ตอนที่ 553

The Divine Nine Dragon Cauldron

“เลิกใช้วิชาเดิมๆกับข้าได้แล้ว!”

 

ไป่ฉีเตรียมรับมือ เขารีบใช้ยันต์สร้างพลังปกคลุมร่าง ในขณะเดียวกันกระบี่ทองที่ทะลวงได้ทุกสิ่งก็ถูกสะท้อนกลับ

 

“ยันต์ที่มีการป้องกันของภูติรึ?”

 

เซี่ยจิงหยูสีหน้าเปลี่ยนไป

 

ซือหยูถอนหายใจเบาๆ แม้กระบี่ทองของเขาจะมีพลังมิติ การหวังผลก็ลดน้อยลงไปมากเมื่อเขาใช้มันไปแล้วครั้งหนึ่ง

 

ถ้าหากเขามีกระบี่อีกหกเล่ม เขาจะใช้ลำดับกระบี่เก้าเล่มได้อย่างสมบูรณ์ นั่นจะช่วยเขาได้มาก และไป่ฉีก็คงจะตายไปแล้ว!

 

โชคร้ายที่ไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ทั้งสองเมล็ดที่ลู่จือยี่ให้เขามานั้นไม่ได้เติบโต เขาไม่รู้เลยว่าพวกมันยังเติบโตได้อยู่หรือไม่

 

แทบจะเป็นไปไม่ได้ในการเก็บไผ่เงินกล้วยไม้สวรรค์ที่มากพอมาสร้างกระบี่ทอง มิเช่นนั้นเขาคงจะได้กระบี่มาเก้าเล่ม และเขายังใช้ลำดับเก้าหยินหยางของเดิมได้อีก นั่นคือเพลิงกระบี่เก้าสุริยา

 

ในตอนนี้ไป่ลั่วก็ได้ตายไปแล้ว เขาไม่มีทางจะหาต้นกำเนิดของเข็มทั้งเก้าเล่ม และยิ่งยากที่จะตามหาข้อมูลของเพลงกระบี่เก้าสุริยา

 

เมื่อซือหยูสะบัดความรู้สึกเสียดายไปแล้ว ดวงตาเขาก็เริ่มหม่นหมองลง เขารู้สึกว่าพลังชั่วร้ายจากศีรษะสัตว์อสูรกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องฆ่ามันให้ตาย

 

“พวกเจ้าสองคนช่วยข้าหน่อย!”

 

ซือหยูตะโกนหาราชาปีศาจกับจางซื่อเหลียน

 

แต่ทั้งสองคนก็ไม่สนใจ จางซื่อเหลียนยืนนิ่งไม่ขยับตัว ดวงตาของนางดูลึกลับ นางตัดสินใจว่าจะดูเป็นผู้ชม!

 

ส่วนราชาปีศาจก็ไม่ลังเลนานนัก เขาพุ่งเข้าใส่ไป่ฉีที่อีกด้านและร่วมมือกันซือหยู

 

ซือหยูเหลือบมองจางซื่อเหลียนด้วยความสงสัย จากนั้นเขาก็เพ่งสมาธิอยู่กับการจู่โจมไป่ฉี

 

“ซือหยู ตอนที่อยู่บนขั้นบันได ข้าไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดที่มีก็เพราะเป้าหมายสุดท้ายของพวกข้า มาถึงตอนนี้ ด้วยกระบี่ทั้งสามของเจ้า ดูซิว่ามันจะทำอะไรได้บ้าง!”

 

ไป่ฉีพ่ายแพ้ซือหยูมาแล้วครั้งหนึ่ง มันคือหนึ่งในความอับอายครั้งใหญ่ของชีวิตเขา

 

“อย่างนั้นเรอะ? ข้าไม่สนใจหรอก ข้ายังเห็นว่าเจ้ายังอ่อนแออยู่เลย”

 

ซือหยูไม่ใส่ใจคำพูดของเขานัก

 

แหวนหยกดำบนนิ้วเปล่งแสง ร่มสีแดงเพลิงปรากฏในมือ มันคือร่มวิเศษสุริยาม่วงที่ลู่จือยี่สร้างขึ้นใหม่ เพลิงอันน่ากลัวเผาได้แม้กระทั่งภูติในระดับหลังๆ!

 

และเมื่อมันถูกสร้างขึ้นใหม่ มันก็มีเพลิงพิโรธบัวแดงอยู่ด้วย และยังเป็นเพลิงที่เหนือชั้นกว่าเพลิงสุริยาม่วง มันจึงถูกตั้งชื่อใหม่เป็นร่วมวิเศษบัวแดง

 

“สมบัติกึ่งวิญญาณรึ?”

 

ราชาปีศาจแสยะยิ้ม

 

“ผ่านมาแค่เดือนเดียว เจ้าได้ของติดไม้ติดมือมาเยอะน่าดูเลยนี่”

 

ซือหยูพูดเบาๆ

 

“ค่อยพูดหลังจากที่ฆ่าไป่ฉีเถอะ!”

 

ราชาปีศาจเหลือบมองร่มวิเศษบัวแดงอีกครั้งจากนั้นจึงพยักหน้า เขาพุ่งตรงไปหาไป่ฉี! พลังทั้งหมดรวบรวมเอาไว้ในหมัด ไป่ฉีถอยกลับไปหลายศอก

 

แต่ก็ดูเหมือนว่าไป่ฉีจะไม่ได้บาดเจ็บอะไร เป็นเพียงแรงกระแทกเท่านั้นที่ทำให้เขากระเด็น

 

ไป่ฉีหัวเราะ

 

“ไม่ได้ผลหรอก เตรียมตัวตายซะ!”

 

แต่จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้ว เขาสัมผัสได้ถึงความตายที่ใกล้เข้ามา

 

เขาหันไปมองทางซือหยูและพบว่าซือหยูอยู่บนร่มสีแดงเพลิงที่กางออก!

 

เขาถือร่มอย่างสง่างามด้วยมือเดียว ส่วนอีกมือก็จับมือเซี่ยจิงหยูเอาไว้ให้นางอยู่ใต้ร่ม ทั้งสองดูเหมือนกับคู่รักที่เหมาะสมกันดี ภาพกิ่งทองใบหยกท่ามกลางเพลิงช่างน่าจับตามองยิ่งนัก