นางสาวซูแค่อยากถอนหมั้น ตอนที่ 596 กระแสน้ำวนที่มืดมน
“เข้ามา”
ซูฉิงพูด จากนนั้นเธอก็เห็นผู้ช่วยเปิดประตูและเดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ละเอียดอ่อน
เมื่อมองไปที่ผู้ช่วยด้วยความสงสัย ซูฉิงก็ถามออกมาดัง ๆว่า “มีอะไรงั้นเหรอ?”
“คุณซู มีคนโทรมาหาคุณค่ะ” ผู้ช่วยพูดเบาๆ
“โทรมาหาฉันงั้นก็โอนมาให้ฉัน แล้วเป็นใครโทรมางั้นเหรอ?”
“เขาบอกว่าชื่อของเขาคือเฟิงรั่วเหยียน”
เมื่อได้ยินชื่อนี้ ซูฉิงซึ่งเดิมกำลังวุ่นกับการจัดการงานอยู่นั้น ก็เงยหน้าขึ้นมองทันที “คนที่โทนมาหาฉันชื่อเฟิงรั่วเหยียน?”
ซูฉิงถามซ้ำเพื่อยืนยัน
ผู้ช่วยพยักหน้า
ซูฉิงรู้สึกงงงวยเล็กน้อยในเวลานี้ เฟิงรั่วเหยียนพยายามทำอะไรอยู่ถึงได้โทรหาเธอในเวลานี้? แม้ว่าเธอจะคิดอย่างนั้น แต่ซูฉิงก็สั่งให้ผู้ช่วยของเธอรับโทรศัพท์นั้น
แค่เธอยังไม่ได้รับสายในทันที แต่รอเสียงจากโทรศัพท์อีกฝั่ง
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายอาจคิดเช่นนั้นเหมือนกัน หลังจากที่ทั้งสองเงียบกันเป็นเวลานานเฟิงรั่วเหยียนก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
“ไม่ได้เจอกันนานนะคุณหนูซูชิง”
คิ้วของซูฉิงขยับเล็กน้อย แต่ไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเธอ “มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ นายน้อยเฟิง”
“อย่า เรียกฉันห่างเหินขนาดนั้นสิ คุณเรียกฉันว่ารั่วเหยียนก็ได้” เสียงของเฟิงรั่วเหยียนเหมือนมีรอยยิ้มเล็กน้อยซ้อนอยู่ ซึ่งทำให้ซูฉิงอึดอัดมาก เธอไม่อยากติดต่อกับคนแปลกหน้าคนนั้นเลยจริงๆ
“นายน้อยเฟิงโทรหาฉันตอนนี้ คงไม่ได้โทรมาแค่เพื่อมาพูดถึงเรื่องไร้สาระเหล่านี้หรอกใช่ไหม” ซูฉิงไม่ต้องการพูดเรื่องไร้สาระกับเขา เธอจึงถามออกไปโดยตรง
“ใครจะลืมคนสวยอย่างคุณหนูซูฉิงได้กันล่ะ ฉันจะคิดถึงคุณบ้างไม่ได้หรือ?”
เสียงของเฟิงรั่วเหยียนยังคงเหมือนเดิมและซูฉิงดูเหมือนจะสามารถนึกถึงรอยยิ้มและดวงตาที่มืดมนของเขาได้
ซูฉิงขมวดคิ้ว คิดที่จะวางสาย แต่ดูเหมือนว่าเฟิงรั่วเหยียนเองก็เหมือนจะคิดเรื่องนี้เช่นกัน แล้วเขาจึงพูดออกไปตรงๆว่า
“ฉันได้ยินมาว่าศิลปินภายใต้การดูแลของคุณหนูซูฉิงดูเหมือนจะต้องการร่วมมือกับผู้กำกับหวางเฉิง”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ มือของซูฉิงที่ถือปากกาก็หยุดชะงัก “ข่าวของนายน้อยเฟิงช่างเป็นข้อมูลที่แม่นยำจริงๆ”
เมื่อเฟิงรั่วเหยียนกล่าวถึงเรื่องนี้ ซูฉิงก็มีการคาดเดาอยู่ในใจของเธอ ควบคู่ไปกับเรื่องมากมายที่เฟิงรั่วเหยียนทำลงไปก่อนหน้านี้จุดประสงค์ของเขาดูเหมือนจะชัดเจนแล้วในขณะนี้
“หวางเฉิงเป็นผู้กำกับที่มีชื่อเสียงมาก หากคุณร่วมมือกับเขา ศิลปินภายใต้การดูแลของคุณก็จะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน ฉันขอแสดงความยินดีกับคุณหนูซูฉิงล่วงหน้าเลยแล้วกัน”
ขณะที่เขาพูดก็มีเสียงคมชัดที่ไม่รู้จักดังมาจากฝั่งของเฟิงรั่วเหยียน
ซูฉิงใช้นิ้วเคาะโต๊ะและส่งเสียงเบาๆออกไป “นายน้อยเฟิง ถ้าคุณอยากแข่งขันเรื่องธุรกิจ ฉันก็พร้อมที่จะแข่งไปด้วยกัน แต่วิธีการบางอย่างก็ช่างน่าขยะแขยงจริงๆ”
ตอนนี้ซูฉิงเข้าใจแล้ว เกรงว่าเหตุการณ์ในการแถลงข่าวครั้งก่อนของหลิวเสี่ยวหนิงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฟิงรั่วเหยียนคนนี้
เมื่อคิดถึงความเกียจคร้านของเฟิงรั่วเหยียนหลังจากที่แข่งขันกับเธอเพื่อชิงที่ดิน เขาก็ไม่ได้ออกโรงทำอะไรเลย เล่นเอาซูฉิงเองเกือบลืมบุคคลนี้ไปเลย
เมื่อดูจากตอนนี้ กลับกลายเป็นว่าเขากำลังรอเธออยู่ที่นี่
ใครกันจะไม่รู้ว่าดาราตัวหลักของสาตาร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์คือหลิวเสี่ยวหนิง พอหลิวเสี่ยวหนิงมีปัญหา บริษัทสตร์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ก็จะได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นกัน
“คุณหนูซูฉิงพูดแบบนี้ได้อย่างไร? ทำให้ฉันรู้สึกเยือกเย็นอย่างหน้าประหลาดใจจริงๆ”
เธอได้ยินเฟิงรั่วเหยียนพูดอย่างน่าสงสารมาก
“และฉันก็ไม่ต้องการแข่งขันกับคุณในเรื่องธุรกิจด้วย แต่ในการทำธุรกิจ การปะทะกันในอุตสาหกรรมเดียวกันย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คุณหนูซูฉิงคงเข้าใจสิ่งดีใช่ไหม”
“แล้วนอกจากการเสียดสีเล็กน้อยนี้ นายน้อยเฟิงยังคิดจะทำอะไรอีก?” ซูฉิงเป็นคนตรงไปตรงมา และไม่ชอบการพูดคุยแบบนี้ที่สุด
“ชีวิตอ่ะ ยังต้องการเซอร์ไพรส์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อจะได้มีชีวิตที่น่าสนใจ คุณหนูซูฉิงหรือว่าคุณไม่รู้สึกตื่นเต้นและตั้งตารอหน่อยเลยเหรอ?”
แล้วก็ยังเป็นเสียงหัวเราะที่คุ้นเคย สิ่งนี้ทำให้ซูฉิงรู้สึกปวดหัว เธอขี้เกียจเกินกว่าจะคุยกับคนนี้อีก “นายน้อยเฟิง เชิญคุณทำทุกอย่าง ที่คุณต้องการเถอะ แล้วฉันจะรอดู”
โดยไม่รอคำตอบจากปลายสายซูฉิงก็วางสายไปก่อนทันที
ผู้ช่วยเฝ้ามองจากด้านข้าง เมื่อเห็นว่าใบหน้าของซูฉิงไม่ค่อยดีนัก เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามว่า: “คุณซู คุณ … ”
“ใช่ ชีวิตยังต้องมีเรื่องเซอร์ไพรส์อีกมาก” ซูฉิงโค้งมุมปากของเธอ ดูเหมือนว่าวันรุ่งขึ้นจะมีความน่าสนใจมากขึ้นแล้วสิ
แต่ทว่าเธอเพียงไม่ค่อยเชื่อ คนอย่างเฟิงรั่วเหยียนจะทำให้เกิดเรื่องของหลิวเสี่ยวหนิงได้
ดูเหมือนว่าเขาจะมองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป หรือเฟิงรั่วเหยียนคนนี้ลึกลับเกินไปนะ
“ไปตรวจสอบข้อมูลเฟิงรั่วเหยียนดูว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้เขาทำอะไรมาบ้าง” ซูฉิงสั่งผู้ช่วยของเธอ
ผู้ช่วยตอบรับ แล้วหันหลังเดินจากไป
ในเวลาเดียวกัน เฟิงรั่วเหยียนซึ่งถูกวางสายใส่ ก็ทำหน้ามุ่ย และเอนหลังพิงโซฟา
“ที่แท้หลักจากที่มีคนทำชั่ว พวกเขาก็จะสารภาพโดยตรงเลยสินะ”
เฉินเจียวนั่งไขว้ขา และนั่งอยู่ตรงข้ามเฟิงรั่วเหยียนด้วยท่าทางที่ค่อนข้างน่าขันบนใบหน้าของเธอ
หากไม่ใช่ทางเลือกสุดท้าย เธอจะร่วมมือกับคนๆ นี้ได้อย่างไรกัน ลูกนอกสมรสของตระกูลเฟิงที่บ้าคลั่งและไม่ควรที่จะได้ขึ้นอยู่บนตำแหน่งนี้ได้เลย
“คุณหนูเฉิน คุณไม่เคยได้ยินคำพูดๆหนึ่งเหรอ? นักล่าที่ดี มักจะถือว่าตัวเองเป็นเหยื่อเสมอ”
“และเกมต้องเป็นแบบนี้ ถึงจะสนุกแบบนี้ ฉันคิดว่าฉันควบคุมทุกอย่างได้ แต่จริงๆ แล้ว ฉันเป็นแค่คนงี่เง่าที่ถูกควบคุมโดยคนอื่น คุณว่าจริงไหม คุณหนูเฉิน”
ปากของเฟิงรั่วเหยียนแตกเป็นรอยยิ้มแปลก ๆ และดวงตาที่มืดมนของเขา ก็จ้องตรงไปที่เฉินเจียว
ความหนาวเย็นวิ่งผ่านแผ่นหลังของเฉินเจียว เธอลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน หันหลังเดินจากไป และทิ้งคำพูดไว้เพียงประโยคเดียว
“ฉันได้นำสิ่งที่ไป่โจวพูดมาบอกให้คุณรู้แล้ว มันขึ้นอยู่กับคุณที่จะฟังหรือไม่ฟัง แต่เฟิงรั่วเหยียน ซูฉิงและฮ่อหยุนเฉิงไม่ใช่คนที่จะยั่วยุได้ง่ายๆ คุณควรทำอะไรอย่างรอบคอบ”
เฟิงรั่วเหยียนที่ฟังอยู่ ก็ขยับคิ้วของเขาเล็กน้อย วางฝ่ามือบนริมฝีปาก และเดินตรงไปทางด้านหลังของเฉินเจียว”โอ้ว เมื่อกี้ที่คุณเรียกดูสนิทสนมจังเลยนะ คนที่ไม่รู้คงคิดว่าคุณกำลังจะแต่งงานเข้าตระกูลเฟิงเร็ว ๆ นี้ล่ะ เฉินเจียว อย่าลืมนะว่าคุณเป็นใคร ”
เสียงฝีเท้าของเฉินเจียวหยุดลงอย่างกะทันหัน เธอหันศีรษะกลับมาอย่างรวดเร็วเพื่อมองเฟิงรั่วเหยียนด้วยรอยยิ้มแบบประชดประชัน และในท้ายที่สุดเธอก็ถอนหายใจอย่างเย็นชาและเหยียบรองเท้าส้นสูงขอลเธอแล้วก็จากไป
“งี่เง้า งี่เง้ากันหมด” เฟิงรั่วเหยียนหนุนตัวไปมาและบ่นเบาๆ
……
แตกต่างจากอีกฝั่งที่ดูเหมือนกระแสน้ำวนที่ปั่นป่วน ซูฉิงและหลิวเสี่ยวหนิงมาถึงสถานที่ซึ่งตกลงกับผู้กำกับหวางเฉิงไว้
“ทำอย่างไรดีคะ พี่เสี่ยวฉิง ฉันรู้สึกประหม่ามาก”
หลิวเสี่ยวหนิงบีบฝ่ามือของเธอ และมีเหงื่อเย็น ๆ ติดอยู่ เธอหันไปมองที่ซูฉิงที่อยู่ข้างๆเธอ และอดไม่ได้ที่จะทำหน้าบึ้ง
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้กำกับหวางเฉิงได้รับข่าวทางอินเทอร์เน็ตและไม่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น?”
“หากเขาไม่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาพบเธอ เนื่องจากเขาเลือกที่จะมาพบเธอ นั่นก็หมายความว่ามีโอกาสสูงที่บทบาทนี้จะตกเป็นของเธอ ดังนั้น สบายใจได้”