กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 732
“ท่านปู่เสวี่ยเยี่ย……”

เหวินเส่าอี๋ต้องการช่วยเขาห้ามเลือดแต่ว่าหมอกโลหิต[นร่างของเขาได้พุ่งออกมาเป็นกลุ่มก้อนซึ่งใช่ว่าเขาจะสามารถห้ามไว้ได้

เหวินเส่าอี๋ตื่นตระหนกและหันหน้าไปขอความช่วยเหลือจากกู้ชูหน่วน

“ช่วยเขาได้หรือไม่ เพียงแค่เจ้าสามารถช่วยเขาได้ข้าจะพาคนของเผ่าเพลิงฟ้าจากไปในทันที และรับประกันว่าเพียงแค่ข้ายังมีชีวิตอยู่จะทุ่มเทสุดชีวิตที่จะไม่ปล่อยให้คนของเผ่าเพลิงฟ้าบุกเผ่าหยกได้อีก”

ผู้อาวุโสของเผ่าหยกที่ตามหลังมาติดๆได้ยินคำพูดของเหวินเส่าอี๋จึงอดไม่ได้ที่จะถุยออกมาเสียงหนึ่ง

“เชื่อเจ้ากับผีสิ เผ่าเพลิงฟ้าไม่สังหารเผ่าหยกให้สิ้นซากก็แปลกเสียแล้ว แม้ว่าพวกเจ้าจะยอมปล่อยมวางแต่เผ่าหยกของเราก็ไม่สามารถปล่อยวางได้”

“ก็ใช่หน่ะสิ ผู้อาวุโสสูง พวกเขาเป็นขั้นสูงสุดระดับหกทั้งห้าในตอนนี้ได้ตายไปแล้วสี่คน เหลือเพียงเงาผู้เดียวเท่านั้นซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่เช่นนั้นพวกเราก็ต่อสู้สุดกำลังกับพวกเขาเลยสิ”

“แต่ก่อนคำนึงถึงที่พวกเขามีขั้นสูงสุดระดับหกสองคน ตอนนี้……หึ……”

“ผู้เฒ่าหกนั้นช่างหลักแหลมนัก รู้ว่าผู้ที่เงาเกลียดชังที่สุดในชีวิตคืออดีตหัวหน้าเผ่าจึงได้จงใจปล่อยข่าวหลุมศพของอดีตหัวหน้าเผ่าเพื่อล่อเงาออกไปและพาเข้าไปสู่กลไกที่เผ่าหยกได้ออกแบบเอาไว้ก่อนหน้านี้ถึงได้ขังเงาเอาไว้ได้”

ผู้อาวุโสหกหัวเราะเยาะ “โชคดีๆ เป็นพวกเขาที่กัดกันเองและก็ต่อสู้กันจนพ่ายแพ้กันทั้งสองฝ่าย จึงทำให้ข้าคนกลางได้ความดีความชอบไป”

“ผู้อาวุโสสูงอย่าได้พลาดโอกาสนี้ ไม่เช่นนั้นพวกเราก็สังหารพวกเขาซะเดี๋ยวนี้”

การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายกำลังจะบังเกิดขึ้น

แม้ว่าเผ่าเพลิงฟ้าจะสูญเสียยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับหกไปหลายคน แต่ก็ยังมีผู้อาวุโสระดับสูงอยู่ไม่น้อย พวกเขานำสาวกมาด้วยมากมาย ต้องการสังหารให้หมดในชั่วพริบตาก็ใช่ว่าจะง่ายดายเช่นนั้น

แม้ว่าเผ่าหยกจะได้รับความทุกข์ทรมานจากการโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ที่นี่ก็เป็นอาณาเขตของพวกเขา เผ่าหยกมีผู้ที่มีพรสวรรค์มาอยู่เรื่อยๆใช่ว่าจะมีเพียงแค่ผู้อาวุโสสูงเพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทหารม้าทมิฬและคนของนิกายเทพอสูรด้วย

ด้วยเหตุนี้ในการต่อสู้ครั้งนี้เผ่าเพลิงฟ้าอาจไม่ได้รับผลประโยชน์และเผ่าหยกก็อาจจะไม่ได้พ่ายแพ้

ความเกลียดชังของผู้อาวุโสได้แว๊บผ่านพร้อมกับรัศมีแห่งการสังหารอันรุนแรง

เขาก็เกลียดชังต่อผู้คนของเผ่าเพลิงฟ้า

ตอนนี้เป็นโอกาสที่หายากอย่างแท้จริง

หากว่าเผ่าหยกไม่สามารถแม้แต่จะต่อสู้เอาชนะพวกเขาได้ ยังมีหน้ามีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้ได้อย่างไร

ผู้อาวุโสสูงสุดโบกมือและทันใดนั้นทหารม้าทมิฬแน่นขนัดตาก็พุ่งเข้ามาวจากระยะไกลในทันใดและล้อมทุกคนของเผ่าเพลิงฟ้าเอาไว้ทั้งหมด

เหวินเส่าอี๋มองไปยังกู้ชูหน่วนซึ่งกำลังรักษาอาการให้กับผู้อาวุโสสูงของเผ่าหยกและกล่าวอย่างเคร่งขรึมว่า “เจ้าจะต้องให้เลือดเปรอะเปื้อนเผ่าหยกให้แดงหรือ? ความเครียดแค้นตอบโต้กันไปมาถึงเมื่อใดแล้ว”

“ถุย ตอนนั้นที่พวกเจ้าสาปคำสาปเหตุใดจึงไม่นึกถึงการแก้แค้นกันไปมาถึงเมื่อใดหล่ะ? เมื่อครู่ขณะที่พวกเจ้าฆ่าล้างสังหารฆ่าพวกเราเผ่าหยก เหตุใดถึงไม่นึกถึงการแก้แค้นไปมาถึงเมื่อใดหล่ะ? ผู้อาวุโสสูงข้าขอร้องให้ลงมือสังหารพวกเขาให้สิ้นซากในทันที เห็นพวกเขาข้าก็โมโหนัก”

“เชิญผู้อาวุโสสูงสั่งการมา”

ผู้อาวุโสสูงกำลังจะออกคำสั่งกู้ชูหน่วนฮึ่มเสียงเย็นชาเสียงหนึ่ง “ในสายตาของพวกเจ้ายังมีหัวหน้าเผ่าผู้นี้อยู่ไหม?

“ท่านหัวหน้าเผ่า……”

“นำตัวพวกเขาไปขังเอาไว้ก่อนไม่ให้ทำร้ายหมายคน รอให้ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสสูงรักษาอาการบาดเจ็บให้หายดีค่อยมาว่ากัน”

“ท่านหัวหน้าเผ่า……”

ทุกคนต่างรู้สึกไม่พอใจกัน

เผ่าเพลิงฟ้ามีกลอุบายมากมาย ผู้ใดจะรู้ว่าภายหน้าพวกเขาจะกระทำการอันใดกันขึ้น

ผู้อาวุโสสูงกล่าวว่า “อาการบาดเจ็บของข้าไม่จำเป็นต้องรักษาแล้ว”

“แล้วผู้อาวุโสสูงหล่ะ หากว่าเขาไม่รักษาแม้แต่ชีวิตก็จะไม่มีแล้ว”

ผู้อาวุโสรองกล่าวว่า “พวกเราสังหารคนของเผ่าเพลิงฟ้าจะไม่ส่งผลต่อการรักษาของผู้อาวุโสสูงสุด”

“พรวด……”

ผู้อาวุโสเสวี่ยเยี่ยกระอักเลือดออกมาอีกคำหนึ่งและลมหายใจยิ่งอยู่ก็ยิ่งอ่อนลงเรื่อยๆ

เหวินเส่าอี๋กล่าวอย่างร้อนรนว่า “ช่วยท่านปู่เสวี่ยเยี่ยก่อนได้หริอไม่? บัญชีระหว่างเราค่อยคิดกันทีหลังได้ไหม?” คำพูดของเขาแฝงด้วยการอ้อนวอนอยู่บ้าง

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้วและกล่าวว่า “เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสนัก ข้าไม่สามารถช่วยได้”

นางไม่ได้โกหกเขา นางไม่สามารถช่วยได้จริงๆ

เส้นเอ็นทั่วทั้งร่างของผู้อาวุโสเสวี่ยเยี่ยขาดหมดแล้วและอวัยวะภายในก็เสียหายไปหมดแล้วยังถูกดาบนับหมื่นทะลุหัวใจ

แม้แต่เทพเซียนก็ไม่สามารถช่วยได้

เหวินเส่าอี๋รู้สึกเจ็บปวดใจพร้อมกับมองดูกู้ชูหน่วนด้วยความผิดหวังเล็กน้อย

ผู้อาวุโสเสวี่ยเยี่ยกุมมือเหวินเส่าอี๋และกล่าวเสียงเบาว่า “อย่า……อย่าขอร้องพวกนาง……”

“เส่าอี๋เจ้าอยู่ในใจท่านปู่เป็นผู้สูงส่งมีเกียรติและน่าภาคภูมิใจเสมอมา ปู่……แค่กๆ……”

“อย่ากล่าวอีกเลย ข้าจะพันแผลให้ท่าน”

เสวี่ยเยี่ยราวกับว่ามีคำพูดเป็นหมื่นพันคำที่จะกล่าวกับเหวินเส่าอี๋ แต่เขากลับได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไปจึงกล่าวสิ่งใดไม่ออกเลย

เหลือไว้เพียงประโยคสุดท้าย “ข้าอายุปูนนี้แล้วตายก็ไม่เสียดาย เพียงแต่……เพียงแต่ปล่อยวางเจ้าไม่ได้ เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่……อยู่ให้……อยู่ให้ดี……”

“ตุ๊บ……”

มือของผู้อาวุโสเสวี่ยเยี่ยไหลเลื่อนลงมาอย่างไร้เรี่ยวแรงพร้อมกับเบิกตาทั้งสองกว้างราวกับว่านอนตายตาไม่หลับ

เหวินเส่าอี๋กอดศพของผู้อาวุโสเสวี่ยเยี่ยเอาไว้แน่นและร่ำไห้อย่างไร้ซึ่งเสียงใด

ด้านหนึ่งสาวกของเผ่าเพลิงฟ้าคุกเข่าลงทีละคนๆ “ผู้อาวุโสเสวี่ยเยี่ย……”

ในแววตาของกู้ชูหน่วนเจ็บปวดอยู่บ้าง

แม้ว่าจะไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเหวินเส่าอี๋กับเขา แต่ก่อนสิ้นใจเสวี่ยเยี่ยปบ่อยวางเหวินเส่าอี๋ไม่ลง เพื่อเหวินเส่าอี๋แล้วไม่เสียดายที่จะสูญเสียพละกำลังทั้งชีวิตจนหมดพร้อมเสี่ยงความอันตรายก็จะเสียสละเพื่อช่วยเหลือเหวินเส่าอี๋

ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอนสินะ

ดูเหมือนว่านางจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดในใจของเหวินเส่าอี๋

ผู้อาวุโสสูงออกคำสั่ง “พวกเจ้า สังหารทุกคนของเผ่าเพลิงฟ้าให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”

“หยุดนะ ห้ามสังหารพวกเขา”

เผ่าหยกและคนอื่นๆมองไปยังผู้อาวุโสสูงและมองดูหัวหน้าเผ่าโดยไม่รู้ว่าควรจะฟังผู้ใดดี

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสสูงสุดค่อยๆฟื้นขึ้นมา ใบหน้าอันซีดเซียวของเขาฝืนทนออกคำสั่งอย่างเย็นชาว่า “ฆ่า อย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียว”

“ขอรับ”

สังหารคำหนึ่ง เผ่าหยกและเผ่าเพลิงฟ้าก็ได้ต่อสู้ปะทะกันขึ้นอย่างเป็นทางการซึ่งทั้งสองฝ่ายสู่กันอย่างเต็มพละกำลังแดงเดือดถ้วนทั่วกันไปหมด

เสียงการต่อสู้ เสียงการกรีดร้อง เสียงตะโกนร้องและเสียงการด่าทอดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

ผู้อาวุโสขั้นสูงของเผ่าหยกได้รับบาดเจ็บสาหัสกันหมดแต่อาการบาดเจ็บของคนขั้นกลางและต่ำนั้นไม่มากมายนัก สาวกของเผ่าหยกก็เร่งรีบเข้ามาร่วมการต่อสู้ในสนามรบทีละคนๆอย่างต่อเนื่อง

ศัตรูจำนวนน้อยพวกเราจำนวนมากกว่า เผ่าเพลิงฟ้าจึงค่อยๆปรากฏความพ่ายแพ้ออกมา

ชีวิตแต่ละชีวิตล้มลงต่อๆกันไป

ในนั้นเผ่าเพลิงฟ้ามีจำนวนมาก

เช่นไรพวกเขาก็ยังคงปกป้องเหวินเส่าอี๋สุดชีวิตดังเดิมเพื่อไม่ให้เหวินเส่าอี๋ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย

กู้ชูหน่วนจ้องไปยังผู้อาวุโสสูง “ท่านไม่ได้ยินคำพูดของข้าหรอกหรือ? บอกให้พวกเขาหยุด”

ผู้อาวุโสสูงสุดได้แปรเปลี่ยนจิตใจอันดีมีเมตตาก่อนหน้านี้เป็นความอาฆาตแค้นอยู่ในแววตา

“ท่านเป็นหัวหน้าเผ่าตามหลักแล้วพวกเราควรเชื่อฟังท่าน แต่ครั้งนี้ได้โปรดยกโทษให้เราที่ไม่สามารถเชื่อฟังคำสั่งของท่าน ความเครียดแค้นเกลียดชังระหว่างเผ่าหยกและเผ่าเพลิงฟ้านั้นไม่สามารถคลี่คลายได้ พวกเขาไม่ตายก็เป็นพวกเราที่ต้องตาย ”

“ตอนนี้พวกเขารู้ทางเข้าออกของเผ่าหยกของเราแล้ว เก็บพวกเขาเอาไว้ท้ายที่สุดก็เป็นความหายนะ เป็นการดีกว่าที่จะสังหารเลยโดยตรงเพื่อไม่ให้เหลือรากโคนไว้”

“เจ้า……”

กู้ชูหน่วนโมโหจัด นางตะโกนเสียงดังว่า “หยุดนะ ข้าบอกให้หยุดให้หมด”

บางทีเผ่าหยกอาจจะถูกรังแกรุนแรงเกินไป

ครั้งนี้เผ่าหยกอันใหญ่โตกลับไม่มีผู้ใดยอมเชื่อฟังคำพูดของนาง

รวมทั้งผู้อาวุโสทั้งหลายเหล่านั้นแม้แต่ผู้อาวุโสหก

ผู้อาวุโสหกกล่าวว่า “ท่านหัวหน้าเผ่า ตั้งแต่พวกเขาเข้ามาในเผ่าหยกได้สังหารคนของเราเป็นจำนวนมาก ศพกระดูกของพวกเขายังไม่ได้ฝังเลย แค้นนี้ไม่ได้ล้างช่างน่า……เป็นการยากที่จะโน้มน้าวผู้คน ท่าน……ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้ใส่ใจเลย”

“ท่านหัวหน้าเผ่า ท่านจะลงโทษพวกเราเช่นไรก็ได้ทั้งนั้น มีเพียงครั้งนี้ที่เราไม่สามารถเชื่อฟังท่านได้ ได้โปรดยกโทษให้ด้วย”

ผู้อาวุโสทั้งหลายของเผ่าหยกต่างคุกเข่าลงกับพื้นอย่างพร้อมเพรียงกัน

แม้แต่ผู้อาวุโสสูงสุดและผู้อาวุโสสูงซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสลมหายใจแผ่วเบาก็คุกเข่าลงกันหมด

บทที่ 731

ตอนที่ 733