ตอนที่ 294 ไม่พอใจคําล่ําลือ

บุตรอสูรบรรพกาล

บุตรอสูรบรรพกาล บุตรอสูรบรรพกาล ตอนที่ 294 ไม่พอใจคําล่ําลือ

ตอนที่ 294

 

ไม่พอใจคําล่ําลือ

พรึบ!! ร่างของเหล่ายอดฝีมือพากันกระโดดลงมาจากที่นั่งทันที เมื่ออสูรมีท่าที่แปลกๆ ยกเว้นแต่เหล่ายอดฝีมือของอาณาจักร และชิ้นเท่านั้นที่ไม่มีท่าที่แปลกใจอะไร

 

“ช้าก่อน” แม้จะยังไม่ทราบว่าอสูรขององค์ชาย 2 เป็นอะไร แต่ในลานแห่งนี้มียอดฝีมือมากมาย อสูรเหล่านี้ไม่สามารถทําอะไรได้แน่นอน

 

“ไม่ต้องลําบากทุกท่านหรอก ข้าจะจัดการให้เอง” องค์ชายใหญ่ของอาณาจักรโฮพูดพลางกระโดดลงมาจากที่นั่งของตนเอง มิน่า เหล่าองค์จักรพรรดิอาณาจักรโฮถึงโอ้อวดองค์ชายของตนเองนัก เพราะองค์ชายใหญ่ของอาณาจักรโฮนั้นอยู่ระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 แล้วนั่นเอง แม้ไม่ทราบว่าเป็นชนชั้นยอดฝีมือหรือไม่ แต่การรับมืออสูรเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องยากสําหรับมันเลย

บึง!! หมัดขององค์ชายหนึ่งถูกซัดออกไปทางมังกรเจ็ดสีอย่างรวดเร็ว เพียงแต่ยังไม่ทันกระทบร่างของมังกรเจ็ดสี ชายคนหนึ่งก็ ข้ามาขวางมันเอาไว้ก่อน

“องค์ชายใหญ่ กรุณาใจเย็นก่อนขอรับ”ไป๋จูเหวินว่าพลางใช้มือข้างหนึ่งรับหมัดขององค์ชายใหญ่เอาไว้ ทําเอาตัวองค์ชายใหญ่มีท่าทีประหลาดใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายรับหมัดที่ต้นหมายจะต่อยอสูรตรงหน้าให้คว่ําได้อย่างง่ายดาย

 

“เรื่องนี้ไม่จําเป็นต้องใช้กําลังขอรับ เป็นเพียงเรื่องเข้าใจผิดเท่านั้น”ไป๋จูเหวินว่าพลางปล่อยมือขององค์ชาย มันเดินเข้าไปหาอสูรที่ทําท่าจะโจมตีใส่อสูรปักเป้ากับไป๋ไป๋ ต่อให้ระดับพลังต่างกัน อย่างไรก็ไม่มีใครอยากเข้าไปหาอสูรที่ทําท่าจะโจมตีตรงๆแบบนั้น

หรอก

 

“ใจเย็น พวกเราไม่ได้มาร้าย”ไป๋จูเหวินว่าพลางยืนขวางระหว่างเหล่าอสูรกับพวกไป๋ไป๋เอาไว้

 

“คุณชาย ท่านแน่ใจได้อย่างไร พวกนั้นมัน…”วิหคเพลิงหนึ่งในอสูรขององค์ชาย 2 พูดพลางลดท่าที่ข่มขู่ลง

 

“ไม่เป็นไรจริงๆ”ไป๋จูเหวินว่าพลางยื่นมือไปจับคอของวิหคเพลิงเบาๆ ไฟของพวกมันนั้นไม่ทําร้ายคนหากพวกนางไม่คิดโจมตี จูเชวี่ยเองก็เช่นกันไม่อย่างนั้นเหม่ยหลินคงขี่หลังนางอยู่บ่อยๆไม่ได้แน่ๆ

“โอ้ สงบแล้ว” เหล่าคนรอบๆต่างพากันส่งเสียงอื้ออึงไปหมด เมื่อเห็นวิหคเพลิงมีท่าที่อ่อนน้อมลงทันทีที่ไป๋จูเหวินลูบลําคอของนาง

 

“ไป๋ไป๋ เจ้าออกมาหาพวกนางหน่อย”ไป๋จูเหวินว่าพลางเรียกให้ไป๋ไป๋ออกมา แม้พลังดึงดูดเหล่าอสูรของไป๋จูเหวินจะทําให้พวกนางใจเย็นลงแล้ว แต่พวกนางก็ยังไม่หายกังวลอยู่ดี

“ค้า”ไป๋ไป๋ตอบรับพลางเดินออกมาหาเหล่าอสูรช้าๆ พลังระดับบรรพกาลของนางทําให้เหล่าอสูรเกิดความหวาดกลัว แต่จะให้เอาอสูรปักเป้าออกมาคุยก็คงไม่ได้เพราะพี่ปักเป้าพูดภาษามนุษย์ไม่ได้เลยนี่นา

ตบ..ทันทีที่ไป๋ไป๋เข้ามาใกล้ เหล่าอสรขององค์ชาย 2 ก็ก้มหน้าหัวลงจนติดพื้น หากนี่เป็นเขตอสูรพวกนางก็คงยกให้ไป๋ไป๋เป็นราชินีตามกฎธรรมชาติไปแล้ว แต่เพราะที่นี่พวกนางไม่ใช่ผู้เป็นใหญ่เลยทําอะไรไม่ได้

“ไม่ต้องก้มหัว ข้ามาที่นี่เพื่อมาเที่ยวเล่นกับพี่ไปเท่านั้น ไม่ได้คิดจะทําอะไรพวกเจ้าหรอก ส่วนพี่ปักเป้าก็มากับข้าเหมือนกัน”ไป๋ไป๋ว่าพลางยิ้มกว้าง ทําให้เหล่าอสูรที่กลัวจนตัวสั่นเริ่มมีท่าที่ผ่อนคลายลง

 

“เจ้าค่ะ ขอให้ท่านเดินทางอย่างปลอดภัย”มังกรเจ็ดสีตอบพลางคืนร่างกลับเป็นมนุษย์อีกครั้ง ทําให้เหล่าอสูรตนอื่นๆต่างคืนร่า งเป็นมนุษย์เช่นกันเพราะตัวไป๋ไป๋นั้นอยู่ในร่างมนุษย์นั่นเอง

“จะว่าไป เด็กสาวคนนั้นก็เป็นอสูรสินะ” ชายคนหนึ่งพูดพลางม องร่างของไป๋ไป๋อย่างสนใจ มันเห็นเหตุการณ์ตอนเข้าวังพอดี ทําให้พอจะทราบว่านอกจากไป่หลินแล้วกลุ่มเด็กๆนั้นเป็นอสูรกัน ทั้งหมด

“แสดงว่านางต้องเป็นอสูรที่แข็งแกร่งกว่าอสูรขององค์ชาย 2 สินะ” ชายอีกคนพูดด้วยท่าทีสนใจ แต่สิ่งที่มันพูดออกมากลับทําให้หน้าขององค์ชาย 2 ดูไม่ดีเท่าไหร่ การจับอสูรสําหรับอาณาจักรโฮนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะอสูรยิ่งพลังสูงยิ่งถือตน พอโดนจับหากไม่พยายามหนีก็ฆ่าตัวตายเลยก็มี ทําให้อสูรในครอบครองขององค์ชาย 2 นับเป็นอสูรที่หาดูได้ยากมาก ในอาณาจักรโฮไม่มีใครเทียบเรื่องนี้กับมันได้ แต่หากอยู่ในอาณาจักรอู่ เพียงอสูร 4 ตนของหวงหลงก็คงดูดีกว่าแล้ว

 

“ขอบคุณองค์ชายชินอี้ที่เข้ามาช่วยเหลือ ชื่อเสียงของกลุ่มนักล่าอสูรเป็นของจริงอย่างที่ล่ําลือจริงๆ”องค์ชายใหญ่ว่าพลางเดินเข้ามาหาไป๋จูเหวิน

 

“เกรงใจกันแล้ว อสูรเหล่านี้ต่างเป็นของสะสมอันมีค่าขององค์ชาย 2 ข้าจึงอยากจะจบปัญหาอย่างสงบเท่านั้น”ไป๋จูเหวินตอบพลางยิ้มออกมา แต่มันก็เหมือนบอกว่าองค์ชายใหญ่ไม่รักษาของได้เหมือนกัน

 

“ต่อไปเป็นการแสดงความสามารถของข้า ตัวข้านั้นชื่นชอบการฝึกฝนวิชายุทธ หวังว่าท่านจะให้เกียรติมาเป็นคู่ประลองของข้าในงานวันนี้”องค์ชายใหญ่พูดพลางชี้มาทางไป๋จูเหวิน ความจริงต่อให้ไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ มันก็คิดจะขอให้ไป๋จูเหวินลงมาประลองอยู่แล้ว เพราะงานครั้งก่อนทั้งจักรพรรดิอาณาจักรชินและผู้สําเร็จราชการแทนของอาณาจักรอู่เอาแต่พูดว่าไป๋จูเหวินหรือองค์ชายชินอี้นั้นยอดเยี่ยมกว่าตนเองแค่ไหน แม้จะด้วยผลของสุรา แต่มันก็ยังเก็บเรื่องนี้ฝังใจมาตลอด

 

ตัวมันนั้นอายุ 30 ปี ซึ่งจะขึ้นมาเป็นระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ถูกนับว่าเป็นยอดอัจฉริยะที่พันปีจะมีสักคน แต่ก็ยังมีคนบอกว่ามีชายคนหนึ่งที่พึ่งจะอายุ 25 ปีเท่านั้นขึ้นมาถึงระดับเทียนเซียนขั้นที่ 3 แล้วแถมยังมีวิชาฝีมือสุดยอดเหนือล้ํากว่าพลังฝีมืออีกต่างหาก ทําเอาตัวมันอดขุ่นเคืองไม่ได้ที่ฉายายอดอัจฉริยะของมันต้องมัวหมอง แม้คําว่าอัจฉริยะในรอบพันปีจะเปลี่ยนเป็นสองคนในรอบพันปี มันก็ยอมไม่ได้

 

“โอ้ น่าชมจริงๆ”อยู่ๆอู่เทียนเหวินก็พูดขึ้นพลางยกนิ้วโป้งมาให้ไป๋จูเหวิน ทําเอาไป๋จูเหวินไม่ทราบจะทําเช่นไรดี นี่พวกมันกะพาไป๋จูเหวินมาหักหน้าพวกองค์ชายกันแต่แรกแล้วด้วยสิ

 

“รับมือ”ไม่รอให้ไป๋จูเหวินตอบรับ องค์ชายใหญ่พุ่งเข้าไปต่อยใส่ไป๋จูเหวินในทันที วิชาขององค์ชายใหญ่คือยอดวิชาแห่งอาณาจักรโฮ หมัดคชสารถล่มภูผา ซึ่งเป็นหมัดที่เน้นกําลังทําลายอันน่ากลัว

 

ตูม! หมัดขององค์ชายใหญ่ต่อยใส่ร่างของไป๋จูเหวินเข้าอย่างจัง เพียงแต่ไป๋จูเหวินนั้นกลับยืนนิ่งไม่ไหวติง แรงหมัดของมันสมกับเป็นคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 จริงๆเพียงแต่พลังฝีมือของไป๋จูเหวินยามนี้หากเทียบก็สมควรเทียบกับยอดฝีมือเสียมากกว่า

ตูมๆๆๆ หมัดขององค์ชายใหญ่ต่อยใส่ร่างของไป๋จูเหวินหลายหมัด แต่ก็ยังทําอะไรไป๋จูเหวินไม่ได้เลย หมัดคชสารถล่มภูผาเป็นกระบวนท่าชั้นยอดที่เน้นทําลายภายนอก แต่เพราะไป๋จูเหวินมีผิวหนังเหมือนของมารดาแมงมุม ทําให้การโจมตีผ่านผิวหนังของมันนั้นเป็นเรื่องยากมาก เรียกได้ว่าวิชาทําลายภายนอกนั้นสู้กับไป๋จูเหวินได้ลําบากมาแต่แรกแล้ว

“พี่ไป๋ เอาเลยๆ” เสียงเชียร์ของอู่เทียนเหวินดังขึ้น ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องเรียกข้าว่าชิ้นงั้นหรือ

“หลานชินอี้ แสดงฝีมือหน่อย”องค์จักรพรรดิอาณาจักรชินว่าพลางร่วมกันส่งเสียงกับอู่เทียนเหวิน ทําเอาไป๋จูเหวินได้แต่ถอนหายใจ

องค์ชายใหญ่นับเป็นยอดอัจฉริยะจริงๆที่สามารถฝึกจนถึงระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ได้ตั้งแต่อายุ 30 ปี แต่ร่างกายของท่านไม่ได้ฝึกฝนมาอย่างหนักเหมือนพลังวิญญาณเลย กําลังกายของท่านคงไม่ได้เหนือไปกว่าคนระดับเทียนเซียนขั้นที่ 10 ปกติเท่าไหร่ แม้จะมียอดวิชาคชสารถล่มภูผา แต่ก็เพิ่มกําลังของท่านมาได้ไม่เท่าไหร่ หากท่านหมั่นเพียรฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งกว่านี้ หมัดของท่านจะต้องน่ากลัวเป็นแน่

 

เปรี้ยง!! ไป๋จูเหวินทดลองใช้ฝ่ามือประกายอัสนีเพียงฝ่ามือเดียวโจมตีใส่องค์ชายดู ผลลับคือร่างของท่านชะงักไปครู่หนึ่งเลย แถมยังทําหน้างงอีกต่างหากว่าตนเองโดนอะไร

เปรี้ยงๆๆๆ!! ฝ่ามือของไป๋จูเหวินกระแทกร่างขององค์ชายใหญ่ไปหลายที่ เพียงฝ่ามือประกายอัสนี้ธรรมดาๆก็สร้างความเสียหายให้ได้แล้ว แบบนี้ใช้ฝ่ามือเพลิงพิโรธไม่ได้ด้วยซ้ํา

 

“เจ้า…เจ้าทําอะไร” องค์ชายใหญ่ถามพลางมองมาทางไป๋จูเหวิน ในสายตาของมันเพียงรู้สึกเหมือนโดนอะไรบางอย่างโจมตี แต่กลับ มองไม่เห็นเลย

 

“ยอดเยี่ยม ฝ่ามือไวขนาดนี้ข้าพึ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก” ยอดฝี มือของอาณาจักรอื่นพูดพลางตั้งใจมองฝ่ามือของไป๋จูเหวินอย่างตั้ง ใจ ความเร็วของฝ่ามือประกายอัสนีตอนนี้ไม่ได้เร็วที่สุดเท่าที่ไป๋จูเหวินปล่อยออกมาได้ ทําให้เหล่ายอดฝีมือจริงๆต่างมองทันกันทั้งห มด แต่ถึงอย่างนั้นความเร็วระดับนี้ก็ไม่ธรรมดาเลย

“ฮ่าๆ ไม่ได้เห็นฝ่ามือประกายอัสนีมาตั้งนาน ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็น่ากลัวจริงๆ”ไช่จินว่าพลางเอากระดาษและพู่กันออกมาจดอะไรบางอย่าง

 

“อัก”ร่างขององค์ชายใหญ่ถอยออกไปหลายก้าวตั้งแต่เมื่อครู่ แล้วมันออกหมัดไม่ได้เลย แถมไป๋จูเหวินยังไม่ได้เดินเลยแม้แต่ก้าวเดียว ผลลัพธ์นั้นออกมาชัดเจนจนน่าขําเลย

 

“องค์ชาย พอก่อนเถอะขอรับ” ขณะที่องค์ชายกําลังจะเข้าไปโจมตีอีกรอบ องครักษณ์คนหนึ่งก็ลงมาขวางเอาไว้ ขึ้นลงมือมากกว่านี้คนที่จะอับอายย่อมเป็นองค์ชายเอง

 

“นับว่าวันนี้ได้เปิดหูเปิดตาจริงๆ วันนี้เราหยุดกันเพียงเท่านี้ก่อน” องครักษณ์คนนั้นว่าพลางพาองค์ชายกลับขึ้นไปบนที่นั่งของเหล่าราชวงศ์โฮ ซึ่งเหล่าองค์ชายและองค์จักรพรรดิต่างมองมาทางไป๋จูเหวินด้วยท่าที่ไม่ชอบใจนัก โดยเฉพาะองค์ชาย 2 และ องค์ชายใหญ่ที่โดนหักหน้ามาหมาดๆ แต่องค์หญิงทั้งสองกลับยิ้มหวานมาให้แทนเสียอย่างนั้น ทําเอาไป๋จูเหวินลําบากใจไม่น้อย

 

“ข้าบอกแล้ว พี่ไป๋ต้องเอาชนะได้”อูเทียนเหวินว่าพลางหัวเราะในลําคออย่างอารมณ์ดี แน่นอนมันต้องอารมณ์ดีอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่คนลงมือ แถมคนที่พาไป๋จูเหวินมายังเป็นคนของอาณาจักรชินอีกต่างหาก งานนี้นอกจากมันจะสะใจแล้วมันยังมือสะอาดบริสุทธิ์อีกต่างหาก

 

“องค์ชายชินอี้ สมแล้วที่ท่านเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ของคนรุ่นใหม่” ชายคนหนึ่งพูดพลางยกหนังสือจัดอันดับขอมยุทธของไช่จินขึ้นมา ตอนนี้ไช่จินส่งศิษย์ของมันไปนอกอาณาจักร แม้แต่ชื่อของเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอาณาจักรอื่นก็ยังถูกนํามาจัดอันดับ แต่ถึงอย่างนั้นชื่อของไป๋จูเหวินก็ยังไม่หลุดจากอันดับ 1 ของยอกฝีมือรุ่นใหม่อยู่ดี ทําให้เหล่ายอดฝีมืออาณาจักรอื่นข้องใจเป็นอย่างมาก เพราะศิษย์ของพวกมันก็นับว่ามีฝีมือหลายๆคนเหนือกว่าระดับ เทียนเซียนขั้น 3 ไปมาก บางคนที่ได้ยินเรื่องที่ไป๋จูเหวินเป็นผู้ร่วมทุนของไช่จินก็ถึงกับมองว่าที่ไช่จินยกตําแหน่งอันดับ 1 ให้ไป๋จูเหวินคงเพราะเหตุนี้แน่ๆ

 

ตุบ… อยู่ๆร่างของชายคนหนึ่งก็กระโดดลงมาจากที่นั่ง ทําเอาเหล่าคนร่วมงานมีสีหน้างุนงงกันเป็นอย่างมากว่าทําไมชายคนนั้นถึงลงมา

 

“ท่านไช่จิน”อู่หมิงพูดพลางเดินมาหยุดยืนที่ด้านหน้าไป๋จูเหวิน

 

“ข้าไม่ค่อยเชื่อถือการจัดอันดับของท่านเท่าไหร่ ข้าไม่คิดว่าข้าจะอยู่อันดับ 3 หรอกนะ”อูหมิงว่าพลางยิ้มออกมา ลานประลองพร้อม ผู้ชมพร้อม ผู้ตัดสินก็มีแล้ว มีอะไรต้องรออีก

 

“เช่นนั้นท่านก็ทําให้ข้าเห็นเถิดว่าท่านไม่ได้อยู่อันดับ 3”ไช่จินยิ้มพลางมองอู่หมิงที่ยืนประจันหน้ากับไป๋จูเหวิน ตอนนี้อันดับของจอมยุทธรุ่นใหม่นั้นไป๋จูเหวินครองที่ 1 ส่วนที่ 2 นั้นตกเป็นของหยงเว่ย แม้แต่มารก็ไม่หลุดรอดจากการสืบของไช่จิน น่าเสียดายที่มันเองยังตามหามารตนอื่นๆไม่เจอ และแน่นอนว่าองค์จักรพรรดิอู่หมิงนั้นตกไปอยู่ที่ 3 เพราะการทํางานหนักของมันนั่นเอง