บทที่ 541 เชิญขึ้นเวที

บัญชามังกรเดือด

บัญชามังกรเดือด บทที่ 541 เชิญขึ้นเวที
ได้รับผลกระทบจากความงามและบุคลิกเฉพาะตัวของลิฉุน คนรากหญ้าเหล่านั้นที่อยู่ด้านล่างเวทีก็ทยอยร้องตระโกนเสียงดัง“คุณหนูใหญ่พูดมีเหตุผล!”

“พวกเราต้องการฆ่าปีศาจ แต่ก็ต้องให้ฝ่ายตรงข้ามยินยอมทั้งกายและใจ!”

“รอฉินเทียนมา ถามต่อหน้าให้ชัดเจน!”

“ถึงยังไงขอแค่เขากล้ามา วันนี้ถึงติดปีกก็หนีไปได้ยาก!”

เผชิญหน้ากับสถานการณ์ชนิดนี้ ในที่สุดลิเหลียงก็ไม่นิ่งเฉยแล้ว

เขาไอเสียงหนึ่ง ยืนขึ้นมาแล้วอมยิ้มพูด“ทุกท่าน ผมเคยพูดนานแล้วเพียงแค่อยากออกแรงยกทัพปราบปีศาจ ไม่ได้ตั้งใจในตำแหน่งของผู้นำ”

“ต่างก็เป็นการยกยอชมเชยของเจ้าบ้านเจี่ยงพวกเขา ต้องการเลือกตั้งผมให้ได้”

“คือหวาดกลัวมากจริง ๆ ”

“ตอนนี้ ผมคิดว่าข้อเสนอของทุกคนดีมาก”

“พวกเราก็รอฉินเทียนมาแล้ว ยันกันต่อหน้า”

“มีเพียงอย่างนี้ถึงจะสามารถทำให้เขายินยอมทั้งกายและใจ!”

“ถงเหริน เสินเฟิงพวกคุณรับผิดชอบไปพาฉินเทียนมา!”

พูดอยู่ เขาก็ให้สายตาที่น่าสนใจอันหนึ่งแก่สองคน

“น้อมรับคำสั่ง!”

ในดวงตาของถงเหรินและเสินเฟิงเปิดเผยความคิดฆ่าออกมาในเวลาเดียวกัน กระโดดลอยตัวลงมาจากบนเวทีเซวียนหยวนเลยทันที ก้าวเท้าใหญ่หันเดินออกไปด้านนอก

ความหมายของลิเหลียงพวกเขาเข้าใจมากแล้ว นั่นก็คือไปหาฉินเทียนให้เจอก่อนจากนั้นฆ่าทิ้ง

ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ลงมือต่อฉินเทียนเป็นเพราะฉินเทียนมีประโยชน์ พวกเขาต้องการใช้ฉินเทียนมาลากคนกลุ่มนี้เข้าพวก

ตอนนี้เป้าหมายใกล้จะได้บรรลุถึงแล้ว ฉินเทียนไม่มีประโยชน์ตายได้แล้ว

ขอแค่พอเขาตาย อย่างนั้นก็ไม่สามารถตรวจสอบเรื่องจริงได้

กระดานหมากนี้ก็ไม่มีใครสามารถพลิกแพลงสถานการณ์ได้ ลิเหลียงก็เป็นผู้ชนะที่ใหญ่ที่สุด

ใครจะรู้จู่ ๆ หวังเยว่พูดเสียงดัง“เทวดาเจ็ดดาว ของตระกูลจี้ของฉันอยู่ไหม!”

เทวดาเจ็ดดาวที่อยู่ด้านหลังตอบกลับพร้อมกัน“อยู่!”

หวังเยว่ “ฉินเทียนมีความแค้นใหญ่หลวงกับตระกูลจี้ของพวกเรา”

“เพื่อป้องกันเขาหนี พวกคุณช่วยเหลือปรมาจารย์ของตระกูลลิ ไปหาฉินเทียนพร้อมกัน!”

“จะต้องเอาเขามาอย่างมีชีวิต ให้เขายอมรับผิดต่อหน้า!”

“น้อมรับคำสั่ง!”

เทวดาเจ็ดดาวปรมาจารย์เจ็ดท่านทยอยกระโดดลงมาจากบนเวทีสูง ก้าวเท้าเหมือนบินไล่ตามถงเหรินและเสินเฟิงขึ้นไปแล้ว

สีหน้าของลิเหลียงก็มืดมนลงในพริบตาแล้ว

ตอนนี้เขายิ่งรับรู้อย่างชัดเจน ตระกูลจี้คือมุ่งเป้ามาที่เขา!

หวังเยว่ส่งเทวดาเจ็ดดาวไปก็คือปกป้องฉินเทียน ป้องกันไม่ให้ฉินเทียนถูกถงเหรินและเสินเฟิงฆ่าตายระหว่างทาง

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้?

เห็นอยู่ว่าจี้ซิงตายในมือของฉินเทียน เพราะอะไรตระกูลจี้ยังต้องปกป้องฉินเทียนอย่างนี้?

หรือว่าเพื่อเหตุผลความยุติธรรมจริง ๆ เหรอ?

มองเห็นท่าทางที่สบาย ๆ ของจ้าวจิ่วรี่และหวังเยว่ เขายิ่งรู้สึกไม่สงบขึ้นเรื่อย ๆ

จ้าวจิ่วรี่อมยิ้มพูด“คุณชายลิ เรื่องนี้พวกเราตระกูลจี้ออกแรงนิดหน่อยก็สมควรแล้ว”

“ก็ไม่ใช่ไม่เชื่อคนของคุณ”

“คุณคงจะไม่โกรธใช่ไหม?”

ลิเหลียงยิ้มพูดอย่างอึดอัด“จะได้ยังไงล่ะ”

“ตระกูลจี้มีจิตวิญญาณของความยุติธรรมมาก สมคำร่ำลือจริง ๆ ”

จ้าวจิ่วรี่ยิ้มเล็กน้อย“คุณชายลิมีความเมตตาและความยุติธรรมก็เป็นที่ประจักษ์แก่ทุกคน”

ลิเหลียงยิ้มอย่างเย็นชาไม่พูด ในดวงตากลับกระพริบความคิดฆ่ามา

เทวดาเจ็ดดาวของตระกูลจี้แล้วยังไง?เขาเชื่อถงเหรินและเสินเฟิงจะรู้ว่ากำจัดยังไง

ในเมื่อพวกเขาขวางตา งั้นกระทั่งพวกเขาก็ฆ่าทิ้งไปพร้อมกันเลยแล้วกัน!

เขาก็เชื่อถงเหรินและเสินเฟิงอีกทั้งสมาชิกทีมเสินเฟิงมีพลังนี้

แต่พวกเขายังไม่ได้ออกจากหุบเขา ที่ปากทางหุบเขาจู่ ๆ ก็วุ่นวายใหญ่

รถธุรกิจสีดำสองสามคันคิดไม่ถึงขับเข้ามาแล้ว

“รีบขวางพวกเขา!”

“มีคนฝ่าด่าน!”

ด้านหลังกลับเป็นรปภ.เหล่านั้นที่ป้องกันอยู่ด้านนอก ร้องตระโกนเอะอะไล่ตามอย่างรวดเร็ว

เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

เจ็ดเมืองทางใต้รวมตัวอยู่ที่นี่ ใครกล้าฝ่าด่าน?

ในสถานที่งานวุ่นวายมาก คนยุทธจักรบางคนบุกมาเอารถสองสามคันล้อมไว้เป็นวงแล้ว

สถานการณ์กระทันหัน ทันใดนั้นกระทั่งเจี่ยงเส้าและลิเหลียงต่างก็มีความมึนงงเล็กน้อย

“คุณชาย เป็นคุณที่จัดเตรียมเหรอ?”เจี่ยงเส้าอดไม่ได้ที่จะถาม

สีหน้าของลิเหลียงเคร่งขรึม ส่ายหน้าแล้ว

“ใคร?ลงรถ!” ท่ามกลางเสียงที่คำรามต่ำของถงเหรินและเสินเฟิงก็หนีมาแล้ว

สองคนก็ระเบิดกลิ่นไอการฆ่าทั้งหมด

รถค่อย ๆ ขับเคลื่อน สุดท้ายก็หยุดลงบนพื้นที่ว่างระหว่างหุบเขา

ประตูรถของคันแรกเปิดออก ลงมาคนหนึ่งคิดไม่ถึงเป็นจ้าวเทียนเผิง

“นายท่านจ้าว?”

“ทำไมคุณขับรถเข้ามาแล้ว?”เถ้าแก่เหล่านั้นของเมืองหยุนชวนทั้งตกใจทั้งดีใจ

ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ทั้งหมดต่างก็ไม่เข้าใจที่จ้าวเทียนเผิงทำอย่างนั้น?

ฉากนี้มากไปหน่อยแล้วล่ะมั้ง?

ถึงแม้พูดว่าจ้าวเทียนเผิงเป็นผู้นำของตระกูลจ้าวอยู่ในอันดับแรกที่เมืองหยุนชวน เวลาปกติพลังมากสักหน่อยก็ไม่สามารถตำหนิมากเกินไปได้

แต่นี่คือที่ไหน?

ในงานต่างก็เป็นใคร?

ห้าตระกูลใหญ่ของเมืองจิ่นหูมารวมตัวกัน จ้าวเทียนเผิงอยู่ต่อหน้าคนเหล่านี้คู่ควรได้แค่เป็นลูกน้อง เหมือนไม่มีพลังอะไรที่จะโอ้อวดได้

เจี่ยงเส้าทำหน้าขรึมอยู่ พูดอย่างอารมณ์เสีย“เจ้าบ้านจ้าว คุณทำอะไร?”

“มาสายก็ช่างแล้ว คิดไม่ถึงยังเอารถขับเข้ามาเลยทันที”

“คุณคือดูถูกทุกท่านที่นั่งอยู่เหรอ?”

จ้าวเทียนเผิงยิ้มแล้ว“เจ้าบ้านเจี่ยง คุณเข้าใจผิดแล้ว”

“ตัวผม กล้าดูถูกทุกท่านที่ไหน”

“ที่มาสายเพราะเกิดเรื่องกระทันหันก่อนเล็กน้อยแล้ว ผมต้องไปรับคนที่สำคัญสองสามคน”

“ตอนนี้ผมสามารถเชิญท่านหนึ่งออกมาก่อน”

พูดอยู่ เขาดึงประตูรถของด้านหลังออกมาด้วยตัวเอง พูดอย่างเคารพ“คุณฉิน ถึงแล้ว”

คุณฉิน?

เสียงไม่ดัง แต่ฟังในหูของทุกคนเป็นเสียงฟ้าร้องที่ดังมากอย่างไม่ต้องสงสัย

วินาทีต่อมา มองเห็นคนหนุ่มที่กระฉับกระเฉงดูดีและสดชื่น ท่าทางมุ่งมั่นมีความคิดความสามารถคนหนึ่งลงมาจากในรถ ในงานเหมือนถูกทิ้งระเบิดลูกหนึ่งอย่างนั้นมีปฏิกิริยาตอบกลับมามากอย่างสิ้นเชิง

“ฉินเทียน!”

“เป็นฉินเทียน!”

“แซ่ฉิน แกยังกล้ามาที่นี่?”

“แกฆ่าคนมากอย่างนั้นแล้ว วันนี้ให้แกเลือดต้องล้างด้วยเลือด!”คนยุทธจักรเหล่านั้นหลังมีปฏิกิริยาตอบกลับมา ทั้งหมดต่างก็ตาแดงแล้ว

คำรามด้วยความโกรธ เตรียมที่จะบุกขึ้นมาต่อสู้วุ่นวาย

“ฉันดูว่าใครกล้าลงมือ!”จ้าวเทียนเผิงขวางด้านหน้าของฉินเทียนไว้ คำรามเสียงหนึ่งด้วยความโกรธ เสียงดังไปทั่วทิศ

นายท่านของตระกูลจ้าวท่านนี้มีพลังที่ยิ่งใหญ่มาก เหมือนเสือตัวหนึ่งที่มีบารมีอย่างเป็นธรรมชาติ

ถูกพลังของเขาดึงดูด คนที่อยู่รอบ ๆ ใจเย็นลงมาแล้ว

แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถอยหลัง แต่มือถือมีดดาบจ้องมองฉินเทียนอยู่อย่างตาแดง

“จ้าวเทียนเผิง คุณมีความกล้ามาก!”

“คิดไม่ถึงคุณต้องการปกป้องฆาตกรเหรอ?”

“วันนี้ไม่พูดเหตุผล ผมจะเห็นคุณและฉินเทียนมีความผิดเดียวกัน ฆ่าไปพร้อมกัน!”เจี่ยงเส้าโกรธแล้วอย่างสิ้นเชิง

เผชิญหน้ากับทุกคนที่โกรธแค้น จ้าวเทียนเผิงไม่กลัวแม้แต่นิด

เขาเงยหน้าพูดเสียงดัง“วันนี้อาศัยที่ทุกคนต่างก็อยู่ ผมต้องการพูดสองเรื่อง”

“เรื่องแรก คุณฉินมีจิตวิญญาณของความยุติธรรมมาก ผมไม่เชื่อเรื่องเหล่านั้นเป็นเขาที่ทำ”

“ผมคิดว่ามีคนเจตนาร้ายแน่นอน เพื่อเป้าหมายที่ไม่สามารถบอกใครได้ของตัวเองใส่ร้ายคุณฉินแล้ว”

“เรื่องที่สอง เลือกตั้งผู้นำวันนี้ พวกเราตระกูลจ้าวก็มีสิทธิในการลงคะแนนเสียง ก็เป็นผู้สมัครรับการเลือกตั้ง”

“ตอนนี้ผมเอาสองสิทธินี้ให้แก่คุณฉิน”

“จากตอนนี้เป็นต้นไปคุณฉินไม่เพียงครอบครองสิทธิในการลงคะแนนเสียงหนึ่ง เวลาเดียวกันเขายังเป็นหนึ่งในผู้สมัครรับการเลือกตั้ง”

“ผมร้องขอทุกคนที่นี่ เช็ดตาให้สว่างแยกแยะความซื่อสัตย์และความทรยศให้ชัดเจน”

“ผมหวังว่าพวกคุณลงคะแนนเสียงเลือกคุณฉินเป็นผู้นำ มีเพียงเขาที่สามารถคืนความยุติธรรมให้แก่เจ็ดเมืองทางใต้นำพาพวกเราทุกคนก้าวสู่ความรุ่งโรจน์ที่ยิ่งใหญ่กว่า”

“คำพูดของผมพูดจบแล้ว คุณฉินพวกเราขึ้นเวทีเถอะ”

พูดอยู่ เขาทำท่าทางเชิญอย่างเคารพนบน้อบมาก