ตอนที่ 224 หญิงงามประดุจอสรพิษ 

 

 

น่าอวี้นั่งอยู่เยื้องโต๊ะของเฝิ่งเยี่ยไป๋ที่นั่งติดกับเสา หลังจากนางกลับไปกินยาแล้ว เวลานี้นางรู้สึกดีขึ้นมาก นึกถึงว่าเวลาอาหารเย็นอาจได้เจอกับเฝิงเยี่ยไป๋ ก็เลยนั่งอยู่ตรงนี่้ตั้งนานแล้ว การปล่อยไก่ของโต๊ะพวกเขานั้นนางเห็นหมดแล้ว โดยเฉพาะเฉินยาง นางตอนก่อนดื่มเหล้ากับหลังดื่มเหล้าราวกับเป็นคนละคน ช่างน่าขบขันยิ่งนัก  

 

 

อวี๋เอ๋อร์เติมชาไปด้วยบ่นไปด้วย“ในบ้านพักบนภูเขาตอนเย็นอากาศจะเย็น บ่าวบอกท่านไปหลายครั้งแล้วท่านไม่ฟังบ่าวเลย ถ้ายังถูกลมอีก คนที่ทรมานไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นท่านเองต่างหาก ถ้าท่านอยากจะขอบใจท่านอ๋อง เชิญดื่มเหล้าสักมื้อ หรือมอบของกำนัลสื่อความหมาย ทำอะไรก็ได้ ไม่ต้องมาแอบดูอยู่ที่นี่ ” 

 

 

น่าอวี้ยกมือแล้วดีดไปที่ศีรษะของอวี๋เอ๋อร์ “เราสองคนใครเป็นเจ้านายกันแน่ ข้าให้เจ้ามาสั่งสอนข้าตั้งแต่เมื่อไร” 

 

 

อวี๋เอ๋อร์จับศีรษะ ไม่ได้กลัวนางเลยสักนิด “ใช่เจ้าค่ะ บ่าวไม่กล้า เป็นเพราะบ่าวเป็นห่วงท่านมากเกินไป ถ้าทำให้ฮูหยินรู้เข้า แล้วไปบอกนายท่าน นายท่านจะต้องลงโทษท่านอีกแน่ๆ เลย” 

 

 

น่าอวี้หน้าเข้ม พูดขึ้นมา “เขา? ไม่ใช่เป็นเพราะเขาให้ข้าทำเช่นนี้หรือ ถ้ายังมาโทษข้าอีก ถ้าอย่างนั้นจะให้ข้าไปพูดได้ที่ไหน” 

 

 

เจี่ยงเหว่ยเขาชาตินี้ทำชั่วมากเกินไป จะอย่างไรก็ไม่สามารถมีลูกสาวอย่างนางได้อีกแล้ว นางบอกเขาว่าพ่อนั้นเป็นความโชคดีของเขาแล้ว ตระกูลเจี่ยงของเขา ไม่มีอะไรดีเลย เจี่ยงอี้ที่ตายไปคนนั้นไม่ใช่ เจี่ยงเหว่ยถึงใช่ ฮูหยินเจียงคนนั้นที่กินเจสวดมนต์ทั้งวัน คนเลวทั้งสิ้น ตอนนี้พบเจอคนถามก็ยังบอกว่าตัวเองเป็นลูกสาวตระกูลเจี่ยง ช่างไม่อายคนเสียจริง 

 

 

อวี๋เอ๋อร์ยืนอยู่อีกทางหนึ่ง ถอนหายใจกลัดกลุ้มยิ่งกว่านางเสียอีก “นั่นก็ใช่ว่าจะไม่มีทางออก เบื้องบนสั่งมา ทำดีได้รางวัล ทำไม่ดี ทั้งหมดก็ต้องลงมาไปหายมบาลแล้ว” 

 

 

น่าอวี้หันกลับมาปลอบใจนาง แล้วหันไปมองเฝิงเยี่ยไป๋ “พวกเจ้าสองคนอยู่ต่อไปไม่ได้ ก็ต้องหาต้นไม้ใหญ่พักพิง คนที่จะทำให้สวรรค์กลัวได้ อย่างเขาน่าจะมีจุดที่เหนือมนุษย์”  

 

 

“ที่ท่านคิดคือ…” อวี๋เอ๋อร์รีบปฏิเสธความคิดที่อยู่ในหัวนางออกไป“ไม่ได้ๆ ชีวิตน้อยๆ ของเราอยู่ในกำมือฝ่าบาทหมดแล้ว ท่านลืมความเจ็บไข้ได้ปวดของท่านไปแล้วหรือ ไม่ได้ บ่าวจะไม่รับปาก ถ้าท่านเป็นอะไรไป ไม่ได้มีเจตนาให้บ่าวต้องจบชีวิตนี้หรือ” 

 

 

“พวกเขามองว่าเป็นคนป่วย ไม่ออกไปไหนเลยไม่รู้เรื่องอะไร แต่กระดาษห่อไฟไว้ไม่ได้ สิ่งที่ไอ้สารเลวเจี่ยงเหว่ยทำไว้ ข้าจดจำแทนยมบาลแล้ว ลูกชายของเขาตายไปแล้ว เขายังจะเล่นอยู่อีกหรือ” 

 

 

เจี่ยงอี้ก็เป็นเหมือนกระเป๋าฟางใบหนึ่ง นอกจากจะกินเล่นเที่ยวไปวันๆก็ทำอะไรไม่เป็นเลย ไม่เพียงแต่เท่านี้ ยังทำให้แผนของนางล้มมาหลายครั้งแล้ว ฮูหยินของเจี่ยงเหว่ยคนนั้นรักลูกชายคนนี้มาก นางจะไม่มีวันลงมือทำเจี่ยงเหว่ย แต่นางทำไม่ได้ มีบางคนกลับอยากจะฆ่าเขากับมือตัวเอง นางก็แค่มีน้ำใจตามสถานการณ์ก็แค่นั้น 

 

 

ถ้าจะจับจุดอ่อนของเจี่ยงเหว่ยก็ช่างง่ายเสียจริง มอมเหล้าเขาไม่กี่แก้ว นั่งที่ตัก พูดคำหวานกับเขาไม่กี่คำ อย่างไรก็ผู้ชาย ทนไม่ได้กับคำหวาน โดยเฉพาะกับคำพูดหวานๆของผู้หญิง สองสามประโยคก็ทำให้เขามึนไปได้ ไม่รู้จักทิศทาง หลังจากนั้นจะถามอะไรก็เป็นเรื่องง่ายแล้ว มีอะไรให้เป่าก็เป่าอันนั้น ไม่ต้องใกล้ชิดมากก็หาได้ ทั้งเรื่องการทหาร ไม่ต้องรอให้นางถาม ตัวเขาเองก็บอกมาจนหมด 

 

 

ในเมื่อแม้แต่เขาเองก็ไม่รักชีวิตตัวเองง ถ้าอย่างนั้นมีอะไรที่นางจะต้องอ่อนข้อให้ ข่าวสารกระจายไปทั่ว ยืมมือคนอื่นฆ่า ทำให้ตัวเองขาวสะอาดสะอ้าน ก่อนหน้านั้นนางยังเป็นกังวลว่าตัวเองจะสั่น แต่ว่าเจี่ยงเหว่ยผู้ซึ่งมุทะลุคนนี้ แก้แค้นอย่างใจร้อน ไม่นานก็ฆ่าคนตาย ก็ดี ทำให้นางสะดวกไปเยอะ