ตอนที่ 350

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 350: ปะทะเดือด

 

อี้เทียนหยุนไม่มีทางโง่ไปดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับขุนพลฟงอย่างแน่นอน สถานการณ์เป็นยังไงยังไม่รู้ แล้วอยู่ๆ จะให้พุ่งเข้าไปหาศัตรู แบบนั้นจะทำให้พ่ายแพ้ได้อย่างง่ายดายมาก

 

อึดใจต่อมา คันศรน้ำค้างแข็งเทวะในมือของอี้เทียนหยุนก็ได้ปล่อยศรน้ำแข็ง 3 ดอกออกไป เล็งไปยังพวกเขาจากสามทิศทาง แม้พลังของมันจะไม่มากเท่ากับน้ำค้างแข็งพิโรธ แต่ใจความหลักคือเพื่อจะดูว่าขุนพลฟงผู้นี้จะรับมือกับการโจมตีนี้ยังไง

 

ศรสามดอกเพิ่งยิงออกไป ขุนพลฟงที่เหมือนกับส่งสัมผัสครอบคลุมพื้นที่รอบๆ เอาไว้แล้วก็พลันหันหน้ามา จากนั้น ร่างของเขาก็ราวกับพายุ เคลื่อนตัวมาข้างหน้า ก่อนที่จะเหวี่ยงกระบี่ในมือเข้าใส่ศรที่พุ่งเข้ามา ความเร็วของเขาเปรียบดั่งพายุที่เคลื่อนผ่าน เมื่อเทียบกันแล้ว เร็วกว่าความเร็วโจมตีของอี้เทียนหยุนด้วยซ้ำ พริบตา ศรน้ำแข็งที่ถูกกระบี่ฟาดก็พลันแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

 

อึดใจต่อมา ศรน้ำแข็งอีกดอกของเขาก็ถูกทำลายเหมือนเดิมอีกครั้ง เหลือเพียงดอกสุดท้าย และร่างของขุนพลฟงก็กระพริบวาบ มาปรากฏตัวอยู่ข้างหน้าศรน้ำแข็ง ก่อนที่จะ “ปัง” ถูกกระบี่ในมือของเขาทำลายทิ้งอีกครั้ง

 

ศรน้ำแข็งสามดอกถูกเขาทำลายทิ้งอย่างง่ายดาย โดยที่ไม่มีความยากแม้แต่น้อย ดูราวกับทำลายก้อนหินทิ้งก็ไม่ปาน

 

“ทรงพลังมาก…..”

 

เย่ชิงเสวียนกับพวกพ่นไอเย็นออกจากปาก พลังโจมตีของอี้เทียนหยุนแข็งแกร่งมาก พวกเธอล้วนเคยประสบกับความทรงพลังของศรน้ำแข็งพวกนี้ แต่แล้วกลับมาถูกต้านทานอย่างง่ายๆ แต่ยังไงก็ยังสมเหตุสมผล ขุนพลฟงเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ หาใช่หัวผักกาดที่พบเจอได้ตามท้องถนนทั่วไปไม่

 

“ดูเหมือนว่าทำแบบนี้จะไม่มีผลอะไรต่อเขาเลยสักนิด ทั้งอีกฝ่ายยังต้านทานได้อย่างสบายด้วย” สีหน้าของอี้เทียนหยุนจมลง เขาคิดว่าน่าจะสังหารทหารในกองพลวายุได้สักคนสองคน แต่ตอนนี้แม้แต่คนเดียวก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปไม่ได้ ตราบเท่าที่โจมตีออกไป อีกฝ่ายก็จะค้นพบได้ทันที ทั้งยังสามารถป้องกันได้อย่างสมบูรณ์แบบอีกด้วย

 

ขณะที่เขาหยุดมือ ตาของขุนพลฟงก็เป็นประกายวาบ ราวกับตาเหยี่ยว อึดใจต่อมา เขาก็ทำการถีบพื้นอย่างแรง ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปจากจุดนั้น พร้อมกับพุ่งเข้ามาทิศที่อี้เทียนหยุนอยู่ราวกับพายุ

 

ทั้งหมดนี้ออกจะกะทันหันเกินไป เพียงพริบตา ขุนพลฟงก็สามารถคาดเดาที่ที่เขาอยู่ได้ พร้อมกับมาโผล่ตรงด้านหน้าของเขาเกือบจะในพริบตานั้นเลย พร้อมกันนั้น ขุนพลฟงก็ได้ทำการแทงกระบี่เข้าใส่เขาอย่างไม่ลังเล ด้วยความเร็วของมัน ทำให้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแทงออกมากี่กระบี่ และแต่ละกระบี่ที่แทงออกมาก็มีสายลมที่ดุร้ายพ่วงมาด้วย ปกคลุมลงมายังร่างกายเขาในพริบตา

 

การลงมือในคราวนี้เป็นการลงมือที่ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว ไม่มีการออมมือแม้แต่น้อย เป็นการระเบิดพลังออกมาในพริบตา!

 

“เคล็ดวิชาเซวียนเทียน!”

 

“เคล็ดวิชากายทองคำ!”

 

เคล็ดวิชาป้องกันคู่ถูกสำแดงเดชออกมา พร้อมๆ กับคันศรน้ำค้างแข็งแข็งเทวะที่อยู่ในมือถูกฟาดออกไปปะทะกับศัตรูที่เข้ามาใกล้อย่างไม่ลังเล เขาไม่เลือกที่จะเทเลพอร์ตหนีไป แต่อยากจะรู้ว่าพลังของเขาจะสามารถต้านทานพลังของอีกฝ่ายได้หรือไม่

 

“ติ๊ง เคร้ง เคร้ง!”

 

ขณะที่อี้เทียนหยุนฟาดคันศรออกไป เขาก็รู้สึกเหมือนกับถูกแทงอยู่หลายครั้ง มันสามารถทะลุผ่านเคล็ดวิชาเซวียนเทียนที่เป็นการป้องกันชั้นแรกเข้ามาได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่จะแทงเข้าใส่ชุดเกราะมังกรมาร แค่ครั้งเดียวอาจจะไม่มีผลอะไร แต่หลังจากต้องการการโจมตีติดต่อกันหลายๆ ครั้ง แรงปะทะของลมที่ตามมาก็ทำให้เขาต้องถอยออกไปเล็กน้อย ก่อนที่คันศรน้ำค้างแข็งเทวะในมือของเขาจะกระทบถูกอีกฝ่าย!

 

“เคร้ง!”

 

ขุนพลฟงที่หูตาว่องไวก็ได้ยกกระบี่เทพเทียนฟงในมือขึ้นรับอย่างรวดเร็ว ป้องกันคันศรน้ำค้างแข็งเทวะที่ฟาดลงมา ขณะเดียวกัน ร่างของเขาก็ถูกฟาดกระเด็น หมุนเคว้งกลับไปราวกับลมบ้าหมู!

 

“ราชาภูต!”

 

ในใจผู้อาวุโสทุกคนพากันเต้นกระหน่ำ ถ้าคนที่ปลิวออกไปเป็นอี้เทียนหยุนล่ะก็ ทุกอย่างคงจบสิ้นแล้ว!

 

และในพริบตานี้เอง ในมือของอี้เทียนหยุนก็ปรากฏหอกมังกรแดงขึ้น พร้อมกับระเบิดสายเลือดมังกรออกในพริบตา ปลดปล่อยสายเลือดเทพมังกรอย่างเต็มพิกัด ทำให้พลังรบของเขาเพิ่มขึ้นอีกขั้น ก่อนที่แทงหอกออกไปราวกับพายุ พร้อมกับนัยน์ตาที่ฉายแสงสีเลือดออกมา!

 

“วิญญาณทรราช(ป้าหุน)!”

 

พริบตา พลังของสองสายเลือดมังกรก็คำรามก้อง ด้วยพลังกายมหาศาลที่ระเบิดออกมา ทำให้หอกที่แทงออกไประเบิดเป็นพายุออกมา เปลี่ยนจากความว่างเปล่าให้เป็นสายลมที่รุนแรง ด้วยพลัง 20 เท่าที่แสดงออกมา ทำให้พื้นที่รอบๆ สั่นอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับฉีกกระชากทุกอย่างด้วยลมพายุ!

 

“นี่มันเคล็ดวิชาของขุนพลมังกรไม่ใช่เหรอ?!” ขุนพลฟงตกใจ เขาไม่คิดว่าจะมาเห็นวิชาลับของขุนพลมังกรที่นี่ ทั้งพลังที่แสดงออกมายังเหนือกว่าเจ้าของวิชาตัวจริงจะสามารถแสดงออกมาได้อีก

 

ยังไงก็ตาม ขุนพลฟงก็ตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เขาทำการแทงกระบี่ออกไปอีกครั้ง แทงกระบี่เข้าใส่อี้เทียนหยุน คมกระบี่ปะทะกับคมหอก เมื่อศาสตราทั้งสองปะทะกัน ก็ทำให้เกิดเสียงสนั่นดังก้องออกมา

 

พร้อมๆ กับที่ขุนพลฟงสัมผัสได้ถึงพลังที่ป่าเถื่อน ในพริบตาที่คมกระบี่ปะทะกับคมหอกของอีกฝ่าย ทำให้เขาต้องปลิวกระเด็นออกมาอีกครั้ง โดยที่ไม่สามารถต้านทานได้

 

“ร่างโคลน!”

 

และในพริบตานี้เอง ก็ปรากฏร่างของอี้เทียนหยุนขึ้นสามร่าง ในมือของแต่ละคนล้วนแต่ถือหอกมังกรแดงเหมือนกัน พร้อมกับพุ่งเข้าใส่ขุนพลฟงอย่างไม่ปรานี

 

นัยน์ตาของขุนพลฟงพลันปรากฏร่องรอยของความตื่นตระหนกขึ้น วิชาแบบนี้เขาไม่เคยพบหรือเคยได้ยินมาก่อน ทั้งเขายังไม่รู้ว่าร่างไหนคือร่างจริง ร่างไหนคือร่างปลอม จากนั้น ขุนพลฟงก็ทำการตั้งกระบี่ไว้ตรงตำแหน่งเอว ก่อนที่จะเริ่มหมุนตัวอย่างบ้าคลั่ง

 

“วงแหวนวายุ!”

 

อึดใจต่อมา ร่างของขุนพลฟงก็กลายเป็นพายุหมุน หวังจะฉีกกระชากอี้เทียนหยุนด้วยความคมของสายลม แต่อี้เทียนหยุนกลับไม่หยุดมือ ยังคงทำการแทงหอกต่อไป จนกระทบกับพายุหมุนลูกนี้

 

“เปรี้ยง!” ขุนพลฟงกระเด็นออกไป ราวกับถูกพลังอัดกระแทกใส่ ส่วนร่างโคลนทั้งสามของอี้เทียนหยุนที่ถูกดูดเข้าไปเริ่มบิดเบี้ยวก่อนที่จะแหลกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับสลายไป ขณะที่ร่างจริงของอี้เทียนหยุนก็รีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะหายเข้าไปในหมอกหนาอย่างเงียบงัน

 

เพียงแค่การปะทะกันสั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาประมือกับไปกี่กระบวนท่าแล้ว แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครได้เปรียบใคร

 

“เร็วจริงๆ แม้ว่าพลังของข้าจะเหนือกว่า แต่ความเร็วกลับสู้ไม่ได้ ทำให้อีกฝ่ายสามารถหลบการโจมตีของข้าไปได้ง่ายๆ” อี้เทียนหยุนขมวดคิ้ว พลังของเขาเหนือกว่าอีกฝ่ายแน่นอนแล้ว กระทั่งขุนพลฟงยังไม่สามารถรับการโจมตีของเขาตรงๆ แต่ว่าอีกฝ่ายกลับสามารถหลบการโจมตีของเขาได้อย่างง่ายดาย

 

ร่างโคลนทั้งสามนั้นมีพลังเพียงแค่ส่วนเสี้ยวเล็กๆ ของเขาเท่านั้น ทำให้พลังป้องกันไม่เพียงพอ จึงถูกอีกฝ่ายทำลายได้ง่ายๆ

 

ไม่คิดว่าจะยากเย็นขนาดนี้ ในปัจจุบันเหมือนว่าทั้งสองจะเสมอกัน ไม่มีใครเหนือกว่าใคร แต่ถ้าจะพูดว่าใครเหนือกว่าใครนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องเป็นขุนพลฟง หลังจากที่ถูกซัดกระเด็นออกมา อีกฝ่ายก็ยังมีท่าทางสบายดีเหมือนเดิม

 

ในตอนนี้อีกฝ่ายได้กลับออกไปด้านนอกแล้ว ออกไปจากค่ายกลสัมผัสพิศวง ในมือของเขาถือกระบี่เทพเทียนฟง พร้อมกับจับจ้องมาทางป่า ดูว่ามีการเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่

 

หลังจากการปะทะกันช่วงสั้นๆ จบลง เย่ชิงเสวียนกับพวกยังคงมีท่าทางตกตะลึง ราชาของพวกเธอหลังจากที่ประมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับวิญญาณเที่ยงแท้ แต่ก็ยังสามารถถอนตัวกลับมาได้ ไม่น่าเชื่อจริงๆ!