนุษย์

 

ความแตกต่างที่ใหญ่สุดระหว่างพวกมันกับมนุษย์คือมันไม่มีหัว มีแค่หนวดที่ยื่นจากคอมัน และแต่ละหนวดก็มีลูกตาขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับปลายมัน ลูกตาทั้งเจ็ดลอยในอากาศ พวกมันดูแปลกมาก

 

หลินฮวงไม่รู้ว่ามอนสเตอร์ตัวนีี้เป็นสายพันธ์ุใด เขาไม่เคยเห็นอะไรที่คล้ายกันในสารานุกรมมอนสเตอร์

 

สำหรับมอนสเตอร์อีกสามตัว หนึ่งในนั้นดูเหมือนกิ้งก่าจับตาดูขนาดใหญ่ เกล็ดทั้งตัวมันเป็นสีดำมันวาว มัเพียงดวงตาหกดวงบนหน้าผากที่เป็นสีเขียวเข้ม

 

มอนสเตอร์อีกตัวเป็นศพมนุษย์โบราณ สูงเกือบสามเมตร มันเห็นได้ชัดว่าไม่ใช่มนุษย์ตอนยังมีชีวิต มันยืนบนหลังคาของอาคารตรงข้าม

 

มอนสเตอร์ที่เหลือคือนกที่ลดเป็นโครงกระดูก หลินฮวงไม่สามารถเดาได้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นสายพันธ์ุ่ไหนตอนมันยังมีชีวิต มันบินวน้หนือหัวพวกเขา ขณะที่ลากเป็นเส้นไฟยาวสองสาย

 

ต่อหน้าทั้งสี่ที่ขวางถนน หลินฮวงไม่ตื่นตระหนกเลย

 

เขาได้รู้จากความทรงจำของมอนสเตอร์ตะกอนแล้วว่ามีโอกาสสูงที่เด็กใหม่จะโดนโจมตีตอนเข้าโลกภายใน

 

มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่ซ่อนตัวตรงทางเข้าและทางออกของโลกภายในแต่ละแห่งเพื่อรอสังหารเด็กใหม่

 

นอกจากนี้ยังมีคนอื่นที่แอบซุ่มดู เหนือสิ่งอื่นใด ความบันเทิงในเมืองนี้มีจำกัด

ตามความทรงจำของมอนสเตอร์ตะกอน สถานที่ที่ปลอดภัยแห่งเดียวคือตรอกซอยที่ทางเข้าออกตั้งอยู่ ทันทีที่เดินออกตรอกซอก มันอาจมีคนมาขวางทางพวกเขา

 

ดังนั้น หลินฮวงจึงเลือกโจมตีก่อน

 

ถ้ามีคนขัดขวางเป้าหมายเพื่อฆ่า มันก็เป็นธรรมดาที่จะมีการโต้ตอบ

 

นี่ได้รับอนุญาตโดยกฏของโลกภายใน

 

ตราบเท่าที่พวกเขาไม่โจมตีในพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านของเมืองภายใต้การเฝ้าระวังของทหารเมือง มันย่อมไม่มีใครสนใจ

 

หลังเห็นมอนสเตอร์ลูกตาถูกตรึง กรีดร้องอย่างน่าสมเพชขณะที่ตัวมันเริ่มสลาย สีหน้าของผู้สกัดกั้นอีกสามก็เผยให้เห็นถึงความตกใจ

 

ผู้สังเกตการณ์หลายคนเริ่มกระซิบกระซาบกัน

 

“นกโง่และพรรคพวกของมันเจอของแข็งเข้าแล้ว”

 

“เด็กใหม่นั่นร้ายกาจ!”

 

หลินฮวงไม่มองมอนสเตอร์ลูกตา เขาเหลือบมองมอนสเตอร์อีกสามตัว”เจ้า แน่ใจนะว่าอยากสู้กับข้า?”

 

ทันทีที่เขาพูด เสียงร้องโหยหวนของมอนสเตอร์ลูกตาก็หยุด ตัวของมันสลายไปอย่างสิ้นเชิง

 

สำหรับหลินฮวง มอนสเตอร์ลูกตาเป็นแค่เทพแท้จริงขั้นเจ็ด มันไม่ถือเป็นศัตรูด้วยซ้ำ เขาไม่ใช้พลังลำดับเทพในการโจมตีก่อนหน้า แค่พลังกฏเทพล้วนๆ

 

ที่เหลืออีกสามก็ไม่ได้ทรงพลังไปกว่ามอนสเตอร์ลูกตา มีผลประโยชน์น้อยมากในการฆ๋าพวกมัน เขาจึงไม่อยากโจมตี

 

มอนสเตอร์อีกสามไม่โง่ พวกมันท่องอยู่ในีน้มาหลายปีและเห็นยอดฝีมือมามาก แม้ความสามารถที่หลินฮวงแสดงจะเป็นแค่ส่วนน้อย พวกมันก็รู้ดีว่าพวกมันไม่สามารถทำให้คนตรงหน้าโมโหได้

 

“ข้าไม่ได้ตั้งใจสู้  ข้าแค่สัมผัสได้ว่ากลิ่นอายเจ้าดูไม่คุ้นเคย ข้าจึงมาดู”ศพน้ำแข็งพูดก่อน เนื่องจากมันยืนอยู่ไกลสุด มันจึงสมเหตุสมผลที่บอกว่าแค่มาดู

 

“้ข้าด้วย ข้าแค่อยากรู้และคิดว่าจะมาดู’กิ้งก่าสีดำสนิทรีบร้อง

 

หลินฮวงไม่พูดอะไร เขาแหงนหน้ามองนกกระดูกที่ยังวนเวียนบนท้องฟ้า

 

นกกระดูกสังเหตเห็นว่าหลินฮวงมองมัน และมันก็กลัวจนลดความเร็วการกระพือปีกมันจนเกือบตกลงจากฟ้า”ขะ-ข้าหลงทาง ขะ-ข้าบังเอิญ-บะ-บินผ่านมาแถวนี้”

 

ผู้สังเกตการณ์ต่างพูดไม่ออก

 

อย่างไรก็ตาม ปฏิกิริยาของหลินฮวงทำให้พวกเขาประหลาดใจ เขาแค่พยักหน้าเบาๆและตอบ”โอ้ ข้าเข้าใจแล้ว”

 

แทบทุกคนมีความคิดเดียวกันผุดในหัว’เจ้าเชื่อคำพูดนั่นจริงเรอะ?!’

 

แต่วินาทีต่อมา หลินฮวงก็ก้าวไปข้างหน้า ปรากฏบนหลังนกกระดูกโดยตรง

 

นกกระดูกตกตะลึง คิดว่ามันกำลังจะตาย แต่ได้ยินเสียงของหลินฮวงในหูมัน

 

“พาข้าไปยังที่ที่เจ้าอาศัย”