หลินจือเห็นโนอาห์เข้ามาพร้อมกับจอร์แดนก็ประหลาดใจมากเช่นกัน ไหนเทาเท่บอกว่าแจ้งโนอาห์ว่าไม่ต้องมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”
จอร์แดนย่อมมองความสงสัยของทั้งสองคนออก จึงอธิบายว่า พ่อบอกอาห์เรื่องของลูก อาห์เป็นห่วงลูกมาก จึงยืนกรานที่จะมาเยี่ยมลูกด้วยกันกับพ่อ”
โนอาห์ที่อยู่ข้างๆพูดกับหลินจือด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “ได้ฟังลุงจอร์แดนเล่าเรื่องของคุณ ในใจผมก็เป็นห่วงคุณเอามากๆ หากไม่ได้มาเห็นกับตาก็จะกินไม่ได้นอนไม่หลับ”
เทาเท่ที่อยู่ด้านข้างมองโนอาห์อย่างเย็นชา ขนเขาลุกไปทั้งตัว
กินไม่ได้นอนไม่หลับ?
โนอาห์คนนี้เก่งเรื่องพูดคำหวานมากจริงๆ เขาก็แค่เพิ่งรู้จักหลินจือครั้งที่แล้วเท่านั้น แล้วจะเป็นถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับได้อย่างไร?
ปลอม!
หลินจือกลับรู้สึกตื้นตันมากจึงรีบพูดกับโนอาห์ว่า “ขอบคุณนะคะที่มาแต่ไกลเพื่อมาเยี่ยมฉัน”
ในใจเทาเท่ส่งเสียงเฮอะอย่างเย็นชา เธอคงจะไม่ได้ซาบซึ้งใจกับโนอาห์จริงๆใช่ไหม?
ไร้เดียงสาเกินไป
จอร์แดนเดินเข้ามาถามหลินจืออย่างปวดใจ “ลูกเป็นยังไงบ้าง?”
หลินจือปลอบจอร์แดน “หนูสบายดี ไม่เป็นอะไร ไม่ต้องห่วงนะคะ”
จอร์แดนพูดอีกว่า “เดิมทีคุณน้าลูน่าก็อยากมาเยี่ยมลูก แต่ร่างกายของเธอไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกลจริงๆ ดังนั้นพ่อฉันจึงไม่ได้พาน้ามา เธอเป็นห่วงเอามากๆ”
พ่อและลูกสาวเริ่มพูดคุยกัน เทาเท่และโนอาห์มองหน้ากันอยู่นาน ทั้งสองออกจากห้องพักผู้ป่วยอย่างรู้ตัว เหลือที่ว่างให้จอร์แดนและหลินจือ
ทันทีที่เดินออกจากประตูห้องพักผู้ป่วย รอยยิ้มจางๆบนใบหน้าของเทาเท่ก็หายไป
ทั้งสองยืนอยู่ตรงทางเดิน เทาเท่ก็เยาะเย้ย “คุณโนอาห์ช่างเอาใจใส่เสียจริง”
โนอาห์ยกมือขยับกรอบแว่นขอบทองตรงสันจมูกพูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ใส่ใจ “ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ การเอาใจใส่ผู้หญิงในดวงใจสักเล็กน้อยก็เรื่องปกติไม่ใช่เหรอครับ?”
คำพูดของโนอาห์ประโยคนี้เท่ากับเขายอมรับว่าเขาสนใจหลินจือ เทาเท่ก็ยกริมฝีปากเยาะเย้ยออกมาตรงๆ
โนอาห์พูดออกมาลอยๆว่า “ถึงแม้ว่าครั้งนี้คุณจะเป็นคนช่วยหลินจือ แต่นั่นมันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นอะไรของเธอจริงไหมครับ? การที่ผมมาเยี่ยมเธอ ประธานเทาเท่เข้ามายุ่งได้ด้วยเหรอครับ?”
คำพูดนี้หมายความว่า เขาเทาเท่ไม่ได้มีสถานะอะไร ไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่งให้มาก
เทาเท่เหลือบมองโนอาห์อย่างเย็นชา โนอาห์กางมือ “อีกอย่าง แม้ว่าต่อให้คุณเป็นแฟนของเธอ หรือแม้แต่เป็นสามี ก็ไม่สามารถบังคับให้เธอไม่มีเพื่อนต่างเพศได้ใช่ไหมล่ะ?”
“ทุกครั้งที่ผมกับหลินจือเจอกัน เราพูดคุยกันถูกคอมาก เธอก็เป็นคู่ชีวิตในอุดมคติของผม” โนอาห์กล่าวพลางคลี่ยิ้มชื่นชมที่มุมปาก “เธออ่อนโยน สวย มีความรู้ มีความชอบเหมือนๆกันกับผม เวลาอยู่กับเธอทั้งสบายเป็นตัวของตัวเอง ผู้หญิงดีๆแบบนี้ไม่มีใครจะไม่ชอบหรอกจริงไหม?”
คำพูดของโนอาห์จี้ใจดำเทาเท่อย่างแรง ในตอนแรกเขาไม่ชอบหลินจือ…
สายตาของเทาเท่เย็นชาขึ้น เขาเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่าโนอาห์จงใจแทงมีดลงบนหน้าอกเขา
แต่ในเวลาแบบนี้โนอาห์กล่าวเสริมด้วยความรู้สึกที่ลึกซึ้งอีกประโยคว่า “ดังนั้นผมจะไม่ยอมแพ้ปล่อยเธอไป”
เทาเท่ย่อมไม่ใช่พวกเรื่องมาก เขาเยาะเย้ยว่า “คิดว่าคุณโนอาห์คงเคยได้ยินประโยคหนึ่งที่กล่าวว่า หอคอยที่อยู่ใกล้น้ำมักจะได้พระจันทร์ก่อน”
โนอาห์อยู่เปกก้าที่ห่างออกไปไกล ต่อให้เขาไม่ยอมแพ้ในการตามจีบหลินจือ แต่จะสะดวกสู้เพื่อนบ้านหลินจืออย่างเขาได้อย่างไร?
ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เขากับหลินจือพัวพันกันทางร่างกาย
คิดได้เท่านี้เทาเท่ก็รู้สึกกระวนกระวายอย่างน่าประหลาด เขารู้สึกว่าจำเป็นต้องหาวิธีที่จะทำให้หลินจือมาคบกับเขาอย่างเป็นทางการ
ไม่ใช่แค่มีอะไรกันแค่เพียงกายเท่านั้น แต่ใจก็ต้องเป็นหนึ่งเดียวกันด้วย
โนอาห์ทิ้งประโยคบอกกับเทาเท่เสียงเบา “ถึงแม้ว่าผมจะเติบโตมาในเมืองเวลฟ์ แต่เพื่อคนในใจที่รัก ผมก็สามารถย้ายมาอยู่เมืองเจสเวิร์ดได้เช่นกัน”
เทาเท่ไม่ทันพูดก็เกือบจะตกใจแทบตายกับคำพูดของโนอาห์
ตอนนี้ตำแหน่งทางราชการของโนอาห์ในเมืองเวลฟ์ไม่ต่ำ ลาออกจากงานที่นั่นย้ายมาอยู่ที่นี่ ก็เท่ากับลดขั้นแล้ว โนอาห์บ้าไปแล้ว?
เทาเท่หันไปมองโนอาห์ เทาเท่ขมวดคิ้วแล้วถามว่า “คุณกำลังจริงจัง?”
“คุณคิดว่าไงล่ะ?” โนอาห์ไม่ได้ตอบออกมาตรงๆ แต่โยนคำถามลอยให้เขา
เทาเท่กัดฟันไม่พูดอะไรอีก
ไม่ว่าโนอาห์จะจริงจังหรือไม่ เขาจะไม่ยอมให้โอกาสใดๆกับโนอาห์
จอร์แดนคิดเช่นเดียวกับเทาเท่ คือยืนกรานว่าหลินจือนอนโรงพยาบาลหนึ่งคืน สังเกตอาการอีกสักหน่อยแล้วค่อยออกจากโรงพยาบาล หลินจือจนปัญญา จึงต้องตามใจพวกเขา
ขณะที่เทาเท่และโนอาห์กลับเข้ามาในห้องพักผู้ป่วย จอร์แดนก็พูดกับเทาเท่ว่า “ไปทำธุระของนายเถอะ ฉันจะดูแลเธอเอง”
เทาเท่ “…”
ตอนนี้เขาไม่อยากห่างหลินจือแม้แต่วินาทีเดียว
หากไม่ได้อยู่ข้างๆเห็นเธอด้วยตาของเขาเอง เขาจะกระสับกระส่าย
เขารู้สึกว่าหลังจากผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้มา คนที่ควรพบจิตแพทย์ไม่ใช่หลินจือ แต่เป็นเขา
เขาตกใจไม่น้อย
ดังนั้นเขาจึงไปบอกจอร์แดนว่า “คุณเดินทางมาไกล กลับไปพักผ่อนที่โรงแรมเพื่อพักผ่อนก่อนเถอะ”
“ไม่ต้อง ร่างกายฉันแข็งแรงดี” จอร์แดนยืนกรานที่จะอยู่ต่อดูแลลูกสาวด้วยตัวเอง
จอร์แดนเป็นพ่อของหลินจือ การที่พ่อจะดูแลลูกสาวของตนด้วยตัวเองมันก็สมเหตุสมผลแล้ว เทาเท่ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นอะไรกับเธอไม่มีเหตุผลและข้ออ้างที่จะอยู่ต่อ และหลินจือผู้ซึ่งไร้คุณธรรมที่อยู่บนเตียงก็ไม่ได้รั้งเขาไว้เลย
ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าเขาอาลัยอาวรณ์เธอ แต่ก็ยังใจร้ายใจดำอยากอยู่แค่กับพ่อตัวเอง
แถมยังขับไล่เขาไปอย่างสวยงาม “ประธานเทาเท่ คุณกลับไปพักผ่อน เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดๆเถอะ”
ระหว่างทางที่อุ้มเธอไปโรงพยาบาล เสื้อของเทาเท่เปื้อนเลือดจากบาดแผลที่หลังของเธอ เพราะเขาเอาแต่เฝ้าเธอที่โรงพยาบาลเพื่อรอให้เธอฟื้น ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาจัดการตัวเอง
ความจริงหลินจือหวังดีกับเทาเท่ ยังไงซะเขาก็เป็นประธานของฟอเรนากรุ๊ป ดังนั้นก็ต้องห่วงภาพลักษณ์บ้าง เธอไม่ได้ใจร้ายใจดำอย่างที่เทาเท่คิด
โนอาห์และเทาเท่เดินทางกลับพร้อมกัน เทาเท่กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนโนอาห์ก็ลากกระเป๋าเดินทางของเขากับจอร์แดนเข้าเช็คอินที่โรงแรม
จอร์แดนอยู่เป็นเพื่อนหลินจือในโรงพยาบาลตลอด ดูแลหลินจืออย่างระมัดระวังรอบคอบ หลายปีมานี้เขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อเธอเลย ดังนั้นจึงชดเชยให้ได้แค่ในเวลาแบบนี้เท่านั้น
ในห้องพักผู้ป่วยไม่มีน้ำร้อน จอร์แดนลุกขึ้นกำลังจะออกไป แต่พอเปิดประตูกลับเจอเทาเท่เดินไปมาหน้าประตูห้องพักผู้ป่วย
เขาเปลี่ยนชุดแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าพอเปลี่ยนเสื้อเสร็จก็กลับมาใหม่อีกครั้ง
จอร์แดนถามเขาอย่างไม่เข้าใจ “ทำไมนายถึงมาที่นี่อีก?”
เทาเท่ไม่ปิดบังพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ถ้าผมไม่เห็นเธอจะไม่วางใจ”
จอร์แดน “…”
หลินจือที่อยู่บนเตียงไม่คิดว่าเทาเท่จะพูดคำพูดชวนขนลุกเช่นนี้ต่อหน้าจอร์แดน มันทำให้เธอหน้าแดงด้วยความอึดอัด
เทาเท่กลับไม่สนปฏิกิริยาตอบกลับของจอร์แดนและหลินจือ ยกมือไปหยิบกาน้ำในมือของจอร์แดน “ผมจะไปเอาน้ำ”
จอร์แดนมองแผ่นหลังที่เดินไกลออกไปตามทางเดินของชายหนุ่ม ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรชั่วขณะ
ครั้งนี้เป็นเพราะเทาเท่ช่วยหลินจือจากหายนะ จอร์แดนจึงไม่สามารถพูดจารุนแรงกับเทาเท่ได้อีก