196 (2) อาณาเขตที่น่าหวาดผวา

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล

เข้าสู่ระบบ ฝ่ามือยูไล [Sign in Buddha’s palm] Sign in Buddha’s palm 196 (II) อาณาเขตที่น่าหวาดผวา

 

“อย่างไรก็ตาม ด้วยความแข็งแกร่งของนายท่านต่อหน้านิกายใหญ่ที่สืบทอดต่อกันมานับพันปีก็ควรจะมีคุณสมบัติพอที่จะเจรจากันได้…”

 

หร่วนชิงคาดเดาอยู่ภายในใจ

 

ในตอนที่ซูฉินยังอยู่ในช่วงปิดด่านฝึกตนโลกยุทธภพก็ค่อยๆปรับตัวเข้าสู่ความมั่นคง

 

ชายในชุดคลุมสีแดงเลือดปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศล่องลอยไปตามสายลมทุกที่ที่เขาเคลื่อนผ่านก็จะมีกลิ่นอายที่ทรงพลังคอยกดทับทุกสิ่ง

 

จอมยุทธทุกคนต่างหวาดกลัว ภายใต้รัศมีของชายชุดแดงพวกเขาไม่แม้แต่จะกล้าเงยหน้าขึ้นทําได้เพียงคุกเข่าลงกับพื้นทีละคนราวกับว่าเขากําลังต้อนรับการกลับมาของราชาเหนือหัว

 

หลังจากที่ชายชุดแดงจากไป มีเพียงเหล่าจอมยุทธเท่านั้นที่พอจะยืดตัวกลับขึ้นมาได้

 

“เขา เขาเป็นใครกัน?”

 

“ทําไมกลิ่นอายจึงน่ากลัวถึงเพียงนี้ว”

 

“คุมปราณฉีขี่คลื่นลม เขาเป็นตํานานยุทธอย่างนั้นหรือ?”

 

จอมยุทธจํานวนมากต่างสั่นไหวในหัวใจและยังพูดคุยกันต่อไป

 

แม้ว่าปราณฉีจะฟื้นคืนและการฝึกฝนบ่มเพาะทําได้ง่ายขึ้นในตอนนี้แต่ตัวตนในระดับตํานานยุทธก็ยังไม่สา มารถบรรลุถึงได้โดยง่าย

 

นับตั้งแต่ราชครูแห่งเหมิงหยวนตกตายในพริบตาด้วยฝีมือของซูฉินนอกเมืองฉางอัน ก็ไม่มีตํานานยุทธค นใหม่เกิดขึ้นอีกในใต้หล้า

 

แต่ตอนนี้ ชายในชุดคลุมสีเลือดได้ก่อคลื่นลมในหัวใจของคนทุกผู้

 

ในตอนนั้นเอง ก็มีข้อมูลใหม่เพิ่มขึ้นมา

 

“เขาเป็นบรรพบุรุษตํานานยุทธของสํานักสังหารโลหิตเมื่อสองร้อยปีก่อนไม่ใช่หรือ?”

 

ข้อมูลที่ถูกปล่อยออกมานั้น ทําให้ยุทธภพถึงกับแตกตื่น

 

บรรพบุรุษขอบเขตตํานานยุทธของสํานักสังหารโลหิตหายตัวไปหลังข้ามน้ําข้ามทะเลตั้งแต่สองร้อยปีก่อน

 

ไม่เพียงแต่บรรพบุรุษของสํานักสังหารโลหิตเท่านั้นแต่จอมยุทธในขอบเขตตํานานยุทธทุกคนในอดีตที่ข้ามน้ําข้าม ทะเลไปไม่เคยกลับมาอีกเลย

 

“ใต้หล้า จะกลับมาสู่ความโกลาหลอีกครั้งแล้ว”

 

ความคิดของจอมยุทธเฒ่าผู้หนึ่งแฝงความเศร้าโศกไว้ภาย

 

และในขณะนี้

 

บรรพบุรุษตํานานยุทธของสํานักสังหารโลหิตที่สวมชุดคลุมสีแดงเลือดเดินทางมาที่ฐานหลักของสํานักสังหารโลหิต

 

“โอ้?”

 

“ไม่มีใครอยู่?”

 

บรรพบุรุษของสํานักสังหารโลหิตขมวดคิ้วจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวเข้าปกคลุมทุกซอกกระเบียดนิ้วในที่สุดเขาก็พบศิษย์ของสํานึกสังหารโลหิตที่ซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ

 

“อดีตเจ้าสํานัก

 

“อดีตเจ้าสํานัก ในที่สุดท่านก็กลับมาแล้ว…”

 

ศิษย์สํานักสังหารโลหิตหลั่งน้ําตาโดยพลัน

 

เมื่อเริ่มต้นเป็นศิษย์ของสํานักสังหารโลหิต ทุกคนจะต้องคุกเข่าบูชารูปเคารพของบรรพบุรุษสังหารโลหิต

 

ดังนั้นศิษย์ในสํานักสังหารโลหิตผู้นี้จึงจดจําบรรพบุรุษของตนได้ในทันที

 

“ล่าสุดมันเกิดอะไรขึ้น?”

 

อดีตเจ้าสํานักสังหารโลหิตขมวดคิ้ว

 

“อดีตเจ้าสํานัก เหล่าศิษย์สํานักสังหารโลหิตได้กระจัดกระจายกันไปเพราะถูกข่มเหงโดยตํานานยุทธแห่งอาณาจักร

 

ศิษย์สํานักสังหารโลหิตรีบอธิบายอย่างรวดเร็วถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

 

“อาณาจักรถัง?”

 

“ตํานานยุทธ?”

 

“ไม่เลว ข้าไม่คาดคิดว่าสองร้อยปีหลังจากที่ข้าจากไปตํานานยุทธอื่นจะถือกําเนิดขึ้น”

 

อดีตเจ้าสํานักสังหารโลหิตพยักหน้าเล็กน้อยราวกับกําลังชื่นชมรุ่นน้อง

 

“แต่ว่า”

 

“ในเมื่อกล้ายั่วยุสํานักสังหารโลหิตของข้า ก็เท่ากับเจ้ากําลังมองหาความตาย”

 

เจตนาฆ่าสาดวาบอยู่ในส่วนลึกของดวงตาอดีตเจ้าสํานักสังหารโลหิต

 

“อดีตเจ้าสํานัก ตํานานยุทธแห่งอาณาจักรถังครั้งหนึ่งเคยใช้แสงศักดิ์สิทธิ์สังหารผู้อาวุโสสํานักสังหารโลหิตจากพื้นที่ห่างไกลกว่าหลายพันลี้อดีตเจ้าสํานักได้โปรดล้างแค้นให้พวกเราด้วย”

 

ศิษย์สํานักสังหารโลหิตกล่าวคําอีกครั้ง

 

“อะไรนะ?”

 

“ลงมือจากพื้นที่ห่างไกลหลายพันลี้?”

 

ท่าทีของบรรพบุรุษสํานักสังหารโลหิตที่สงบเยือกเย็นมาตลอดในที่สุดก็เปลี่ยนแปลงไป