ตอนที่ 320 ข้าไม่ได้สนใจเจ้า
“บ่าวไม่เข้าใจความหมายของคุณหนูเจ้าค่ะ”
หลิงอวี้จื้อเข้าใจความหมายของเฟิงอิ๋น แต่จงใจแสร้งทำหน้างง เหมือนเด็กน้อยที่ไม่ประสาโลก
“เจ้ามาปรนนิบัติท่านหลานเขยคืนนี้”
เดิมทีหลิงอวี้จื้อหน้าตาอ่อนวัยอยู่แล้ว ดังนั้นการที่เธอไม่เข้าใจ ไม่ได้ทำให้คนอื่นสงสัยแม้แต่น้อย
เฟิงอิ๋นพอใจหลิงอวี้จื้อมาก
“เจ้านั่นแหละ เจ้าไม่เข้าใจ แต่ท่านหลานเขยเข้าใจก็พอแล้ว”
เซียวเหยี่ยนทำหน้ารังเกียจ
“นางเด็กเกินไป ไม่ได้”
“เซียวเหยี่ยน เจ้าหยวนๆ สักหน่อย ข้าก็ไม่อยากมอบเจ้าให้ใคร แต่นี่เป็นเจตนาของเจ้าสำนัก พวกเราไม่สามารถต่อต้านคำสั่งของเจ้าสำนักได้ มิเช่นนั้นจะไม่เป็นผลดีกับเจ้า
เซียวเหยี่ยน พรุ่งนี้จะเป็นคืนแต่งงานของเรา คืนพรุ่งนี้ข้าจะอยู่กับเจ้า ต่อไปพวกเราจะไม่แยกจากกันอีก จะอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตนี้”
น้ำเสียงของเฟิงอิ๋นอ่อนโยน งึมงำข้างๆ หูเซียวเหยี่ยน หลิงอวี้จื้อได้ยินเต็มสองรูหู ขนลุกซู่ไปทั้งตัว แต่ก็ควบคุมตัวเองไว้อย่างแข็งขัน
“ก็ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าจัดการ เพื่อไม่ให้เจ้าสำนักตำหนิเจ้า”
เซียวเหยี่ยนรับปาก สำหรับปฏิกิริยาของเซียวเหยี่ยน เฟิงอิ๋นดีใจมาก น้ำเสียงอ่อนโยนลงไปอีก
“วันนี้ยังมีเรื่องอีกมาก พรุ่งนี้ข้าจะมาหาเจ้าใหม่”
พูดจบเฟิงอิ๋นก็ออกไปจากห้อง แถมยังปิดประตูห้องด้วย
หลิงอวี้จื้อยืนอยู่ข้างๆ โกรธจนแทบกระอักเลือด หากไม่ได้อยู่ตรงหน้าก็ยังดี แต่ดันมาอยู่ต่อหน้าตนเองเสียนี่ ถึงแม้เซียวเหยี่ยนจะสูญเสียความทรงจำแล้ว เธอก็ทำใจยอมรับที่ผู้หญิงอื่นมากอดเซียวเหยี่ยนแบบนี้ไม่ได้ ทำตาโตใส พูดจาเหลวไหลต่อหน้าเขา แบบนี้มันผู้หญิงแอ๊บแบ๊วคนหนึ่งนี่เอง
ทนไม่ไหวแล้วจริงๆ อยู่ๆ หลิงอวี้จื้อก็ยื่นมือออกไปโอบเอวเซียวเหยี่ยน สำหรับการรุกของหลิงอวี้จื้อ เซียวเหยี่ยนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง ผลักหลิงอวี้จื้อออกอย่างเยือกเย็น
“เมื่อครู่เจ้ายังไม่เข้าใจอยู่มิใช่หรือ”
“ตอนแรกข้าไม่เข้าใจ ต่อมาพูดชัดเจนขนาดนี้ หากข้ายังไม่เข้าใจอีก เช่นนั้นสมองข้าคงมีปัญหาแล้ว… คุณชาย ท่านหน้าตาคล้ายคนที่ข้าชอบขนาดนี้ ข้าสามารถบังคับใจปรนนิบัติท่านได้”
หลิงอวี้จื้อรู้สึกเสียใจมาก แต่ก็รู้ว่าจะรีบร้อนไม่ได้ เฟิงอิ๋นอาจจะให้เขากินยาอะไรไป ทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ เธอไม่สามารถเผยตัวตนเร็วเกินไป ยังต้องคิดหาวิธีอีกถึงจะได้
“ไม่ต้องแล้ว ข้าไม่ได้สนใจเจ้า เจ้าไปได้แล้ว”
“ข้าขายตนเองให้สำนักอู๋จี๋แล้ว คุณชาย ท่านจำเรื่องเมื่อก่อนไม่ได้แล้วหรือ”
เซียวเหยี่ยนดูเหมือนไม่ชอบหลิงอวี้จื้อเอามากๆ ท่าทางยังคงเย็นชา
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า”
“ท่านยินดีแต่งงานกับเฟิงอิ๋นจริงหรือ”
สีหน้าของเซียวเหยี่ยนเผยให้เห็นความไม่พอใจ
“เหตุใดจะไม่ยินดี เฟิงอิ๋นทั้งใจกล้าและห้าวหาญ ข้าชอบนางจริงๆ ได้แต่งนางเป็นภรรยาก็เป็นโชคดี”
“ท่าน…เช่นนั้นอะไรที่เรียกว่าใจกล้าและห้าวหาญหรือ นางไม่ได้ใส่ใจท่านสักหน่อย หากใจนางมีท่าน เหตุใดถึงกักบริเวณท่านให้อยู่ในห้อง นางทำเช่นนี้ ท่านไม่ถือสาหรือ”
“ไม่ถือสา”
หลิงอวี้จื้อจะกระอักเลือดแล้ว เซียวเหยี่ยนเป็นอะไรกันแน่ พูดจากับเธอแบบนี้ได้อย่างไร นึกไม่ถึงว่าจะชอบเฟิงอิ๋นสุดจิตสุดใจขนาดนี้ ด้วยความโมโหถึงขีดสุด เธอจึงถามว่า
“ท่านลืมเรื่องเมื่อก่อนไปแล้ว แล้วไม่กลัวว่าตนเองจะมีภรรยาไปแล้วหรือ”
“เฟิงอิ๋นไม่มีทางหลอกข้า หากเจ้ายังพูดถึงเฟิงอิ๋นผิดๆ อีก ข้าจะไม่เกรงใจเจ้าแล้ว”
เซียวเหยี่ยนรินน้ำให้ตนเองแก้วหนึ่ง พูดว่า
“เจ้าออกไปเถิด! ข้าไม่ต้องการให้ใครมาปรนนิบัติ”
หลิงอวี้จื้อกัดปาก อยากพูดอะไรต่อ แต่เห็นเซียวเหยี่ยนไม่ได้อยากพูดกับตนด้วยซ้ำ เธอก็กลืนคำพูดลงไป รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง
ตอนที่ 321 ข้ายินดี ท่านยุ่งอะไร
จากที่ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้ วันที่เซียวเหยี่ยนจะพูดจาเช่นนี้กับเธอ ถึงแม้ว่าเรื่องนี้มีสาเหตุ แต่ใจเธอก็รับไม่ค่อยได้
เห็นหลิงอวี้จื้อยืนอยู่ไม่ขยับ เซียวเหยี่ยนก็เอ่ยปากทันใด
“แม่สาวน้อย สำนักอู๋จี๋ไม่ใช่ที่ๆ เจ้าควรมา”
“เหตุใดข้าจึงมาไม่ได้”
หลิงอวี้จื้อได้ยินประโยคนี้จึงถามต่อทันที คำพูดนี้ฟังแล้วผิดปกติ เซียวเหยี่ยนดูเหมือนจะรู้จักเธอ
“ไม่มีทั้งความสามารถไม่มีทั้งสมอง เจ้ามาทำอะไรที่สำนักอู๋จี๋ เกรงว่าคงเป็นสาวใช้ไปจนตาย ดูจากคุณสมบัติของเจ้า อยู่ที่นี่เจ้าคงไม่มีอนาคตอะไร”
ประโยคเดียวก็ทำให้หลิงอวี้จื้อหมดกำลังใจแล้ว พอสูญเสียความทรงจำไป นึกไม่ถึงว่าเซียวเหยี่ยนจะรังเกียจเธอขนาดนี้ ดูแคลนเธอจนแทบจะไม่มีอะไรดี
“จุดมุ่งหมายของข้าก็คือเป็นสาวใช้ ที่นี่ให้ค่าแรงสูง เป็นสาวใช้ตลอดชีวิตแล้วอย่างไร ข้ายินดี ท่านยุ่งอะไร”
ด้วยอารมณ์หงุดหงิด หลิงอวี้จื้อจึงพูดด้วยน้ำเสียงหึงหวงเต็มที่
“คุณหนูแข็งแรงขนาดนี้ ท่านหลานเขยคงจะถูกบีบจนไม่เหลือแม้แต่น้ำ”
เซียวเหยี่ยนยิ้มตาหยีมองหลิงอวี้จื้อ
“ข้ายินดี”
“ท่าน…”
“ออกไป”
เห็นเซียวเหยี่ยนเย็นชากับตนขนาดนี้ ถึงแม้ในใจจะอึดอัดเสียใจ แต่เธอก็ไม่สามารถพูดมากได้ ทำได้เพียงออกไปก่อน
ออกมาจากห้องแล้ว หลิงอวี้จื้อก็มองไปรอบๆ เห็นนอกห้องเซียวเหยี่ยนไม่มีสาวใช้ ในเรือนว่างเปล่า มีเพียงทหารยามที่เฝ้าอยู่ตรงประตูใหญ่ ยืนตัวตรง ทุกคนหันหลังให้เธอ
เฟิงอิ๋นก็อยู่ที่เรือนนี้เช่นกัน เพียงแต่พักอยู่ทางทิศตะวันตก
ตอนนี้มั่วชิงกับมู่หรงนี่อวิ๋นต่างอยู่กับเฟิงอิ๋น เธอกำลังจะไปหามั่วชิง ทันใดนั้นก็มีสองมือจากนอกประตูลากเธอเข้าไปในห้องข้างๆ เมื่อครู่กำลังจะขัดขืน เสียงมั่วชิงก็ดังขึ้นข้างหู
“คุณหนู ข้าเอง”
“มั่วชิง ข้ากำลังจะไปหาเจ้าพอดี ท่านอ๋องดูเหมือนจะเสียความทรงจำไปแล้ว สำนักอู๋จี๋มียาพิษทำให้คนเสียความทรงจำหรือไม่”
“มีเจ้าค่ะ ยาพิษอะไรสำนักอู๋จี๋ก็มีหมด หากท่านอ๋องสูญเสียความทรงจำจริงๆ เช่นนั้นเฟิงอิ๋นต้องป้อนยาพิษปลุกเสกที่ทำให้ท่านอ๋องสูญเสียความทรงจำแน่นอน”
“มียาถอนพิษหรือไม่”
“ไม่มีเจ้าค่ะ”
มั่วชิงพูดด้วยความลำบากใจยิ่ง
“ยาพิษที่สำนักอู๋จี๋ปรุงแต่งออกมา โดยปกติจะไม่มียาถอนพิษ ข้าไปสืบมาบ้างแล้ว ตอนนี้ยาพิษทั้งหมดที่ปรุงแต่งมาล้วนอยู่ในความดูแลของเฟิงอิ๋น แม้จะมียาถอนพิษ ก็มีแต่นางเท่านั้นที่มี”
ได้ยินว่าไม่มียาถอนพิษ หลิงอวี้จื้อก็ห่อเ**่ยวเหมือนลูกบอลยางที่ลมออกทันที
“ผู้หญิงคนนั้นจะเอายาถอนพิษออกมาให้ได้อย่างไรล่ะ พรุ่งนี้พวกเขาจะแต่งงานกันแล้ว ข้าจะต้องหยุดยั้งการแต่งงานครั้งนี้ให้ได้
มั่วชิง นับว่าเจ้าก็รู้จักเฟิงอิ๋นมานานแล้ว คงจะเข้าใจเฟิงอิ๋น เจ้าเล่าสถานการณ์ในสำนักอู๋จี๋ให้ข้าฟังละเอียดหน่อย ข้าจะคิดดูว่าจะมีวิธีรับมือกับเฟิงอิ๋นบ้างหรือไม่”
มั่วชิงคิดสักครู่ พูดต่อว่า
“วิธีการของเฟิงอิ๋นโหดเ**้ยม ชอบทรมานคน เย็นชาอย่างยิ่ง ตอนนั้นข้ากับนางไปคารวะอาจารย์ สาวใช้สำนักอู๋จี๋ต่างก็กลัวเฟิงอิ๋น แต่เฟิงอิ๋นอยู่ที่สำนักอู๋จี๋ก็ใช่ว่านางจะไม่กลัวเทวดาฟ้าดิน”
“นางกลัวเจ้าสำนักใช่หรือไม่”
“ใช่เจ้าค่ะ ส่วนใหญ่เจ้าสำนักจะไม่ค่อยสนใจอะไรมากนัก แต่ที่นางเกลียดที่สุดคือการหักหลังจากผู้อื่น ทันทีที่จับได้จะไม่มีทางออมมือเด็ดขาด ต่อหน้าเจ้าสำนักเองเฟิงอิ๋นก็จะระมัดระวังมาก
ใช่แล้ว ข้างกายเจ้าสำนักมีผู้หญิงคนหนึ่ง ตอนที่ข้ายังไม่ออกจากสำนักอู๋จี๋นางก็อยู่ข้างกายเจ้าสำนักแล้ว เจ้าสำนักรักใคร่เอ็นดูนางมาก ไปไหนก็ต้องพาไปด้วย ขนาดเฟิงอิ๋นเจอนางยังต้องเกรงใจ เมื่อก่อนข้าก็รู้ว่าเฟิงอิ๋นกับนางไม่ค่อยลงรอยกัน ตอนนี้ก็คงยังเป็นเช่นนี้เจ้าค่ะ”
ถึงแม้มั่วชิงจะเล่าอย่างคลุมเครือมาก หลิงอวี้จื้อก็ยังเข้าใจ ความหมายของนางคือเจ้าสำนักชอบผู้หญิง
หลิงอวี้จื้อกำลังใช้ความคิด พูดเช่นนี้ก็หมายความว่า จะรับมือกับเฟิงอิ๋นต้องลงมือที่เจ้าสำนัก ส่วนจุดอ่อนของเจ้าสำนักก็อยู่ที่ผู้หญิงคนนี้