กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 738
เซี่ยวอวี่เซวียนขวี้ยงทวนไปเกิดเสียงดังตุ๊บปักไปบนพื้นอย่างแรง

น้ำหนักนั้นมากมายจนทำให้พื้นดินแตกร้าวไปหมด

ทวนจมลงไปในพื้นหลายชุ่นและด้ามหอกก็แกว่งตามแรงลมไปมาในด้วยความสั่น

เซี่ยวอวี่เซวียนหันหลังจากไป เขาเดินอย่างสง่าผ่าเผยโดยที่ไม่ได้ทิ้งน้ำตาไว้เลยแม้แต่หยดเดียว

แต่ว่าทำให้คนปวดใจอย่างไร้ซึ่งเหตุผล

แผ่นหลังอันเย็นยะเยือกที่จากไปท่ามกลางสายฝนประทับอยู่ในจิตวิญญาณของกู้ชูหน่วนอย่างล้ำลึก

ดูเหมือนว่าสวรรค์จะทรงทราบถึงความโศกเศร้าของนาง ไม่เพียงแต่สายฝนตกหนักไม่หยุดแต่ยิ่งอยู่กลับยิ่งตกหนักขึ้นเรื่อยๆราวกับว่าสายฝนนานหลายปีจะตกลงมาจนหมดในช่วงเวลานี้

“เสียงฝนตก……”

ฝนตกหนักทำให้หลังของเซี่ยวอวี่เซวียนที่ห่างไกลออกไปขุ่นมัวและทำให้ดวงตาของนางพล่ามัวไปด้วย

ขาทั้งคู่ของกู้ชูหน่วนอ่อนแรงและคุกเข่าลงมาเลยโดยตรง

นางกุมหัวใจของตนไว้แน่น ตรงนั้นเจ็บปวดทรมานจนนางหายใจไม่ออก

มิตรภาพอันลึกซึ้งกับเซี่ยวอวี่เซวียนได้หายไปในชั่วขณะนี้จนกระทั่งแตกหักกลายเป็นศัตรูกัน

นางไม่รู้ว่านางทำเช่นนี้ถูกต้องหรือไม่

นางเพียงแค่หวาดกลัวนัก……

ช่างหวาดกลัวยิ่งนัก……

“นายท่าน……”

ฝูกวงเร่งมาพร้อมกับทหารอารักขากลุ่มหนึ่ง

เมื่อมาถึงก็เห็นกู้ชูหน่วนคุกเข่าอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง มือข้างหนึ่งกุมหัวใจเอาไว้แน่นและมืออีกข้างหนึ่งยันอยู่บนพื้นโดยที่ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุดและไม่รู้ว่ารู้สึกหนาวเย็นหรือเปล่า

แววตาที่สิ้นหวังและเศร้าเสียใจเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยเห็นในตัวนายท่านมาก่อน

ฝูกวงรีบถอดเสื้อคลุมของตนออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นสวมบนร่างกู้ชูหน่วนโดยงอขาทั้งคู่และคุกเข่าอยู่ตรงหน้านาง

“นายท่าน……”

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นและสิ่งที่ประทับเข้ามาในแววตาคือความวิตกกังวลมากมายที่ไม่สามารถปกปิดได้บนใบหน้าอันอ่อนโยนงดงามสะอาดสะอ้านของฝูกวง

นางกล่าวเสียงสั่นว่า “เซี่ยวอวี่เซวียน……ไปแล้ว……เขาจะไม่กลับมาอีกแล้วและจะไม่ยกโทษให้ข้าด้วย”

ดวงตาของฝูกวงแดงขึ้นมา ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่แต่ก็ยังคงยิ้มพร้อมปลอบโยนว่า “คุณชายเซี่ยวมีมิตรภาพอันลึกซึ้งกับท่านยิ่งนักเขาจะทิ้งท่านไปได้อย่างไร จวนท่านแม่ทัพเกิดปัญหาสาหัสสากรรจ์เขาอาจจะยังยอมรับไม่ได้ชั่วขณะ รอให้เขาสงบใจเย็นลงก็จะปฏิบัติต่อท่านดังเช่นดังเดิมเป็นแน่”

ใช่หรือ……

เป็นไปได้หรือที่เขาจะกลับมาอีก?

เป็นไปได้หรือที่จะให้อภัยนาง?

เป็นไปไม่ได้แล้ว

เซี่ยวอวี่เซวียนดูราวกับหนุ่มเจ้าสำราญและเกกมะเหรกเกเร

แต่เขา……มีขีดจำกัดของตนเอง……

หากว่าตระกูลเซี่ยวไม่ได้ถูกกำจัดจนสิ้นซากทั้งตระกูลเช่นไรเซี่ยวอวี่เซวียนก็ไม่มีทางแตกหักกับนาง

ช่างน่าเสียดาย……

ทั้งตระกูลสามร้อยกว่าชีวิตตายกันหมด……

ตายหมดสิ้นเสียแล้ว……

ในเวลาที่เขาต้องการมากที่สุดนางไม่เพียงแต่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนเขา แต่ยังช่วยเหลือศัตรูผู้ฆ่าสังหารญาติมิตรของเขาอีกด้วย……

ความโกรธเคืองนี้ใช่ว่าจะสามารถคลายออกได้ด้วยคำพูดไม่กี่คำ

“นายท่าน หานอ๋องอยู่ด้านนอกของจวนท่านแม่ทัพ หรือว่า……จะให้เขาเข้ามาหรือ?”

“ไล่เขาไป ข้าไม่อยากพบผู้ใดทั้งนั้น”

กู้ชูหน่วนลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลและเดินโซเซไปด้านหน้า

ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง กู้ชูหน่วนเดินอยู่ท่ามกลางสายฝนเพียงลำพังอย่างไร้จุดหมาย ราวกับเด็กที่ถูกทอดทิ้งจากสรวงสวรรค์

ฝูกวงปวดใจนัก

ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้นายท่านพบเจอความเจ็บปวดมากมายยิ่งนัก

เขาต้องการตามไปแต่เขารู้ว่าในเวลานี้นายท่านไม่ต้องการให้มีคนตามไปเป็นแน่

จึงทำได้เพียงกล่าวอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ข้าน้อยจะรีบส่งคนไปตรวจสอบฆาตกรตัวจริงผู้อยู่เบื้องหลังการฆ่าล้างจวนท่านแม่ทัพในทันที”

กู้ชูหน่วนหัวเราะเสียงเบาเสียงหนึ่ง

ตรวจสอบ?

จำเป็นต้องตรวจสอบหรือ?

นอกจากรองหัวหน้าเผ่าซือคงแล้วจะมีผู้ใดที่มีความสามารถให้ลั่วอิ่งฆ่าสังหารตระกูลท่านแม่ทัพหมดทั้งตระกูลได้?

กู้ชูหน่วนไม่ได้มองย้อนกลับเพียงแค่จากไปอย่างล้มลุกคลุกคลานและโซซัดโซเซ

ฝูกวงมองกู้ชูหน่วนแล้วมองฝูกวงกลับพร้อมทั้งซากศพกองเต็มพื้นดิน

ท้ายที่สุดก็โบกมือให้คนนำผู้ที่เสียชีวิตในจวนท่านแม่ทัพไปฝังเสียก่อน

ลั่วอิ่งใช้ดาบยันพร้อมกับลุกขึ้นมาด้วยความยากลำบาก ท่ามกลางสายฝนตกหนักเขาก็เดินโซเซเช่นเดียวกันโดยเดินตามกู้ชูหน่วนไปอย่างไม่ห่าง

ในป่า

คนผู้หนึ่งในชุดสีแดงซึ่งเป็นหญิงสาวพร้อมด้วยรอยบาดแผลราวกับได้สูญเสียจิตวิญญาณไปแล้วเช่นนั้นและยังคงเดินอย่างไร้ซึ่งจุดหมาย

ด้านหลังเขาตามด้วยชายชุดดำผู้หนึ่งซึ่งเป็นชายหนุ่มเยือกเย็นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกัน

ห่างออกไปสิบเมตรยังมีชายหนุ่มชุดฟ้าเดินตามอยู่อย่างลับๆ

ชายหนุ่มชุดฟ้าหน้าตาหล่อเหลา ทั่วทั้งร่างกายเปล่งประกายกลิ่นไออันสูงส่งอย่างไม่สามารถขัดขืนได้

นัยน์ตาคู่เหลืองอำพันของเขาสะท้อนสีแดงสดซึ่งไร้สิ้นหนทาง เจ็บปวดรวดร้าว เศร้าโศกเสียใจ……

เยี่ยจิ่งหานต้องการอยู่เป็นเพื่อนนาง เช่นไรในคุกของเผ่าเพลิงฟ้าคำพูดที่ไร้เยื่อใยของนางยังคงตราตรึงอยู่ในใจ

เยี่ยจิ่งหานไม่มีความกล้าที่จะก้าวไปด้านหน้าจึงทำได้เพียงอยู่เป็นเพื่อนอย่างลับๆ เจ็บตามความเจ็บของนางอย่างลับๆ ปวดและปวด……

เป็นเวลานาน……

ในที่สุดกู้ชูหน่วนก็หยุดลง

ลั่วอิ่งก็หยุดลงตามไปด้วย

หน้าหนึ่งหลังหนึ่งโดยไม่ได้กล่าวสิ่งใดต่อกันเลยแม้แต่คำเดียว นอกจากเสียงฟ้าผ่าฟ้าร้องและเสียงฝนตกหนักแล้วในป่าก็ไม่มีเสียงใดอีกเลยแม้แต่น้อย

ท้ายที่สุดเสียงแหบแห้งของกู้ชูหน่วนเริ่มขึ้นอย่างเบาราวกับว่ากำลังพูดคุยกับตนเองอยู่

“เจ้าไม่ควรจะอธิบายกับข้าสักหน่อยหรือ?”

ลั่วอิ่งอ้าปากค้างอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากเดินไปได้ซักพักจนเขาเกือบจะใช้กำลังที่เหลืออยู่จนหมดสิ้น

ร่างกายก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป ลั่วอิ่งนั่งลงบนลำต้นของต้นไม้และคำพูดอันเย็นชาก็ค่อยๆดังขึ้นจากปากของเขา

เขาพูดจาน้อยนัก เมื่อพูดจาขึ้นก็ตะกุกตะกักติดขัดอยู่บ้าง

“เป็นนายท่าน……ที่ให้ข้าสังหารจวนแม่ทัพให้สิ้นซาก”

“หึ……เขาให้เจ้าฆ่าเจ้าก็ฆ่า? แล้วตอนนี้เจ้าตามข้ามาทำอะไร? รู้สึกเสียใจหรือ? หรือว่าเกิดมีมโนธรรมขึ้นมาแล้ว?”

“จักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่ถูกเขา……ถูกเขาจับตัวไว้……หากข้าไม่สังหารตระกูลเซี่ยวทั้งตระกูลนายท่านจะสังหารจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่”

เดิมทีเขาก็เป็นเพียงเครื่องมือสังหารผู้หนึ่งเท่านั้น

นายท่านให้เขาสังหารผู้ใดเขาก็สังหารผู้นั้น

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาฝ่าฝืนคำสั่งของนายท่าน

แต่……

นายท่านจับตัวจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่เป็นตัวประกัน

นั่นเป็นผู้เดียวในชั่วชีวิตนี้ที่เป็นผู้ที่ให้ความอบอุ่นแก่เขา

ไม่รู้เนื่องด้วยเหตุใดเขาไม่ต้องการเห็นพวกเขาตาย

ดังนั้นเขาจึงได้รับปาก……

เขาฆ่าล้างสังหารคนของจวนท่านแม่ทัพ

แต่เขาไม่ได้สังหารเซี่ยวอวี่โหลวกับเซี่ยวหว่านเอ๋อร์และคนอื่นๆ

สิ่งเหล่านั้นเป็นฝีมือของลูกน้องของเขา……

ลั่วอิ่งถอนหายใจด้วยความเจ็บปวดทรมาน

เขาเป็นคนพาคนบุกสังหารเข้าไปในจวนท่านแม่ทัพ ลูกน้องของเขาสังหารก็เท่ากับเขาเป็นผู้สังหาร……

เขาไม่มีสิ่งใดโต้เถียงได้

“เจ้าสังหารข้าเสียเถอะ”

ลั่วอิ่งหลับตาลงและเต็มใจที่จะตายด้วยน้ำมือของนาง

“พรึ่บๆๆ……”

กู้ชูหน่วนตบทั้งซ้ายขวาอยู่ข้างหูเขาหลายสิบครั้งติดต่อกัน เสียงตบดังกระจ่างชัดขึ้นในคืนฝนตก

“เจ้าสมควรตายอย่างแน่นอน มือของเจ้าเต็มไปด้วยชีวิตคนสามร้อยยี่ห้าชีวิตของตระกูลเซี่ยว เจ้าคิดว่าหนึ่งชีวิตของเจ้าสามารถชดใช้ได้หรือเปล่า?”

ปรากฏเลือดไหลตรงมุมปากของลั่วอิ่ง

ฟันสองซี่ถูกนางตบจนร่วงลงมา

เขาไม่เก่งเรื่องการพูดจา

เหตุผลที่เขาตามกู้ชูหน่วนออกมา ประการแรกเนื่องจากเขาไม่สามารถสังหารเซี่ยวอวี่เซวียนได้เขากลัวว่านายท่านจะกระทำไม่ดีต่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่จึงต้องการขอความช่วยเหลือจากกู้ชูหน่วน

ประการที่สองเนื่องจากกู้ชูหน่วนกล่าวว่าจักรพรรดิและจักรพรรดินีแห่งรัฐฉู่เป็นพ่อแม่ของเขา เขาต้องการถามให้กระจ่างชัดว่าพวกเขาเป็นพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขาจริงหรือไม่

ประการที่สามเนื่องด้วยกู้ชูหน่วนเพื่อเขาแล้วยอมที่จะแตกหักกับเซี่ยวอวี่เซวียน เขาไม่รู้ว่าเหตุใดกู้ชูหน่วนถึงได้ดีกับเขาเช่นนั้น

ลั่วอิ่งหมองหม่นลง

คำพูดเต็มอกถูกอัดอั้นกลับไปทั้งหมดโดยให้กู้ชูหน่วนระบายอารมณ์ออกมาตามใจหมาย

เยี่ยจิ่งหานหายใจเร็วขึ้น รู้สึกเจ็บปวดใจต่อมือที่กู้ชูหน่วนตบจนแดงไปหมด

มือสังหารผู้หนึ่งตายไปก็ไม่น่าเสียดาย แต่เพื่อตบตีเขาจนมือของนางแดงไปซะหมดแล้ว……

“แม้ว่าเจ้าจะถูกดาบฟันนับพันนับหมื่นเจ้าก็ไม่สามารถชดใช้สามร้อยกว่าชีวิตของตระกูลเซี่ยวได้”

ลั่วอิ่งไร้กำลังโต้เถียง

“เจ้าต้องการช่วยจักรพรรดิฉู่กับพระมเหสีฉู่?”

“ใช่” ลั่วอิ่งเปล่งประกายความหวังขึ้น

กู้ชูหน่วนฉายเจตนาสังหารออกมา “งั้นก็ช่วยข้า สังหารเจ้าเดรัจฉานรองหัวหน้าเผ่าซือคงซะ”