เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวหงอี้ บรรดาสาวใช้ก็ตระหนักมากขึ้นถึงสถานะของถังซีในตระกูลเซียว ดูเหมือนว่าพวกเธอต้องไม่ยุ่งกับหญิงสาวคนนี้ ลือกันว่าเซียวหงลี่กับครอบครัวปฏิบัติต่อเธอดียิ่งกว่านี้อีก และคุณปู่เซียวก็รักเธอมากเช่นกัน พวกเธอต้องระมัดระวังอย่างมากเมื่ออยู่ต่อหน้าคุณหนูเซียวโหรว
ถังซีรู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินเซียวหงอี้พูดเช่นนี้ เธอส่ายศีรษะหลังจากอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่ต้องหรอกค่ะ ขอบคุณนะคะ เดี๋ยวหนูแวะซื้อตอนขากลับก็ได้ค่ะ”
เซียวหงอี้พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วส่งบัตรสีดำให้ถังซี “เอาบัตรนี้ไปใช้ซื้อของที่หนูต้องการ รหัสผ่านคือวันเดือนปีเกิดของหนู”
ถังซีเลิกคิ้ว คงจะเป็นวันเดือนปีเกิดของเซียวโหรว โชคดีที่เธอรู้วันเกิดเซียวโหรวจากบัตรประชาชนของเธอ ถังซีรับบัตรสีดำนั้นมาโดยไม่ลังเล และตอบว่า “ขอบคุณค่ะพ่อ”
เธอมีเงินสามล้านหยวนอยู่แล้ว แต่นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับการก่อตั้ง ‘เดอะควีน’ ดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ใช้เงินสามล้านหยวนไปทำอย่างอื่น
เซียวหงอี้ดีใจที่เห็นว่าเธอเต็มใจที่จะใช้เงินของครอบครัวเขา
…
เมื่อมาถึงเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุป ถังซีก็ขอให้คนขับรถกลับไปก่อน โดยบอกว่าเธอจะอยู่ที่นี่อีกนาน ดังนั้นเธอจะนั่งแท็กซี่กลับเอง หลังจากลงจากรถถังซีก็โทรหาเฉียวเหลียง ก่อนจะสวมหมวกและหน้ากาก
ขณะรับโทรศัพท์ถังซีเฉียวเหลียงรู้สึกประหลาดใจ แต่ดวงตาเขาเปี่ยมไปด้วยความสุขและความรัก “ผมกำลังจะเข้าประชุม คุณไปนั่งรออยู่ที่ห้องทำงานผมก่อน ผมจะพาคุณไปดูสตูดิโอของคุณหลังจากการประชุม”
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ฉินซินหยิ่งทำกับเธอ ถังซีก็เลิกคิ้ว “ฉันจะประกาศสงครามกับใครบางคน ดังนั้นฉันต้องการให้เธอเห็นคุณมารับฉัน คุณจะลงมารับฉันที่ชั้นล่างไหม”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงวางอำนาจเฉียวเหลียงก็หัวเราะและส่ายศีรษะ เขาชอบเห็นเธอหึง เขากล่าวว่า “รอแป๊บเดียว” แล้วโทรบอกเลขานุการ “เลื่อนการประชุมออกไปสิบนาที”
เขาถามเธอว่า “คุณอยู่ตรงไหน ผมจะไปรับคุณ”
“ฉันยืนอยู่ข้างแปลงดอกไม้ด้านนอกอาคาร ฉันต้องการให้คุณลงมารับฉันด้วยตัวเอง” ถังซีวางสายโทรศัพท์ เงยหน้าขึ้นมองอาคารที่ทำการเฉียวอินเตอร์แนชันนัลกรุปด้วยรอยยิ้มบางๆ “ฉินซินหยิ่ง เธอจะคิดยังไงน้า ถ้าเห็นเฉียวเหลียงเลื่อนการประชุมเพียงเพื่อมารับฉันด้วยตัวเอง”
สองนาทีต่อมา เฉียวเหลียงในชุดสูทอย่างเป็นทางการก็ปรากฏตัวที่ทางเข้าอาคาร เขาอดมองถังซีด้วยความรักไม่ได้ ก่อนจะส่ายศีรษะแล้วเดินเข้าไปหา จากนั้นเขาก็ลูบศีรษะเธอด้วยความเสน่หา “ไปกันเถอะ ราชินีของผม”
ถังซีนั่งอยู่ข้างแปลงดอกไม้ เงยหน้าขึ้นมองเฉียวเหลียง เมื่อเห็นเขาเดินมาหาด้วยรัศมีเปล่งประกายเจิดจ้าเธอก็ตกอยู่ในภวังค์ ผู้ชายคนนี้หล่อจริงๆ! คนรักของเขาช่างโชคดีจริงๆ! เมื่อเห็นถังซีอยู่ในอาการเคลิบเคลิ้ม เฉียวเหลียงก็ดึงตัวเธอขึ้นมา โอบแขนรอบเอวเธอโดยอัตโนมัติ และกระซิบถามเบาๆ “มองผมพอหรือยัง”
ในที่สุดถังซีก็ตื่นจากภวังค์ฝันกลางวัน เธอหันมองไปรอบๆ พบว่ามีผู้คนมากมายมองดูเธอกับเขาอยู่ เธอผลักไหล่เฉียวเหลียงเบาๆ แล้วกล่าวอย่างเขินอาย “มีคนมองเราอยู่เต็มไปหมด รักษาภาพลักษณ์ของตัวเองหน่อย ปล่อยฉันได้แล้ว”
เฉียวเหลียงมองใบหน้าแดงก่ำแล้วยิ้ม “ก็คุณขอให้ผมมารับคุณไง” แทนที่จะปล่อยเธอ เขากลับกอดแน่นยิ่งขึ้น
ถังซีมองเขาด้วยสายตาอ่อนใจ “ฉันจะแกล้งให้ฉินซินหยิ่งโกรธ แต่เธอไม่ได้อยู่ตรงนี้ เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องทำแบบนี้แล้ว”
เฉียวเหลียงหน้าบึ้งมองถังซี “ตั้งสองวันแน่ะ คุณไม่คิดถึงผมเลย แล้วยังมาใช้ผมแกล้งให้ฉินซินหยิ่งโกรธอีกอย่างนั้นเหรอ”
“ก็คุณนั่นแหละเป็นต้นเหตุ!” ถังซีมองเขาด้วยรอยยิ้ม “แล้วคุณไม่ชอบเหรอที่ฉันแสดงความรักกับคุณ ถึงแม้ว่าจุดประสงค์ของฉันคือการแก้แค้นฉินซินหยิ่งก็ตาม”
เฉียวเหลียงแตะปลายจมูกเธอเบาๆ ด้วยปลายนิ้วและกระซิบว่า “คุณมั่นใจได้ ตราบใดที่คนพวกนี้เห็น ฉินซินหยิ่งก็จะเห็นเหมือนกัน… เพราะฉะนั้นเราต้องทำให้หวานมากขึ้นกว่านี้อีก…”
เมื่อรู้สึกว่าหน้าผากเธอเกือบแตะคางเฉียวเหลียง ถังซีก็เอนหลบไปข้างหลังเล็กน้อย แต่กลับพบว่าท่านี้ยิ่งน่าอายกว่าเดิม เธอจึงรีบกลับสู่ท่าเดิม แล้วถามว่า “ยังไงล่ะ”
เฉียวเหลียงโน้มลงจูบถังซีที่ริมฝีปากผ่านหน้ากาก จากนั้นเขาก็ก้มลงอีก จูบติ่งหูแดงก่ำเบาๆ แล้วกระซิบ “แบบนี้…”
ถังซีหน้าแดงก่ำ หยิกเอวเขา “คุณนี่ ร้ายกาจจริงๆ!”
เฉียวเหลียงยิ้ม กำลังจะพูดอะไรบางอย่างเมื่อเสียงเย็นเยือกดังก้องอยู่ด้านหลัง “ท่านประธานเฉียว นี่ฉันต้องเลื่อนการประชุมออกไปอีกสิบห้านาทีหรือเปล่า”
ถังซีหันไปมอง เห็นเซียวจิ่งใบหน้าถมึงทึงแล้วอุทานอยู่ในใจ ‘ฉันตายแน่!’ แต่ในทางกลับกัน ตรงกันข้ามกับความว้าวุ่นที่เธอรู้สึกในหัวใจ เฉียวเหลียงดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย เขายังคงโอบแขนรอบเอวถังซีพาเดินเข้าไปในอาคาร “ไม่ต้อง ขอบใจ การประชุมจะเริ่มตามกำหนด”
ถังซีเดินไปกับเฉียวเหลียงเงียบๆ ก้มศีรษะลงต่ำ หลบสายตาตำหนิของเซียวจิ่ง ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ เธอไม่สนใจทางจนเหยียบเท้าเฉียวเหลียงโดยไม่ได้ตั้งใจ เฉียวเหลียงสะดุดเกือบล้มลง เขารีบทรงตัวก้าวเดินให้มั่นคงอย่างรวดเร็วด้วยท่าทีสงบนิ่ง เขาก้มลงมองถังซีอย่างงุนงง และพบสายตาโกรธเกรี้ยวของถังซี เขากระแอม ลูบผมเธออย่างอ่อนโยนพร้อมกับเอ่ยเสียงทุ้ม “ผมขอโทษ ผมไม่ควรทำแบบนี้”
ผู้จัดการอาวุโสคนหนึ่งเดินผ่านมาจู่ๆ ก็สะดุด แฟ้มทั้งหมดในมือร่วงลงกับพื้นทันที…
ท่านประธานเฉียวกล่าวขอโทษด้วยหรือ!
หลังจากทั้งสามเข้าไปในลิฟต์ พนักงานทั้งหมดในห้องโถงด้านหน้าก็มารวมตัวกัน จับกลุ่มเป็นกลุ่มละสองสามคน “ผู้หญิงคนนี้ที่มาที่บริษัทเมื่อครั้งก่อนใช่ไหม”
“เธอคือตัวจริงของท่านประธานใช่ไหม เท่าที่พวกเรารู้ท่านประธานเฉียวเป็นคนเย็นชา แต่เมื่อกี้จู่ๆ เขาก็จูบเธอต่อหน้าสาธารณะ!”
พนักงานต้อนรับยกมือทาบอก “เจ้าชายเจ้าเสน่ห์ของฉันกลายเป็นพ่อบ้านใจกล้าไปแล้ว!”
“โอ…!” ผู้จัดการอาวุโสคนนั้นร้องออกมา “แฟ้มเอกสารที่ฉันเตรียมมาสำหรับการประชุมหลุดจากมือกระจัดกระจายหมด ตอนที่ฉันได้ยินท่านประธานเฉียวกล่าวขอโทษสาวสวยคนนั้น! ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ท่านประธานเฉียวจะเอ่ยคำขอโทษได้อ่อนโยนและน่ารักขนาดนี้! โอพระเจ้า! เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้ พระเจ้า!”
“ไม่ ฉันจะพิมพ์ข้อความลงในอินสตาแกรมว่า ภูเขาน้ำแข็งละลายลงแล้วในที่สุด!”
“โอ ฉันก็เหมือนกัน! ฉันถ่ายวิดีโอไว้ตอนที่พวกเขาจูบกัน ฉันจะลงคลิปนี้ในไมโครบล็อก! แต่ไม่ต้องห่วง ฉันจะเบลอใบหน้าท่านประธานของเราไว้!”
“ใช่ ใช่ ฉันก็จะลงของฉันในกลุ่มเพื่อน สายตาคนมีความรักของท่านประธานเฉียว! โอ…หัวใจแก่ๆ ของฉันละลาย!” สาวสวยคนหนึ่งถือโทรศัพท์ในมือ มองไปทางลิฟต์ด้วยสายตาเคลิบเคลิ้ม
ในเวลานั้นนั่นเองชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาแต่งตัวดีก็เดินเข้ามา และวางหนังสือลงบนศีรษะเธอ “เธออายุแค่ยี่สิบสาม บอกว่าตัวเองแก่ได้ยังไง ถ้าเธอแก่แล้วฉันล่ะ”
เมื่อหญิงสาวเห็นชายหนุ่มเธอก็ร้องอุทานอย่างเคลิบเคลิ้มอีกครั้งว่า “โอ เมื่อฉันเห็นเธอ หัวใจที่กำลังล่องลอยไปกับความสวยงามของความรักก็ตื่นขึ้นทันที! “