หลังพบอสูรชุบทอง หลินฮวงก็ไม่บุ่มบ่าม เขากลับค่อยๆเดินแหวกผ่านฝูงชน เข้าใกล้มันเรื่อยๆและใช้เมล็ดกาฝากเพื่อสังเกตพฤติกรรมมันต่อ
อสูรชุบทองดูเหมือนจะมองหาบางอย่างในแผง นี่ทำให้หลินฮวงไม่แน่ใจว่าทำไมมันไม่ใช้จิตเทวะแต่กลับตรวจสอบแผงขายของทีละแผง
ในทางทฤษฏี ด้วยตัวตนมัน มันย่อมไม่ต้องกังวลว่าจิตเทวะจะโดนคนอื่นสัมผัสได้
‘เจ้าหมอนี่กำลังหาอะไร?’หลินฮวงอยากรู้
อสูรชุบทองขยับหัวช้างๆ เพ่งมองแต่ละแผงตามรายทางตาเป็นมัน แม้มันจะพยายามทำตัวไม่แยแส คนนอกทุกคนก็สามารถบอกได้ทันทีว่ามันต้องกำลังหาอะไรบางอย่าง
ในโลกภายในนี้ ทุกคนย่อมรู้จักอสูรชุบทอง หลังเห็นท่าทีมัน พวกเขาก็ลอบคาดเดาว่าสี่หน้าอาจได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับของล้ำค่าบางอย่างที่ซ่อนในตลาด นี่อาจเป็นเหตุผลให้อสูรชุบทองถูกส่งมาตรวจสอบ
ดังนั้น หลายคนจึงลอบตรวจสอบผ่านแผงลอยทั้งหมดในตลาด พยายามหาเช่นกัน
ยังมีเจ้าของร้านบางคนที่ตรวจสอบสินค้าตัวเองอีกครั้ง ดูว่ามีอะไรที่พวกเขาอาจพลาด
แม้กระทั่งหลินฮวงก็อดคาดเดาไม่ได้ ถึงแม้จุดประสงค์ของเขาในการมาที่นี่จะไม่เกี่ยวกับการซื้อของ เขาก็ยังเริ่มตรวจสอบของทั้งหมดบนแผงขายระหว่างทาง
เหนือสิ่งอื่นใด ทุกสิ่งที่อสูรชุบทอง หรือสี่หน้าหาย่อมมีค่า
แม้ว่าหลินฮวงจะใช้มันเองไม่ได้ เ ขาก็ยังขายมันได้ในราคาดี
หลินฮวงเดินรอบตลาดขณะขยับเข้าหาอสูรชุบทองเงียบๆ
เวลาผ่านไปสามชั่วโมง และอสูรชุบทองก็ได้เดินรอบทั้งตลาดสองรอบ มองหาของทุกชิ้นบนแผงทุกแผง แต่ทว่า มันก็ไม่ได้ซื้ออะไรสักชิ้น
หลินฮวงติดตามมันมานานกว่าสามชั่วโมงและซื้อของชิ้นเล็กๆมาพอสมควร
เขาสังเกตเห็นของดีมากมายบนสองฝั่งถนน แม้ส่วนใหญ่จะไม่มีค่าพอให้เขาสนใจ แต่สำหรับเทพแท้จริงธรรมดาส่วนใหญ่ ของเหล่านี้คุณภาพดีมาก ตัวอย่างเช่น เม็ดยาที่สามารถช่วยให้ระดับพลังของคนทะลวงผ่านได้ สมบัติกฏเทพชั้นสูงและของอื่นๆอีกมาก
แม้เมืองภูตผีจะคล้ายกับโลกเกมเสมือนจริง แต่ของที่ได้รับจากโลกนี้จะเป็นของจริง แม้ในโลกภายนอกก็ตาม มันมีแม้กระทั่งของวิเศษบางอย่างที่หาไม่ได้ในโลกภายนอก
แต่ทว่า หลังเดินรอบตลาดสองรอบตามอสูรชุบทอง หลินฮวงก็ไม่พบอะไรพิเศษที่สามารถกระตุ้นความสนใจของอสูรชุบทองได้
ที่แผงขาย ของเกรดสูงสุดคือสมบัติลำดับเทพ ด้วยระดับความสามารถของอสูรชุบทอง ของเหล่านี้ไม่มีประโยชน์เลย
‘เจ้าหมอนี่เดินรอบตลาดสองรอบแล้ว ไม่รู้ว่ามันจะเดินอีกนานแค่ไหน’หลินฮวงอดพึมพำในหัวไม่ได้เมื่อสังเกตเห็นว่าอสูรชุบทองไม่มีทีท่าว่าจะออกตลาด
ยิ่งไปกว่านั้น หลินฮวงไม่ใช่คนเดียวที่จับตาดูมันอย่างใกล้ชิด
แต่ทว่า บุคคลเหล่านี้แค่สังเกตทุกการเคลื่อนไหวของอสูรชุบทองโดยไม่มีเจตนาโจมตี พวกมันกลับอยากรู้สิ่งที่มันมองหาซะมากกว่าและอยากชิงของก่อนมันจะได้ซื้อ
หลังเดินรอบตลาดสองรอบ อสูรชุบทองก็ดูเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ มันพลันหยุด หมุนตัว เดินตรงมาทางหลินฮวง
‘หรือมันรู้ตัวแล้ว?’หลินฮวงตกใจ
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออสูรชุบทองพบว่าเขากำลังติดตามมัน แต่ทว่า เขาก็ยังคงสงบ
เขารีบมองสินค้าที่แผงด้านหน้าและแสร้งทำเป็นหยิบบางสิ่งขึ้นมาด้วยสายตาสนใจ จากนั้นก็ถามเจ้าของร้านถึงราคา
“ชิ้นนี้ราคาเท่าไร?”หลินฮวงถือเหรียญโบราณไว้ มันดูเก่า เต็มไปด้วยสนิท และเขาก็ไม่รู้จักคำใดที่สลักบนนั้นเลย มีดอกไม้กับนกประทับอยู่สองด้านของเหรียญและงานฝีมือก็ไม่เลว
เหรียญโบราณเป็นแค่ของประดับไว้ชื่นชม มันไม่มีพลังงานในนั้นเลย
“หมื่นหินเทวะ!”เจ้าของร้านหัวโล่นเหลือบมองหลินฮวงและบอกราคาแสนไร้สาระ
“ทำไมเจ้าไม่ปล้นข้าแทนเสียละ?!”หลินฮวงเลิกคิ้วตอนได้ยินราคา ถึงแม้เขาจะไม่ชอบต่อรองเวลาซื้อของ เขาก็สามารถบอกได้ว่าเจ้าของร้านพยายามขูดเลือดขูดเนื้อเขา”ของชิ้นนี้ไม่มีความผันผวนพลังงานเลย มันเป็นแค่ของธรรมดา เจ้ากำลังเรียกราคาสำหรับสมบัติเทพชั้นสูง เจ้าของร้าน นี่คือวิธีทำธุรกิจของเจ้าหรือ?”
“งั้นเจ้ายินดีจ่ายเท่าไร?”เจ้าของร้านยิ้ม ไม่อายเลยแม้แต่น้อย เขากลับถามหลินฮวง
“หนึ่งหินเทวะ ข้าจะเอาไปถ้าเจ้ายินดีขายในราคานั้น”หลินฮวงต่อราคาลงไปหนึ่งในหมื่นทันที
“เจ้าบอกว่าข้าไม่จริงใจที่ขายสินค้าชิ้นนี้ให้เจ้าตามราคาที่ข้าเรียก แต่เจ้าก็ไม่จริงใจเช่นกันที่จะซื้อมันเนื่องจากเจ้ากำลังต่อราคาเช่นนี้”เจ้าของร้านบ่น
“หนึ่งหินเทวะถือว่ากำไรแล้วสำหรับเจ้า ข้ามั่นใจว่าเจ้าคงซื้อของชิ้นนี้มาในราคาที่ถูกมาก”หลินฮวงยังคงยืนกราน
ก่อนเจ้าของร้านจะได้เถียง หลินฮวงก็พูดต่อ”มีคนไม่มากที่ชอบเก็บเหรียญโบราณ และเจ้าก็มีแค่เหรียญเดียวในร้าน มันพิสูจน์ว่าเจ้าเองก็รู้ว่ามันขึ้นอยู่กับโชคว่าเจ้าจะขายออกหรือไม่ ดังนั้น ไม่มีทางที่เจ้าจะซื้อเหรียญโบราณมาด้วยราคาสูง เจ้าคงขาดทุนถ้าขายมันไม่ได้ มีแค่คนโง่ถึงทำอะไรแบบนั้น”
เจ้าของร้านเตรียมโต้กลับ แต่ก็กลืนคำพูดลงไปหมดหลังได้ยินที่หลินฮวงพูด
เขาอยากจะบอกว่าเขาซื้อเหรียญมาในราคาที่สูงมาก แต่ทว่า ถ้าเขาพูดย่างนั้น มันก็เท่ากับยอมรับว่าเขาเป็นคนโง่
“งั้น เจ้าช่วยเพิ่มราคาให้ข้าอีกนิดได้ไหม?”หลังพิจารณาสักพัก เจ้าของร้านก็ไม่ยื้ออีก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเช่นกัน เขาอยากละเลิกกับหลินฮวงแล้ว
“งั้นก็สองหินเทวะ ไม่มีต่อรอง”หลินฮวงเพิ่มหินเทวะให้อีกก้อนอย่างใจกว้าง
เจ้าของร้านรู้สึกหมดหนทาง แต่ก็พยักหน้าอยู่ดี”ได้ ข้าขาย!”
หลินฮวงโยนสองหินเทวะให้เจ้าของร้านและกำลังจะเก็บเหรียญโบราณเข้ามิติเก็บของเขา แต่เสียงทุ้มกังวานก็ดังขึ้น
“ข้าอยากได้เหรียญโบราณนี้!เท่าไร?”
เสียงนั้นดึงความสนใจของหลายคนทันที
ตอนแรก เจ้าของร้านตกตะลึง แต่ก็รีบพูดด้วยรอยยิ้มขอโทษ”ท่านครับ เหรียญโบราณชิ้นนี้ถูกขายให้ชายคนนี้แล้ว”
หลินฮวงหันไปมองร่างสูงข้างเขา มันคืออสูรชุบทองที่เขาสะกดรอยตามอยู่กว่าสามชั่วโมง
‘เจ้าหมอนี่สนใจเหรียญโบราณที่ข้ากำลังถือ?!’
หลินฮวงตกตะลึงเช่นกัน เขาไม่คิดว่าของที่อสูรชุบทองค้นหาอยู่หลายชั่วโมงจะบังเอิญมาอยู่ในกำมือเขาซะอย่างนั้น
เขาลดหัวเพื่อศึกษาเหรียญโบราณ จากนั้นก็ลอบตรวจสอบมันด้วยจิตเทวะ แต่ทว่า เขาก็ยังไม่สังเกตเห็นอะไรผิดปกติ
ตอนนั้นเอง อสูรชุบทองหันหัวมามองหลินฮวง
“เพื่อน เจ้าช่วยขายเหรียญโบราณนี้ให้ข้าได้ไหม?”หลังยื่นคำขอ อสูรชุบทองก็พูดเสริม”ข้าคือทองชุบ(ชื่อเล่น) คนของท่านสี่หน้า”
แววตาแปลกๆแวบผ่านดวงตาของหลินฮวง แม้เขาจะไม่รู้ว่าเหรียญโบราณนี้คืออะไรกันแน่ แต่มันก็เป็นโอกาสให้เขาได้เข้าใกล้อสูรชุบทอง….
“ข้าสามารถขายมันให้เจ้าได้ แต่ราคา..ข้าว่าเราควรไปคุยที่ที่คนไม่พลุกพล่านกันดีกว่า..”