ตอนที่ 194

Legend of the mythological genes

นับตั้งแต่ยุคโลกโบราณ เกาะญี่ปุ่นเลื่อนไปทางร่องลึกสมุทรมาเรียนาเป็นประจำทุกปี ญี่ปุ่นเองก็เป็นประเทศที่มีแผ่นดินไหวบ่อยครั้งและแผ่นดินไหวแต่ละครั้งยิ่งทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในเวลานั้นนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าอีกไม่กี่พันปีต่อไปทั้งเกาะญี่ปุ่นคงจมลงในร่องลึกสมุทรมาเรียนาและไม่ปรากฏบนพื้นผิวมหาสมุทรอีกเลย อย่างไรก็ตามหมื่นปีผ่านไปและไม่เพียงแต่ญี่ปุ่นจะไม่หายไป แต่ญี่ปุ่นดูเหมือนว่าจะเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น

การทำนายของนักวิทยาศาสตร์ไม่ได้ผิดไปจากความเป็นจริง สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย ดังนั้นเทคโนโลยีใหม่จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น

หลังจากมนุษยชาติออกระบบสุริยะและเริ่มปลุกพลังของยีนในตำนาน พวกเขาไม่ได้ละทิ้งระบบสุริยะจักรวาลทันที เมื่อมีการเปิดเผยอนุภาควิญญาณ ซากปรักหักพังในตำนานโบราณบางส่วนในระบบสุริยะจักรวาลก็ถูกขุดขึ้นมาเรื่อยๆ

ทั้งหมดนี้เป็นร่องรอยที่หลงเหลืออยู่จากอารยธรรมการบ่มเพาะในสมัยโบราณและเป็นเศษซากของตำนานที่เกี่ยวข้อง การปรากฏดึงดูดมนุษย์นับไม่ถ้วนเพื่อต่อสู้กับพวกมัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภูมิภาคใกล้ทะเลจีนตะวันออก ซากปรักหักพังในตำนานขนาดมหึมาได้ถูกขุดขึ้นมาจากทะเล ในขณะนั้น ประเทศในเอเชียทั้งหมดทำตัวเหมือนฉลามเห็นเลือด พุ่งเข้าชนและต่อสู้กันเอง บางประเทศได้รับสมบัติมหัศจรรย์มากมายและแต่ละชิ้นก็มีพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้

ตั้งแต่นั้นมาก็ผ่าน 3,000 ปีแล้ว ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับสมบัติจากซากปรักหักพังในตำนานของทะเลจีนตะวันออกอีกต่อไป

อย่างไรก็ตามยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับสมบัติที่มีการเผยแพร่ไปทั่วจนถึงปัจจุบัน

ความจริงคือญี่ปุ่นได้รับขุมทรัพย์อันมหัศจรรย์มาตั้งแต่นั้น จากนั้นพวกเขาก็เปลี่ยนสมบัตินี้ให้เป็นเสาขนาดมหึมาและฝังไว้ในก้นสมุทรมาเรียนาซึ่งคอยค้ำญี่ปุ่นทั้งหมด สิ่งนี้ทำให้การจมของประเทศญี่ปุ่นหยุดลง มันคือปาฏิหาริย์

และสมบัตินั้น เนื่องจากมันเป็นรูปแบบของเสายักษ์ มันจึงกลายเป็นที่รู้จักในฐานะเสาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นและญี่ปุ่นถูกมองว่าเป็นประเทศที่มีร่องรอยของวัตถุศักดิ์สิทธิ์ นี่น่าจะเป็นข้อพิสูจน์ว่าเทพของพวกเขาอามะเทราสึ โอมิคามิ(มหาเทวีแห่งพระอาทิตย์และจักรวาล)ได้แสดงความโปรดปรานแก่พวกเขาแล้ว

เป็นไปได้ไหมที่เสายักษ์ใต้ทะเลนี่จะเป็นเสาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่น

แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เฟิงหลินได้เห็น แต่เขาก็มั่นใจในการตัดสินของเขา

ท้ายที่สุดแล้วไม่มีอะไรสามารถขยายลึกเข้าไปในทะเลได้ลึกถึง 20,000 เมตร

เขาควบคุมกระสวยอวกาศและทำการสแกนเสาต่อไป เขาค้นพบว่าเสานี้ล้อมรอบอย่างสมบูรณ์และขยายออกไปเรื่อยๆเหมือนเสาสวรรค์ มันรองรับน้ำหนักของเกาะญี่ปุ่นทั้งหมดทำให้ไม่จมอีกต่อไป เมื่อพิจารณาจากเสาและความแข็งแกร่ง แม้ว่าจะไม่มีเทคนิคพิเศษก็สามารถพิจารณาได้ว่าเป็นวัตถุศักดิ์สิทธิ์

ปัญญาประดิษฐ์ของของกระสวยอวกาศเริ่มทำการตรวจสอบคุณภาพวัสดุของเสา หลังจากนั้นไม่นานผลลัพธ์ก็แสดงขึ้น จากผลการสแกนเสานี้เกิดขึ้นจากเหล็ก 100% ไม่มีสิ่งเจือปนอื่น ๆ

 

เหล็กทั้งหมด?

มันเป็นวัตถุสวรรค์ได้ยังไง?“

สิ่งนี้ไม่สอดคล้องกับตรรกะของวิทยาศาสตร์

แต่ความจริงอยู่ตรงหน้าเขา เทคโนโลยีของกระสวยอวกาศภูเขาผลไม้ได้รับการพัฒนาอย่างเหนือชั้นกว่ามาตรฐานของระบบสุริยะ มันน่าเชื่อถือมากกว่าเมื่อเทียบกับการตรวจสอบของเฟิงหลิน หากการสแกนกระสวยอวกาศมีข้อผิดพลาด เฟิงหลินก็ไม่มีหาเจอ

ในขณะนี้ในการสแกนฉากมหัศจรรย์ปรากฏขึ้น รูปภายในเสาเหล็กปรากฏตรงหน้าเฟิงหลิน

ด้วยความประหลาดใจ เฟิงหลินเห็นว่าอะตอมเหล็กของเสานี้ถูกประกบเข้าด้วยกันอย่างแนบแน่นจนเหลือเชื่อ
แต่ละอะตอมเป็นปุ่มโครงสร้างผลึกที่มีลักษณะคล้ายใยแมงมุม ความหนาแน่นของเสานั้นเหนือกว่าเมื่อเทียบกับวัตถุอื่นๆที่เขารู้จัก

นอกจากนี้แม้ว่าจะมีการสแกนเพิ่มเติมจากปัญญาประดิษฐ์ แต่ก็ไม่สามารถตรวจสอบได้อีก

นี่เป็นเพราะความหนาแน่นระหว่างอะตอมเหล็กนั้นแน่นเกินไป มันเหมือนว่าเสาเหล็กทั้งหมดนี้เป็นอะตอมเหล็กขนาดยักษ์ ไม่มีช่องว่างระหว่างอะตอมเลยแม้แต่รังสีแสงก็ไม่สามารถซึมเข้าไปได้ ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเฟิงหลินสามารถมองเห็นพื้นผิวของเสาลึกลับนี้เท่านั้น

จะต้องมีความลับลึกเกี่ยวกับเสาเหล็กนี้แน่

กระสวยอวกาศบินวนรอบๆเสาเหล็กขนาดมหึมา สแกนข้อมูลทั้งหมดที่สามารถรับรู้ได้ หัวใจของเฟิงหลินสับสนและเขาค้นพบว่ารูปทรงของเสาศักดิ์สิทธิ์ญี่ปุ่นนี้เป็นเหมือนโครงเหล็กขนาดยักษ์

หรือนี่จะเป็นกระบองทองวิเศษ?

ด้วยเหตุผลบางอย่างความคิดนี้ปรากฏในใจของเฟิงหลิน แต่หลังจากนั้นเสียงหัวเราะเยาะเย้ยตัวเองก็ดังขึ้น อะไรจะบังเอิญขนาดนี้?

เขากำลังเดินบนเส้นทางตามตำนานของซุนหงอคง แต่เขาจะโชคดีจนได้พบกับกระบองวิเศษโดยบังเอิญจริงๆหรอ?

หากเป็นเช่นนี้เขาจะไม่โชคดีเกินไปหน่อยหรอ?

ในวัฒนธรรมตำนานต่างๆ มีเทพเจ้าไม่กี่คนที่ใช้กระบองเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ในตำนานอินเดียหนุมานเป็นหนึ่งในนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเทพจีน หลายองค์ใช้กระบองเป็นอาวุธเช่นกัน

ไม่ว่าในกรณีใดสิ่งต่างๆยังไม่ชัดเจนเว้นแต่เขาจะยืนยันด้วยตาของตัวเอง

เฟิงหลินหยุดยานบินที่ก้นสมุทร เขาสวมชุดดำน้ำที่มีตัวอักษรเขียรว่าแบบจำลอง186 และว่ายออกจากยานบิน

นี่เป็นชุดดำน้ำที่ผลิตโดยวิทยาศาสตร์ชั้นยอดและเทคโนโลยีของยุคอวกาศ สามารถต้านทานแรงดันน้ำได้ลึกถึง 50,000 เมตร

แสงของกระสวยอวกาศดับลง เฟิงหลินว่ายไปที่เสาเหล็ก

เมื่ออยู่ไกลก็รู้สึกว่าเสาเหล็กนี้น่าเกรงขาม แต่ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่เขาก็รู้สึกว่าเขายืนอยู่ตรงหน้าเสาที่สามารถยกสวรรค์ได้ เขารู้สึกว่าตัวเองตัวเล็กเหมือนมด

เฟิงหลินเพิ่มความเร็วในการว่าย หลังจากที่เขาเข้ามาใกล้เสา มือของเขาขยับไปมาเบาๆ บนพื้นผิวมีลายเส้นที่สลับซับซ้อนสลักลวดลายธรรมชาติ

นอกจากนี้รูปแบบเหล่านี้ยังขยายออกไปสร้างเป็นภาพต่างๆ

เขาขยับเข้าไปใกล้ขึ้นและสังเกตอย่างละเอียด ทันใดนั้นหัวใจของเขาก็เต้นด้วยความตกใจ

หนึ่งในภาพที่เขาค้นพบมีคำจากในตำนานจีนโบราณสลักอยู่ ผ่านการวิเคราะห์ของปัญญาประดิษฐ์มันเป็นคำโบราณที่แสดงถึง ‘ปริมาณ’

จินตนาการไม่มีที่สิ้นสุดปรากฏในใจของเฟิงหลิน เขายังคงมองลายเส้นต่อไป เขาพบคำโบราณแปดคำทีละคำและเมื่อรวมเข้าด้วยกันแล้วจะมีประโยคที่มีความหมายว่า

 

“วัตถุนี้ไม่มีรูปแบบตายตัวมันขึ้นอยู่กับความคิดในใจ!”

หรือว่านี่จะเป็นอาวุธของซุนหงอคง?

เฟิงหลินย่อมรู้สึกผิดหวังอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้จะรู้ว่าความเป็นไปได้ของสิ่งนั้นมีน้อยมาก แต่เมื่อสิ่งที่หวังไม่เป็นไปอย่างที่หวังก็ย่อมผิดหวังเป็นธรรมดา

แต่ในไม่ช้าเขาก็ปรับอารมณ์ได้

โลกจะมีแต่เรื่องดีๆได้ยังไง?

และถ้ามีสมบัติล้ำค่าเช่นนี้ เขาคนเดียวจะ…ได้ยังไง?

เมื่ออาวุธศักดิ์สิทธิ์ในตำนานกระบองทองวิเศษปรากฏขึ้น มันจะเขย่าสวรรค์และโลกอย่างแน่นอน อาวุธนั้นบรรจุพลังอันไร้ขีดจำกัด และมีจักรวรรดิดวงดาวที่สำคัญเหล่านั้นถึงจะมีสมบัติระดับนี้ แถมยังมีน้อยมาก

แม้ว่าเฟิงหลินจะได้รับมัน แต่เมื่อมีข่าวรั่วไหลออกไปเขาก็ไม่จะสามารถที่รักษามันไว้ได้

หากเสาศักดิ์สิทธิ์ของญี่ปุ่นนี้เป็นสมบัติล้ำค่าในตำนานที่แท้จริง ประเทศเล็ก ๆ อย่างญี่ปุ่นบนโลกจะรักษาความเอาไว้ได้ยังไง?

เฟิงหลินเลิกจินตนาการต่อ และเริ่มตรวจสอบเสาเหล็กนี้อย่างจริงจัง

เฟิงหลินส่งพลังวิญญาณของเขาเข้าไป แต่พลังวิญญาณของเขาก็กระแทกกับสิ่งกีดขวาง พลังวิญญาณไร้รูปร่างยังไม่มีทางที่จะซึมเข้าไปในเสาเหล็กได้ ดูเหมือนจะมีกำแพงขนาดใหญ่ที่จะปิดกั้นช่องว่างทั้งหมด

ความรู้สึกนี้คุ้นเคยมาก

ทันใดนั้นเขารู้สึกตื่นเต้นอีกครั้ง แม้ว่าเสาเหล็กนี้ไม่ใช่สมบัติสูงสุดจากเทพในตำนาน มันก็ควรจะเป็นสมบัติที่มีความสามารถอันยิ่งใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้โดยอารยธรรมโบราณ ความรู้สึกที่เขาได้รับจากเสาเหล็กนี้คล้ายกับเตาหลอมอมตะ

เมื่อเขาเตรียมที่จะทำการตรวจสอบมากขึ้น ต้องการที่จะดูว่าเขาสามารถใช้พลังวิญญาณเพื่อทดลองการปรับแต่งได้หรือไม่ ไฟก็สว่างจ้าขึ้นในน่านน้ำเหนือเขาทันที

จริงๆแล้วมีคนอื่นในล่องลึกสมุทรมาเรียนา

คนเหล่านี้จะเป็นใครได้?

เฟิงหลินรีบหลบไปด้านข้าง กระสวยอวกาศของเขาเข้าสู่โหมดซ่อนตัวสักพักแล้ว ไม่มีใครมองเห็น

 

เรือดำน้ำขนาดใหญ่เท่าปลาวาฬลงมาอย่างช้า ๆ ส่องแสงสว่างรอบ ๆ

หลังจากนั้นคนกว่าสิบคนว่ายออกมา ในชุดดำน้ำมีสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์สีแดงปรากฎอยู่

เฟิงหลินหรี่ตามอง นี่ใช่ธงของประเทศญี่ปุ่นไหม? คนพวกนี้เป็นคนญี่ปุ่น!