ตอนที่ 284 ให้โอกาสฉู่อีอีครั้งสุดท้าย / ตอนที่ 285 ไก่ที่ไม่ออกไข่

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 284 ให้โอกาสฉู่อีอีครั้งสุดท้าย 

 

 

           ฉู่อีอีได้ยินคำพูดของเผยหนานเจวี๋ย เงยหน้าขึ้นมองเผยหนานเจวี๋ย ในดวงตาเต็มไปด้วยความน้อยใจ “หนานเจวี๋ย คุณพูดแบบนี้ได้ยังไง ตอนนี้คุณเกลียดฉันแล้วใช่ไหม” 

 

 

           “คุณว่าฉันแบบนี้ ในใจของคุณยังมีฉันอยู่หรือเปล่า” ฉู่อีอีร้องไห้จนน่าอนาถ น้ำตาไหลออกมาราวกับก๊อกน้ำ 

 

 

           “อีอี เมื่อก่อนคุณไม่ใช่แบบนี้” เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีที่เป็นแบบนี้ รู้สึกปวดหัวรุนแรง 

 

 

           “หนานเจวี๋ย คุณอย่าว่าฉันแบบนี้ เมื่อคืนฉันไม่ได้ตั้งใจ ฉู่เจียเสวียนเป็นคนบอกคุณใช่ไหม ใช่หรือเปล่า” 

 

 

           “ฉันทำแบบนี้ฉันจะได้ประโยชน์อะไร ตอนนี้คนที่ถูกโจมตีก็คือฉัน” 

 

 

           กล่าวสะอึกสะอื้น ฉู่อีอีพูดด้วยความโมโห ดวงตาทั้งคู่ที่มองเผยหนานเจวี๋ยเปี่ยมด้วยความเจ็บปวด 

 

 

           เขารักฉู่อีอีนั้นถูกต้อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขารักเธอแล้วจะยอมรับในสิ่งที่เธอทำผิดได้ สามปีก่อนเขาทำเธอแท้ง ฉะนั้นเขาจึงมีความผิดต่อเธอ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะทำตามอารมณ์ของเธอ 

 

 

           ฉู่อีอีโมโหในใจ ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ความเกลียดชังในใจที่มีต่อฉู่เจียเสวียนยิ่งเพิ่มมากขึ้น กำมือแน่น 

 

 

           น้ำตาในดวงตาเริ่มผุดขึ้นมาอีกครั้ง พูดด้วยความอ่อนแอ “หนานเจวี๋ย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณอย่าโกรธเลยได้หรือเปล่า คุณจะต้องช่วยฉัน ตอนนี้ฉันถูกความคิดเห็นของทุกคนโจมตี ฉัน…” 

 

 

           ในที่สุดเผยหนานเจวี๋ยก็อ่อนไหวจากน้ำตาของฉู่อีอีและคำขอร้องอันขมขื่นของเธอ สุดท้ายน้ำเสียงก็นุ่มลง “อีอี ผมหวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ อย่าทำเรื่องที่ไม่จำเป็นอีก” 

 

 

           เขารู้ดีว่าฉู่อีอีมีความมุ่งมั่นในอาชีพการแสดง ยิ่งรู้ว่าที่ฉู่อีอีทำแบบนี้เพราะว่าเธอรักเขามากเกินไป ฉะนั้นครั้งนี้จึงเลือกที่จะให้อภัย 

 

 

           อีกอย่างเมื่อสิบปีก่อน เขาถูกลักพาตัว ตอนนั้นเพราะฉู่อีอีช่วยเขาไว้ ร่างกายที่อ่อนแอของเธอแบบนั้น แบกเขาผ่านสถานที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ แม้แต่ใช้อุณหภูมิร่างกายให้ความอบอุ่นเขา 

 

 

           สิบปีก่อนฉู่อีอีช่วยชีวิตเขาเอาไว้ ถ้าหากไม่มีฉู่อีอี ก็ไม่มีเผยหนานเจวี๋ยในวันนี้ 

 

 

           เขาในตอนนั้นที่ไข้ขึ้นสูงสาบานอยู่ในใจ ถ้าหากว่าไม่ตาย เขาจะปกป้องผู้หญิงคนนี้ตลอดชีวิต 

 

 

           ฉะนั้นแม้จะรู้ว่าเธอทำร้ายฉู่เจียเสวียนหลายต่อหลายครั้ง แม้ฉู่อีอีจะทำให้ตัวเองแปดเปื้อน ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรสุดท้ายเขาก็เกลียดเธอไม่ลง… 

 

 

           “อืม หนานเจวี๋ย ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” ฉู่อีอีได้ยินน้ำเสียงที่อ่อนลงของเผยหนานเจวี๋ย ถอนหายใจ 

 

 

โล่งอกในใจ ในขณะเดียวกันก็รับประกันว่าจะไม่ลืมที่จะล้างมนทินให้กับตัวเอง 

 

 

           ได้ยินคำพูดของฉู่อีอี เผยหนานเจวี๋ยมองฉู่อีอีย่างลึกซึ้ง ดวงตานั้นแหลมคมราวกับว่าจะแทงทะลุเข้าไปในหัวใจของฉู่อีอี 

 

 

           ระหว่างบรรยากาศที่เงียบสงัดนั้น โทรศัพท์มือถือของเผยหนานเจวี๋ยดังขึ้น ขณะที่หยิบมือถือออกมาดูสายเรียกเข้า เผยหนานเจวี๋ยก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา 

 

 

           “ฮัลโหล แม่” 

 

 

           “ครับ ผมรู้แล้ว เดี๋ยวผมจะกลับไป” 

 

 

           วางสายา เผยหนานเจวี๋ยยกมือขึ้นนวดคลึงคิ้ว หลับตา 

 

 

           ฉู่อีอีนั่งอยู่ข้างๆ เมื่อได้ยินว่าประเดี๋ยวเผยหนานเจวี๋ยจะกลับบ้านแม่นั้น ในใจก็รู้สึกตื่นตระหนก “หนานเจวี๋ย เป็นอะไรไป คุณป้าเรียกให้พวกเรากลับไปเหรอ” 

 

 

           “อืม คุณพักเถอะเยอะๆ ผมกลับไปคนเดียวก็พอ” 

 

 

           “หนานเจวี๋ย แบบนี้ไม่ค่อยดีมั้ง” แม้ว่าเธอก็ไม่ค่อยอยากจะเจอหน้ายายแก่นั่น แต่ว่าท้ายที่สุดแล้วเธอก็เป็นแม่ของเผยหนานเจวี๋ย และจะเป็นแม่สามีของเธอในอนาคตด้วย 

 

 

           ส่ายหัว เผยหนานเจวี๋ยแสดงอาการบอกว่าไม่เป็นไร แต่สุดท้ายฉู่อีอีก็ยังไปด้วยกันแล้ว 

 

 

           เมื่อถึงบ้านเผย ร่างที่สูงใหญ่และตั้งตรงของเผยหนานเจวี๋ยนั่งอยู่บนโซฟาหนังแท้ ดวงตาเขามองคุณแม่ที่นั่งตรงข้ามเขาเงียบๆ ตั้งแต่ที่เขากลับมา คุณแม่ก็ยังพูดไม่หยุด 

 

 

           ส่วนฉู่อีอีที่นั่งอยู่ข้างเขาก็ไม่กล้าหายใจ ฟังคำกร่นด่าอย่างต่อเนื่องของคุณแม่เผย ในใจยิ่งโกรธจนแทบคลั่ง 

 

 

           “ฉันเคยบอกเธอตั้งนานแล้วว่าอย่าคบกับยัยนักแสดงนั่น วันๆ เอาแต่กอดกันบัดสีบัดเถลิง เธอดูสิ เธอดูสิ นี่ไม่ใช่เรื่องน่าขายหน้ารึยังไง!” โยนหนังสือพิมพ์ในมือมาที่ด้านหน้าเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

 

 

 

    ตอนที่ 285 ไก่ที่ไม่ออกไข่ 

 

 

           เขาชำเลืองมองอย่างเฉยเมย จากนั้นก็ละสายตา นิ่งเงียบต่อ 

 

 

           “เธอดูสิ เธออยู่กับเขามาสามปีแล้ว สามปีแล้ว ถ้าเป็นไก่ก็ออกไข่ไปแล้ว เธอดูสิท้องเขาเรียบแบบขนาดนั้น ข่าวดีสักข่าวก็ไม่มี บอกเธอตั้งนานแล้วว่าอย่าหย่า อย่าหย่า เธอก็ไม่ฟัง ฉู่เจียเสวียนผู้หญิงคนนั้นดีกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า!” คุณแม่เผยยิ่งพูดยิ่งโมโห ใบหน้าที่ได้รับการดูแลอย่างดียิ่งแดงก่ำ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินเธอเอ่ยถึงฉู่เจียเสวียนก็ทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว “แม่ครับ! อย่าพูดอีกเลย” 

 

 

           ฉู่เจียเสวียน…เขายอมรับ ตอนนี้เขารู้สึกหวั่นไหวกับฉู่เจียเสวียนเข้าแล้ว แต่ว่าคนที่เขาต้องการรักก็คือฉู่อีอี และคนที่เขาต้องการปกป้องก็คือฉู่อีอี ฉะนั้น…เขาจะพยายามข่มความอ่อนไหวนั้นอยู่ในใจ 

 

 

           ได้ยินถึงตรงนี้ มือของฉู่อีอีที่จับเผยหนานเจวี๋ยบีบแน่นไม่หยุด มีเพียงแบบนี้ที่จะสามารถระงับไฟโกรธในใจของเธอได้ 

 

 

           เธอเปรียบเทียบเธอกับฉู่เจียเสวียนอีกแล้ว ฉู่เจียเสวียนคนเลวคนนั้นมีอะไรที่เทียบเธอได้? 

 

 

           แต่คุณแม่เผยไม่ฟังเผยหนานเจวี๋ย ยังคงด่าต่ออย่างไม่ลดละ “ก็ใช่ พวกเขาสองคนไม่มีอะไรเทียบกันได้อยู่แล้ว” พูดจบก็จ้องฉู่อีอีด้วยความดุร้าย 

 

 

           ฟังคำด่าของคุณแม่เผยไม่หยุด ฉู่อีอีรู้สึกว่าไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้ ใบหน้านั้นถูกโยนลงไปในมหาสมุทรแปซิฟิกไปแล้ว มันคือความผิดจริงๆ ที่เธอกลับมา ใช้ชีวิตให้คนกร่นด่า 

 

 

           หยิบกระเป๋าบนโซฟา น้ำตาเอ่อล้นในดวงตา ออกไปจากวิลล่าด้วยความโมโหแล้ว 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยลุกขึ้นต้องการจะตามไป แต่กลับถูกคุณแม่เผยคว้ามือเอาไว้ “เธอจะไปไหน เธออยู่ที่นี่แหละ กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไป เขาก็โตป่านนี้แล้วเธอจะไปห่วงอะไร” 

 

 

           “แม่!” 

 

 

           “แม่อะไร ถ้าเธอกล้าไปฉันก็จะไม่ให้พวกเธอได้อยู่ด้วยกัน!” 

 

 

           พูดจบด้วยความโกรธ คุณแม่เผยออกจากห้องโถงและหันหลังเข้าไปในห้องครัวแล้ว   อีกด้านหนึ่ง ขณะที่ฉู่เจียเสวียนกลับไปทำงานที่ร้านชุดแต่งงานนั้น ก็ได้ยินพนักงานในร้านกระซิบกระซาบกัน ริมฝีปากแดงยกยิ้ม เธอเห็นข่าวตั้งแต่เช้าแล้ว 

 

 

           เพิ่งมาถึงออฟฟิศก็เห็นถังถังมองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม 

 

 

           “เธออย่ามองฉันแบบนี้สิ ฉันกลัว” ฉู่เจียเสวียนเดินไปนั่งที่ที่นั่งของตัวเอง ปากแดงๆ ยกยิ้ม มองถังถังพร้อมเอ่ย 

 

 

           เมื่อวานเพราะว่าถังถังมีงานออกแบบที่ต้องเร่งทำ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ออกงานด้วย ดังนั้นเธอจึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในงานเมื่อคืนนี้ จนกระทั่งได้เห็นข่าววันนี้เธอถึงรู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยกับฉู่อีอีก็ไปด้วย 

 

 

           “ที่รัก ถ้ารู้ว่าคนเลวนั่นก็ไปด้วย ยังไงฉันก็ควรจะไปร่วมสนุกสักหน่อย แต่ว่า ได้เห็นข่าววันนี้ก็ไม่เลวนะ” ถังถังยิ้มระรื่นพร้อมเอ่ย ชูหนังสือพิมพ์ในมือขึ้น 

 

 

           “เธอเห็นแล้วล่ะสิ” ถังถังเอ่ยถาม ยิ้มจนดวงตาโก่งงอจนกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยวแล้ว 

 

 

           “เห็นแล้วสิ เมื่อคืนถ้าหากฉันปฏิกิริยาไม่เร็วนะ ฉันก็คงเป็นหัวข้อการสนทนาของวันนี้ไปแล้ว” ฉู่เจียเสวียนยิ้ม เอ่ยปากอย่างไม่ใส่ใจ 

 

 

           “ว่าไงนะ? คนเลวนั่นคิดจะทำร้ายเธอเหรอ” ถังถังกล่าวอย่างประหลาดใจ เอ่ยถามพร้อมมองดูฉู่อีอีที่ใบหน้าซีดขาวและยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกในภาพถ่าย 

 

 

           เงยหน้าขึ้นมาเห็นฉู่เจียเสวียนพยักหน้า ความโกรธปรากฏอยู่ในดวงตาของเธอจากนั้นก็ตามมาด้วยรอยยิ้ม 

 

 

           ทำชั่วได้ชั่วจริงๆ ฉู่อีอีคิดจะทำร้ายคนแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายตัวเองกลับได้รับความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นนี้ 

 

 

           “ฉันว่าคราวนี้ฉู่อีอีต้องโมโหตายแน่ๆ” ถังถังเอ่ยปากอย่างอารมณ์ดี วางหนังสือพิมพ์ในมือลงบนโต๊ะ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูพาดหัวข่าว เมื่อเห็นเนื้อหาในส่วนแสดงความคิดเห็นแล้ว ดวงตายิ่งโก่งยิ้มกว่าเดิม 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนมองดูถังถังที่เพลิดเพลินกับตัวเองอยู่ตรงนั้นแล้วส่ายหัว จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานออกแบบของตัวเอง เธอไม่มีกะใจจะไปสนใจเรื่องพวกนี้