ในวันที่สองหลังจากที่ชูฮันหายตัวไปพร้อมกับอีกสามทีม ส่วนที่เหลือก็ก้าวเข้าสู่การฝึกอันเข้มข้นเช่นกัน ครั้งนี้พวกเขาไม่มีท่านหัวหน้าเป็นคนนำแล้ว พวกเขาต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง

 

มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองอันลู กูเหลียงเฉินในฐานะกัปตันหยิบแผนที่ที่หยางเทียนให้เขาไว้ก่อนหน้าที่จะออกเดินทางขึ้นมา ในแผนที่ไม่มีรายละเอียดอะไร ทว่ามันมีบางจุดที่ถูกวงกลมเอาไว้

 

ซึ่งเครื่องหมายที่ชูฮันทำเอาไว้นานมาแล้ว มันเป็นจำนวนของตำแหน่งสำคัญในเมืองอันลู ทว่าเนื่องจากจำนวนซอมบี้ในแต่ละจุดนั้นน่ากลัวอย่างมาก ทำให้การกวาดล้างซอมบี้ในจุดพวกนี้ยังไม่ได้ดำเนินการ

 

ครั้งนี้ที่กูเหลียงเฉินทำนั้นไม่ใช่แค่การกวาดล้างซอมบี้ตามจุดตำแหน่งเหล่านี้ แต่ยังเป็นการฝึกการเตรียมความพร้อมให้กับกองทัพเขี้ยวหมาป่าด้วยพัฒนาการที่รวดเร็วผ่านตามตำแหน่งเหล่านี้

 

การกระจายอำนาจในมือเองก็เป็นการทดสอบครั้งใหญ่จากชูฮันโดยไม่คำนึงถึงความขัดแย้ง การจัดการดูแลค่ายถูกส่งมอบให้ซางจิ่วตี้ การดูแลเรื่องความปลอดภัยการป้องกันค่ายเป็นอำนาจของหยางเทียน หลิวยู่ติงก็ก่อตั้งแผนกกฏระเบียบทหารขึ้นในค่าย

 

และการฝึกทหารกองหนุนของกองทัพเขี้ยวหมาป่าก็หน้าที่ในความรับผิดชอบของกูเหลียงเฉิน

 

อำนาจที่ชูฮันมักมอบให้กูเหลียงเฉินนั้นทำให้เขาหวาดกลัวขึ้นไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเขาตอนนี้ที่ชูฮันมอบหมายให้เขารับผิดชอบทั้งกองทัพเขี้ยวหมาป่า ความรู้สึกของกูเหลียงเฉินมันยิ่งทวีคุณขึ้นไปอีก

 

กองทัพเขี้ยวหมาป่าเป็นหัวใจสำคัญของค่ายเขี้ยวหมาป่า มันเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดจากทุกกองกำลังที่มีมา เป็นทีมที่ชูฮันสร้างขึ้นมาเองกับมือ วิธีการทำงานของทั้งทีมเองก็เดินหน้าไปตามทิศทางของพฤติกรรมของชูฮัน และความสามัคคีของทุกคนนั้นก็แข็งแกร่งอย่างมาก

 

จากการที่ซางจิงส่งตัวกูเหลียงเฉินมาแทรกตัวในกองทีมของชูฮันเพื่อหาข้อมูล ณ จุดๆนี้กูเหลียงเฉินถือว่าทำภารกิจสำเร็จแล้ว โดยที่ไม่มีใครรู้หรือจับเขาได้

 

และในขณะที่กูเหลียงเฉินกำลังคิดว่าตัวเขาจะสามารถนำพาทุกคนบุกเขาไปในเมืองอันลูที่ซึ่งมีซอมบี้อยู่นับแสนตัวโดยไม่มีชูฮันอยู่ได้มั้ย

 

ในขณะที่กูเหลียงเฉินกำลังขบคิดอยู่ในหัวจนยุ่งเหยิงไปหมด ขณะที่สัญชาตญาณและความคิดกำลังต่อสู้กันอยู่…

 

พ้ะ!

 

ทันใดนั้นก็มีมือหนึ่งตบเข้าที่ไหล่ของกูเหลียง ตามมาด้วยน้ำเสียงอันคุ้นเคยของหลูเหวินเฉิง “ไอ้หนุ่มหน้าตาจิตตกแบบนี้? แกกำลังทำให้ทุกคนกลัวนะ ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

หลูเหวินเฉิงที่มีประสบการณ์ครั้งเผชิญหน้ากับหิมะถล่ม ความทรงจำครั้งนั้นยังคงแจ่มชัดอยู่ในหัวของเขา

 

และเพราะเหตุการณ์นั้น หลูเหวินเฉิงที่ได้กูเหลียงเฉินช่วยชีวิตเอาไว้ กูเหลียงเฉินเป็นที่รู้จักในกองทัพเขี้ยวหมาป่าในฐานะภูเขาน้ำแข็ง เนื่องจากเขาไม่พูดคุยกับใครทั้งนั้น นิ่งแข็งอยู่เสมอ และนานๆทีหลูเหวินเฉิงจะพูดคุยกับกูเหลียงเฉินหากกูเหลียงเฉินก็มักจะเงียบอยู่เสมอ

 

ทว่า อย่างไม่คาดคิดครั้งนี้กูเหลียงเฉินไม่เงียบเหมือนที่ผ่านมา “ท่านพลเอกชูฮันได้เตรียมการหน้าที่ไว้ให้นายโดยเฉพาะ ครั้งนี้มันเป็นการฝึกเสมือนจริง เราต้องฆ่าซอมบี้กันเอง นายนำทีมของนายแทนฉัน”

 

“อ่าา…” หลูเหวินเฉิงหันมามองกูเหลียงเฉินทันที อดไม่ได้ที่จะแหกปากขึ้นมา “ฉัน?  ไม่ ฉันทำไม่ได้ ความสามารถของฉันไม่ได้เก่งขนาดนั้น ฉันเคนชินกับการป้องกันและฆ่าซอมบี้และไวรัสในระดับเดิม ฉันใช้วิธีป้องกันตัวเอง ท่านพลเอกเตรียมการอะไรไว้ให้ฉัน?”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของหลูเหวินเฉิง กูเหลียงเฉินที่พูดไม่ออก นี่ท่ามกลางเขามีแต่พวกโง่หรือไง เขาไม่รู้จะด่าหลูเหวินเฉิงว่ายังไงดี อารมณ์ของกูเหลียงเฉินพุ่งสูง ความจริงแล้วชูฮันไม่ได้เจาะจงว่าต้องเป็นหลูเหวินเฉิง ชูฮันบอกให้เขาคัดกรองมนุษย์สายพันธุ์ใหม่บางคนระหว่างการฝึก

 

การเลือกหลูเหวินเฉิงนั้นค่อนข้างจะเป็นความลำเอียงส่วนของกูเหลียงเฉิน แม้เขาจะเป็นคนไม่สนใจใคร แต่ยังไงเขากับหลูเหวินเฉิงก็ยังมีความเป็นมิตรภาพกันอยู่

 

ด้วยเหตุนี้ กูเหลียงเฉินจึงได้แต่ถอนหายใจอยู่ในอก เพราเขารับภารกิจแฝงตัวเข้ามาในทีมของชูฮัน แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถทำมันได้สำเร็จ

 

กูเหลียงเฉินกำลังสับสนอย่างมาก แน่นอนว่าชูฮันไม่รู้ แต่ถ้าชูฮันรู้ ชูฮันคงทำได้แต่หัวเราะ

 

สามวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว การฝึกบทแรกของทั้งสามทีมมาถึงจุดสำคัญแล้ว ตลอดสามวันชูฮันได้ฝึกการซ่อนตัวขั้นพื้นฐานให้แก่ทั้งทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้าหมดแล้ว ความสามารถในการเรียนรู้ของทั้งสองทีมนั้นสูงมากจนทำให้ชูฮันประหลาดใจ พวกเขาสามารถเรียนรู้และพัฒนาต่อไปอย่างรวดเร็วจนน่ากลัว โดยเฉพาะทีมความลับของพระเจ้า

 

ดังนั้น ความคิดที่จะให้ทั้งสองทีมหลบซ่อนเพิ่มขึ้นอีกจึงจบลง และการฝึกครั้งต่อไปก็เปลี่ยนเป็นให้ทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้าเป็นคนแกะรอย และให้ทีมนักฆ่าขนนกเป็นฝ่ายหลบซ่อนแทน

 

ผลลัพธ์ของการฝึกครั้งแรก ทีมนักฆ่าขนนกทุกคนไปที่ค่ายเจียนอี๋เพื่อขออาหาร นี่คือบทลงโทษของการแพ้ในการฝึก ทีมนักฆ่าขนนกไม่ได้อะไรกลับมา อาหารเป็นปัญหาหลักในการฝึก พวกเขาไม่ได้กินอะไรมาเป็นเวลาสามวัน

 

เพราะอย่างนั้น หลังจากการประลองกันเองแต่ละครั้ง ภาระหนักในการไปที่ค่ายเจียนอี๋จึงตกเป็นของฝ่ายที่แพ้…การหาอาหารให้ครบสมดุลทางโภชนาการตามคำสั่งของชูฮัน

 

อย่างไรก็ตาม เพราะมันเป็นการฝึกครั้งแรกของทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเข้าและพวกเขายังได้รับชัยชนะคร้ังใหญ่ หากในความคิดของทีมนักฆ่าขนนกพวกเขาเชื่อว่าที่ทีมกุ้งเสือดำและความลับของพระเจ้าชนะได้เป็นเพราะว่าท่านชูฮันเป็นคนนำทีมนั้น

 

ครั้งนี้ทีมนักฆ่าขนนกได้อาหารกลับมาเป็นจำนวนมาก ทุกคนแบกเนื้อแห้งกลับมาเต็มหลัง ส่วนว่าทีมนักฆ่าขนนกหาเนื้อมาจากไหนได้มากขนาดนี้ ชูฮันไม่สนใจที่จะรู้

“ฉันจะสรุปผลการฝึกครั้งนี้ก่อนและเลือกสถานการณ์ไม่กี่อย่างที่เห็นสมควรขึ้นมาเพื่อแสดงความคิดเห็น” เมื่อเห็นหลายคนที่หยุดมือที่กำลังกินอาหารและมองเขา ชูฮันก็โบกมือปฏิเสธและพูดขึ้น “ไม่ต้องหยุด กินไปฟังไป เราไม่มีเวลามาก”

 

“โอ๊ะ!” สมาชิกทั้งสามทีมที่อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะกลับมาไปกินอาหารต่อ หากสายตาทุกคนจับจ้องมาที่ชูฮันอย่างไม่ลังเลเลยสักนิด

 

“คนแรก หลี่บี๋เฟิง” ชูฮันเรียกชื่อรองกัปตันของทีมนักฆ่าขนนกขึ้นมา “เวลานายนำทีม หันกลับไปมองด้วยว่าสมาชิกในทีมของนายตามทันมั้ย!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ชูฮันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เป็นเพราะพวกเขาทำการแกะรอยทีมนักฆ่าขนนก พวกเขาได้ดึงตัวสมาชิกของทีมนักฆ่าขนนกมา 19 คน โดยที่หลี่บี๋เฟิงนั้นไม่รับรู้อะไรเลยว่าสมาชิกของทีมตัวเองถูกดึงไป เขาเองแต่เดินอาละวาดไปข้างหน้าตลอดทาง

 

“และต่อมาหลูปิงเซ่อ” ชูฮันพูดต่อ “มันเป็นเรื่องที่จะสื่อสารกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ แต่อย่าให้มันมากเกินไป พวกเราจะไม่มีอาหารกินเพราะนายเป็นเพื่อนกับพวกมัน!”

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” ครั้งนี้เสียงหัวเราะยิ่งน่าอายกว่าเดิม หลายคนหัวเราะกันใหญ่ เมื่อนึกถึงกวางที่พวกเขาฆ่าบนถนนเพื่อเอามากินเป็นอาหารกัน มันเป็นความสุขที่อธิบายไม่ได้