ตอนที่ 603 รอด้านนอกตำหนัก
หวงเผยซานเองก็เห็นอย่างชัดเจนว่าฉินเย่หานจงใจจะข้ามซูหลี
แต่ขันทีอย่างเขาก็พูดอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
“กระหม่อมมีคำถามอยากถามซูหลี”
“กระหม่อมก็เช่นกัน”
“กระหม่อมอยากถามเซี่ยอวี่เสียน!”
……
ยังดีที่ขุนนางด้านล่างไม่ได้มองข้ามซูหลีไป ถึงแม้คำถามของบางคนจะสร้างความลำบากให้ แต่ก็ดีกว่าไม่ถามอะไรเลย
ส่วนซูหลีเป็นคนที่ต่อให้จะมาไม้ไหนก็รับมือได้อย่างดีเยี่ยม ตอบคำถามได้ครบถ้วนแม่นยำ ท่าทางก็องอาจสง่างาม
เขาโดดเด่นอย่างยิ่งท่ามกลางผู้คนที่ยืนอยู่
ซูหลีจึงเห็นว่าหลังจากขุนนางจำนวนไม่น้อยถามนางแล้ว ต่างก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างอดไม่ได้ ซึ่งถือเป็นการยอมรับในตัวนาง
แต่พวกเขาไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงอะไรในการสอบขุนนางเคอจวี่ ต้องให้ฮ่องเต้ทรงยอมรับถึงจะถือว่าสำเร็จ
แต่เหมือนว่านางไปล่วงเกินฮ่องเต้ขี้ใจน้อยเข้า พระเนตรสองข้างจึงทรงจ้องนางอย่างไม่ลดละ แต่ก็ไม่ยอมตรัสถามนาง
คล้ายกับว่านางกำลังได้รับโทษจากฮ่องเต้ผู้มีใจคับแคบผู้นี้อยู่ ดวงตาทั้งสองข้างของเขาจ้องมองนางอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่กลับไม่ถามอะไรนางสักอย่าง
ซูหลีกลัดกลุ้มใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“เชิญบัณฑิตทุกท่านรอด้านนอกตำหนัก” ที่ควรถามก็ถามไปหมดแล้ว การสอบหน้าพระพักตร์วันนี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
หวงเผยซานเดินนำพวกซูหลีเดินออกไปทางนอกตำหนัก
เพื่อจะให้เวลาและพื้นที่แก่ฮ่องเต้และบรรดาขุนนางได้ประชุมเพื่อสรุปผล
ลำดับรายชื่อในการสอบหน้าพระพักตร์สามารถรู้ผลได้ในวันนั้นเลย
“ขอบคุณหวงกงกงมาก” ใบหน้าเซี่ยอวี่เสียนเรียบเฉยก่อนจะส่งรอยยิ้มให้หวงเผยซาน
หวงเผยซานพยักหน้า แต่ก็อดเหลือบมองซูหลีแวบหนึ่งไม่ได้ สีหน้าของซูหลีดูไม่ค่อยดีเท่าไร ถูกฮ่องเต้เมินเฉยตลอดการสอบ เจ้าตัวเองก็คงไม่พอใจนัก
แต่หวงเผยซานรู้อยู่เต็มอก ฮ่องเต้ไม่ตรัสถามซูหลี ไม่ได้หมายความว่าซูหลีผู้นี้ไม่สำคัญ แต่เป็นเพราะคนผู้นี้สำคัญ ฮ่องเต้ถึงได้ทรงให้ความสำคัญเช่นนี้
หวงเผยซานยืนอยู่ข้างฉินเย่หานเห็นอยู่เต็มตาว่า ถึงฉินเย่หานจะไม่พูดกับซูหลีสักคำ แต่พระเนตรคู่นั้นเอาแต่จดจ้องซูหลี
ถ้าไม่ทรงเห็นความสำคัญและจะเป็นอะไรได้?
เพียงแต่ยากจะเดาใจโอรสสวรรค์ ลำดับรายชื่อในครั้งนี้ของซูหลีจะเป็นอย่างไร หวงเผยซานก็ยากที่จะคาดเดาได้เช่นกัน
เขาเพียงแต่รู้สึกอยู่ลึกๆ เหมือนว่าฮ่องเต้ทรงไม่อยากให้ซูหลีเป็นขุนนางในราชสำนักเท่าไหร่
ถึงคำพูดนี้ออกจะประหลาดอยู่บ้าง แต่หวงเผยซานก็รู้สึกเช่นนี้จริงๆ
แน่นอนอยู่แล้วว่าเรื่องนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขา ผลจะเป็นเช่นไร อีกเดี๋ยวคงต้องดูพระราชโองการ
เวลาที่รอคอยอยู่นอกตำหนักน่าจะเป็นเวลาที่ทุกข์ทรมานที่สุดแล้ว
แต่ซูหลียังสบายๆ ยามอยู่ในตำหนักเมื่อครู่ ที่จริงนางไม่ได้รู้สึกมีความสุขอะไรนัก นางรู้สึกว่าฮ่องเต้จะต้องเอาคืนนางด้วยเรื่องนี้ ถึงได้ทรงกลั่นแกล้งนาง
แต่พอดึงสติกลับมา กลับไม่ได้ใส่ใจมากนัก
การให้สอบผ่านเป็นเรื่องสำคัญ แต่จุดประสงค์ของนางไม่ใช่ตำแหน่งจอหงวน นางแค่ต้องการเพียงโอกาสที่จะได้เข้าไปในราชสำนักเท่านั้น บัดนี้สอบผ่านจิ้นซื่อก็ถือว่าเป็นขุนนางแล้ว รอให้นางสอบเข้าเป็นบัณฑิตในสำนักฮั่นหลินแล้ว ก็จะสามารถจัดการเรื่องมากมายได้อย่างง่ายดาย
ในเมื่อไม่ได้มาเพื่อเรื่องนี้ จะได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
เปลี่ยนไปคิดอีกแง่หนึ่ง ถ้านางได้เป็นนางข้าหลวงสอบได้เกาจงจอหงวนขึ้นมาจริง ๆ ก็อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก
นางเป็นสตรี ตั้งแต่ราชวงศ์โจวเป็นต้นมา ยังไม่มีสตรีนางไหนสอบได้เกาจงจอหงวนมาก่อน หากนางทำได้ขึ้นมาจริงๆ…
เหอะ!
หากในอนาคตเรื่องนางเป็นอิสตรีแพร่งพรายออกมา ก็จบเห่กันพอดี
ซูหลีรู้แก่ใจดีว่าคงเก็บเรื่องสภาพร่างกายนี้ไปได้อีกไม่นาน นางไม่อาจปลอมตัวเป็นผู้ชายเช่นนี้ไปได้ตลอดชีวิตหรอก
เหลือทางหลบหนีไว้บ้างก็ดีต่อนางเช่นกัน
เมื่อคิดได้เช่นนี้ นางก็สงบลง สีหน้าผ่อนคลายขึ้น จึงหาเรื่องชวนหวงเผยซานคุยนี่นั่นด้วยท่าทางสบายๆ อย่างยิ่ง
ตอนที่ 604 สอบได้ตำแหน่งถ้านฮวา
แอ๊ด! ดูเหมือนการตัดสินไม่ได้ยากนัก ซูหลีคุยกับหวงเผยซานได้ไม่เท่าไหร่ก็เห็นประตูตำหนักที่ปิดสนิท ถูกเปิดออกมาจากด้านใน
ขันทีผู้หนึ่งเดินออกมาจากด้านใน ทันทีที่ขันทีปรากฏตัวขึ้น ทำให้บรรยากาศโดยรอบเงียบลงในทันที กระทั่งคนทั้งเก้าที่รวมซูหลีด้วยนั้นต่างก็มองไปที่เขาอย่างไม่ละสายตา
ในมือขันทีมีพระราชโองการอยู่ เขาก้าวเท้าช้าๆ ส่งพระราชโองการให้แก่หวงเผยซาน
ของสำคัญเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องให้หัวหน้าขันทีอย่างหวงเผยซานเป็นคนประกาศ
หวงเผยซานรับราชโองการมา ใบหน้าของเขาแต้มแต่งด้วยรอยยิ้ม ขณะเปิดพระราชโองการต่อหน้าทุกคน
ซูหลียืนไม่ห่างจากเขามากนัก แต่ก็มองไม่เห็นเนื้อหาในพระราชโองการอยู่ดี นาง แค่รู้สึกว่า หลังจากที่หวงเผยซานเห็นเนื้อหาในพระราชโองการแล้วก็นิ่งไปสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็เหลือบตามองพวกเขา
“บัณฑิตทุกท่าน รับราชโองการ” รอยยิ้มหวงเผยซานไม่เปลี่ยนแปลง ขณะมองพวกซูหลี
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี”
บัณฑิตทั้งเก้าคนนำโดยซูหลี คุกเข่าลงไปอย่างพร้อมเพรียง
ใบหน้าของซูหลีเกร็งกระตุก หลังจากที่หวงเผยซานเห็นพระบรมราชโองการแล้ว เหมือนจะตกใจเล็กน้อย หรือว่าจะมีจุดที่คาดไม่ถึงหรือเปล่า?
ทว่ายังไม่ทันรอให้นางคิดมาก ฟากนี้หวงเผยซานก็เริ่มอ่านพระบรมราชโองการ
“โอรสสวรรค์ทรงมีบัญชา ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่ง การสอบหน้าพระพักตร์ในราชวงศ์โจวปีที่สี่สิบเจ็ด บัณฑิตเซี่ยอวี่เสียนสอบได้จอหงวน! เซี่ยอวี่เสียนฉลาดหลักแหลม…”
สอบได้ตำแหน่งจอหงวน
ใบหน้าซูหลีชะงักนิ่ง ความตื่นตระหนกพาดผ่านในแววตา
เซี่ยอวี่เสียนได้เป็นจอหงวน!
แต่เพียงครู่เดียว ซูหลีก็เองก็โล่งใจ เซี่ยอวี่เสียนเป็นคนมีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ซึ่งก็ถือว่าตำแหน่งนี้ก็เหมาะสมกับเขา!
ตำแหน่งจอหงวนคราวนี้คือเขา ซูหลีเองก็ไม่ได้รู้สึกขัดเคืองอะไร
แต่ว่าคนด้านหลังของนาง ดูเหมือนจะไม่ได้คิดเช่นนั้น
การสอบสองรอบก่อนหน้านี้ ซูหลีสอบพร้อมเซี่ยอวี่เสียนตลอด และในแต่ละครั้งซูหลีก็สอบได้คะแนนเยอะกว่า อย่าว่าแต่การสอบสองครั้งนั้นเลย แม้แต่การสอบเมื่อสักครู่ ดูท่าทางของซูหลีและคำถามที่ขุนนางถาม บทความของซูหลีดีกว่าของเซี่ยอวี่เสียนทั้งสิ้น
แต่เหตุใดเซี่ยอวี่เสียนถึงได้ตำแหน่งจอหงวนไป
หลายคนรู้สึกประหลาดใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าพูด
“… นอกจากตำแหน่งจอหงวน ก็ยังมีตำแหน่งป้างเหยียนโจวฉิน และถ้านฮวาซูหลี ซึ่งจัดเป็นสามอันดับแรกของผู้เข้าสอบ บทความโจวฉินและซูหลียอดเยี่ยม เป็นอัจฉริยะที่มีน้อยนัก…จึงได้ทรงเห็นชอบแต่งตั้งคนทั้งสอง จบพระบรมราชโองการ!”
ตำแหน่งถ้านฮวา!
ซูหลีงุนงง ในตอนที่ทำใจยอมรับว่าตนเองจะไม่ได้ลำดับใดๆ จู่ๆ ก็บอกว่านางเป็นคนเก่ง ถึงจะเป็นจอหงวนไม่ได้ แต่ยังได้เป็นถ้านฮวา
ได้สามลำดับแรก ถือว่าเป็นผลงานที่ดีมากแล้ว!
“ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นปี หมื่นๆ ปี” เสียงรอบข้างดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน ซูหลีได้สติกลับมาทันที รีบร้อนทรุดตัวลงหมอบไปพร้อมคนอื่นๆ แต่ใบหน้ายังคงประหลาดใจเล็กน้อย
“ยินดีกับทั้งสามท่านด้วย” หวงเผยซานยิ้มกว้าง และส่งพระราชโองการให้เซี่ยอวี่เสียน เซี่ยอวี่เสียนรับมาอย่างเคารพ ในที่สุดก็ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก
“ลำบากหวงกงกงแล้ว”
“คุณชายเซี่ย เกรงใจมากไปแล้ว” หวงเผยซานเอ่ยด้วยรอยยิ้ม จากนั้นจึงปลีกตัวออกเอ่ยเสียงเบา “เชิญท่านทั้งสามตามข้าไปขอบพระทัยฝ่าบาทที่พระตำหนักด้วย”
“ขอรับ!” ในตอนแรกชวนให้คนตื่นตระหนก แต่ในที่สุดผลลัพธ์กลับทำให้คนยอมรับได้
เซี่ยอวี่เสียน ซูหลี และโจวฉิน ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในการสอบเคอจวี่รอบนี้ ส่วนการจัดลำดับนั้นเป็นพระดำริของโอรสสวรรค์คนอื่นไม่อาจก้าวก่าย
นอกจากพวกเขาสามคน คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครที่ไม่เห็นด้วย