ตอนที่ 353

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 353: ป้องกันสมบูรณ์แบบ

 

การสังหารโหดอย่างบ้าคลั่งยังคงดำเนินต่อไป ไม่ว่าการโจมตีของพวกเขาจะร้ายกาจยังไง เมื่อโจมตีใส่อี้เทียนหยุน ก็เพียงทำให้เขารู้สึกคันเท่านั้น นี่คือผลของพลังป้องกันที่เหนือกว่า แม้ว่าพลังโจมตีของขุนพลฟงจะร้ายกาจมากพอแล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังป้องกันของอี้เทียนหยุน ก็ยังถูกสะกดข่มอยู่ดี!

 

ขณะที่ฝั่งตรงข้ามไม่สามารถทำอะไรเขาได้ อี้เทียนหยุนก็จะเกาะคุมชัยชนะไว้ในกำมือได้อย่างเหนียวแน่น ในเมื่อการโจมตีของขุนพลฟงไม่เพียงพอที่จะสังหารเขาได้ แล้วทำไมเขาถึงจะไม่ผลาญพละกำลังของอีกฝ่ายอย่างช้าๆ ล่ะ?

 

ยังไงก็ตาม ตอนนี้อี้เทียนหยุนไม่ได้สนใจขุนพลฟงอีกต่อไปแล้ว เขาทำการกู่ร้องพร้อมกับกระโจนเข้าใส่เหล่าทหารในกองพลวายุ พร้อมกับเริ่มการฆ่าล้างอย่างป่าเถื่อน จะโจมตีก็ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ จะหนีก็หนีไม่พ้น แม้ว่าพวกเขาจะเร็ว แต่พวกเขาจะเร็วไปกว่าอี้เทียนหยุนได้ยังไง?

 

“ร่างจริงของท่านราชาภูตคือเผ่ามังกรอย่างงั้นเหรอ? พลังนี้มันช่างน่าเกรงขามมาก กระทั่งขุนพลฟงยังทำอะไรท่านไม่ได้เลย”

 

“ใช่แล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นข้าที่โดนการโจมตีนี้เข้าไป ข้าคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย”

 

“ก่อนหน้านี้ที่จัดการกับขุนพลมังกรก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน อีกฝ่ายก็ถูกท่านราชาภูตตบจะแหลกคามือ ยังไงก็ตาม ขุนพลฟงผู้นี้แข็งแกร่งกว่าขุนพลมังกรนัก ท่านราชาภูตคงจัดการได้ไม่ง่าย แต่ฝั่งตรงข้ามก็ทำอะไรท่านไม่ได้เหมือนกัน…..”

 

เย่ชิงเสวียนมองอยู่ด้านข้างอย่างเทิดทูน นัยน์ตาสีเงินของเธอเป็นประกายวิบวับ อี้เทียนหยุนสามารถบุกตะลุยในสนามรบอย่างนี้ แล้วจะไม่ให้เธอตื่นเต้นได้ยังไง

 

“พวกเรารีบลงมือกันเถอะ ในขณะที่ท่านราชาภูตกำลังรับมือกับขุนพลฟงอยู่ พวกเรารีบกำจัดทหารพวกนี้แล้วรีบหลบดีกว่า!” นัยน์ตาของผู้อาวุโสเยี่ยนเต็มไปด้วยจิตสังหาร “พวกเราจะเอาแต่ดูอยู่ที่นี่ไม่ได้ จริงอยู่ที่ท่านราชาภูตสั่งให้พวกเราอยู่ที่นี่ แต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ต่างไปแล้ว ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไป ทหารพวกนี้จะต้องหนีไปได้อย่างแน่นอน”

 

พวกเธอไม่อยากเอาแต่รออยู่ที่นี่ แม้รู้ตัวว่าตนเองใช้การไม่ได้ แต่อย่างน้อยขอให้ได้ช่วยอี้เทียนหยุนสักนิดก็ยังดี

 

“ใช่แล้ว พวกเราเข้าไปจัดการพวกทหารหนีตายพวกนี้ ไม่ได้เป็นการผิดคำสัญญา ถ้าเห็นว่าไม่เข้าท่า ก็ให้รีบกลับเข้ามาในทันที!” เย่ชิงเสวียนเห็นด้วยกับความคิดนี้ในทันที มีทหารหลายนายที่หนีออกไปจากป่าภูตแล้ว แม้ว่าความเร็วของขุนพลฟงจะน่าตกใจ แต่ก็ไม่มีทางพุ่งออกไปช่วยได้ทันอย่างแน่นอน

 

ดังนั้น พวกเธอจึงลงมือได้อย่างวางใจ ถ้าเป็นสภาพก่อนหน้านี้ พวกเขาคงไม่กล้ากระทำการที่เสี่ยงอย่างนี้แน่นอน

 

“ไป!”

 

พวกเธอพากันพยักหน้า พร้อมกับพุ่งตัวออกไป พริบตาก็ไปปรากฏตัวที่ด้านนอกชายป่า พร้อมกับลำแสงกระบี่หรือดาบ กระทั่งแสงสะท้อนจากแส้สีเงิน ทำการโจมตีเข้าใส่ทหารพวกนี้จนกระเด็นไป ภายใต้การลงมืออย่างเต็มที่ แม้จะมีบางคนที่ไม่ตายในทันที แต่ก็บาดเจ็บสาหัส

 

หลังจากไล่สังหารมาได้ครึ่งทาง เหล่าทหารที่หนีตายก็พากันหยุดเท้า ไม่กล้าหนีสืบต่อ

 

“สารเลวเอ๊ย ชั่วร้ายจริงๆ ถึงกับลอบโจมตีจากข้างหลังอย่างไม่คาดคิด!” ขุนพลฟงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว เขารู้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่สู้ดี การที่เหล่าทหารรีบถอยไปทันทีเป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้ว ไม่อย่างนั้น พวกเขาจะต้องถูกอี้เทียนหยุนสังหารทิ้งอย่างแน่นอน

 

ด้วยพลังป้องกันที่น่าสะพรึง แม้ว่าเขาจะระเบิดพลังออกมาเต็มที่แล้ว ขาดก็แต่การผลาญแกนโลหิต แต่เขารู้สึกว่าต่อให้ผลาญแกนโลหิตก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเท่าไหร่ เนื่องเพราะเกล็ดของอีกฝ่ายแข็งเกินไป ไม่ว่าจะฟันเข้าไปเท่าไหร่ก็ไม่สะเทือน แล้วการผลาญแกนโลหิตจะช่วยอะไรได้?

 

เขาคำรามออกมาเสียงต่ำ ขณะที่ทั้งร่างต่างเปล่งแสงสีเขียวซีดออกมา พร้อมกับพุ่งออกไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว จริงอยู่ที่เขาทำอะไรอี้เทียนหยุนไม่ได้ แต่ถ้าเขาคิดจะจัดการพวกเย่ชิงเสวียนแล้วล่ะก็ มันกลับง่ายเพียงแค่ฟันฉับเดียว ถือเป็นการระบายความโกรธที่อยู่ในใจไปด้วยในตัว

 

“อาณาจักรใต้พิภพอย่างพวกเจ้ายังมีหน้ามาบอกว่าพวกเราชั่วร้ายอีกอย่างงั้นเหรอ?” อี้เทียนหยุนบินส่ายร่างไปมา พร้อมกับทะยานเข้ามาขวางหน้าเขาในทันที พร้อมกับตวัดกรงเล็บที่แหลมคมเข้าใส่อีกฝ่ายอย่างแรง

 

“บ้าเอ๊ย แหลกไปซะ!” ดวงตาของขุนพลฟงเปล่งแสงสีเขียวออกมา เกล็ดมังกรบนร่างเขาดูชั่วร้ายขึ้น ทำการผลาญแกนโลหิตในทันที และพริบตานี้ พลังรบของเขาก็เพิ่มพรวด กลายเป็น 53 ล้านในทันที

 

แต่ว่าอี้เทียนหยุนไม่สนใจว่าเขาจะระเบิดพลังออกมาหรือเปล่า ยังคงตวัดกรงเล็บลงไปตามเดิม

 

“เปรี้ยง!”

 

พวกเขาต่างก็พากันกระเด็นออกมา ขุนพลฟงดีกว่าหน่อย ตัวเขากระเด็นมาแค่ไม่กี่สิบเมตรเท่านั้น ขณะที่อี้เทียนหยุนกลับปลิวกระเด็นออกไปไกลจนน่าตกใจ ดูแล้วเหมือนกับภูเขากำลังบินอยู่อย่างไงอย่างงั้น

 

ยังไงก็ตาม กระบี่ที่ทรงอำนาจนี้ก็ยังสร้างได้เพียงรอยขีดข่วนให้กับกรงเล็บมังกรนี้เท่านั้น กรงเล็บมังกรนี้แข็งมาก ยากที่จะทำลายการป้องกันของเขามาได้

 

อี้เทียนหยุนในตอนนี้มั่นใจแล้วว่าสามารถรับการโจมตีจากขุนพลฟงได้ นอกเสียจากว่าระดับของอีกฝ่ายจะแข็งแกร่งกว่านี้อีกขั้น ไม่อย่างนั้นเขาสามารถรับมือได้ ชุดเกราะมังกรมารนี้ คุ้มแล้วที่ต้องเสียค่าความชั่วไปถึง 100,000 แต้ม ไม่ว่าจะเป็นพลังโจมตีหรือป้องกัน ล้วนแล้วแต่ป่าเถื่อนด้วยกันทั้งนั้น

 

หลังจากที่ถูกซัดกระเด็นมา เขาก็ได้ทำการหมุนร่างมังกร พร้อมกับกระโดดไปยังด้านข้าง กระแทกร่างใส่ต้นไม้ใหญ่เพื่อหยุด ก่อนที่จะกระโจนเข้าใส่พวกทหาร เพื่อเป็นการก่อกวนขุนพลฟง

 

“สารเลวเอ๊ย!!” ขุนพลฟงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยว นี่มันทำให้เขาโกรธมากจริงๆ เขาทุ่มทุกอย่างออกมาก็แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการมังกรมารตนนี้ การโจมตีของเขาทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย

 

เขาทำได้เพียงมองลูกน้องของตนถูกสังหารโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้ ลูกน้องของเขาในตอนนี้ยิ่งมายิ่งน้อยลงเรื่อยๆ แม้ว่าเขาจะกระโจนเข้าไป ก็ต้องถูกอี้เทียนหยุนขวางไว้ ไม่สามารถช่วยได้อยู่ดี

 

เหล่าทหารที่ถูกขวางทางนี้ ทำได้เพียงถอยกลับเข้าไปในป่า แต่พวกเขาไม่มีใครรู้เลยว่า เมื่อไหร่ที่ย่างเท้าเข้าไปป่า เมื่อนั้นก็เหมือนกับเดินเข้าไปสู่ความตายที่แท้จริง!

 

“ดี ดีมาก เพื่อศักดิ์ศรีของอาณาจักร ข้าต้องฆ่าเจ้าให้ได้!” ขุนพลฟงกัดฟันแน่น พร้อมกับคำรามมาทางอี้เทียนหยุน

 

“ก็มาสิ!” อี้เทียนหยุนเดินอาดๆ เข้าไปในป่า ก่อนที่จะหายไปอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อเย่ชิงเสวียนกับพวกเห็นอย่างนั้น ก็พากันพุ่งเข้าไปในป่าใกล้ๆ ทำให้หลงเหลือพวกทหารอยู่ 2-3 คน แต่ก็จำใจต้องปล่อยไป ก่อนที่จะเข้าไปหมอก พร้อมกับหายไปอย่างรวดเร็ว

 

และในตอนนี้ ขุนพลฟงก็ได้แต่ตกใจ ก่อนที่จะวิ่งตามไป แต่เพิ่งจะออกตัวฝั่งตรงข้ามก็ได้หายไปแล้ว แล้วอย่างนี้จะให้ไล่ตามยังไง?

 

เหล่าทหารที่เหลือกันอยู่ 2-3 คนต่างก็พากันมองหน้ากัน คิดว่าต้องตายซะแล้ว แต่ไม่คิดว่าฝั่งตรงข้ามจะหนีไปซะก่อน

 

“ขี้ขลาด พวกเจ้ามันพวกขี้ขลาด ถ้าเก่งจริงก็ออกมาสู้กับข้าตัวต่อตัวสิ!” ขุนพลฟงร้องคำรามออกมา ในใจรู้สึกหดหู่จนแทบกระอักเลือดออกมา

 

มีทหารเหลืออยู่เพียง 2-3 คน แล้วอย่างนี้จะให้เขาทำลายค่ายกลเพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านของเผ่าภูตได้ยังไง? ด้วยจำนวนที่น้อยจนน่าสมเพชนี้ ต้องตัดต้นไม้ถึงเมื่อไหร่ถึงจะเข้าไปถึงหมู่บ้านของเผ่าภูตกัน?

 

“เจ้าโง่หรือเปล่า ไม่ใช่ว่าเมื่อกี้นี้ข้าก็สู้ตัวต่อตัวกับเจ้าไม่ใช่เหรอ? เจ้าทำอะไรข้าไม่ได้ แต่ยังกล้ามาว่าข้าขี้ขลาด? ถ้าเจ้าเก่งจริงก็เข้ามาสิ จะเอาแต่ร้องตะโกนอยู่ด้านนอกทำไม!” อี้เทียนหยุนที่คืนร่างกลับมาเป็นมนุษย์แล้วมีสีหน้าค่อนข้างซีด

 

นี่คือผลของการผลาญพลังงานมากเกินไป แม้ว่าการโจมตีของฝั่งตรงข้ามจะทำอะไรเขาไม่ได้ แต่เขาก็เสียพลังงานไปเยอะมาก ดังนั้นจึงต้องรีบคืนร่าง พร้อมกับยัดยาฟื้นฟูเข้าไปอย่างรวดเร็ว เพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณในร่างให้กลับมาโดยเร็วที่สุด