บทที่ 1312 ปล้นสะดมยอดเขาเยือกแข็ง

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 1312 ปล้นสะดมยอดเขาเยือกแข็ง

แปลโดย iPAT

ผู้อมตะตระกูลเซี่ยพ่ายแพ้และจากไปอย่างเงียบๆ

ฟางหยวนหยุดใช้ท่าไม้ตายอมตะและเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์กลับไปยังยอดเขาเยือกแข็ง

คฤหาสน์วิญญาณระดับมนุษย์ถูกนำออกไป ตอนนี้เหลือเพียงยอดเขาเยือกแข็งที่หนาวเย็นเท่านั้น

จิตใจของฟางหยวนยังสงบนิ่งและปราศจากระลอกคลื่นใดๆ ชัยชนะไม่คุ้มค่าที่เขาจะหวงแหนหรือคุยโว สำหรับศักดิ์ศรี เขาทิ้งไปนานแล้ว

‘ชัยชนะที่ง่ายดายได้มาเพราะข้ามีข้อได้เปรียบ’

รู้เขารู้เราจะไม่มีวันพ่ายแพ้

สองผู้อมตะตระกูลเซี่ยไม่รู้วิธีการต่อสู้ของฟางหยวน พวกเขาทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น ในทางตรงข้ามฟางหยวนรู้รายละเอียดทั้งหมดของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นท่าไม้ตายอมตะ อารมณ์ หรืออื่นๆ เขารู้เรื่องเหล่านี้จากข้อมูลที่ได้รับจากตระกูลวู

เรื่องนี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสำคัญของข้อมูล

มันเหมือนกันผู้อมตะเยี่ยนฮวงที่สามารถเอาชนะวูอวี้ป๋อ

พวกเขาได้รับชัยชนะด้วยสติปัญญา

วูอวี้ป๋อทรงพลังแต่ทุกคนรู้จักท่าไม้ตายอมตะของเขา เมื่อเขาประมาท ทุกอย่างจึงจบลงเช่นนั้น

ฟางหยวนมีข้อมูลมากกว่า เขาดำเนินแผนการไปทีละขั้นตอน ในที่สุดเขาก็บังคับให้ผู้อมตะตระกูลเซี่ยล่าถอย

‘กระดองเต่าวัชระค่อนข้างมีประสิทธิภาพ แต่มันจะไม่ใช่เรื่องง่ายในอนาคต’

ผู้อมตะตระกูลเซี่ยจะรวบรวมข้อมูลและประสบการณ์การต่อสู้เพื่อคิดวิธีรับมือและตอบโต้กระดองเต่าวัชระในที่สุด

‘เรื่องนี้จะทำให้วูอี้ไห่มีชื่อเสียงมากขึ้น’

‘ท่าไม้ตายอมตะเปลี่ยนเป็นเต่าพยากรณ์และกระดองเต่าวัชระเป็นสิ่งที่น่าทึ่ง แต่เมื่อข้าใช้มันหลายครั้ง มีโอกาสสูงที่บางคนจะสามารถคิดค้นวิธีตอบโต้’

‘แท้จริงแล้วเกราะหวนคืนของข้าก็กำลังถูกวิเคราะห์โดยสิบนิกายโบราณ ถ้ำสวรรค์นิรันดร ปีศาจอมตะเซี่ยหู และกองกำลังอื่นๆ ข้าต้องระวังในการใช้งานมันครั้งต่อไปโดยเฉพาะต่อหน้าผู้คนเหล่านี้’

ฟางหยวนระวังตัวมาก

วูอวี้ป๋อเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนสำหรับเรื่องนี้

มันไม่ง่ายที่จะสร้างท่าไม้ตายอมตะ แต่ท่าไม้ตายอมตะที่ทรงพลังไม่สามารถหยุดอยู่ที่เดิม มันต้องก้าวหน้าและพัฒนาขึ้นตลอดเวลา มิฉะนั้นมันจะถูกทำลายโดยบางคน

แต่การพัฒนาท่าไม้ตายอมตะก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

นอกเหนือจากแรงบันดาลใจ สิ่งสำคัญที่สุดคือระดับความสำเร็จของผู้อมตะ

‘และวิธีที่ดีที่สุดในการยกระดับความสำเร็จก็คืออาณาจักรแห่งความฝัน’ ฟางหยวนต้องคิดถึงเรื่องนี้อย่างช่วยไม่ได้

ด้วยอาณาจักรแห่งความฝัน ตัวละครที่โดดเด่นปรากฏตัวขึ้นในสงครามห้าภูมิภาคในชีวิตก่อนหน้าของฟางหยวนราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า

ยุคที่ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยความโกลาหลและวุ่นวาย

‘น่าเสียดายที่ข้าพึ่งเข้าร่วมกับตระกูลวูได้ไม่นาน การร้องขออย่างจริงจังเพื่อเข้าไปในค่ายกลวิญญาณน่าสงสัยเกินไป’

‘แม้ภารกิจยอดเขาเยือกแข็งจะจบลงแล้ว แต่ผู้ใดจะรู้ว่าข้าจะได้ไปยังอาณาจักรแห่งความฝันเมื่อใด จะดีกว่าที่ข้าจะจัดการเรื่องที่อยู่ในมือตอนนี้และไม่ปล่อยให้มันไหลไปตามกระแส’

ฟางหยวนไตร่ตรองขณะบินลงบนยอดเขาเยือกแข็ง

ยอดเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยทรัพยากรบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งแต่ฟางหยวนยังไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด

หิมะปกคลุมยอดเขาเอาไว้ทั้งหมด

ในส่วนลึกของชั้นหิมะมีสัตว์อสูรประเภทแมลง พืช และวิญญาณป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

‘หยกเยือกแข็ง’ ฟางหยวนค้นเริ่มต้นเก็บเกี่ยวในไม่ช้า

เขาพบหยกเยือกแข็งจำนวนมากใต้ชั้นหิมะ

‘หยกเยือกแข็งเป็นเพียงทรัพยากรระดับห้า แต่ยังมีหยกเยือกแข็งระดับหกอยู่บ้าง’

ฟางหยวนเริ่มรวบรวมสมบัติโดยปราศจากความลังเล

“บึม”

ผิวหิมะถูกระเบิดออกและเผยให้เห็นชั้นหินที่อยู่ด้านล่าง

มันคือหยกเยือกแข็งที่ซ่อนอยู่

หยกเยือกแข็งเป็นหินสีขาวบริสุทธิ์และเย็นจัด แน่นอนว่าพวกมันไม่มีอันตราย

ฟางหยวนนำหยกเยือกแข็งขึ้นมา

หลังจากนั้นเขายังค้นหาทรัพยากรที่อยู่บนยอดเขาทั้งหมด

หยกเยือกแข็งขนาดใหญ่ถูกขุดขึ้นมาทีละชิ้น หยกเยือกแข็งขนาดเล็กที่สุดมีขนาดเท่ากับช้างขณะที่ชิ้นที่ใหญ่ที่สุดมีขนาดเท่ากับเรือโดยสาร

หยกเยือกแข็งพันปีมักจะมีแก่นแท้หยกเยือกแข็งซึ่งเป็นทรัพยากรอมตะระดับเจ็ดอยู่ภายใน

ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีผู้ใดค้นพบพวกมันแต่พวกมันถูกเก็บรักษาไว้โดยตระกูลวู

ฟางหยวนนำหยกเยือกแข็งส่วนใหญ่ออกไป

ไม่เพียงเท่านั้นเขายังปล้นสะดมวิญญาณอีกมากมาย

ไม่จำเป็นต้องคิดถึงวิญญาณอมตะ

โดยปกติยอดเขาเยือกแข็งสามารถผลิตวิญญาณอมตะระดับหกได้เพียงครั้งเดียวในรอบหลายร้อยหรือหนึ่งพันปี

หากมีวิญญาณอมตะป่าอยู่จริง ผู้อมตะตระกูลเซี่ยจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้และล่าถอยไปอย่างง่ายดาย

วิญญาณส่วนใหญ่เป็นวิญญาณบนเส้นทางแห่งหิมะและน้ำแข็ง แต่ยังมีวิญญาณบนเส้นทางแห่งวารีอยู่เล็กน้อย

นี่เป็นเหตุผลที่มันได้รับชื่อว่ายอดเขาเยือกแข็ง

หลังจากปล้นสะดม ฟางหยวนก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้า

เขาชำเลืองมองยอดเขาเยือกแข็งเป็นครั้งสุดท้าย

มันเป็นยอดเขาที่งดงามด้วยหิมะสีขาว

แต่ตอนนี้มันเต็มไปด้วยหลุมบ่อ ทัศนียภาพของมันถูกทำลาย ทรัพยากรมากกว่าครึ่งสูญหายไป กล่าวได้ว่ารากฐานของยอดเขาเยือกแข็งได้รับความเสียหายอย่างหนัก

‘หากข้าใช้วิญญาณอมตะยกภูเขา ข้าจะสามารถเก็บยอดเขาเยือกแข็งไว้ในมิติช่องว่าง’

‘น่าเสียดายที่ข้าไม่สามารถทำเช่นนั้นในเวลานี้ ตัวตนของข้าคือวูอี้ไห่ สมาชิกของตระกูลวู การทำกำไรในครั้งนี้คือการยัดยอกทรัพย์ มันคือขีดจำกัด หากข้านำภูเขาทั้งลูกไป ยังไม่ต้องกล่าวถึงการเปิดเผยตัวตนของข้า แต่ข้าจะไม่สามารถอธิบายกับตระกูลวู’

ฟางหยวนถอนหายใจก่อนจะบินจากไปอย่างรวดเร็ว

หลายวันต่อมาฟางหยวนกลับไปถึงตระกูลวูและพบกับวูหยง

“ต้องขอบคุณน้องชายที่ช่วยปกป้องยอดเขาเยือกแข็งให้กับตระกูลและขับไล่หัวขโมย” วูหยงชื่นชมฟางหยวน

“ท่านยกย่องข้าเกินไปแล้ว มันเป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น” ฟางหยวนตอบกลับอย่างสุภาพ

“ผู้อาวุโสวูฝา ท่านประเมินมันหรือยัง? ความสำเร็จของน้องชายข้าไม่ใช่เล็กน้อย เราควรมองในภาพรวม” วูหยงหันหน้าไปทางผู้อมตะของตระกูลวูผู้หนึ่ง

เขามีรูปร่างหน้าตาธรรมดาแต่สถานะของเขากลับไม่ธรรมดา

เขาเป็นผู้ช่วยคนสนิทของวูหยงและรับผิดชอบคำนวณรางวัลหรือบทลงโทษแก่ผู้อมตะทั้งหมดของตระกูลวู

วูฝากล่าวด้วยคิ้วที่ขมวดเล็กน้อย “เราได้เห็นความกล้าหาญของท่านวูอี้ไห่แล้ว ด้วยการต่อสู้ครั้งนี้ ชื่อเสียงของท่านจะแพร่กระจายออกไป แต่หากกล่าวถึงรางวัล เนื่องจากท่านวูอี้ไห่ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบและมีข้อกำหนดเพียงห้าปี ขณะเดียวกันยอดเขาเยือกแข็งยังถูกปล้นสะดมอย่างโหดร้าย รากฐานของมันได้รับความเสียหายรุนแรง นั่นทำให้มูลค่าของมันลดลงอย่างมาก”

“โอ้ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นงั้นหรือ?” วูหยงหันไปทางฟางหยวนด้วยความประหลาดใจ

ฟางหยวนถอนหายใจ “ข้าไม่ได้คาดหวังว่าผู้อมตะตระกูลเซี่ยจะเป็นคนน่าชังเช่นนี้!”

วูหยงขมวดคิ้วบาง “น้องชาย เจ้าเห็นผู้อมตะตระกูลเซี่ยปล้นสะดมยอดเขาเยือกแข็งด้วยตาของตนเองหรือไม่?”

“ไม่ มันเป็นเพียงการคาดเดา หรือบางทีมันอาจเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษ?” ฟางหยวนตอบโดยปราศจากข้อบกพร่อง

วูหยงพยักหน้าและกล่าว “ในกรณีนี้ผู้อาวุโสวูฝาจะเป็นผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้าย”

ผู้อาวุโสวูฝาคำนวณอยู่ชั่วครู่ก่อนจะส่งรายละเอียดให้ฟางหยวน