ตอนที่ 316 นึกไม่ถึงว่ายังมีการลักพาตัวผู้ชาย
หลิงอวี้จื้อประคองมั่วชิงลุกขึ้น
“เจ้ารีบลุกขึ้นเถิด ไม่ต้องคุกเข่าแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าสำนักอู๋จี๋จะป่าเถื่อนเพียงนี้”
“ที่นั่นคือนรกดีๆ นี่เอง ข้าก็อยากบอกเรื่องนี้กับคุณหนูก่อนหน้านี้แล้ว พอได้ยินว่าท่านอ๋องหายตัวไปที่อำเภอฉางหนิง ข้าก็นึกถึงสำนักอู๋จี๋ แต่ข้ากลัวจริงๆ … สองวันมานี้ข้าก็ตัดสินใจจะเอาเรื่องพวกนี้มาบอกคุณหนู ไม่สามารถยื้อไปได้อีกแล้วเจ้าค่ะ”
ความหวาดกลัวนั้นซึมลึกเข้าไปในไขกระดูก มั่วชิงเติบโตจากที่นั่นตั้งแต่เด็กๆ ทั้งเจ็บแค้นและหวาดกลัวสำนักอู๋จี๋ ที่นั่นคือฝันร้ายของนาง
“พูดเช่นนี้แสดงว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการจะอยู่ข้างในสำนักอู๋จี๋”
มู่หรงนี่อวิ๋นมีสติกลับมาถาม
มั่วชิงพยักหน้า
“น่าจะเป็นเช่นนั้นเจ้าค่ะ”
“มั่วชิง เจ้าอยู่ที่สำนักอู๋จี๋นานขนาดนี้ เห็นคนของไทเฮาติดต่อกับสำนักอู๋จี๋บ้างหรือไม่”
มั่วชิงส่ายหน้า
“ไม่เคยเห็นเจ้าค่ะ ข้าจากสำนักอู๋จี๋มาก็หกปีแล้ว”
“เจ้าสำนักอู๋จี๋เป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย มีอานุภาพเกรียงไกรขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเขาจะแต่งภรรยาหรอกกระมัง!”
“เจ้าสำนักเป็นผู้หญิง นางโกรธแค้นผู้ชายมาก ไม่มีทางแต่งงานเด็ดขาด ข้าตามคนพวกนั้นไป ได้ยินพวกเขาเอ่ยถึงชื่อเฟิงอิ๋น หากเดาไม่ผิด น่าจะเป็นเฟิงอิ๋นที่จะแต่งงานเจ้าค่ะ ตอนนี้ตำแหน่งของเฟิงอิ๋นเป็นรองจากเจ้าสำนัก ดังนั้นเจ้าสำนักจึงให้นางได้จัดงานแต่งงานเช่นนี้ได้”
หลิงอวี้จื้อตะลึง เฟิงอิ๋นจะแต่งงาน อย่างนั้นคนที่จะแต่งด้วยก็คือเซียวเหยี่ยนสิ ยังดีที่พวกเขาตามมาทันเวลา มิเช่นนั้นเซียวเหยี่ยนก็จะกลายเป็นผู้ชายของคนอื่นไปแล้ว
ปีนี้ได้ยินแต่ลักพาตัวผู้หญิง นึกไม่ถึงว่ายังมีการลักพาตัวผู้ชายด้วย ซ้ำคนที่ถูกลักพาตัวยังเป็นเซียวเหยี่ยน น่ากลัวเหลือเกิน
เธอผุดยืนขึ้นทันใด
“มั่วชิง มีวิธีใดที่จะแฝงตัวเข้าไปในสำนักอู๋จี๋หรือไม่”
“สำนักอู๋จี๋มีกฎอยู่ข้อหนึ่ง เมื่อใดที่เข้าไปในสำนักอู๋จี๋แล้ว ไม่มีทางรอดตายออกมาได้เจ้าค่ะ การลงโทษของสำนักอู๋จี๋โหดเ**้ยมเหลือเกิน ทุกวันจะต้องมีสาวใช้ที่ไม่เชื่อฟังหรือทนไม่ไหวตายจากไป ดังนั้นสำนักอู๋จี๋จึงรับสาวใช้อยู่ตลอด พวกเราจะเข้าไปในสำนักอู๋จี๋ต้องใช้วิธีนี้เท่านั้น ตอนนี้เฟิงอิ๋นจะแต่งงาน คงต้องการสาวใช้จำนวนมาก พวกเราต้องลองดู”
“ข้าจะไปกับพวกเจ้า”
มู่หรงนี่อวิ๋นวางใจให้หลิงอวี้จื้อไปสำนักอู๋จี๋เสียที่ไหน ดังนั้นจึงบอกว่าจะไปด้วยทันที
“เจ้าตัดสินใจจะไปเป็นศพข้างในหรืออย่างไร”
หลิงอวี้จื้อกลอกตาใส่มู่หรงนี่อวิ๋น
“ข้าแต่งเป็นผู้หญิงได้”
มู่หรงนี่อวิ๋นกัดฟันพูด
เดิมทีมู่หรงนี่อวิ๋นเป็นคุณชายเจ้าสำราญประเภทฟันขาวปากแดงอยู่แล้ว ประกอบกับดวงตารูปลูกท้อคู่นั้น ลักษณะท่าทางก็เป็นคนมีเสน่ห์ เหมาะแก่การแต่งหญิงมากทีเดียว
“เวลาไม่คอยท่า เร็วเข้า”
หลิงอวี้จื้อเร่ง
ตอนนี้มู่หรงนี่อวิ๋นรู้สึกอนาถใจอย่างยิ่ง ให้เขาแต่งตัวเป็นผู้หญิงช่างเป็นเรื่องที่ยากจะอธิบายด้วยคำพูดสั้นๆ ได้ ยังดีที่ที่นี่ไม่ใช่เมืองหลวง และไม่มีคนรู้จักมาเห็นเข้า เขาสามารถทุ่มสุดตัวได้ ผู้หญิงบ้าคนนี้ เหตุใดรู้สึกเหมือนนางกำลังมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
มั่วชิงทำงานเร็วมาก ใช้เวลาไม่นานก็ช่วยมู่หรงนี่อวิ๋นเปลี่ยนชุดผู้หญิงเรียบร้อย เพราะว่าจะไปเป็นสาวใช้ ดังนั้นเสื้อผ้าที่เปลี่ยนจึงเป็นเสื้อผ้าเนื้อหยาบ หลิงอวี้จื้อออกมาก็สวมเสื้อผ้าเนื้อหยาบอยู่แล้ว เพื่อจะได้ไม่ถูกปล้น
พอเห็นมู่หรงนี่อวิ๋น หลิงอวี้จื้อก็กลั้นไม่ไหวหัวเราะฮาลั่นออกมา มู่หรงนี่อวิ๋นที่เปลี่ยนเป็นชุดผู้หญิง นอกจากตัวสูงจนเตะตาไปหน่อยแล้ว รูปร่างหน้าตากลับ มองไม่เห็นถึงความแตกต่างว่าเป็นชายหรือหญิง เดินไปบนถนนไม่แน่อาจจะดึงดูดให้ผู้ชายมาสารภาพรักก็ได้
“ที่แท้คุณชายมู่หรงของเราจะแต่งหญิงก็ได้แต่งชายก็ดี”
“อย่ามาเพ้อเจ้อ มั่วชิงเจ้ารีบนำทางเร็ว”
มู่หรงนี่อวิ๋นรู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง ตนเองยังไม่กล้ามองกระจก ได้แต่แสร้งทำเป็นเร่งมั่วชิงอย่างจริงจัง
ขณะนี้ยังมีธุระที่ต้องจัดการ หลิงอวี้จื้อเก็บรอยยิ้มบนใบหน้ากลับไป
“พี่สาวอวิ๋น พวกเราไปเถิด!”
ตอนที่ 317 สมัครเป็นสาวใช้
“หญิงบ้า เจ้ายังกล้าหัวเราะอีก”
มู่หรงนี่อวิ๋นตบหัวหลิงอวี้จื้อหนึ่งป้าบ
“ไม่เจ็บเลย ถ้าข้าไม่เรียกเจ้าว่าพี่สาว หรือเจ้าจะเรียกข้าว่าพี่สาว หากเจ้ายินดีเรียก ข้าก็ไม่ว่าอะไร”
หลิงอวี้จื้อลูบหัวตัวเอง
มู่หรงนี่อวิ๋นไม่สนใจหลิงอวี้จื้อ เดินข้างหน้าเธอ หลิงอวี้จื้อกลั้นขำไม่ไหวอีกแล้ว ไม่ได้แล้ว แบบนี้ตลกเกินไปจริงๆ แค่เห็นมู่หรงนี่อวิ๋น เธอก็กลั้นไม่ไหวอยากหัวเราะ
มั่วชิงนำทางทั้งสองคนมาถึงมุมถนนของถนนทิศตะวันตกอำเภอฉางหนิง มีผู้หญิงวัยสี่สิบกว่าสองคนวางโต๊ะหนึ่งตัวไว้ตรงนั้น ข้างๆ มีป้ายผ้าสีขาวแขวนอยู่ บนนั้นเขียนว่ารับสมัครสาวใช้เข้าบ้านตระกูลใหญ่
แคว้นเว่ยตะวันตกก็เข้าใจเล่นทีเดียว วิธีการรับสมัครคนเหมือนกับยุคปัจจุบันทุกอย่าง มั่วชิงพูดเสียงต่ำ
“พวกนางเป็นคนจากสำนักอู๋จี๋ สาวใช้ที่สมัครเข้าไปล้วนอยู่ในความควบคุมของพวกนาง พวกนางต่างผลัดกันออกมาหาคน และจะไม่ออกมาในตำแหน่งที่แน่นอน บางครั้งก็ไปหาที่อื่น เวลาก็ไม่แน่นอน เฟิงอิ๋นจะแต่งงาน ข้าเดาว่ากำลังคนของพวกนางไม่เพียงพอ อย่างที่คาดเอาไว้”
“ไป พวกเราเข้าไปเถิด”
หลิงอวี้จื้อเดินข้างหน้า แสร้งทำเป็นหยุดลงตรงหน้าป้ายรับสมัครที่พวกนางเอามาวาง ยิ้มตาหยีถามว่า
“พี่สาว พวกเจ้าต้องการสาวใช้หรือ พวกเราสามคนมาจากหมู่บ้านเดียวกัน ต่างก็ออกมาหางานทำจ้ะ”
“อายุเท่าไหร่แล้ว”
“สิบเจ็ดแล้ว”
“สิบเจ็ดแล้วจริงหรือ”
หลิงอวี้จื้อรีบอธิบาย
“ข้ามีใบหน้าที่ตกทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ ดังนั้นก็เลยดูอ่อนวัย บ้านข้ามีพี่น้องหลายคน ข้าทำงานเก่งที่สุด”
“คนนี้ไม่เลว”
ป้าที่สวมเสื้อสีเขียวชี้ไปที่มั่วชิง นางจงใจทาหน้าดำ แต่ก็ยังมีลักษณะท่าทางที่เหมาะสมมากอยู่ดี
“ส่วนพวกเจ้าสองคน คนสูงก็สูง คนเตี้ยก็เตี้ย ข้าไม่เอาแล้ว”
หลิงอวี้จื้อนึกไม่ถึงว่าเธอกับมู่หรงนี่อวิ๋นจะถูกปัดตก เธอจะต้องแฝงตัวเข้าไปให้ได้
คิดถึงตรงนี้ เธอก็บีบน้ำตาออกมา
“ข้ากับเจ้าสูงคนนี้ล้วนทำงานเป็น พวกเราหางานมาทั้งวันแล้ว เจ้ารับพวกเราไปเถิด! พวกเราหน้าตาก็ไม่ได้น่าเกลียด รับเข้าไปแล้วไม่ทำให้พวกเจ้าขายหน้าแน่นอน หากไปเจอที่ที่เตี้ยๆ พวกเจ้าก็เข้าไปไม่ถึง ข้าสามารถมุดเข้าไปได้”
มู่หรงนี่อวิ๋นก้มหน้าลง มุมปากยกขึ้น นึกไม่ถึงว่าจะเรียกเขาว่าเจ้าสูง ต้องขอบใจนางที่คิดออกมาได้
“ข้างนอกหนาวขนาดนี้ ผู้คุมกฎเฟิงจะแต่งงานพรุ่งนี้อยู่แล้ว สามคนนี้ก็พอดูได้ ได้มาอีกสามคนก็น่าจะพอแล้ว”
ป้าที่สวมชุดสีน้ำเงินถูมือไปมาพูดขึ้น
ในที่สุดป้าชุดเขียวก็พยักหน้า
“ก็ได้ เช่นนั้นสามคนนี้แล้วกัน พวกเจ้าตามข้ามา”
หลิงอวี้จื้อแอบถอนหายใจโล่งอก ในที่สุดก็แฝงตัวเข้าไปได้
หลิงอวี้จื้อรู้ว่ามั่วชิงกลัวสำนักอู๋จี๋อย่างมาก และกลัวคนในสำนักอู๋จี๋รู้ตัวตนที่แท้จริงของมั่วชิง ต้องพูดน้อยลงหรือพยายามพูดให้น้อยที่สุดยิ่งดี ให้เธอเป็นคนเจรจาต่อรองเอง
พวกเขาสองสามคนเดินตามป้าสองคนออกไปจากอำภอฉางหนิง ป้าเสื้อเขียวสั่งการระหว่างทางว่า
“ต่อไปพวกเจ้าเรียกข้าว่าแม่หรงก็ได้ เมื่อพบนายจ้างแล้ว พวกเจ้าจำไว้ อะไรไม่ควรพูดก็ไม่ต้องพูด ไม่ควรถามก็ไม่ต้องถาม ให้เจ้าทำสิ่งใดก็ทำสิ่งนั้น มิเช่นนั้นผลที่ตามมาพวกเจ้ารับผิดชอบกันเอาเอง”
ทั้งสามคนรับปาก แม่หรงไม่ได้พูดอะไรอีก นำพวกเขาเข้าไปในเขาอวิ๋นเฟิง หลิงอวี้จื้อแสร้งทำเป็นใคร่รู้ ถามว่า
“เหตุใดนายจ้างท่านนี้ถึงอาศัยอยู่บนเขาล่ะ”
แม่หรงจ้องหลิงอวี้จื้อด้วยสายตาโหดเ**้ยม เธอจึงก้มหน้าลง ไม่ถามอะไรอีก
พอเข้าไปในเขาอวิ๋นเฟิงแล้ว แม่หรงก็พาพวกเขาเดินเลี้ยวลดคดเคี้ยว หลิงอวี้จื้อเดินวนจนมึน บนเขานี้ดูเหมือนจะมีรูปแบบบางอย่าง คนธรรมดาขึ้นเขามาแล้วคาดว่าคงหาที่นี่ไม่เจอ ไม่รู้ว่าทหารลับจะตามมาถูกหรือไม่
สุดท้ายแม่หรงก็หยุดลงข้างหน้าถ้ำแห่งหนึ่ง ประตูหินปรากฏขึ้นด้านหน้า แม่หรงบิดกลไกข้างประตูหิน ไม่นานประตูหินก็ค่อยๆ เปิดออกช้าๆ