บทที่ 829 รับหน้าที่คนงาม / บทที่ 830 โชคไม่เลว

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 829 รับหน้าที่คนงาม

เยี่ยหวันหวั่นเหล่มองบล็อกนั้น ปลายนิ้วเคาะโต๊ะชาเป็นจังหวะ

หลังออกจากกวงเย่า จุดทะลวงแรกของเธอก็คือที่นี่…

การถ่ายปกนิตยสาร…

เธอจะอาศัยสิ่งนี้…พลิกคำวิจารณ์ของมวลชน!

หลังจากบนโลกออนไลน์กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ แพลตฟอร์มของสื่อเอกชนใหญ่ต่างๆ ก็เริ่มโผล่ขึ้นมา ยุคสมัยที่สื่อใหญ่ควบคุมคำวิจารณ์ของมวลชนได้ผ่านไปนานแล้ว นอกเสียจากว่าจะใช้อำนาจระดับชาติ ซึ่งเบื้องหลังของโกลบอลก็ไม่ได้ถึงขั้นนั้น

ดังนั้นหากโกลบอลอยากใช้มือเดียวปิดฟ้า ควบคุมคำวิพากษ์วิจารณ์ของมวลชน กระทั่งว่าอยากแบนพวกเขา ก็เกรงว่าจะหมดหวังแล้ว

นี่คือยุคสมัยที่ไม่ว่าใครก็อาจกลายเป็นดาราได้

ต่อให้เป็นคนขายเต้าฮวยข้างทาง ก็อาจดังเป็นพลุแตกได้เพราะภาพใบเดียว อยู่ที่ว่าคุณจัดการและคว้าโอกาสได้หรือเปล่า…

“อ้ากกก โกรธเป็นบ้าเลย ฉันจะล็อกอินเวยป๋อไปด่าเจ้าบัดซบพวกนั้นให้ตายเดี๋ยวนี้แหละ! ฉันถูกใจหมูก็ไม่มีทางถูกใจยายอัปลักษณ์นั่นหรอก!” กงซวี่โกรธจนแทบจะฉีกแขนเสื้อขาด

ลั่วเฉินที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วเอ่ย “เรื่องอย่างนี้ ต่อให้นายล้างมลทินไปก็เปล่าประโยชน์ ยังไงซะพอนายปรากฏตัว ก็จะยิ่งเพิ่มความร้อนแรงกว่าเดิม ด้วยจุดยืนของพวกเรา พูดอะไรไปก็ไม่มีใครเชื่อ”

เยี่ยมู่ฝานพยักหน้า “ใช่แล้ว กงซวี่นายใจเย็นหน่อย ตอนนี้ไช่หย่งเซิ่งกำลังอยากให้นายขึ้นไปขยี้เขาเชียวละ!”

กงซวี่โกรธจนตาแดงแล้ว “งั้นหรือว่าจะไม่ทำอะไรเลย? แค่เห็นชื่อของฉันอยู่กับชื่อผู้หญิงคนนั้นก็คลื่นไส้แล้ว!”

ทั้งสามคนเถียงกันอยู่สักพัก จากนั้นทั้งหมดก็หันไปมองชายหนุ่มตรงกลางโซฟาตามสัญชาตญาณ…

เห็นแค่ว่าเยี่ยหวันหวั่นยังคงสูงส่งสง่างาม ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ขมวดคิ้วสักนิด ดูท่าทางเขาเหมือนกำลังรออะไรบางอย่าง

ลั่วเฉินมองดวงตาของชายหนุ่ม เหมือนกับเห็นหมู่ดาวเต็มฟ้าขยับวิบวับ ใจที่ร้อนรนของเขาสงบลงอย่างน่าประหลาด…

กงซวี่บ่นงึมงำว่า “พี่เยี่ย ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ สองคนนี้บอกอันนี้ก็ไม่ได้ อันนั้นก็ไม่ได้ ผมคิดวิธีไม่ออกแล้วจริงๆ…”

“ไม่ต้องรีบ ใกล้แล้ว” เยี่ยหวันหวั่นพูดจบก็เหลือบมองกงซวี่แวบหนึ่ง จากนั้นเอ่ยกลั้วหัวเราะเบาๆ “ด้วยไอคิวของนาย ไม่ต้องคิดปัญหาซับซ้อนอย่างนั้นหรอก แค่รับหน้าที่คนหน้าตาดีก็พอ”

กงซวี่ชะงัก ก่อนที่สองแก้มจะแดง หูร้อนผ่าวอย่างหาได้ยาก หัวใจที่อัดอั้นปลอดโปร่งในพริบตา เขากุมแก้มพลางพุ่งเข้าไปหา “พี่เยี่ย แต่งงานกับผมเถอะ!”

ช่างรู้สึกพึ่งพาได้เหลือเกินว่าไหม!

เยี่ยมู่ฝานหน้าดำเหมือนก้นหม้อทันที รีบสาวเท้าเข้าไปขวางกงซวี่ไว้อีกอย่างชำนาญ…

เยี่ยมู่ฝานขวางกงซวี่ที่ร้องโวยวายไว้โดยไม่มีช่องโหว่ และมองค้อนน้องสาวตัวเองอย่างปวดหัวเหลือแสน พอได้แล้ว! ทำตัวเท่ให้น้อยๆ หน่อยเถอะ! เป็นแบบนี้ต่อไปจะทำคนเขาเบี่ยงเบนเอาจริงๆ แล้ว!

ขณะที่กำลังวุ่นวาย เสียงโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่นก็ดังขึ้น

เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ ก่อนจะรับสาย “ฮัลโหล หัวหน้าบ.ก.ไฉ?”

เสียงผู้ชายที่ดังมาจากปลายสายเหนื่อยหอบเล็กน้อย “รองประธานเยี่ย…ไม่สิ ขอโทษที คุณเยี่ย คุณว่าคุณมีวิธีทำให้ยอดขายนิตยสาร ‘VIVI’ ของพวกเราเหนือกว่า ‘ซิ่วเซ่อ’ ได้ เรื่องจริงเหรอครับ?”

เยี่ยหวันหวั่นตอบ “แน่นอน”

ปลายสายเงียบไปชั่วขณะ แล้วจึงกล่าว “จริงๆ ให้กงซวี่ขึ้นปกนิตยสารพวกเราน่ะไม่มีประโยชน์สักนิดเดียว ผมยอมรับว่าเรื่องของหยางลู่ซีบวกกับเรื่องที่กงซวี่ยกเลิกสัญญากะทันหันกับโกลบอลทำให้เขาโด่งดังขึ้นมาก แต่นี่ไม่พอทำให้ยอดขายของพวกเรามากกว่า ‘ซิ่วเซ่อ’!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ผมไม่ได้พูดสักหน่อยว่ามีกงซวี่คนเดียว”

หัวหน้าบรรณาธิการไฉนึกไม่ถึงเล็กน้อย “หมายความว่ายังไงครับ คุณหมายถึงว่าฝั่งเราก็จะถ่ายรูปคู่? แต่…นักแสดงหญิงล่ะจะเลือกใคร ไม่ว่าเป็นใคร ก็ไม่มีทางดังไปกว่าหยางลั่วซี่ในตอนนี้หรอกมั้ง แถมยังได้เสียงตอบรับด้านลบง่ายด้วย…”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอีก “นักแสดงหญิง? เปล่าเลย”

หัวหน้ากองบรรณาธิการไฉถาม “งั้นเป็นใคร…”

เยี่ยหวันหวั่นตอบ “ลั่วเฉิน”

————————————————————–

บทที่ 830 โชคไม่เลว

ไฉหย่งหลีที่ปลายสายตะลึงงัน จากนั้นขมวดคิ้วแน่น “ลั่วเฉิน? คุณจะให้ผู้ชายสองคนขึ้นปกด้วยกัน? คุณเยี่ย พวกเราเป็นนิตยสารแฟชั่นที่ผู้อ่านหลักเป็นเพศหญิงนะ ตั้งแต่ที่ตีพิมพ์ปกมาส่วนใหญ่เราใช้ศิลปินหญิง ยังไม่เคยพิมพ์ปกศิลปินชายด้วยกัน”

ไฉหย่งหลีมองแค่ว่าเยี่ยหวันหวั่นอยากให้ศิลปินในสังกัดอีกคนได้รับงาน จึงเสนอแผนที่น่าขันนี้มา เขาไม่พอใจความไม่เป็นมืออาชีพของอีกฝ่ายมากอย่างเลี่ยงไม่ได้

เยี่ยหวันหวั่นก็คาดเดาข้อสงสัยของไฉหย่งหลีเอาไว้แล้ว จึงหัวเราะอย่างไม่ถือสา “หัวหน้าบรรณาธิการไฉ ตอนนี้การเสพสื่อชายรักชายเป็นกระแสหลักแล้ว แถมคนอ่านงานของคุณส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง การจับคู่แบบนี้ บางทีอาจจะออกมาร้อนแรงอย่างคาดไม่ถึงก็ได้นะ?”

สิ่งที่เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้พูดคือ ยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่ทั้งใหญ่ทั้งบ้าคลั่งอีกกลุ่มหนึ่งซุกซ่อนอยู่ในนั้น…

วงการบันเทิงตอนนี้ไม่อาจคาดเดาได้เลย อนาคตตลาดกลุ่มนี้จะมีอิทธิพลขนาดไหนกัน…

เยี่ยหวันหวั่นกำลังจะพูดต่อ แต่เวลานี้ที่ปลายสายของไฉหย่งหลีมีเสียงเร่งร้อนของผู้หญิงดังขึ้น…

“หัวหน้าบ.ก. ถ้ายังไม่เลือกคน ฉบับนี้ต้องปล่อยหน้าว่างแล้วนะคะ!”

“ภาพที่ผมให้คุณเลือกเตรียมไว้ล่ะ?”

“ไม่ได้หรอกค่ะหัวหน้า คุณภาพแย่เกินไป ใช้ไม่ได้…ทำยังไงดี ฉบับนี้ต้องถูก ‘ซิ่วเซ่อ’ นำอีกแน่! เฮ้อ…แต่ที่สำคัญกว่าคือต้องรีบจัดการหน้าปกของฉบับนี้ ยอดขายอะไรนั่นคงต้องเอาไว้ครั้งหน้าแล้ว!”

ผ่านไปสักพัก ไฉหย่งหลีไม่รู้พูดอะไรกับลูกน้อง ต่อมาถึงเข้าสายอีกครั้ง “คุณเยี่ย พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะรีบถ่ายทันที ได้หรือเปล่า”

เยี่ยหวันหวั่นตอบ “แน่นอนครับ”

หลังจากวางสาย สีหน้าเยี่ยหวันหวั่นผ่อนคลายลงเล็กน้อย เดิมทีเธอนึกว่ายังต้องเสียเวลายุ่งยาก แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าได้ประหยัดเวลาแล้ว

นักแสดงหญิงที่แต่เดิม ‘VIVI’ นัดหมายไว้กลับเบี้ยวนัด ส่งผลให้พวกเขาต้องหาคนแทนชั่วคราว

ถ้าจะหานิตยสารอื่นมาร่วมมือก็ย่อมได้ แต่อิทธิพลของนิตยสารเหล่านั้นห่างชั้นจากอิทธิพลของ ‘VIVI’ มาก

สถานที่แก่งแย่งชิงดีของดาราในปัจจุบัน นอกจากบนพรมแดงกับกองบทละครโทรทัศน์แล้ว หากไม่ได้ขึ้นปกสื่อนิตยสารใหญ่ๆ ก็จะส่งผลต่อจุดยืนในโลกแฟชั่นของดารา

ในวงการแฟชั่น หัวหน้าบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่นชั้นนำแทบจะครองอำนาจสูงสุดเหนือใคร ดีไซเนอร์ นางแบบและนายแบบที่พวกเขาแนะนำจะโด่งดังอย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นเครื่องมือดีที่ช่วยยกระดับเหล่าดารารวมถึงสร้างรูปลักษณ์ให้กับแบรนด์

เดิมทีนิตยสารอย่าง ‘VIVI’ โอกาสที่จะได้ถ่ายรูปขึ้นปกมีน้อยเสียยิ่งกว่าน้อยจนดาราแย่งกันชนิดหัวร้างข้างแตก ไม่มีทางที่ดาราคนไหนจะกล้าลอยแพพวกเขา ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะหลุดรอดมาถึงมือเธอ

แต่ปัจจุบันนี้การแข่งขันในวงการแฟชั่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ ‘VIVI’ จะฝังรากลึกอยู่ในนั้น แต่ด้วยแนวคิดที่ล้าสมัยเกินไป หลายปีมานี้จึงเริ่มค่อยๆ ก้าวสู่ขาลง รักษาตำแหน่งไม่อยู่นานแล้ว วงการแฟชั่นในตอนนี้จึงรู้จักแค่ ‘ซิวเซ่อ’..

หลังจากวางสาย เยี่ยหวันหวั่นมองนักแสดงทั้งสองคนของตัวเอง ภาพลักษณ์ขัดแย้งกัน นิสัยก็ต่างกันสุดขั้ว

คนหนึ่งเย่อหยิ่งเอาแต่ใจ เพี้ยนและบ้องตื้น อีกคนใจเย็นเก็บตัว นิสัยเยือกเย็น

อืม เมื่อก่อนทำไมเธอถึงไม่รู้สึกนะ?

สองคนนี้…เหมือนคู่จิ้นกันมาก…

กงซวี่ถูกมองจนขนลุกซู่ อดบ่นพึมพำไม่ได้ “เอ่อ พี่เยี่ย พี่มองอะไรน่ะ สายตาแปลกๆ นะ…”

เยี่ยหวันหวั่นกระแอมไอ เก็บสายตา ก่อนเอ่ยย้ำเตือนว่า “พวกนายสองคนเตรียมตัวกันสักหน่อย คืนนี้นอนเร็วอย่าอยู่ดึกนัก พรุ่งนี้เช้าพวกเราจะไปถ่ายปกนิตยสาร ‘VIVI’ กัน”

………………………….