ตอนที่ 414: มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันตก
แม้ว่าแม่ทัพจะไม่เชื่อ แต่เขาก็ไม่ได้ถามคำถามมากเกินไป เขารู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ควรถาม
เจี้ยนเฉินแทบแบกรับความผิดหวังไว้ไม่ได้เมื่อได้ยินว่าตระกูลเจียงหยางออกจากพื้นที่ไปแล้ว แม่ทัพสังเกตเห็นอารมณ์ที่กระพริบผ่านใบหน้าของเขา เขาจึงใช้สิ่งนั้นเพื่อยืนยันความสงสัยของตัวเอง
“ท่านที่ปรึกษาจักรพรรดิ ถึงแม้ว่าป้อมปราการทางเหนือของเรานั้นมีความมั่นคง ศัตรูเกือบเข้ามาถึงในเมืองหลวง นั่นหมายความว่าอาณาจักรเกอซุนของเราตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง หากท่านยื่นมือมาช่วยเหลือเรา อาณาจักรเกอซุนของเราจะอยู่รอดและฝ่าฟันอุปสรรคไปได้ ! ” ผู้อาวุโสอ้อนวอน แม้ว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินจะยังไม่ชัดเจน แต่จากคำพูดของเจียงหวูจี่และการที่เจี้ยนเฉินจับตัวฮ่องเต้แห่งอาณาจักรปิงหยางมาได้นั้น มันก็มากเกินพอที่จะให้เขาไว้วางใจความสามารถของเจี้ยนเฉิน
คำพูดของเขาทำให้เจี้ยนเฉินดูเคร่งขรึมด้วยความลังเล จากนั้นเจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจอีกครั้งและเริ่มสอบถามเกี่ยวกับสถานะของป้อมปราการอีก 3 แห่ง ในคืนเดียวกันนั้นเจี้ยนเฉินจึงออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังป้อมปราการทางตะวันตก เนื่องจากเป็นสถานที่ที่ใกล้ที่สุดจากที่ตั้งปัจจุบันของเขาและเป็นสถานที่ที่ล่อแหลมที่สุดเช่นกัน
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะต้องการกลับบ้าน แต่ตอนนี้ว่าเขาอยู่ในอาณาจักรเกอซุนซึ่งมีสงครามให้ต้องต่อสู้ เจี้ยนเฉินไม่รอช้า เขารู้ว่าเขาจะต้องช่วยให้อาณาจักรเกอซุนผ่านพ้นปัญหานี้ไปได้ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องระงับความคิดถึงบ้านไว้ก่อนชั่วคราว เมื่อทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง เขาถึงจะได้กลับบ้าน
ป้อมปราการทางเหนือไม่ได้อยู่ไกลจากป้อมปราการทางตะวันตก หลังจากเดินทางมา 2 ชั่วยาม เจี้ยนเฉินก็มาถึงที่หมายปลายทาง แต่อาณาจักรมังกรซ่อนได้บุกเข้ายึดพื้นที่แล้วและตรงป้อมปราการมีป้ายของอาณาจักรศัตรูโบกสะบัดอยู่เหนือหัว มีทหารมากกว่าหนึ่งล้านคนเข้าประจำการในขณะที่มีเสบียงอาหารและทหารจำนวนมากไหลเวียนเข้ามาในเมืองหลวงของอาณาจักรเกอซุน
กองทัพของอาณาจักรมังกรซ่อนได้บุกเข้าไปในดินแดนของอาณาจักรเกอซุน ตอนนี้ป้อมปราการทำหน้าที่เป็นเพียงเสบียงชั่วคราวของพวกเขา ดังนั้นจึงไม่มีเซียนสวรรค์ประจำอยู่
เจี้ยนเฉินลอยอยู่สูงขึ้นไปในอากาศอย่างน้อย 1,000 เมตรและซ่อนตัวอยู่ในความมืด ดังนั้นทหารที่อยู่เบื้องล่างจะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเซียนสวรรค์อยู่เหนือหัวพวกเขา
เจี้ยนเฉินห่อตัวด้วยธาตุลมโดยไม่ลังเล และบินต่อไปในอาณาจักรเกอซุน
ครึ่งชั่วยามต่อมา เจี้ยนเฉินก็มาถึงเมืองชั้นสอง ตอนนี้มันถูกกองทัพของอาณาจักรมังกรซ่อนยึดครองและธงจากอาณาจักรเกอซุนก็ถูกแทนที่ด้วยธงของอาณาจักรมังกรซ่อน
ดวงตาของเจี้ยนเฉินเปล่งประกายสว่างครู่หนึ่งก่อนที่จะมุ่งไปในทิศทางของเส้นทางที่กองทัพกำลังเดินทาง
หลังจากบินไปได้สักพัก เสียงปืนใหญ่ก็ดังขึ้นก่อนที่จะมีแสงจ้าส่องออกมา ปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรระเบิดเสียงดัง มันยิงลูกกระสุนผ่านท้องฟ้าอันมืดมิดก่อนที่จะกระทบลงพื้นด้วยเสียงดังปัง ด้วยเสียงดังปัง อาณาจักรมังกรซ่อนและอาณาจักรเกอซุนจึงเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง
เจี้ยนเฉินไม่ซ่อนตัวอีกต่อไป เขาพุ่งผ่านกระโจมของกองทัพของอาณาจักรมังกรซ่อนทันทีและเดินทางไปยังเมืองอื่น
ทหารที่อพยพออกจากป้อมปราการทางตะวันตกตอนนี้กำลังซุ่มอยู่ในเมืองชั้นหนึ่ง พวกเขาตั้งกองกำลังอยู่บนกำแพงชั้นสูงเพื่อปกป้องตัวเองจากอาณาจักรมังกรซ่อน
ร่างของเจี้ยนเฉินพุ่งไปที่กำแพงของเมืองชั้นหนึ่ง แต่ก่อนที่ขาของเขาจะสามารถลงจอดลงบนพื้นได้ ลูกศรนับสิบดอกก็พุ่งเข้าใส่เขา ทหารของอาณาจักรเกอซุนคิดว่าเขาเป็นศัตรู ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ยั้งมือในการพยายามฆ่าเขา
เจี้ยนเฉินใช้ความคิดและหยุดลูกศรเหล่านั้นห่างจากเขา 3 เมตรและลอยกลางอากาศอย่างไม่เป็นอันตราย หลังจากนั้น ลูกศรเหล่านั้นจึงย้อนกลับลงไปบนกำแพงเมืองด้วยเสียงดังกราว
ทันใดนั้น เซียนสวรรค์ 2 คนก็บินไปข้างหน้าด้วยแสงสีแดงและสีเหลือง แต่เมื่อพวกเขาเห็นร่างของเจี้ยนเฉิน ใบหน้าของพวกเขาก็ดูมีความปิติยินดี พวกเขารีบจับมือกับเขาทันที “เราขอคารวะผู้พิทักษ์จักรพรรดิ”
ชายสองคนนี้เป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวง ตงยี่จุนป่ายและเกาอวี่ฉินเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 4 และเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 3
เซียนสวรรค์ทั้งสองนี้เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ทหารบนกำแพงเมือง ดังนั้นเมื่อพวกเขาเห็นทั้งสองคารวะเจี้ยนเฉิน พวกเขาก็ตระหนักได้ทันทีว่าเขาไม่ใช่ศัตรู เมื่อเป็นเช่นนั้นทุกคนจึงแสดงสีหน้าโล่งใจในขณะที่จ้องมองเจี้ยนเฉินด้วยความสนใจ
เจี้ยนเฉินมีสีหน้าจริงจังเมื่อเริ่มสังเกตเห็นว่าเซียนสวรรค์ทั้งสองคนซีดเซียวมาก “ท่านสองคนได้รับบาดเจ็บหรือ ? “
ทั้งสองผงกหัวก่อนที่ตงยี่จุนป่ายจะพูดว่า “ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ผู้เชี่ยวชาญ 2 คนที่ประจำการป้อมปราการตะวันตกถูกคนของอาณาจักรมังกรซ่อนสังหาร มีผู้เชี่ยวชาญคนเดียวเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ในสภาพที่บาดเจ็บสาหัส”
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ความแข็งแกร่งของการต่อสู้ของเขาเหลือไม่ถึงครึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นอาณาจักรมังกรซ่อนยังมีเซียนสวรรค์ 5 คน ไม่นานมานี้ พวกเราสองคนไปต่อสู้กับห้าคนนั้น เราบีบบังคับให้พวกเขาถอยกลับไปได้ แต่พวกเราทั้งคู่ก็ได้รับบาดเจ็บ”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าและมุ่งหน้าเข้าไปในหนึ่งในโรงเตี๊ยมที่หรูหราที่สุดในเมือง โรงเตี๊ยมแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ส่วนตัว แต่เนื่องจากสงคราม มันจึงถูกนำไปใช้งานสำหรับกองทัพชั่วคราว พวกเขาเปลี่ยนมันเป็นห้องวางกลยุทธ์ ตงยี่จุนป่าย เกาอวี่ฉินและเซียนสวรรค์ที่ได้รับบาดเจ็บของอาณาจักรเกอซุนเป็นผู้นำทหารในพื้นที่นี้
เมื่อผู้พิทักษ์จักรพรรดิมาที่นี่ด้วยตัวเอง ขุนนางระดับสูงทุกคนจึงคารวะเจี้ยนเฉิน แม้แต่เซียนสวรรค์ที่ได้รับบาดเจ็บก็หยุดการรักษาเพื่อที่จะมาต้อนรับเจี้ยนเฉินโดยไม่พูดอะไรเลย
แม้ว่าเจี้ยนเฉินดูเหมือนจะอายุประมาณ 20 ปี แต่สถานะของเขายังคงอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง เมื่อที่ปรึกษาจักรพรรดิทั้งสองจากอาณาจักรฉินหวงเคารพนับถือเขา จึงไม่มีใครที่จะเห็นว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มอายุเพียง 20 ปี ภายในทวีปเทียนหยวน วิธีการลับในการคงสภาพเยาว์วัยไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
ขุนนางหลายคนลุกขึ้นเพื่อทักทายเจี้ยนเฉินด้วยความเคารพนับถือ พวกเขาระมัดระวังคำพูดมาก แม้แต่เซียนสวรรค์ก็ยังมองเจี้ยนเฉินด้วยความเคารพและดูกระตือรือร้น
ท่ามกลางบทสนทนา เจี้ยนเฉินจำเซียนสวรรค์ตนหนึ่งได้ในฐานะคนจากพระราชวัง ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นผู้บัญชาการที่ชื่อว่าเทียนซิง อย่างไรก็ตามหลังจากทะลวงผ่านก็ได้เป็นเซียนสวรรค์ สถานะของเขาก็สูงขึ้นทันที ส่งเสริมให้เขาเป็นที่ปรึกษาจักรพรรดิของอาณาจักรเกอซุน
หลังจากทักทายกับทุกคน เจี้ยนเฉินก็รับหน้าที่ผู้นำในทันที เขาเริ่มพูดคุยกับทุกคนเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ กองทัพของศัตรูมีทหารจำนวนมากกว่าเรา ซึ่งหมายความว่ากองทัพของเราจะต้องแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย หากเราต้องการทำแต้มให้ได้ชัยชนะ เราต้องทำลายล้างศัตรูที่เป็นเซียนสวรรค์ให้หมดไปก่อน”
“ถูกต้อง เซียนสวรรค์เป็นเสาหลักในการสนับสนุนศัตรู หากพวกเขาตาย ทหารเหล่านั้นจะได้รับผลกระทบจากการสูญเสียอย่างถาวร และถ้าพวกเขาต้องตาย ทหารของเราจะรู้สึกกดดันน้อยลงกว่าเดิม ดังนั้นอาจเป็นไปได้ที่เราจะพลิกกลับมาและยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้พวกเขา”
ผู้บัญชาการหลายคนเริ่มออกความเห็นจากมุมมองต่อสถานการณ์ของตนเอง
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ฝ่ายศัตรูมีเซียนสวรรค์ 5 คน โดยที่เป็นเซียนสวรรค์วัฏจักรที่ 2 สองคน, วัฏจักรที่ 3 สองคน, และวัฏจักรที่ 4 หนึ่งคน หากเราร่วมมือกันและใช้ทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ เราอาจสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้ในการโจมตีครั้งเดียว” เกาอวี่ฉินเสนอ
ข้าเห็นด้วย เกาอวี่ฉินและข้าสามารถทำให้ทั้งห้าหยุดนิ่งได้ หากเรามีผู้พิทักษ์จักรพรรดิมาช่วย เราจะสามารถฆ่าพวกเขาทั้งหมดได้โดยไม่มีปัญหา” ตงยี่จุนป่ายเห็นด้วย
เมื่อได้ยินที่ปรึกษาของจักรพรรดิทั้งสองพูด ผู้บัญชาการที่นั่งรอบโต๊ะล้วนแต่ตกตะลึง หากศัตรูที่เป็นเซียนสวรรค์ทั้งห้าคนนั้นถูกฆ่าตายจริง ๆ พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนความพ่ายแพ้ให้กลายเป็นชัยชนะอันน่าทึ่งได้
เจี้ยนเฉินพยักหน้าเล็กน้อย ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาก็คิดแผนเดียวกันและต้องการทำเช่นนั้น แต่แล้วเจี้ยนเฉินก็ยืนขึ้นอย่างช้า ๆ “ตงยี่จุนป่าย, เกาอวี่ฉิน ท่านสองคนลงไปรักษาตัวและฟื้นฟูความแข็งแกร่ง หลังจากที่ท่านหายแล้วให้มุ่งหน้าไปยังป้อมปราการทางตะวันออก”
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ท่านวางแผนจะต่อสู้กับเซียนสวรรค์ทั้งห้าด้วยตัวเองหรือ ? ” เกาอวี่ฉินพูดด้วยความประหลาดใจ
“ผู้พิทักษ์จักรพรรดิ ศัตรูมี 5 คน ! แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีทักษะการต่อสู้ระดับสวรรค์ แต่คงไม่ง่ายที่จะต่อสู้หากพวกเขาร่วมมือกัน หากเราสามคนรวมพลังกัน เราจะสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย ” ตงยี่จุนป่ายพูดอย่างจริงจัง
เจี้ยนเฉินส่ายหน้า “ไม่จำเป็น ข้าจะไปคนเดียว ในช่วงเวลานี้ ป้อมปราการอีก 2 แห่งตกอยู่ในอันตรายที่ใหญ่กว่าเมืองนี้ ท่านทั้งสองจึงต้องรีบไปช่วย”
คำพูดของเจี้ยนเฉินทำให้ทั้งโต๊ะตกตะลึง เขาไม่ตื่นตระหนกกับการต่อสู้กับเซียนสวรรค์ 5 คนด้วยตัวเอง ผู้พิทักษ์จักรพรรดิคนนี้ต้องแข็งแกร่งมาก ! การที่ผู้พิทักษ์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรฉินหวงเข้ามาช่วยอาณาจักรเกอซุนเป็นการส่วนตัว มันทำให้ทุกคนมีความสุขมากจนพวกเขารู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังฝันอยู่
เมื่อได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน เกาอวี่ฉินและตงยี่จุนป่ายก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเขาแยกตัวลงไปรักษาบาดแผลของตัวเอง
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ออกจากโรงเตี๊ยมและบินไปในทิศทางของป้อมปราการ ในตอนนี้เซียนสวรรค์ทั้งห้าจากอาณาจักรมังกรซ่อนได้รับบาดเจ็บ นั่นหมายความว่าการฆ่าพวกเขาจะเป็นเรื่องง่าย