ตอนที่ 173 พี่หมิงซุ่น หนูให้เหรียญโบราณพี่ 1 เหรียญ + ตอนที่ 174 ได้โชคก้อนใหญ่

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 173 พี่หมิงซุ่น หนูให้เหรียญโบราณพี่ 1 เหรียญ + ตอนที่ 174 ได้โชคก้อนใหญ่ โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 173 พี่หมิงซุ่น หนูให้เหรียญโบราณพี่ 1 เหรียญ

อู่เหมยกับสยงมู่มู่ยืนอยู่หน้าร้านกระดาษเป็นจังหวะเดียวกับที่เหยียนหมิงซุ่นเดินออกมา เหยียนหมิงซุ่นมองอู่เหมยที่อยู่ในชุดสบายๆ ราวกับฉากภูเขาหลังฝนตกที่งดงามแต่แลดูสดชื่นสบายตา ข้างกายเธอมีชายหนุ่มรูปงามอย่างสยงมู่มู่แต่เขากลับมองเห็นเป็นเหมือนคลองน้ำคร่ำที่อยู่ข้างภูเขา มองยังไงก็ไม่เข้าสายตา

ดูเหมือนช่วงนี้อู่เหมยจะสนิทกับสยงมู่มู่เกินไปหรือเปล่านะ?

“พี่หมิงซุ่น พี่มาซื้อกระดาษเหมือนกันเหรอคะ?” อู่เหมยถามอย่างแปลกใจ

“ครับ พวกเธอก็มาซื้อกระดาษเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถาม อู่เหมยดูอ่อนโยนขึ้นมากจนทำให้สยงมู่มู่ได้แต่แบะปากมอง ผู้ชายก็เป็นแบบนี้แหละ เห็นผู้หญิงสวยๆ หน่อยก็มีสีหน้าที่ดีอย่างเห็นได้ชัด ขนาดเหยียนหมิงซุ่นยังไม่เป็นข้อยกเว้น

ชั่วครู่เขานึกภูมิใจขึ้นมาเพราะมีแค่เขาสยงมู่มู่ที่ไม่ได้เป็นผู้ชายธรรมดา แต่เขาเป็นคนที่เข้าใจความรู้สึกของอู่เหมยดีทุกอย่างถึงได้มาเป็นเพื่อนกัน แค่รูปร่างหน้าตาที่แสนธรรมดาของยัยนั่น จะดึงดูดและมีผลต่อความรู้สึกอันแสนยโสของเขาได้อย่างไร?

อู่เหมยพยักหน้าตอบ “วาดรูปจำเป็นต้องได้ใช้กระดาษวาดรูปค่ะ มู่มู่บอกว่ากระดาษของที่นี่คุณภาพดี เราเลยมาซื้อกระดาษที่นี่กัน พี่หมิงซุ่นคะ เมื่อกี้หนูซื้อเหรียญกษาปณ์มาด้วย ไม่อย่างนั้นหนูให้พี่เหรียญหนึ่งดีไหม? ได้ยินว่าถ้าสวมใส่ไว้กับตัวจะช่วยขจัดสิ่งชั่วร้าย”

เหยียนหมิงซุ่นช่วยเหลือเธอมาเยอะมากแต่เธอไม่มีอะไรจะให้เขาเลย พอดีกับเหรียญโบราณที่ได้มาก็ไม่ได้แย่อะไร เมื่อชาติก่อนเธอเห็นมีคนนำด้ายแดงมาร้อยเข้ากับเหรียญแล้วห้อยไว้กับตัว โดยเฉพาะช่วงที่เป็นปีเกิดของตน มีจำนวนคนที่แขวนมันไว้กับตัวเยอะมาก

อู่เหมยหยิบเอาเหรียญทั้งหกออกมาจากกระเป๋าซึ่งเหรียญมันดูซ่อมซ่อมาก ทำให้อู่เหมยรู่สึกเขินอาย ถ้าเอาเหรียญเก่าขนาดนี้ให้คนอื่นไปมันคงจะน่าเกลียดเกินไป เธอเลือกเงินโบราณที่ดูสะอาดสุดออกมาหนึ่งเหรียญและยื่นออกไปให้เขาด้วยความเขินอาย

“พี่หมิงซุ่น อันนี้สะอาดที่สุดให้พี่ค่ะ” เสียงของเธอเบาราวกับเสียงยุงร้อง อู่เหมยรู้สึกเสียใจและหัวร้อนที่ตัดสินใจเอาเหรียญโบราณเก่าๆ ให้เขา ของเก่าทรุดโทรมแบบนั้นเธอทำไปได้ยังไงถึงจะเอาไปให้คนอื่น!

จากตอนแรกที่เหยียนหมิงซุ่นไม่ได้สนใจอะไร เขามองแค่เด็กคนนี้ที่กำลังทำท่าทีหยิบของออกมาจากกระเป๋า ท่าทางเขินอายและลำบากใจของเธอมันช่างน่าสนใจ เงินโบราณในร้านต่างๆ บนถนนเส้นนี้ไม่ได้มีอะไรดีนัก ซึ่งไม่ได้หมายถึงว่าจะเป็นของปลอมเพราะทั้งหมดคือเงินโบราณ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเงินราชวงศ์ซ่งหรืออื่นๆ ที่แทบจะไม่ได้ราคา เจ้าของร้านมักจะเอามาเป็นตัวหลอกนักท่องเที่ยวต่างเมืองและกลุ่มต่างชาติ

เงินโบราณแตกต่างจากของโบราณชิ้นอื่นๆ เพราะไม่ได้แปลว่ายิ่งเก่าจะเป็นของดี แต่จะต้องดูอายุของเหรียญที่มีอยู่ว่ามีความเก่าแก่เพียงใด เหมือนกับเหรียญราชวงศ์ซ่งที่ยังไม่ได้ราคาเท่ากับเหรียญราชวงศ์ชิง เป็นเพราะเศรษฐกิจในช่วงราชวงศ์ซ่งเจริญรุ่งเรือง เงินโบราณของราชวงศ์จึงแพร่กระจายในหมู่ประชาชนทั่วไปเป็นจำนวนมากราวกับขนของวัว ที่ตกทอดมาก็ยิ่งมีมากขึ้น วัตถุยิ่งหายากยิ่งได้ราคา ในทางกลับกัน วัตถุที่มีอยู่มากมักจะไม่ได้ราคา

เงินราชวงศ์ชิงต่างกันโดยสิ้นเชิง ช่วงนั้นการหมุนเวียนของเงินมีน้อย เงินที่ตกทอดเหลืออยู่ก็ยิ่งน้อยตามไปด้วย ตรงกันข้ามที่จะต้องได้ราคามากกว่าเงินราชวงศ์ซ่ง

เหยียนหมิงซุ่นคิดว่าที่อู่เหมยซื้อมาคือเงินราชวงศ์ซ่งเขาจึงไม่ได้สนใจ แต่เขาก็รู้สึกดีใจมากทำให้บนมุมปากของเขาปรากฏรอยยิ้มที่ชวนมองราวกับสามารถละลายน้ำแข็งที่อยู่ในอากาศเย็นบนภูเขาน้ำแข็งได้

สยงมู่มู่ที่เหลือบมองด้วยท่าทีไม่สบายใจ แวบหนึ่งที่เขาเผลอใจลอยและหันหน้ากลับอย่างกะทันหัน

ไม่ชอบเขาคนนี้ ยิ้มที่ปรากฏยังดูดีกว่านายน้อยสยงอย่างเขาเสียอีก คงไม่ได้จงใจจะมาพนันอะไรกับเขาหรอกใช่ไหม!

ยัยบ้านี่ก็ด้วย เขาอุตส่าห์ออกมาเป็นเพื่อนเธอเพื่อซื้อกระดาษตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ยัยนั่นกลับไม่คิดจะให้เหรียญโบราณแก่เขาแม้แต่เหรียญเดียว แต่กับเหยียนหมิงซุ่นแค่เจอหน้าก็ให้แล้ว ยัยผู้หญิงใจร้าย น่าโมโหจริงๆ เลย!

เหยียนหมิงซุ่นที่เห็นเหรียญเก่าๆ บนฝ่ามืออันนิ่มนวลและขาวผ่องของอู่เหมยที่ยื่นมาให้เขา สีหน้าเขาดูเคร่งขรึมและส่งเสียงกะแอมออกมาเบาๆ

ดูเหมือนว่ายัยเด็กนี่จะโชคดีไม่ใช่เล่น!

เหรียญโบราณเหรียญนี้ปรากฏชัดเจนว่าไม่ไช่เหรียญราชวงศ์ซ่งที่ไม่มีราคา แต่เป็นเหรียญที่มีราคาสูงลิ่วอย่างเหรียญราชวงศ์ชิง ยิ่งไปกว่านั้นเป็นเหรียญกษาปณ์ที่นักเก็บสะสมต่างชื่นชอบอย่างเสียนเฟิงทงเป่า

เหยียนหมิงซุ่นที่รับเหรียญมาแล้วตรวจสอบดูเหรียญอย่างละเอียดไปหนึ่งครั้ง และเขาก็มั่นใจว่าเป็นเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่าอย่างไม่ต้องสงสัย อีกทั้งรูปร่างลักษณะของเหรียญก็ไม่ได้แย่ หากเอาไปให้ลุงหมิงล่ะก็ ไม่แน่ว่าอาจจะได้มาอย่างน้อยสักสองร้อยหยวน

…………………………………………………………………………………………..

ตอนที่ 174 ได้โชคก้อนใหญ่

อู่เหมยที่มองเหยียนหมิงซุ่นเอาแต่พิจารณาเหรียญนั้นและเข้าใจว่าเขาไม่ชอบ เธอจึงตัดสินใจยื่นเหรียญที่เหลือไปให้เขา “ไม่อย่างงั้นพี่หมิงซุ่นเลือกเหรียญที่ชอบเอง ดีไหมคะ?”

“เฮ้อ!”

สยงมู่มู่ถอนหายใจออกมาอย่างแรง สีหน้าที่ไม่น่ามองนักเริ่มปรากฏให้เห็น เขาถอนหายใจออกไปถึงสามครั้งแต่ยัยนั่นก็ยังไม่ได้ยินอีก เธอต้องตั้งใจเมินเขาเป็นแน่

ครั้งนี้อู่เหมยได้ยินจึงหันกลับไปมองสยงมู่มู่ที่ทำหน้าดำคร่ำเครียด เธอไม่เข้าใจว่าองค์ชายอย่างเขาเริ่มเป็นอะไรขึ้นมาอีก แต่เธอก็ไม่ได้สนใจเขามากและหันหน้ากลับไปตามเดิมพร้อมทั้งส่งยิ้มหวานไปให้เหยียนหมิงซุ่น

สยงมู่มู่เดินตามหลังไปอย่างโมโหด้วยสายตาที่แทบจะไม่มองพวกเขา เขาเบื่อที่จะต้องเห็นหน้ายัยโง่ใจดำคนนี้ สมองก็โง่ หูก็หนวก ตาก็ยังบอดอีก

เหยียนหมิงซุ่นแค่เหลือบมองเหรียญโบราณทั้งห้าเหรียญบนมือของอู่เหมย ใจของเขาเต้นแรงขึ้นมากะทันหันและเขาได้ลากตัวอู่เหมยเข้ามาด้านในของร้าน “เธอเข้ามากับฉัน”

ยัยเด็กนี่ได้โชคก้อนใหญ่ หรือเป็นเพราะเธอมีพรสวรรค์?

เหรียญหกเหรียญนี้ทุกเหรียญเป็นของดีมีคุณภาพ หนึ่งในนั้นมีเงินโบราณที่หายากและมีราคา ซึ่งนั่นคือต้าฉีทงเป่า

ต้าฉีทงเป่าก็คือหนึ่งในเงินตราโบราณที่มีความหรูหรา ทั้งยังเป็นของที่มีมูลค่าทางน้ำหนัก เป็นเงินตราที่จักรพรรดิหลี่เปี้ยนผู้สถาปนาถังใต้หล่อขึ้นมาในยุคแรกของถังใต้ แต่แพร่กระจายให้ได้พบเห็นมาจนถึงปัจจุบันนี้น้อยมาก น้อยจนนับได้เลย เรียกได้ว่าเป็นของหายากที่มีราคาสูง และจัดเป็นเงินโบราณสะสมที่มีมูลค่าสูง

เป็นเพราะก่อนหน้านี้ลุงหมิงเคยพูดกับเหยียนหมิงซุ่นเกี่ยวกับต้าฉีทงเป่า ลุงหมิงสะสมเงินโบราณทุกรูปแบบทุกประเภท แต่ยังมีเงินโบราณหายากบางเหรียญที่ยังเก็บสะสมไม่ครบ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือต้าฉีทงเป่า

ลุงหมิงยังเคยพูดกับเหยียนหมิงซุ่นเรื่องลักษณะเฉพาะของเหรียญกษาปณ์ต้าฉีทงเป่า และได้ให้เขาช่วยตามหาและเขาจะรับซื้อในราคาสูง เพราะอย่างนั้นเหยียนหมิงซุ่นมองของมีค่าในมือของอู่เหมยแค่แวบเดียวก็ดูออกว่าเป็นเหรียญโบราณ

ด้านนอกมีหลายสายตาที่คอยจับจ้อง ถ้าหากมีใครรู้ว่าในมือของอู่เหมยมีของดีอยู่ ยัยแสบนี่คงได้วุ่นวายเป็นแน่

แม้ปากสยงมู่มู่จะบอกว่าโกรธอู่เหมยแต่พอเขาเห็นเหยียนหมิงซุ่นไม่พูดไม่จาแต่ลากตัวเธอออกไป เขาจึงหันตัวกลับไปและตามพวกนั้นไปอย่างเร่งรีบและตะโกนออกไปเสียงดัง “เหยียนหมิงซุ่นนายจะพูดอะไรก็พูดสิ ทำไมจะต้องถูกเนื้อต้องตัวกันแบบนี้ด้วย?”

เหยียนหมิงซุ่นหันกลับมาและชำเลืองมองเขาเพียงหางตา สีหน้าของสยงมู่มู่กลับแดงขึ้นมาและไม่พูดไม่จาใดๆ อีก ได้แต่เดินตามหลังพวกเขาเข้าไปในร้าน พอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวเขากลับรู้สึกว่ามันดูผิดปกติ เพราะดูเหมือนเหยียนหมิงซุ่นจะคุ้นเคยกับที่แห่งนี้พอสมควร

อีกทั้งภายนอกของร้านก็ดูไม่ออกว่าด้านในจะมีบ้านที่อยู่ลึกได้ขนาดนี้ และเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าเจ้าของร้านกระดาษกับเหยียนหมิงซุ่นมีความสัมพันธ์กันแบบไหน?

หรือว่าจะเป็น…

“นี่ เหยียนหมิงซุ่น ร้านกระดาษนี้นายคงไม่ได้เป็นคนเปิดเองหรอกใช่ไหม? ไม่น่าใช่ ช่วงแรกที่ร้านนี้ประกอบกิจการนายยังสวมกางเกงเปิดช่องที่เป้าอยู่เลย เป็นไปไม่ได้ที่นายจะเป็นคนเปิดกิจการ นอกเสียจากเป็นเพื่อนของนาย?” ปากของสยงมู่มู่ไม่หยุดที่จะถาม

“หุบปาก!”

เหยียนหมิงซุ่นตำหนิออกไปจนทำให้สยงมู่มู่เงียบปากลง แต่ในใจเขากลับรู้สึกอัดอั้นตันใจเป็นอย่างมาก แล้วทำไมเขาจะต้องเชื่อฟังคำพูดของเหยียนหมิงซุ่นด้วย?

แม้ว่าอู่เหมยจะงุนงงกับสถานการณ์ตอนนี้ แต่เธอกลับไม่ได้รู้สึกกลัวเลย เธอมีความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้เชื่อมั่นและไว้ใจต่อตัวของเหยียนหมิงซุ่น พอมาถึงลานกลางบ้านเหยียนหมิงซุ่นก็ได้หยุดเดินและได้บอกให้อู่เหมยนำเอาเหรียญทั้งหกเหรียญมาให้เขาดู

เหยียนหมิงซุ่นพิจารณาดูอย่างละเอียดอีกครั้ง แปดถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่เขามั่นใจว่ามันคือของจริง เขารู้สึกประหลาดใจต่อความโชคดีของอู่เหมยเป็นอย่างมากจึงถามขึ้น “เงินโบราณพวกนี้อู่เหมยเป็นคนเลือกเองเหรอ?”

“ใช่ค่ะ ฉันเลือกแบบมั่วๆ เอาน่ะ” อู่เหมยไม่ได้บอกว่าเป็นฉิวฉิว

เหยียนหมิงซุ่นใช้มือชั่งน้ำหนักเหรียญไร้ขอบนี้ และถามอย่างลองเชิง “เหมยเหมยเธอยกเหรียญนี้ให้พี่ได้ไหม?”

อู่เหมยถามอย่างมั่นคง “เหรียญนี้มันมีส่วนที่ชำรุดแล้ว ไม่สวยหรอก ไม่อย่างนั้นพี่หมิงซุ่นเอาเหรียญนี้ไปสิคะ เหรียญนี้ยังดูดีอยู่”

เหยียนหมิงซุ่นคิดในใจและยิ้มออก เหรียญกษาปณ์ต้าฉีทงเป่ายังล้ำค่าเสียยิ่งกว่าเหรียญกษาปณ์เสียนเฟิงทงเป่า เพียงแต่ยัยเด็กนี่เลือกจากลักษณะภายนอก และเธอก็ไม่รู้อีกด้วยว่าผีสางหรือเทวดาอะไรที่ดลใจให้เธอเลือกได้เหรียญที่ไม่สวยแต่มีราคาอย่างเหรียญกษาปณ์ต้าฉีทงเป่า?

…………………………………………………………………………………………..